อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
มุทิงคนาทฉันท์ ๑๔
ขออนุญาตเรียกปู่เมฯต่อเถอะนะครับ อยากเป็นเพื่อนของปู่ของอุ้ยทำไม อุ้ยเรียกมาจนชินปาก ชินใจแล้วครับ ใครจะเรียกพี่พลายฯก็แล้วแต่เค้าเหอะ
ไม่ทราบว่าอุ้ยจะใช้คำว่า"ขออนุโมทนา"ได้หรือเปล่านะครับ แบบเป็นเด็กอ่ะครับ
อีกอย่างนึง อุ้ยก็ไม่รู้ว่าฉันท์นี้จะใช้กับเหตุการณ์แบบนี้ได้หรือเปล่านะครับ คือทราบมาเลาๆว่าฉันท์แต่ละอย่างจะใช้กับแต่ละเหตุการณ์น่ะครับ ส่วนเหตุผลที่อุ้ยเลือกใช้ฉันท์นี้ เป็นเพราะปู่สอนไว้ครับ
.....สดับรุจีวิจิตรสาร.............ก็เบิกก็บาน ณ ดวงใจ จะสืบจะเนื่องพระศาสน์ไข.......กตัญญุตาละอากูล
.....วิเศษวิสุทธิ์สุจารีต............ประณตประณีตมิเสื่อมสูญ ประจงจรด ณ บาทมูล...........ประโยชน์นุกูลพระศาสน์ไทย
.....แต่นี้จะร้างละผู้ป้อง.........หทัยก็ร้องระโหยไห้ จำเป็นจำจากจำจรไกล...........นิราศไผทนครธรรม
.....สะกดสะทกสะท้านจิต.......จรุงจริตนิพิธขาน ดนูประนมนิยมการ...............ฤทัยประสานเกษมเทอญ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 29 เม.ย. 01, 20:53
|
|
สำหรับฉันทลักษณ์ของมุทิงค์ฯ ขอให้ถามจากปู่เมฯ(พลายงาม)นะครับ อุ้ยเปิดตำรามาสองเล่มแล้ว ยังหาฉันทลักษณ์ของฉันท์นี้ไม่เจอเลยครับ
แล้วก็...ปู่นะปู่ เอาอุ้ยมานินทาไว้ตรึมเลยง่ะ ปู่ว่าอุ้ยเป็นเด็กเจ้าปัญหาเหรอ ? อะไรจะดู "ถูก" ขนาดนั้นง่ะ...อิอิอิ..แบบดูไม่ผิดอ่ะครับ
พี่พูครับ(ขออนุญาตนะครับ..ชื่อพี่เทาชมพูยาวจัง..อุ้ยขอเรียกสั้นๆนะครับ) อุ้ยมีของมาฝากพี่พูครับ
เป็นกลบทนาคบริพันธ์ทรงเครื่อง ผสม กระทู้นำบทนะครับ..แบบเนี้ยอ่ะครับที่ปู่เมฯเค้าว่าอุ้ยเป็นเด็กเจ้าปัญหา อุ้ยชอบเล่นกลบทครับ แล้วก็ชอบเอามาปนกันด้วยครับ..หวังว่าพี่พูคงไม่รำคาญอุ้ยมากนักนะครับ
คับ...เสื้อผ้าผ่อนท่อนสไบ.........ทบสบัดตัดใหม่ .......ตามหมายมุ่งหวังทั้งมวล ที่.....มากหลากหลายลายล้วน.....เลอล้ำจำนวน .......จงน้องบริจาคอยากทำ อยู่...ที่จิตใจใช้นำ...................ชวนนางสร้างกรรม .......สอดเกื้อเอื้อหนุนดุลย์ธรรม์ ได้...ทั่วถ้อยธรรมจำครัน.........จาคะละหัน ......ลุห้วงห่วงหายคลายคลา คับ..คนปนแปดประดา............เปื้อนดำธรรมว่า ......เทิดวิเวกวางจางจินต์ ใจ...เจ้าระอากายิน.................กลับย้ายกลายชิน ......ก็ชนร่วมทางอย่างเรา อยู่..ร่วมโลกเรียงเคียงเนา......คำนึงถึงเขา ......ทุกคนพ้นกรรมยำเยง ยาก..ยุ่งมุ่งยิ่งกริ่งเกรง.........กลับกลายหมายเคว้ง .......หมดคว้างทางลิบนิพพาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 29 เม.ย. 01, 21:00
|
|
แล้วก็อีกบทนึงครับ บทเนี้ยอุ้ยก็ภูมิใจนะครับ ประมาณว่าคิดเอาเองน่ะครับ คือเอามาปนๆกันครับ...
