แห่ะๆ ผมจะเรียกจะเรียกท่านตั้งแบบท่าน อ. เทาชมพูแต่แรกก็เกรงใจหนะครับ กลัวเหมือนจะตีซี๊มากไปไม่สมควร
เหมือนที่ไม่กล้าจะเรียกอีกหลายๆ ท่านในนี้ที่ให้ความรู้มากมาย เช่นจะเรียก อ. เทาชมพู โดยใช้ชื่อจริงหรือนามปากกา หรือเรียกท่าน อ.นวรัตน์ แบบที่ท่านเรียกกัน ก็ไม่แน่ใจว่าจะเหมาะสมไหม
เลยเรียกแบบปลอดภัยไว้ก่อนใช้ชื่อที่แต่ละท่านใช้ในเว็บครับ กลัวเดี๋ยวใครมาอ่านแล้วจะบอกว่าไม่รู้เด็กรู้ผู้ใหญ่
อาจจะต้องรอไว้เป็นหลายเขยท่านใดท่านหนึ่งก่อน ค่อยเปลี่ยนสรรพนามเรียกขาน

มาเล่าถึง ดร. นาซ่าคนที่ 3 ดร. วรภัทร
อันนี้แกจะไม่ออกมาแนวภัยพิบัติ แต่จะมาแนวโยงพุทธกับวิทยาศาสตร์มากกว่า ที่เอามาเล่าเพราะแกเป็นอีกคนที่ไปไหนมาไหน มักจะพะยี่ห้อนาซ่าติดตัวไว้
แต่เท่าที่ทราบ จริงๆ แล้วแกเกี่ยวข้องกับนาซ่าตรงที่งานวิจัย ป เอก แก อ. ที่ปรึกษาแกรับงานมาจากนาซ่าอีกทีอะไรทำนองนี้แหละ คือตัวแกเองไม่เคยทำงานในฐานะลูกจ้างนาซ่า
เพียงแต่งานวิจัยแก เกี่ยวพันกับงานของนาซ่าเท่านั้น แต่พอมาเมืองไทย แกก็พะยี่ห้อนาซ่าไว้ด้วย คือถ้ามองว่าแกบริสุทธิ์ใจ แกควรจะปฏิเสธแล้ว
แต่คำว่านาซ่ามันศักดิ์สิทธิยิ่งนัก ใครมีคำนี้สวมแล้ว ไม่ค่อยยอมสลัดกัน แม้จะเอามาสวมเองก็เถอะ โดยนาซ่าไม่ได้ให้สวม
ดร. วรภัทรนี่ดีตรงที่แกไม่ได้มาเตือนหายนะ แต่ออกมาเล่นเรื่องจิต ศาสนาพุทธ และการคิดนอกกรอบ เพียงแต่กรอบแกยังไม่ค่อยพ้นนาซ่าเท่าไหร่
ตอนนี้แกมาเปิดบริษัทที่ปรึกษาทำเรื่องการบริหารจัดการ ทรัพยากรบุคคลอะไรพวกนั้น จุดเด่นคือลีลาแกจะดูสนุกดุเด็ดเผ็ดมัน คล้ายๆ อ. เฉลิมชัย ศิลปินแห่งชาติ
ผมไม่ชอบใจแกตรงที่แกห้อยยี่ห้อนาซ่าไว้กับตัวโดยไม่เคยปฏิเสธนี่แหละ เลยมองว่าแกไม่ใช่ของจริง เพราะต้องใช้นาซ่าเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมทตัวแก และธุรกิจของแก
เลยคิดว่าแกออกจะขี้โม้ไปหน่อย เพราะการบอกความจริงไม่หมด หรือไม่ปฏิเสธอะไรที่ไม่จริง ก็ไม่ต่างจากการโกหก
อันนี้เลยมาเล่าด้วยความหมั่นไส้ เพราะแกคงไม่ปฏิเสธคำว่านาซ่าไปอีกหลายสิบปี
บุคคลเหล่านี้ผมคิดว่าเราน่าจะวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะเช่นในเว็บแบบนี้ได้ แต่ถ้าท่าน อ. เทาชมพูคิดว่าออกจะหมิ่นเหม่ก็ลบได้ครับ ผมก็ไม่แน่ใจ เลยไม่ใส่นามสกุลแต่ละคนไว้ ติ๊ต่างว่าเรารู้กันว่าใคร
ที่ผมว่าเราน่าจะวิจารณ์ได้ เพราะคนเหล่านี้ออกสื่อ ออกมาพูด ออกมานำเสนอแนวคิดต่างๆ ของตัว มีส่วนในการชี้นำสังคม และคนเหล่านี้ก็ได้ผลประโยชน์ตอบแทน
ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในรูปชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก หรือแม้แต่การเอื้อต่อธุรกิจต่างๆ ของตัวเอง เพียงแต่เราไม่อาจพึ่งสื่อสายหลักในการรู้เท่าทัน ทำความเข้าใจบทบาทของคนเหล่านี้ได้เท่านั้น
ส่วนตัวผมเอง ก็เคยเกี่ยวพันกับนาซ่ามาบ้างแบบเฉียดๆ บ้าง คือตอนประถม บ้านอยู่แถวราม เช้าเย็นไปกลับโรงเรียน นั่่งรถเมล์ผ่านนาซ่าตรงคลองตันทุกวัน
ยังคิดเลยวันนึงจะลองเข้าไปเที่ยว ที่ไหนได้ พอโตพออายุถึง นาซ่านั้นดันเจ๊งไปซะแล้วอีก ตอนนี้เลยได้แค่เฉียดนาซ่าเท่านั้น
