เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 5
  พิมพ์  
อ่าน: 29379 การสวรรคตของพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราช
samson
อสุรผัด
*
ตอบ: 18



 เมื่อ 06 มี.ค. 12, 11:42

เห็นในร้านหนังสือ มีหนังสือเกี่ยวกับการสวรรคตของพระเจ้าตากอยู่หลายเล่ม หลายทฤษฏีมากๆ เลยสงสัยว่า แท้จริงแล้ว เรื่องมันเป็นมาอย่างไรครับ 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 06 มี.ค. 12, 11:56

ดิฉันจะเล่าไว้ในกระทู้ขุนนางวังหลัง ค่ะ   
ส่วนท่านอื่นมีความเห็นอย่างไรก็เชิญมาโพสตอบคุณจขกท.ได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 09 มี.ค. 12, 19:38

ขอลอกคำตอบจากกระทู้ เจ้านายวังหลัง มาลงไว้เป็นคำตอบในนี้นะคะ  เพื่อผู้สนใจหัวข้อนี้จะได้ตามอ่านได้สะดวก

    สมเด็จเจ้าพระยาฯ จึงปรึกษาด้วยมุขมนตรีทั้งหลายว่า  เมื่อพระเจ้าแผ่นดินเป็นอาสัตย์อาธรรมดังนี้แล้ว    ท่านทั้งปวงจะคิดอ่านประการใด     ขุนนางทั้งปวงจึงลงความเห็นว่า  เมื่อพระเจ้าแผ่นดินละสุจริตธรรม  ประพฤติการทุจริตดังนี้    ก็เห็นว่าเป็นเสี้ยนหนามมมหลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดิน  จะละไว้มิได้  ควรให้สำเร็จโทษเสีย"

    สมเด็จเจ้าพระยาฯจึงให้ตั้งกระทู้ถามพระเจ้ากรุงธนว่า เป็นเจ้าแผ่นดินใช้ขุนนางให้ไปทำสงคราม   ได้ความลำบากกินเหงื่อต่างน้ำ     ขุนนางทั้งหลายก็อุตสาหะกระทำศึกมิได้อาลัยแก่ชีวิต  คิดแต่จะทะนุบำรุงแผ่นดินให้สิ้นเสี้ยนหนาม   จะให้สมณพราหมณาจารย์และไพร่ฟ้าประชากร  อยู่เย็นเป็นสุขสิ้นด้วยกัน    เหตุใดอยู่ทางหลังจึงเอาบุตรภรรยาขุนนางมาจองจำทำโทษ    แล้วโบยตีพระสงฆ์และลงโทษแก่ข้าราชการ และอาณาประชาราษฎร์   เร่งรัดโดยพลการโดยหาความผิดมิได้   ทั้งพระพุทธศาสนาก็เสื่อมทรุดเศร้าหมองดุจเมืองมิจฉาทิฐิ     โทษเป็นประการใด   
    พระเจ้ากรุงธนฯ ก็รับผิดสิ้นทุกประการ    จึงให้เอาไปสำเร็จโทษเสียนอกพระราชวัง  หน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 09 มี.ค. 12, 19:40

   มีเกร็ดเล่าว่า ก่อนถูกประหาร  สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงขอผู้คุมให้พาไปพบสมเด็จเจ้าพระยาฯ ว่า
  " ตัวเราก็สิ้นบุญ จะถึงที่ตายแล้ว  ช่วยพาเราแวะเข้าไปหาท่านผู้สำเร็จราชการ  จะขอเจรจาด้วยสัก ๒-๓ คำ"
   แต่สมเด็จเจ้าพระยาฯ โบกมือมิให้นำมาพบ   ผู้คุมก็หามกลับไป   แล้วนำไปประหารด้วยการตัดศีรษะที่ป้อมวิชัยประสิทธิ์  ศพฝังที่วัดบางยี่เรือใต้  ภายหลังเมื่อสถาปนากรุงเทพเป็นเมืองหลวงใหม่ แล้ว จึงขุดขึ้นมาพระราชทานเพลิง   
   พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และและกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท เสด็จไปพระราชทานเพลิงเองทั้ง ๒ พระองค์

   เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์หรือเจ้าฟ้าจุ้ย  พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน  ในขณะนั้นยังตั้งทัพอยู่ที่เขมร  ได้ข่าวว่าพระราชบิดาถูกสำเร็จโทษ  ก็ตีฝ่าทัพเขมรที่ล้อมอยู่กลับเข้าเขตแดนไทยถึงปราจีน    ทหารพอรู้ข่าวก็หนีทัพกันหมด  เหลือเจ้าฟ้าจุ้ยกับพระยากำแหงสงครามแม่ทัพคนสนิท กับทหารอีก ๕ คนไปซุ่มซ่อนตัวในป่า
   ในตอนนั้น  สมเด็จเจ้าพระยาฯ ปราบดาภิเษกแล้ว     เจ้าพระยาสุรสีห์ หรือกรมพระราชวังบวรฯในรัชกาลที่ ๑   ยกทัพไปจับตัวมาได้ นำมาเข้าเฝ้า    พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงเห็นว่าเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ    ก็ตรัสถามว่าจะยอมสวามิภักดิ์หรือไม่  ถ้ายอมก็จะทรงชุบเลี้ยงไว้   
    แต่เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ก็ใจเด็ดเป็นชายชาติทหารเหมือนกัน   ไม่สมัครพระทัยจะสวามิภักดิ์กับเจ้านายใหม่    ขอตายตามพระราชบิดา  จึงถูกสำเร็จโทษ  พร้อมพระยากำแหงสงครามที่ยอมตายตามนาย  เพื่อมิให้ได้ชื่อว่าเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย  ส่วนทหารอีก ๕ คนถูกปล่อยตัวไป

   พระยาพิชัยดาบหัก ก็เป็นขุนนางอีกท่านหนึ่งที่สมัครใจตายตามสมเด็จพระเจ้าตากสิน    แต่บุตรหลานของท่านยังได้รับราชการสืบต่อกันมา    ในรัชกาลที่ ๖  โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสกุลผู้สืบเชื้อสายจากพระยาพิชัยดาบหักว่า "วิชัยขัทคะ"
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 09 มี.ค. 12, 19:48

   ส่วนทฤษฎีอื่นๆ เช่นสมเด็จพระเจ้าตากสินมิได้ถูกประหารจริง แต่ไปผนวชอยู่นครศรีธรรมราช     สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงวางอุบายเพื่อหลบเลี่ยงหนี้สินที่ไปกู้เงินจีนมาแล้วไม่สามารถชำระได้ เลยคบคิดกับสมเด็จเจ้าพระยาฯ สร้างแผนหลอกๆ เพื่อเปลี่ยนแผ่นดินจะได้หมดหนี้ ฯลฯ
   โดยส่วนตัว ดิฉันเห็นว่าไม่มีน้ำหนักเพียงพอ    เพราะมีช่องโหว่ให้แย้งได้มากมาย    ช่องโหว่เรื่องหนึ่งก็คือถ้าเป็นแผนสมคบคิดหลอกชาวบ้านกันจริง ทำไมจะพระราชโอรสและขุนนางที่ภักดีจึงต้องถูกประหารกันไปอีกหลายคนด้วย    นอกจากนี้ยังมีการปราบปรามกบฏเจ้าฟ้าเหม็นอีกในต้นรัชกาลที่ ๒    ที่ไม่สอดคล้องกันกับแผนสมคบคิด
   อีกอย่าง พระเจ้าแผ่นดินสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์  ไม่เห็นจะต้องกลัวเจ้าสัวที่ไหนมาทวงหนี้   มีแต่เจ้าสัวจะกลัวหัวขาดเสียมากกว่า
   ความจริงมีอะไรให้พูดมากกว่านี้อีกมาก  แต่ในเมื่อไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเสียอย่าง  อธิบายไปก็เท่านั้น   ตอบแค่นี้ก็คงพอแล้ว
บันทึกการเข้า
vasu
อสุรผัด
*
ตอบ: 5


