อ่านที่อาจารย์แนะแนวเรื่องเขียนบทแล้ว นึกถึงบทความของ อ.เจตนา นาควัชระ
เมื่อไม่นาน(มาก)มานี้ที่วิจารณ์ละครเพลง หนึ่งในดวงใจ มิวสิคัล (ซึ่งเขียนบทออกมาไม่ถูกใจ) ว่า
ทีมงานน่าจะปรึกษาให้อาจารย์ช่วยเขียนบทละคร
เนื่องจากโครงเรื่อง (plot) ที่สร้างขึ้นมานั้นดูแทบจะไม่มีสาระอะไรเลย ความจริงถ้าได้ไปปรึกษานักประพันธ์ระดับชาติบางท่าน ท่านก็คงคิดแนวเรื่องที่น่าสนใจให้ได้ภายในเวลาไม่เกิน 5 นาที บางท่านเช่น ว. วินิจฉัยกุล ก็รู้จักเพลงสุนทราภรณ์ดีมาก ท่านอาจจะช่วยเลือกเพลงให้ก็ยังได้
ไม่ได้อ่านบทความของศ.ดร.เจตนา น่าเสียดาย

ไม่ทราบว่าท่านเขียนไว้ที่ไหนคะ
เมื่อวันอาทิตย์ไปดู(ฟัง)คอนเสิร์ทครูแก้ว อัจฉริยะ ศิลปิน พบท่านด้วย ได้วิสาสะกันประมาณ 20 นาทีตอนเบรคครึ่งเวลา ไม่ยักรู้ว่าท่านกรุณาให้เกียรติเอ่ยถึง จะได้กราบขอบพระคุณ
เพราะศ.ดร.เจตนายอมรับใครในด้านความรู้ เป็นสิ่งน่าปลื้มใจยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ซ้อนกันสิบงวดเสียอีก
สำหรับทวิภพฉากนี้ เท่าที่หนังทำออกมาเท่านี้ก็ได้ความกระชับพอดีสำหรับการบรรลุวัตถุประสงค์
ของฉากไคลแมกซ์ของเรื่องแล้ว ครับ
สำหรับคนที่มีทีมทำกราฟฟิคได้อย่างผู้ทำหนังเรื่องนี้ ดิฉันเชื่อว่าสามารถสร้างสัญลักษณ์อังกฤษและฝรั่งเศสฉีกสยามออกเป็น 2 ส่วนได้น่าตื่นตะลึงได้ไม่น้อยกว่าเอาหอไอเฟลมายืนค้ำแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเดียว สำหรับคนเก่งๆและมีจินตนาการ จะดีไซน์บิ๊กเบนและบริดจ์ต่างๆของอังกฤษออกมาเป็นไคลแมกซ์ เพิ่มจากหอไอเฟล ก็ทำได้
การสร้างสัญลักษณ์สิ่งเดียวกันให้ดูงามก็ได้ น่ากลัวก็ได้ เป็นสิ่งที่ศิลปินทำได้อยู่แล้ว
แต่เอาเถอะ เขาไม่ทำก็ดีแล้ว ได้มีเรื่องให้วิจารณ์อีกได้ยาว ถ้าหนังทำได้สมบูรณ์แบบ เดี๋ยวจะไม่มีอะไรพูดนอกจากกด like อย่างเดียว