เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
  พิมพ์  
อ่าน: 69643 เมื่อญี่ปุ่นบุก : ไทยในสงครามมหาเอเชียบูรพา
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 03 มี.ค. 12, 16:53

อ้างถึง
ปัญหาชิงรางวัลใหญ่ บ้านพร้อมที่ดิน  เงินสด +หลานสาวอาจารย์อีก 1 คน  รางวัลเยี่ยมขนาดนี้จะไม่เข้าร่วมได้อย่างไรครับ เพียงแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ อากู๋ไม่ช่วยเท่าไหร่เลย

ผมตื่นจากแอบหลับกลางวันมาเปิดกระทู้ของคุณประกอบแล้วสะดุ้งเฮือก นี่ตูทำอะไรผิดไปรึเปล่า รีบย้อนกลับไปดูที่ติดสินบนให้ทายภาพไว้

นี่ๆ ผมเขียนไว้อย่างนี้ครับ

นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ลึกล้ำอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นที่มีใช้ในสงครามคราวนี้ อยากถามว่า มันคืออะไรครับ
บอกใบ้ให้ว่า ไม่ได้ใช้ในการบรรเลงตอนสวนสนาม แต่ถือเป็นยุทโธปกรณ์อย่างหนึ่ง

ใครตอบถูกเชิญไปรับรางวัลใหญ่ที่จขกท. ที่ดินพร้อมบ้านทรงไทย๑รูป ๑รางวัลเท่านั้นนะครับ ใครตอบถูกก่อนได้ก่อน



คุณประกอบก็ยังเป็นผู้โชคดีอยู่ดี แม้จะไม่ได้เงินสด +หลานสาวอาจารย์อีก 1 คน(อาจารย์คนไหนหว่า) แต่ก็ยังได้ ที่ดินพร้อมบ้านทรงไทย๑รูปจากท่านอาจารย์เทาชมพู
 
ท่านเข้ากระทู้มาเมื่อไหร่ ขอรับรางวัลจากท่านได้เลย


บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 03 มี.ค. 12, 17:24

อ้างถึง
ปัญหาชิงรางวัลใหญ่ บ้านพร้อมที่ดิน  เงินสด +หลานสาวอาจารย์อีก 1 คน  รางวัลเยี่ยมขนาดนี้จะไม่เข้าร่วมได้อย่างไรครับ เพียงแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ อากู๋ไม่ช่วยเท่าไหร่เลย

ผมตื่นจากแอบหลับกลางวันมาเปิดกระทู้ของคุณประกอบแล้วสะดุ้งเฮือก นี่ตูทำอะไรผิดไปรึเปล่า รีบย้อนกลับไปดูที่ติดสินบนให้ทายภาพไว้

นี่ๆ ผมเขียนไว้อย่างนี้ครับ

นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ลึกล้ำอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นที่มีใช้ในสงครามคราวนี้ อยากถามว่า มันคืออะไรครับ
บอกใบ้ให้ว่า ไม่ได้ใช้ในการบรรเลงตอนสวนสนาม แต่ถือเป็นยุทโธปกรณ์อย่างหนึ่ง

ใครตอบถูกเชิญไปรับรางวัลใหญ่ที่จขกท. ที่ดินพร้อมบ้านทรงไทย๑รูป ๑รางวัลเท่านั้นนะครับ ใครตอบถูกก่อนได้ก่อน



คุณประกอบก็ยังเป็นผู้โชคดีอยู่ดี แม้จะไม่ได้เงินสด +หลานสาวอาจารย์อีก 1 คน(อาจารย์คนไหนหว่า) แต่ก็ยังได้ ที่ดินพร้อมบ้านทรงไทย๑รูปจากท่านอาจารย์เทาชมพู
 
ท่านเข้ากระทู้มาเมื่อไหร่ ขอรับรางวัลจากท่านได้เลย


อ้าวว นี่ผมอ่านของรางวัลผิดหรือครับนี่  ว้าาาา ไม่น่าเลย วันหลังต้องอ่านเงื่อนไขชิงรางวัลให้ละเอียดกว่านี้ซะแล้ว
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 03 มี.ค. 12, 21:37

ไปเจอเรื่องสายลับญี่ปุ่นที่นครศรีธรรมราช    ถึงจะช้าไปหน่อย เพราะจอมพลป. ทำสัญญาสงบศึกกับมหามิตรเสียแล้ว  แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มาก็แล้วกัน