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 21 มี.ค. 12, 22:15

เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก 2310 ข้าราชบริพาร สมณ ชีพราหมณ์ ไพร่ ต่างได้รับความเดือดร้อน ไม่มีแผ่นดินอยู่  สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้เอกราชจากพม่า ทุกหมู่เหล่า กลับมาอยู่ร่มเย็น 15 ปีต่อมา มีข้อหาว่า พระองค์ท่านหลง จิตไม่ปกติ ทำให้ข้าราชบริพาร สมณ ชีพราหมณ์ ฯ เดือดร้อน เป็นโทษหนักให้เอาไปสำเร็จโทษ ท่านเป็นมหาราชที่อาภัพนัก
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 07:47

^
^
ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับข้อความดังกล่าวข้างต้นที่เดี่ยวนี้มีผู้นำมากล่าวถึงกันมาก สำหรับผม ขอแก้ตามความเห็นดังนี้

เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก 2310 ข้าราชบริพาร สมณ ชีพราหมณ์ ไพร่ ต่างได้รับความเดือดร้อน ไม่มีแผ่นดินอยู่  สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้เอกราชจากพม่า ตลอด15 ปีต่อมา ทุกหมู่เหล่ายังไม่ทันกลับมาร่มเย็นเป็นสุข เพราะคนไทยยังแย่งชิงกันเป็นใหญ่ในแผ่นดิน  บ้านเมืองยังมีศึกทั้งภายในภายนอก ก็กลับปรากฏว่า พระองค์ท่านหลง จิตไม่ปกติ ทำให้ข้าราชบริพาร สมณ ชีพราหมณ์ ฯ เดือดร้อน เป็นโทษหนักจนเป็นเหตุต้องถูกสำเร็จโทษ ท่านเป็นมหาราชที่อาภัพนัก

ในสมัยที่อำนาจเป็นธรรม อ่านประวัติศาสตร์ให้มากๆเถอะครับ ไม่ว่าบ้านใดเมืองใด ผู้มีอำนาจก็รักษาอำนาจด้วยการฆ่าผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นเหตุสั่นคลอนอำนาจของตนทั้งนั้น  บรรดาประเทศในเอเซียด้วยกัน  พม่ายิ่งหนักกว่าเขาเพื่อน ผลัดแผ่นดินครั้งสุดท้ายก่อนตกไปเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษหมดทั้งประเทศ  เมื่อพ.ศ.๒๔๒๑  ไทยเราตรงกับสมัยรัชกาลที่๕  ปีนั้นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ยังประสูติแล้ว  พระเจ้าสีป่อกษัตริย์พระองค์ใหม่เชื่อพระมเหษี พระนางศุภยาลัต จับเจ้าพี่เจ้าน้องของตนเองทั้งหมดมาประหาร เพียงเพราะเกรงว่าจะเป็นเสี้ยนหนามแก่ราชบัลลังก์ในอนาคต

กรณีย์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มันเป็นวิบากของท่านเองที่เกิดผิดปกติทางจิต ผมไม่ทราบหรอกในทางแพทย์แผนปัจจุบันจะระบุว่าถึงขั้นไหน แต่เรียกแบบชาวบ้านว่าเกิดคุ้มดีคุ้มร้ายก็แล้วกัน อยากจะเฆี่ยนจะฆ่าใครก็มิได้ทรงมีสติยั้งคิด ถามว่า ถ้าเป็นตัวคุณเอง มีดาบ มีอำนาจด้วยกัน จะยอมเสี่ยงชีวิตรับใช้ใกล้ชิดเจ้านายแบบนี้หรือไม่