พี่พูเริ่มปวดหัวกับอุ้ยละยังครับ
.....มือ..อาจก่อร่างสร้าง.......สู่ตัว ไม่........ละเว้นชั่วกลัว...........กลับพลั้ง พาย......ตามติดบัวนัว..........เนียจากทิศเฮย อย่า.......เล่นลืมรั้งยั้ง...........ยากแท้เรียมครวญ
.....เอา...ใจจักด่วนล้วน........ลวงเพลิน เท้า........เจ็บจะเหินเดิน........ดุ่มเศร้า รา.........ร้างแต่เมินเกิน........กระเบียด น้ำ.........ล่มเรือเจ้าเข้า.........ครู่นี้ยังลอย
เป็นโตเล่นหางแบบที่ ๒ ผสมกับกระทู้นำบทครับ...สนุกมะครับ..อุ้ยชอบจริงๆเลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 29 เม.ย. 01, 21:04
|
|
ไหนๆก็ไหนๆแล้วอ่ะครับ โบราณเค้าบอกว่ามาหาผู้ใหญ่ต้องมีของติดไม้ติดมือมาฝากอ่ะครับ อุ้ยขออีกบทละกันนะครับ
ของอุ้ยจะเป็นช้างชูงวงปนกับพยัคฆ์ข้ามห้วย 2 ชั้นนะครับ
.....ร่างระริก...จิกเล็บกลั้น...สั่นระริก เคยยิ้มหัว...ตัวชาดิก...ฉีกยิ้มหวัว เราะระรัว...ตัวยืนสั่น...พรั่นระรัว เมินหมองจาง...หมางหมองมัว...กลัวหมองจาง
สุดกลั้นจิต...คิดกลั้นใจ...ใคร่กลั้นจิต ควรสะสาง...หมางมวลมิตร...คิดสะสาง เคยแคลงคลาง...ค้างคาใจ...ใคร่แคลงคลาง ร้อนเรื่องใด...ใสกระจ่าง...ร้างเรื่องใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 29 เม.ย. 01, 21:15
|
|
สุดท้ายแล้วจริงๆครับ(สำหรับตอนนี้)...แบบว่าอุ้ยเสนอผลงานของอุ้ยให้พี่พูดูน่ะครับ ประมาณว่าอุ้ยจะเข้าชมรมของพี่พูได้หรือเปล่าน่ะครับ
บทนี้เป็นโคลงกระทู้ธรรมดาครับ แต่เป็นสองคำ อุ้ยกำลังพยายามทำ ๓ กับ ๔ คำ อยู่ครับ แต่ว่ายังทำไม่สำเร็จครับ เมื่อวันก่อนอุ้ยเจออีกกลนึง สนุกมากครับ แต่อุ้ยคิดจนหลับไปคืนนึงแล้ว ยังแต่งไม่เสร็จเลยครับ
อ้อ..ไอ้บาทที่ 3 ของโคลงข้างบนนั่น ไหงมันเลื่อนมาติดกันได้ก็ไม่ทราบครับ สงสัยอุ้ยจะลืมพิมพ์..เอ่อ...นึกก่อนครับ..มหัพภาคใช่มะครับ
...แล้วสอน...เสริมสั่งเจ้า......จวงจันทร์ ว่าอย่า.........เชื่อใครอัน......แปลกหน้า ไว้ใจ...........บ่เลือกสรร......เจ็บจิต มนุษย์.........เชิงเช่นช้า.......ชั่วชั้นทุรชน ...มันแสน....สุดวัดได้.........ใจคน สุดลึก.........สุดหยั่งพ้น.......แผกสิ้น ล้ำเหลือ......กว่าอุบล..........บอกบ่ง กำหนด.......ปนปลอกปลิ้น...เล่ห์ล้วงลวงลม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 29 เม.ย. 01, 22:06