จากเว็บโอเคเนชั่น

หนังสืออนุสรณ์ งานพระราชทานเพลิงศพ นายแพทย์ สมพงศ์  ขุทรานนท์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2545 ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม
คุณหมอเล่าว่ามีญี่ปุ่นสองคนผัวเมียมาตั้งร้าน ตั้งแต่สมัยก่อนเปลี่ยนการปกครอง พ.ศ. 2475 ตั้งชื่อว่าร้านหมอมาลู  หมอมาลูรับทำฟันพร้อมรับถ่ายรูปและล้างรูป   ชาวญี่ปุ่นผู้ชายชื่อเต็มว่าอะไรไม่ทราบ แต่ใครๆเรียกว่าหมอ มาลู ส่วนภรรยาหมอ มีชื่อลงท้ายด้วยสิๆๆ พวกชาวบ้านเรียกว่าแม่ศรี หรือแม่สี
ทั้งสองคนมาตั้งรกรากอยู่นาน พูดภาษาไทยภาคใต้ได้ดี แต่งตัวแบบไทยๆ นานๆจะเห็นแต่งตัวแบบญี่ปุ่นนุ่งกิโมโน   ร้านตั้งอยู่หน้าวัดเสาธงทอง ริมถนนราชดำเนิน ตำบลคลัง อยู่ระหว่างสีแยกท่าวัง กับวัดวังตะวันตก เป็นร้านใหญ่ 3 คูหา   ไม่มีใครรู้ว่าเป็นร้านสายลับญี่ปุ่นที่มาฝั่งตัวอยู่ยาวนาน  
จนญี่ปุ่นบุกเมืองนครศรีธรรมราชในวันที่ 8 ธันวาคม 2484 หมอฟันคนนี้ก็เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นนายทหารยศร้อยเอก

นอกจากนี้ในการสร้างถนน จากสี่แยกหัวถนนไปปากพนัง  มีบริษัทต่างๆเข้าประกวดราคาก่อสร้าง แต่บริษัทที่ชนะการประมูล คือ บริษัทเคียวแอไคของญี่ปุ่น เพราะประมูลได้ราคาต่ำสุด   การก่อสร้างรุดหน้าไปถึงคลอง ข้ามคลองปากนคร ที่หัวตรุดสะพานข้าม"สะพานหัวตรุด" สร้างแคมป์ชั่วคราว   ผู้ทำงานล้วนแล้วแต่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น วิศวกรญี่ปุ่น    แต่พอญี่ปุ่นบุกเข้าเมือง  ญี่ปุ่นสายลับเหล่านี้ก็หายตัวจากงานไปหมด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 03 มี.ค. 12, 22:00

     ข้อเสนอหรือเรียกให้ถูกว่าการยื่นคำขาดของญี่ปุ่นที่มีต่อรัฐบาลไทย คือขอเดินทัพผ่านประเทศไทย เพื่อส่งกำลังไปโจมตีอังกฤษ ในมลายูและพม่า  แจกแจงเงื่อนไขออกมาว่า
     ๑. ญี่ปุ่นขอเดินทัพผ่านประเทศไทยและขอให้ไทยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนทัพของญี่ปุ่น
     ๒. ญี่ปุ่นชักชวนไทย ให้ตกลงสัมพันธไมตรี ทั้งการรุก และการป้องกันประเทศไทย รวมกัน โดยญี่ปุ่น จะให้ความร่วมมือกับไทย เพื่อให้ไทย ได้ดินแดน ที่เสียไป กลับคืนมา
    ๓. ขอให้ไทยเข้าร่วม เป็นภาคีสนธิสัญญาไตรภาคี ประกาศสงคราม กับอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
     หลังจากรัฐบาลไทยยอมประนีประนอมเพื่อไม่ให้เสียเลือดเนื้อกัน   เพราะดูแล้วว่าไม่มีทางสู้      ในวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ ความสัมพันธ์ของไทยกับญี่ปุ่นก็กระโดดคืบหน้าไปอีกก้าวใหญ่ๆ ด้วยการร่วมลงนามในกติกาสัญญาทางการทหาร ร่วมมือเป็นฝ่ายเดียวกัน
     เมื่อไทยไปเซ็นสัญญาจับมือกับญี่ปุ่น   ก็เท่ากับไทยหันหลังให้ฝ่ายพันธมิตรโดยสิ้นเชิง     อังกฤษกับอเมริกาก็ส่งกำลังถล่มไทยทันที    ผลจากที่รัฐบาลไทยไม่ต้องการให้ทหารและคนไทยเสียเลือดเนื้อเพราะญี่ปุ่น   คนไทยก็ต้องมาเสียเลือดเนื้อและตึกรามบ้านช่องเพราะฝรั่งแทน    จากวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ ถึงวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๕   แค่ ๑๒ วันนี้เอง  ไทยถูกทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศถึง ๓๐ ครั้ง และทางบก ๓๖ ครั้ง    
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 04 มี.ค. 12, 09:39