เมื่อเชิญลงจากอำนาจได้ก็ต้องทำตามโบราณประเพณี ขืนเอาไปปล่อยเกาะแบบนโปเลียน โบนาปาร์ต เดี๋ยวคงมีคนไปนำเสด็จกลับ ก่อให้เกิดการรบราฆ่าฟันระหว่างคนในชาติอีก   สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯท่านไม่ทรงมีทางเลือกหรอกครับ

คนสมัยเราควรจะปลงใจ อดีตคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ปัจจุบันก็เปลี่ยนแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก ลองตามไปอ่านเรื่องของพม่าดู แล้วอาจเปลี่ยนทัศนคติ

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/10/K8387677/K8387677.html

พองานพระบรมศพพระเจ้ามินดงเสร็จสิ้นลง ซึ่งก็ใช้เวลาเพียง๗วันก็บรรจุพระบรมศพแล้ว พระนางศุภยาลัตทรงโปรดให้จัดงานปอยหลวงขึ้นสามวันสามคืนอย่างครึกครื้น นัยว่าจะให้ชาวเมืองลืมความทุกข์โดยการมาเที่ยวงานให้สนุก อันที่จริงนั้นก็เพื่อจะกลบเกลื่อนกรรมพิธีที่จะเริ่มต้นการสังหารหมู่บรรดาเจ้าพี่และเจ้าน้องของตัวเองทั้ง๓๐ องค์ รวมถึงเจ้าจอมมารดา ขุนนาง และบริวารรวมทั้งสิ้น ๑๒๕ คนด้วย เจ้านายองค์ใดถูกปลงพระชนม์ เจ้าจอมมารดา พระภคินีขนิษฐาและบรรดาโอรสธิดาของเจ้านายองค์นั้นก็โดนประหารไปด้วย

ที่ต้องใช้เวลาอยู่ถึงสามวันในสังหารผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมด ก็เพราะต้องลงมือฆ่าเฉพาะในเวลากลางคืน เมื่อแดดร่มลมตกผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวงาน ละครเริ่มออกโรง ดนตรีปี่พาทย์บรรเลงดังที่เข้าที่แล้วก็จะช่วยกลบเสียงโหยหวลของมนุษย์ที่กำลังเผชิญกับความตาย  พระเจ้าสีป่อเองก็ถูกมอมให้เสวยแต่น้ำจัณฑ์จนเมามายลืมโลก จะได้ไม่ต้องสนใจการสังหารหมู่ครั้งนั้น


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 11:54

ขอเชิญคุณ Vasu อ่านกระทู้  เจ้านายวังหลัง   
ถ้าหากว่าอ่านแล้ว ขอให้อ่านตรงนี้ซ้ำอีกครั้ง

ในพระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี เล่าเหตุการณ์ตอนนี้ว่า

ครั้นถึงณวันอาทิตย์เดือนเก้าแรมหกค่ำ สมเด็จพระพุทธเจ้า อยู่หัวเสด็จออกณโรงพระแก้ว ให้ประชุมพระราชาคณะพร้อมกัน และพระองค์มีพระสติฟั่นเฟือนถึงสัญญาวิปลาศ  สำคัญพระองค์ว่าได้ โสดาปัตติผล จึงดำรัสถามพระราชาคณะว่า พระสงฆ์ปุถุชน จะไหว้นบเคารพคฤหัสถ์ ซึ่งเป็นพระโสดาบันบุคคลนั้น จะได้หรือมิได้ ประการใด
และพระราชาคณะที่มีสันดานโลเล มิได้ถือมั่นในพระบาลีบรมพุทโธวาท เกรงพระราชอาชญา เป็นคนประสมประสานจะเจรจาให้ชอบพระอัธยาศัยนั้นมีเป็นอันมาก มีพระพุทธโฆษาจารย์วัดบางว้าใหญ่ พระโพธิวงศ์ พระรัตนมุนีวัดหงส์เป็นต้นนั้น ถวายพระพร ว่า พระสงฆ์ปุถุชนควรจะไหว้นบคฤหัสถ์ซึ่งเป็นโสดาบันนั้นได้ แต่สมเด็จพระสังฆราชวัดบางว้าใหญ่ พระพุทธาจารย์วัดบางว้าน้อย พระพิมลธรรมวัดโพธาราม สามพระองค์นี้สันดานมั่นคงคือพระพุทธวจนะโดยแท้ มิได้เป็นคนสอพลอประสมประสาน จึงถวายพระพรว่า ถึงมาตรว่าคฤหัสถ์เป็นพระโสดาบันก็ดี  แต่เป็นหีนเพศต่ำ อันพระสงฆ์ถึงเป็นปุถุชน ก็ตั้งอยู่ในอุดมเพศอันสูง เหตุทรงผ้ากาสาวพัสตร์ และพระจตุปาริสุทธศีลอันประเสริฐซึ่งจะไหว้นบคฤหัสถ์อันเป็นพระโสดาบันนั้นมิบังควร


