แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ลมพายุ น้ำท่วม ซึนามิ คลื่นยักษ์ ดินโคลนถล่ม เหล่านี้ เป็นเหตุการณ์ในธรรมชาติ ซึ่งหากมีขนาดและกำลังแรงก็จะเกิดเป็นภัยพิบัติต่อชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์
เราจัดให้เหตุการณ์เหล่านี้เป็นภัยจากธรรมชาติ (Natural hazard) ซึ่งภาษาทางราชการเรียกว่า พิบัติภัยทางธรรมชาติ (

) เหตุการณ์ทางธรรมชาติเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องสร้างให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเสมอไป แต่เมื่อใดที่มันมีความรุนแรงมากพอหรือสร้างให้เกิดความเสียหายต่อหลายๆชีวิต ทัพย์สิน และชุมชน ภัยธรรมชาติเหล่านี้ก็จะเป็นภัยที่สร้างความหายนะ (Natural disaster) ซึ่งภาษาทางราชการเรียกว่า ภัยพิบัติจากธรรมชาติ (

)
(ไม่ทราบว่าใช้ศัพท์ภาษาไทยถูกหรือไม่ เห็นมีใช้ทั้งสองคำ แถมยังตัดคำว่าธรรมชาติทิ้งไปอีกด้วย)
ภัยจากการกระทำของธรรมชาติเหล่านี้ บางอย่างเราก็พอจะกำหนดช่วงเวลาที่มันจะเกิดขึ้นได้ค่อนข้างจะแม่นยำ (คือใกล้เคียงมากที่สุด) หรือสามารถคาดได้ว่ามันจะต้องเกิดขึ้น เมื่อได้มีการติดตามวัดและทราบค่าในเชิงของปริมาณและคุณภาพบางอย่างที่เปลี่ยนไปจากเดิมจนถึงขีดจำกัดสูงสุดของคุณสมบัติทางกายภาพของวัสดุของพื้นที่นั้นๆ
โดยความเป็นจริงก็คือ เราไม่สามารถห้ามธรรมชาติหรือดำเนินการใดๆเพิ่อป้องกันมิให้มันเกิดขึ้นได้ เราทำได้เพียงการลดขนาดและระดับความรุนแรงของมันที่จะมีผลกระทบต่อเรา ซึ่งโดยนัยก็คือ การลดระดับความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินให้มีเกิดขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
โดยสรุป เราพยายามทำให้สภาพของภัย (Hazard) กลายไปเป็นสภาพของหายะนะ Disaster ให้ได้น้อยที่สุด ซึ่งเรียกกระบวนการนี้ว่า Natural hazard mitigation หรือเรียกสั้นๆกันว่า Mitigation
ไม่ทราบจะแปลเป็นคำไทยที่ถูกต้องอย่างไรดี หลายคนแปลว่าบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งคำนี้ถูกใช้มานานมากจนกลายเป็นกิจกรรมที่ไปเน้นอยู่ในเรื่องของการกู้ภัย (Salvation) และยังแยกออกไปจากการกู้ชีพ (Rescue หรือ Life saving) อีกด้วย
Mitigation เป็นเรื่องของการเตรียมการและการกระทำก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ใดๆ เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์มันจะต้องเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่งแน่นอน ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะต้องมีความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินน้อยที่สุดทั้งในเชิงของบุคคลและสาธารณะชนส่วนรวม
ภาพที่คุญเพ็ญชมพูนำมาแสดงเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหวของญี่ปุ่นนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งน้อยนิดในเรื่องของ Mitigation
ผมจะค่อยๆเล่าขยายความไปเรื่อยๆนะครับ รัฐบาลและราชการยังไม่ขยับในเรื่องนี้เลย (คุยกันตั้งแต่ 27 โน่น) เราขยับตัวเราเองก็ได้ครับ
แล้วก็ต้องขออภัยที่จะขอใช้คำภาษาอังกฤษจนกว่าจะนึกคำที่เหมาะสมได้นะครับ