เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
สุดสัปดาห์นี้เอาเกร็ดพงศาวดารจีนเรื่อง "ซิยิ่นกุ้ย"มาอ่าน เป็นเรื่องทหารเอกของพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ หรือหลีสิบิ๋น มาเจอเรื่องย่อยๆในนั้น เกี่ยวกับภรรยาคนแรกของซิยิ่นกุ้ย ชื่อนางกิมฮวย เธอถูกพ่อตีจะให้ถึงตายเพราะสงสัยว่าจะมีเรื่องชู้สาวกับซิยินกุ้ยผู้เป็นคนงานในบ้าน ทั้งที่จริงๆก็ยังไม่มี สมัยโน้นผู้หญิงจีนดูจะถูกกำหนดให้ตายกันง่ายๆ แม้แต่เป็นลูกสาวเศรษฐีก็ไม่เว้น แค่ถูกสงสัยหรือถูกใส่ความเรื่องชู้สาวพ่อก็ตีถึงตายได้แล้ว แล้วเท้าก็ยังถูกมัดเหลือนิดเดียว ทรมานทรกรรมไปตลอดชีวิต เรื่องพวกนี้เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนคะ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 05:36
|
|
เท้าถูกมัดให้เล็กน่าจะจริงครับ อาม่า (ย่า) ของผมเองก็เท้าเล็กเหมือนกัน แต่เรื่องเท้าเล็กนี่เหมือนจะเป็นค่านิยมของคนจีนนะครับว่าสำหรับครอบครัว ผู้ดีหน่อย ผู้หญิงจะต้องมีเท้าที่เรียวเล็ก มีตำนานด้วยว่า ฮองเฮาของ จูเหยียนจางนั้นเท้าโต เพราะว่า เธอเกิดในช่วงมองโกลเข้ามาปกครองเมืองจีนมีแต่คนลำบาก ครอบครัวเธอก็คอยแต่อพยพหนีพวกทหารมองโกล จนทำให้เธอ ไม่ได้มัดเท้าเมื่อเด็ก ๆ จึงมีเท้าที่โต กว่าสาวชาวจีนทั่วไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
CrazyHOrse
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 08:13
|
|
เห็นด้วยครับว่าเรื่องมัดเท้านี้เป็นค่านิยม คนในอนาคตอาจจะมองว่าสาวไทยสมัยนี้น่าสงสารก็ได้ เพราะต้องลำบากลำบนอดข้าวระวังตัวไว้ให้เอวเล็กตัวเล็ก จะกินจะอยู่ตามใจปากก็ไม่ได้ น่าสงสารจริงๆครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33424
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 09:02
|
|
การทรมานร่างกายของผู้หญิง รู้สึกว่าจะมีกันทุกยุค เรื่องมัดเท้าเป็นเรื่องที่อ่านแล้วน่ากลัวมากค่ะ มัดจนกระดูกเท้าบิดเบี้ยวไปหมด ผู้หญิงฝรั่งสมัยปลายศตวรรษที่ ๑๙ รัดเอวเหลือ ๑๗-๑๘ นิ้วเท่านั้นละค่ะ เพื่อนุ่งกระโปรงสุ่มไก่ได้สวย ทรมานกว่าเดี๋ยวนี้อีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศิษย์โง่
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 30 เม.ย. 01, 15:36
|
|
คิดว่าน่าจะจริงนะครับ เพราะจีนนั้นค่อนข้างเคร่งตรััเรื่องจารีตนิยม มีการแบ่งลำดับชั้นของคน มีกฎของบ้านที่มักพูดกันว่า นายบ่าว หญิงชาย ต้องแยกกัน หรืออย่างที่ถือกันว่า บุตรีก่อนออกเรือน ต้องเชื่อฟังพ่อแม่ ออกเรือนแล้วต้องนับถือสามี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ภูมิ
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 01 พ.ค. 01, 08:48
|
|
เคยดูในทีวี เขาไปถ่าย คุณยายที่ทําการมัดเท้า คนสุดท้ายของจีน อายุท่านราว๗๐ กว่า แล้ว เห็นบอกว่าเป็นคนสุดท้ายเท่าที่สํารวจได้ขณะนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ml
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 01 พ.ค. 01, 09:24
|
|
เคยอ่านเรื่องการมัดเท้าของผู้หญิงจีน อ่านแล้วสะเทือนใจมากค่ะ..น่ากลัวและโหดร้ายมาก..ที่แปลกใจมากคือ เท้าเล็กๆเนี่ยมีผลต่อชีวิตทั้งชีวิตของผู้หญิงคนนั้น..เช่นว่าถ้าไม่ได้มัดเท้าจะหาคู่ครองได้ยาก อะไรทำนองนี้ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อำแดงริน