เหตุการณ์นี้ มิใช่" ข้อหา" แต่เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น      ถ้าหากว่าคุณยังยืนยันว่าเป็นแค่ "ข้อหา" อยู่นั่นเอง  ก็เชิญอ่านตอนต่อไป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 12:02

     พงศาวดารธนบุรีแจกแจงรายละเอียดว่า
     "แต่พวกพระราชาคณะให้ตีหลังองค์ละร้อยที    พระฐานาเปรียญให้ตีหลังองค์ละห้าสิบที พระ สงฆ์อันดับให้ตีหลังองค์ละสามสิบที แต่พระสงฆ์ซึ่งตั้งอยู่ในศีลในสัตย์  พวกว่าไหว้ไม่ได้นั้นทั้งสามพระอารามเป็นพระสงฆ์ถึงห้าร้อยรูป ต้องโทษถูกตีทั้งสิ้น...พระราชาคณะทั้งสามพระองค์ กับพระสงฆ์ อันเตวาสิกซึ่งเป็นโทษทั้งห้าร้อยนั้นให้ไปขนอาจม  ชำระเว็จกุฎีวัดหงส์ทั้งสิ้นด้วยกัน
แล้วให้ถอดพระราชาคณะทั้งสามนั้น จากสมณฐานันดรศักดิ์ลงเป็นอนุจร  
     ครั้นนั้นมหาภัย พิบัติบังเกิดในพระพุทธศาสนาควรจะสังเวชยิ่งนัก บรรดาคนทั้งหลายซึ่งเป็นสัมมาทิฏฐิ   นับถือพระรัตนตรัยนั้น ชวนกันสลดจิตต์คิดสงสารพระพุทธศานา มีหน้านองไปด้วยน้ำตาเป็นอันมาก    ที่มีศรัทธาเข้ารับโทษให้ตีหลังตนแทนพระสงฆ์นั้นก็มี และเสียงร้องไห้ระงมไปทั่วทั้งเมือง"


     ดูจาก "เหตุ" และ "ผล "ของเรื่อง จะเห็นว่าฆราวาสที่มีสติสัมปชัญญะปกติ   ไม่ว่าจะเป็นแค่ปุถุชนธรรมดาหรือพระอริยะขั้นโสดาบัน  ย่อมยึดถือหลัก "อหิงสา" เป็นพื้นฐาน คือไม่เบียดเบียนผู้อื่น   ไม่อาจมีจิตคิดร้ายถึงขั้นโบยตีลงโทษพระสงฆ์  หากว่าอยู่ในหน้าที่ที่ต้องลงโทษพระสงฆ์ผู้ทำผิดพระวินัยร้ายแรง  อย่างพวกสังฆการี   ก็ทำเพียงแค่จับสึก   มีโทษอะไรหลังจากนั้นก็ว่ากันไปตามกฎหมายบ้านเมือง     แต่ไม่ใช่สั่งเฆี่ยน สั่งถอด สั่งลงโทษให้อับอายขายหน้า เพียงแต่พระสงฆ์ตอบว่า ไม่อาจไหว้ฆราวาสได้  เท่านั้น  
     ส่วนเหตุผลอื่นๆ  เห็นด้วยกับท่านนวรัตน ค่ะ
บันทึกการเข้า
samson
อสุรผัด
*
ตอบ: 18



ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 15:08

ถึง คุณ Vasu

เป็นที่รู้แก่กันโดยทั่วไป เพียงแต่มิอาจยอมรับกันโดยทั่วไป ว่า ประวัติศาสตร์ของชนชาตินั้น มิอาจถือเอาเป็นความจริง หรือ ความเท็จ อย่างใดอย่างหนึ่งลงไปได้

สิ่งที่เรียกว่า ประวัติศาสตร์ มักถูกแต่งเติมเสริมขึ้น เพื่อประโยชน์ในทางการเมืองการปกครอง การสร้างความชอบธรรม และ สมเหตุสมผล ให้กับผู้ปกครองประเทศนั้นๆ

ประวัติศาสตร์ ที่เขียนโดยเหล่าผู้ปกครองนี้ ในปัจจุบัน อาจมีประโยชน์ เพียงแค่ให้รู้ไว้ เพื่อการสอบวัดความรู้ตามระดับการศึกษา ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยทางการ เท่านั้น

สุดท้ายแล้ว ในเรื่องของประวัติศาสตร์บางช่วง บางเหตุการณ์ ที่คลุมเคลือ ..... วิจารณญาณส่วนบุคคลนั้น สำคัญมาก...... และเป็นสิ่งที่สังคม ควรให้การยอมรับมากอย่างยิ่ง

............. เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ ^^ ครับ
บันทึกการเข้า
samson
อสุรผัด
*
ตอบ: 18



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 15:36

ยกตัวอย่าง ประวัติศาสตร์ไทยหน้าหนึ่ง ไม่ต้องไกลมาก ย้อนหลังไปไม่เกิน 2 ปี

ประวัติศาสตร์ A โดย นาย กอ ไก่ ไม่เหลือง.... รัฐบาลที่มาจากค่ายทหาร จากคณปฏิวัติ เข้ามาเป็นรัฐบาลโดยมิชอบ บริหารประเทศย่ำแย่ จนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ลำบากยากแสน รวมตัวกันมาประท้วงอย่างสันติที่กรุงเทพมหานคร ถูกรัฐบาล ใช้อำนาจอย่างเลวร้าย สลายการชุมนุมอย่างรุนแรง จนเหตุการณ์บานปลาย มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตมากมาย

ประวัติศาสตร์ B โดย นาย ขอ ไข่ ใส่เหลือง.... เป็นแผนการของทรราชย์ ซึ่งก็คือ อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร และคณะ นำกลุ่มมวลชนมากดดดันรัฐบาล ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมาอยู่ในตำแหน่งอย่างถูกต้อง ได้รับการรับรองจากคณะปฏิวัติ .... โดย มวลชนผู้ชุมนุม เริ่มอยู่นอกเหนือการควบคุม สถานการณ์ส่อไปในทางเลวร้าย จนเกรงว่าจะเกินการควบคุม จึงสั่งการให้มีการสลายการชุมนุม อย่างปลอดภัย และรัดกุม โดยคำนึงถึงชีวิตของประชาชนที่มาชุมนุมเป็นสำคัญ

ทั้งประวัติศาสตร์ A และ B ได้รับการบอกเล่า ตีพิมพ์ ผ่านเครือข่ายช่องทางการสื่อสารต่างๆ มากมาย....... เกิดมีออกสอบขึ้นมา ยังไม่รู้เลยว่าจะตอบข้อไหนดี คงต้องไปดูสีเสื้อคนออกสอบ