|
|
เข้ามาได้เลยค่ะ เรือนไทยต้อนรับมิตรทุกคน อ่านกลบทพวกนี้ เห็นจะต้องไปเช็ดฝุ่นขุดกรุเรื่องศิริวิบุลกิตติเสียแล้ว คุณอุ้ยชอบกลบท อ่านเรื่องนี้แล้วหรือยังคะ ว่าแต่คุณอุ้ยตามคุณพลายงามมาจากเว็บไหนคะ เผื่อว่างๆจะเข้าไปเยี่ยมบ้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 29 เม.ย. 01, 22:24
|
|
อุ้ยไม่ได้อ่านศิริวิบุลกิตติเรื่องเดียวอ่ะครับ อุ้ยอ่านจินดามณี กะ ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนด้วยครับ สนุกกกกกมากกกกกกครับ
พี่พูครับ...ไม่เรียกอุ้ยว่า"คุณ"ได้มะครับ เรียกชื่อเฉยๆดีกว่าครับ หรือจะเป็น ตาอุ้ย เจ้าอุ้ย ฯลฯ อะไรก็ได้ครับ เรียก"คุณ"ทีไรอุ้ยสะดุ้งทุกที นึกว่าไม่ได้เรียกอุ้ย
ส่วนเรื่องที่ว่าอุ้ยตามปู่เมฯมาจากไหน...อันนี้อุ้ยขอโทษครับ...คือปู่เค้าเปลี่ยนชื่อ อุ้ยไม่รู้เหตุผลของปู่ด้วย...รบกวนพี่พูถามปู่เถอะนะครับ
:p
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
N.K.Kh.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 03:06
|
|
It is so difficult to try to comment on the Chant in English! MutingkanatChant (the Chant with "beats" like those of long drum - GlongYao), if I remember correctly,is a modern Chant invented not many decades ago, so it is not surprising that Khun Ooy cannot find it in old texts. The beats go - Pa- tone - pa tone - pa tone tone... like GlongYao. If I remember correctly again, the brother of one great lady poet Khun Subhorn Polcheevin, whose name I forget, invented this kind of Chant.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 06:13
|
|
คุณ...ปู่..N.K.Kh. ครับ..ตกลงเป็นปู่ไปอีกคนเถอะนะครับ ... ครับผม ปู่เมฯก็สอนไว้อย่างนั้นแหละครับ ป๊ะโท่นป๊ะโท่นป๊ะ๊โท่นโท่น ซ้ำกันหมด แต่ตานี้เวลาผู้ใหญ่สอนแล้วอุ้ยยังหาแหล่งอ้างอิงไม่ได้ เวลาอุ้ยจะใช้อุ้ยก็ต้อง refer ไปพลางๆน่ะครับ (แบบนี้เรียกนิสัยดีเปล่าครับ?)