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 01 พ.ค. 01, 20:55
|
|
เป็นค่านิยมน่ะค่ะ เขาว่าจะให้สวยต้องเป็น"บัวทองสามนิ้ว" หรืออะไรคล้ายๆนี้แหละค่ะ
หญิงยุโรปโบราณมัดเอว หรือว่าเดี๋ยวนี้หญิงทั่วโลกอดแห้งอดแล้งให้เอวกิ่ว ตัวผอม ก็เป็นค่านิยมเหมือนกัน.... ต่างกันแต่ว่าสมัครใจทำเอง จะอดให้แห้งแค่ไหนก็ตามใจ
อย่างมัดเท้านี่โดนกันมาแต่เล็กๆ ชีวิตที่ไม่มีทางเลือก..... ดีที่ค่านิยมตกยุคไปแล้วนะเนี่ย เฮ้อ ถ้ายังอยู่ไม่รู้จะทำมาหากินแข่งกะชาวบ้าน ยังไงเลยค่ะ คนเท้าโตๆยังลำบากเลย ^__^
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
จ้อ
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 02 พ.ค. 01, 06:49
|
|
ในเมืองไทยมีค่านิยมทำนองนี้บ้างไหมครับ ผมคิดว่าน่าจะมีบ้าง แต่คงไม่รุนแรง ยังนึกไม่ออกครับ?
ที่นึกออกก็อย่างในกรณีของชาวเขาเผ่าคอยาว ที่ผู้หญิงต้องใส่ห่วงที่คอ อันนี้คงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง
อีกตัวอย่างหนึ่งที่แฟชั่นมีผลต่อการดำรงชีวิตของสุภาพสตรีและทำให้ลำบากขึ้น ( มั้ง...?) เป็นเรื่องของเสื้อชั้นใน หรือ บรานั่นแหละ เคยดูสารคดีทางบีบีซี ( วิชาการครับ วิชาการ ) ตามประวัติแล้ว พึ่งคิดประดิษฐ์มาเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 ไม่ถึง 100 ปีดี จุดประสงค์เมื่อเริ่มออกแบบนั้นเพื่อแฟชั่นเป็นหลัก ประโยชน์ทางการแพทย์นั้น แทบไม่มีเลย และอาจจะมีผลเสียมากกว่าเสียอีก ( เขารายงานมาอย่างนั้นครับ ) แต่พอเวลาผ่านไป ก็กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่สุภาพสตรีขาดไม่ได้ อันนี้คงถือเป็นค่านิยมได้เหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะชาติใดชาติหนึ่ง แต่เป็นทั้งโลกเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพียงตะวัน
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 02 พ.ค. 01, 09:27
|
|
เอแต่ว่าผู้หญิงที่ต้องเล่นกีฬาหนักๆต้องใส่บรานะคะไม่งั้นอาจมีผลต่อหน้าอกได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คุณพระนาย
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 02 พ.ค. 01, 12:38
|
|
อืม เรื่องบรา ของผู้หญิงนี่ แล้วเราจะมาตอบได้ไงหว่า แต่ที่เห็นนะครับ อย่าง กีฬา ว่ายน้ำ กีฬา ยิมนาสติก ไม่น่าจะใส่นะครับ สองอย่างนี้ไม่รู้ว่าเป็นกีฬาหนัก ๆ หรือเปล่า อืมตอบเสร็จเราจะกลายเป็นคนทะลึ่งหรือเปล่านะเนี่ย ผมไปอ่านมาจากบทความด้วยนะครับ ไม่ใช่จากการสังเกตุทางทีวีอย่างเดียว เฮ้อ ท่าจะหนีไม่พ้นช้อหา สายตาไม่ดีแน่เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อ้อยขวั้น
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 02 พ.ค. 01, 15:11
|
|
บราไม่น่าใช่ค่านิยมนะคะ น่าจะเป็นเพราะแก้ปัญหาแรงโน้มถ่วงมากกว่า (คงไม่ติดเรทนะคะ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อำแดงริน
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 02 พ.ค. 01, 20:56
|
|
มาสนับสนุนคุณอ้อยขวั้นค่ะ ^_____^ บราน่าจะเป็นอุปกรณ์ช่วยคงสภาพนะคะ อิ อิ คงไม่ได้ตลอดก็ยังช่วยsupportเวลาใช้งานได้ 5555 ค่านิยมอาจเป็นในกรณีต้องใส่อย่างที่มีลูกไม้สวยๆ..มั้งคะ เอ เรทไหนเนี่ย???