     
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 16:22

รอท่านอื่นมาแสดงความคิดเห็นค่ะ
แล้วดิฉันจะตอบคุณ samson ว่าคำตอบคุณมีจุดอ่อนตรงไหน
บันทึกการเข้า
vasu
อสุรผัด
*
ตอบ: 5


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 17:25

ขอบคุณ อาจารย์NAVARAT.C และอาจารย์เทาชมพู(ขออนุญาตเรียกอาจารย์เพราะทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ เป็นอาจารย์ผมได้ทั้งสองท่าน)ที่กรุณาตอบข้อความที่ผมเขียนสั้นๆ ผมได้อ่านบทความ กระทู้ ที่อาจารย์ทั้งสองกล่าวถึง รวมถึงบันทึกประวัติศาสตร์ มาบ้าง มีทั้งประเด็นที่เห็นคล้อยตาม และไม่เห็นด้วย ข้อความของผมที่มีความเห็นว่าพระเจ้าตากสินเป็นมหาราชที่อาภัพ ก็คือเมื่อทำความดีกอบกู้เอกราชได้ ก็ได้ความชอบเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เมื่อทำความผิดเฆี่ยนตีพระสงฆ์และอื่นๆ  ก็ถูกลงโทษประหารชีวิต ซึ่งถ้าเป็นปัจจุบันศาลท่านอาจลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต  ไม่ได้ต้องการให้ไกลเลยเถิดถึงแก้ไขประวัติศาสตร์ หรือว่าคนชนะเขียนประวัติศาสตร์บิดเบือน ถ้าข้อความของผมทำให้บรรยากาศทางวิชาการไม่สู้ดี ก็ขอโทษอาจารย์เทาชมพูครับ
บันทึกการเข้า
srisiam
สุครีพ
******
ตอบ: 857


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 17:41

ไม่ทราบว่าเป็นคนเดียวกันไหม?

 รูดซิบปาก


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 17:42

ตรงกันข้ามค่ะ   ดิฉันคิดว่าคุณ Vasu  ทำให้เกิดบรรยากาศทางวิชาการในกระทู้นี้ต่างหากละคะ   ทำให้เราสามารถออกความเห็นที่แตกต่างกันได้ เสนอความเห็นได้โดยไม่ต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน  เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องขอโทษ
ดิฉันไม่อยากให้คุณ vasu ใจฝ่อเสียก่อน    

อ้างถึง
เมื่อทำความผิดเฆี่ยนตีพระสงฆ์และอื่นๆ  ก็ถูกลงโทษประหารชีวิต ซึ่งถ้าเป็นปัจจุบันศาลท่านอาจลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต

ข้อนี้ อาจารย์นวรัตน(เรียกตามคุณ vasu) ได้อธิบายไว้แล้วว่าสมัยนั้นเขาไม่ทำกัน    ถ้าใจอ่อนปล่อยให้เรื่องคาราคาซัง  ปล่อยท่านไว้เฉยๆ  ท่านจะกริ้วสั่งประหารขุนนางขึ้นมาเมื่อใดก็ได้      ต่อให้จำคุก   ผู้สนับสนุนและวงศ์วานเครือญาติท่านก็ยังมีอีกมาก   จะลุกขึ้นก่อความไม่สงบขึ้นมาเมื่อใดก็ไม่รู้   ถ้าต้องมานั่งระวังเฝ้าดูกันอยู่  ขณะศึกพม่าก็จ่ออยู่รอบบ้าน    รัตนโกสินทร์อาจเจอศึกภายในภายนอกพร้อมกัน จนเสียกรุงครั้งที่ ๓
ขอให้คุณ vasu ช่วยย้อนนึกถึงเจ้าพิมายหรือกรมหมื่นเทพพิพิธ พระราชโอรสพระเจ้าบรมโกศที่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯทรงปราบได้   ท่านก็สั่งประหารชีวิตไปเลยเพื่อมิให้กลับมาเป็นเสี้ยนหนาม    ไม่ได้คิดจะจำคุกตลอดชีวิต
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 20 คำสั่ง