เช้านี้อุ้ยมีโคลงสกัดกระทู้มาฝากครับ ไอ้ที่ว่าอุ้ยแต่งมาวันนึงแล้วยังไม่ได้น่ะครับ อารามอยากอวดพี่พู เลยดั้นเอาจนเสร็จ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกครับ แต่พอสะท้อนได้นิดหน่อยว่ากลบทสกัดกระทู้เค้าแต่งกันแบบเนี้ยอ่ะครับ
.....ถี่ถี่กางกักกั้น..........กันลอด ตาเสื่อมเสริมแว่นสอด.....ส่องช้าง ห่างมากมักแหทอด.......ปลาหลุด..ลอดเฮย ตาเล็กฤๅเทียบข้าง.......เปรียบได้ตาเล็น
(เวลาอ่านคำหน้าสุด กะ หลังสุด ไล่ไปทีละบาท เก๊าะจะได้ความว่า "ถี่ลอดตาช้างห่างลอดตาเล็น"อ่ะครับ)
ขออีกบทนะครับ
.....คบคนครวญใคร่ด้วย.....จิตคน ดูตลอดจบจน..................ใช่หน้า ซื้อใดประดับตน...............พิศพ่า(ผ้า)..ก่อนเฮย ดูเด่นดอกดวงจ้า..............แจ่มเนื้อนวลนาง
(คบคนดูหน้า ซื้อผ้าดูเนื้อ)
สนุกมะครับ...มาลองเล่นกันมะครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 06:27
|
|
อันนี้เรียกกระทู้สองชั้นครับ อุ้ยแต่งเมื่อวันก่อน แบบแต่งตอบพี่คนนึงที่เค้าเปรยๆว่าเค้าชอบกินเหล้า แถมเวลากินเสร็จใครๆก็ไปกันหมดประมาณนั้นอ่ะครับ
...เพื่อน..พ้อง น้องพี่ ที่เคารพ...........เพื่อน..ประสบ เคราะห์กรรม ล้ำเข็ญ กิน........เหล้า เช้าสาย บ่ายเย็น.......ตาย....เป็น ยังไม่ รู้เลย หา........แล้ว หาเล่า เพรางาย.........หา.......หาย ไม่เห็น เช่นเฉย ง่าย......ยาก จากใจ ไม่บ่นเลย........ยาก......เคย เพราะเห็น เป็นเพื่อนกัน
อุ้ยรู้สึกว่าจะคล้ายๆ กวางเดินดง หรือ หงส์สะบัดหางนี่อ่ะครับ คือแบ่งเป็น 2 ข้าง แต่ว่าไม่ใช่ซ้ำคำ แบบนี้น่าจะสนุกกว่าหรือเปล่าครับ ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 09:14
|
|
สนุกค่ะ เชิญน้องอุ้ยบรรเลงต่อ ไฟกำลังลุกช่วงโชติทีเดียว คุณพลายงามยังไม่เข้ามา คงจะเตรียมตัวเคลียร์งานหรือไงก็ไม่ทราบ ฉันท์แต่ละอย่าง เอาไว้ใช้กับแต่ละเหตุการณ์ จำได้รางๆว่าเป็นคำอธิบายในตอนท้ายสามัคคีเภทคำฉันท์ เพราะท่วงทำนองจังหวะฉันท์แต่ละแบบให้อารมณ์ความรู้สึกต่างกัน อย่างสัททุลวิกีฬิตฉันท์ แต่งยาก ยาว สง่างามให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่น่าเลื่อมใส ก็ใช้ในบทอาศิรวาท วสันตดิลก จังหวะลีลาให้ความรู้สึกสวยงามแพรวพราย ใช้ในการพรรณนาปราสาทราชวัง หรือเฉลิมพระเกียรติ อินทรวิเชียร รองลงมาจากวสันตดิลก ก็ใช้ในการบรรยายหรือพรรณนาที่เรียบกว่า นอกจากนี้มีภุชงคประยาต อิทิสัง ฯลฯ คุณพลายงามมีเวลาคงเข้ามาอธิบายเองละค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พลายงาม
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 14:10
|
|