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นกข.
บุคคลทั่วไป
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 02 พ.ค. 01, 23:10
|
|
ไม่มีความรู้ครับมีแต่ความเห็น ถ้า บรา เป็นแต่ค่านิยมที่ไม่เป็นประโยชน์จริง (จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้) ก็อยากให้ผู้หญิงทุกคนลุกขึ้นยืนหยัด ปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการโดยเลิกใส่บราครับ ... จึ๊กกึ๋ย.....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พวงร้อย
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 03 พ.ค. 01, 06:28
|
|
สวัสดีค่ะคุณเทาฯ พักนี้ติดธุระหลายอย่างเลยไม่ค่อยได้เข้ามาเลยค่ะ
บรามันของจำเป็นนะคะ แต่มัดเท้านี่มันไม่จำเป็น เอามาปนกันได้ยังไงกันเนี่ยะ ขอวกกลับมาเรื่องมัดเท้าละกันนะคะ ก่อนที่หนุ่มๆเรือนไทยจะมะรุมมะตุ้มกระทู้นี้กันตรึม (คิกๆๆ)
เรื่องรัดเท้านี่เคยได้ยินว่าเค้านิยมว่าเท้าเล็กเป็นรูปดอกบัวสวยดีน่ะค่ะ แล้วเป็นเครื่องแสดงความเป็นผู้ดีด้วย เพราะรัดเท้่าเล็กๆแล้วทำงานไม่ได้ มีแต่ลูกสาวคนรวยเท่านั้นจึงจะทำได้ ลูกคนจนต้องไปทำงานในนา ขึนรัดเท้าคงอดตาย เนื่องจากคนรวยก็มักจะแต่งงานกับคนรวยด้วยกัน ใครมีลูกสาวก็กลัวครอบครัวคนรวยด้วยกันจะไม่ยอมแต่ง ก็เลยต้องรัดเท้ากันแต่เด็ก
ดิฉันเคยเห็นคนรัดเท้าด้วยค่ะ เป็นยายเฒ่าไม่ทราบพลัดมาเมืองไทยได้อย่างไร แต่เค้ามาจากเมืองจีนค่ะ อายุมากกว่าคุณยายของดิฉันอีก พอแก่ตัวแล้วก็ลำบากไม่มีลูกหลาน ต้องทำของเล่นมาขาย แล้วเดินก็ไม่ถนัด ของเล่นที่ทำมาก็มีแปลกๆไม่เคยเห็นที่ไหนเลยค่ะ เค้าทำด้วยไม้ไผ่และกระดาษฝีมือละเอียดมากเลยค่ะ ที่จำได้ก็มีเป็นเหมือนกลองเล็กๆแต่เปิดข้างหนึ่ง แล้วปิดด้วยกระดาษบางๆขึงตึงอีกข้างหนึ่ง เอาเศษไม้ไผ่ชิ้นเล็กๆขัดไว้ แล้วร้อยเชือกกับเศษไม้ให้ทะลุกระดาษนั้น ไปโยงกับก้านไม้ไว้ถือ เวลาเหวี่ยงไปเป็นวงกลม เศษไม้จะเสียดสีกับกระดาษที่ปิดหัวนั้น ทำให้เกิดเสียงแปลกๆ แล้วมีอะไรอีกมากมายหลายอย่างจำไม่ค่อยได้แล้วค่ะ เค้าเอาก้านไม้ปักลงบนคันไม้เหมือนไม้เท้าเมื่อมีหลายๆอย่าง ดูหลากสีสวยงาม แล้วก็ต้องค่อยๆลากด้ามไม้ที่ปักของนั้นเดินช้าๆ เพราะเท้าที่ถูกรัดทำให้เดินไม่ถนัด
ตอนเด็กๆดิฉันก็ชอบไปดู บางครั้งก็ขอดูเท้าท่านน่ะค่ะ บางทีเท้าเจ็บก็ต้องคลายผ้ารัดออกมาพันใหม่ จนเห็นฝ่าเท้างอโค้ง ส่วนที่แตะพื้นมีแต่ส้นเท้ากับนิ้วเท้าเท่านั้นแหละค่ะ ส่วนกลางฝ่าเท้ากระดูกถูกดัดจนพิกลพิการ โค้งขึ้นไม่จรดพื้น จึงดูเล็กลงได้ แต่ถ้าไม่รัดผ้าไว้ก็ทรงตัวไม่ได้ค่ะ แล้วจะปวดมากด้วย กลายเป็นทำให้พิการเพื่อความที่เชื่อว่าเป็นความงามน่ะค่ะ ยังจำภาพติดตาได้จนทุกวันนี้เลยค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|