...มาแล้วครับ พอดีช่วงนี้กำลังวุ่นๆอยู่กับการเคลียร์งาน เพราะอาทิตย์หน้าก็เป็นวันลาแล้วครับ ...หลานอุ้ย ตามมาแล้วก็ขอให้สนุกกับที่นี่นะ ยังไงฝากคุณเทาฯ ช่วยดูแลหลานผมคนนี้ด้วยครับ อาจจะดื้อ อาจจะรั้นบ้าง ผมอนุญาตให้ดุได้เต็มที่เลยครับ แล้วหลานอุ้ยก็ต้องเคารพเชื่อฟังพี่ป้าน้าอา เป็นเด็กดีนะครับ ...ตอนนี้ปู่คงไม่มีเวลาตรวจและร่วมแจม กับร้อยกรอง ที่หลานแต่งมา เอาไว้คืนนี้ถ้าไม่ออกไปใหนจะดูให้แล้วกัน
ปล. ยังไงผมขอฝากหลานอุ้ย ไว้กับทุกคนด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 17:49
|
|
เย็นนี้อุ้ยขอเสนอ "นาคราชแผลงฤทธิ์" (ศิริวิบุลกิติ) บังคับซ้ำพยัญชนะ ๖ ๗ ๘ กับ ๑ ๒ ๓ บังคับซ้ำสระ ๓ กับ ๔ , ๕ กับ ๗ และ ๘ กับ ๑ และให้เลื่อนคำสัมผัสไปเป็นคำที่ ๕ ครับ
.....นาคราชอาจองประสงค์รัก ปักทรวงเหลือเจือสลักฤๅจักถอน ร้อนจิตถ่ายคลายสุดแม้นนุชรอน มรณ์นิรันดร์ครั้นผ่อนเห็นค่อนตาย
หายขึ้งตามถามไถ่หัวใจน้อง ห้องจิตนวลล้วนครองถึงหมองหมาย ทายมิ่งมิตรคิดตอบว่าชอบชาย วายเชิงเช่นเน้นหมายหยุดงายงม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 17:58
|
|
คือตอนนี้ปิดเทอมนะครับ ที่เรียนพิเศษภาคฤดูร้อนก็จบแล้ว แบบว่าว่างมากน่ะครับ ถ้าอุ้ยจะ post มากไป...กรุณาอย่าเพิ่งรีบเบื่อนะครับ เดี๋ยวพออุ้ยเปิดเทอม อุ้ยก็หายหัวไปเองแหละครับ
กลบทนี้เรียก "นารายณ์ทรงเครื่อง" (ศิริวิบุลกิตติ์) ครับ บังคับซ้ำพยัญชนะ ๑ กับ ๓ และ ๒ กับ ๔ บังคับซ้ำสระ ๒ กับ ๓ และให้เลื่อนคำสัมผัสมาเป็นคำที่ ๔ ครับ
.....จะกล่าวเจ้ากลับกระลับกระลอก จะบ่นจนบอกกระฉอกกระฉอน จะพรากจากพึ่งกระบึงกระบอน จะเย้าเจ้าย้อนกระดอนกระเด็น
จำพรากจากพ้นกระวนกระวาย จำขวนจวนขวายกระสายกระเส็น จำหลบจบเลี่ยงกระเบี่ยงกระเบน จำคลายใจเคล้นกระเวนกระวน
ของอุ้ยเติมกระทู้ และ จบด้วยสะบัดสะบิ้งครับ
หมายเหตุ กระเวน = ตระเวน , วนเวียน ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อุ้ยครับ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 18:08
|
|
แหะๆๆ...บทสุดท้ายสำหรับ"วัน"นี้แล้วอ่ะครับ แบบว่าทั้งวันมีผลงานแค่เนี้ยครับ
โคลงกลบทนี้เรียกว่า "ศรีโสฬสพรหม" (จินดามณี)ครับ บังคับซ้ำสระคำที่ ๒ กับ ๓ บังคับซ้ำพยัญชนะ ๓ กับ ๔ ครับ
.....ให้..โทษโหดหักแกล้ง.......กระทำ ทุกข์....ท่วมร่วมระกำ.............อกไหม้ แก่......เจ็บเหน็บแนมนำ.........นานเนิ่น ท่าน....ว่าอย่า , หยุดได้.........เช่นนี้มีคุณ
.....ทุกข์..ทับคับคั่งล้น...........เลอทรวง นั้น.........หนักจักจำตวง.........ออกบ้าง ถึง.........ยากมากมุปวง.........ปลดปลิด ตัว.........เปล่าเราราร้าง.........โศกสิ้นทวีเกษม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|