ถ้าถามว่าการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะประนีประนอมยอมความกับญี่ปุ่น   เพราะสู้ไปก็มีแต่แพ้ แบบน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ   เสียชีวิตเลือดเนื้อทหารและประชาชนเปล่าๆ   เป็นการตัดสินใจที่มีผลดีกว่าเสียหรือไม่     ดิฉันก็ตอบไม่ถูก   เพราะผลแสดงให้เห็นว่าในไม่กี่วันว่า ประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรก็ต้องมาตายกันไปมากจนเครื่องบินพันธมิตรที่มาทิ้งระเบิดใส่ไม่ยั้ง     คนไม่ตายแต่หมดตัวเพราะบ้านช่องพังพินาศก็ไม่น้อย    คนที่ต้องอพยพหลบหนีภัยสงคราม บ้านแตกสาแหรกขาด  ก็มีอีกทั่วประเทศ

แต่ถ้าถามว่ามีผู้ได้รับผลดีจากการตัดสินใจของรัฐบาลบ้างไหม    คำตอบก็คือ  มี  อย่างน้อยคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ก็มีสถานภาพมั่นคงมาตลอดตั้งแต่ธันวาคม 2484  ไปจนปี 2488 ซึ่งเป็นปีสิ้นสุดสงครามโลก     ไม่ถูกถอด ไม่ถูกเปลี่ยน  ไม่เป็นรัฐบาลลี้ภัยพลัดถิ่น   ยังคงบริหารประเทศได้เหมือนเมื่อก่อนเกิดสงคราม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 04 มี.ค. 12, 21:16

           รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์แจ้งประชาชน  ในการทำสงครามกับอังกฤษและอเมริกาเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2485  
           อ่านได้จากราชกิจจาฯ ที่คุณเพ็ญชมพูนำมาลงในค.ห.ถัดไป
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 04 มี.ค. 12, 21:27

.


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 05 มี.ค. 12, 08:54

.


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 05 มี.ค. 12, 21:19

ประเด็นเรื่องไทยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่นเต็มตัวจนถึงประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ  เป็นเรื่องถกเถียงกันได้ยาวว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างใดกันแน่     รัฐบาลจอมพลป.จำใจต้องเข้าร่วมด้วยเพราะถูกบีบบังคับ    หรือว่าเป็นความเต็มใจของผู้นำไทยเอง จากการเล็งเห็นผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากญี่ปุ่น ในความร่วมมือครั้งนี้

ฝ่ายที่้เห็นว่าไทยถูกบังคับไม่ให้กระดิกกระเดี้ยเป็นอย่างอื่น  ก็ให้เหตุผลมายาวเหยียดว่า
1. กองทัพญี่ปุ่นเปลี่ยนท่าทีจากเดิมที่ขอเดินทัพผ่านประเทศไทยเป็นเข้ายึดครองและควบคุมการเคลื่อนไหวทางทหาร และการคมนาคมของไทย
2. กองทัพญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงการบริหารของรัฐบาล ถึงกับเสนอขอเข้าฟังการประชุมของคณะรัฐมนตรี
๓. กองทัพญี่ปุ่นเตรียมเกณท์ยวดยานพาหนะ เครื่องอุปกรณ์ในการรบและแรงงาน
๔. กองทัพญี่ปุ่นห้ามการกระจายเสียง การโฆษณา ฉายภาพยนตร์ตลอดจนห้ามสอนภาษาอังกฤษ
๕. กองทัพญี่ปุ่นเริ่มพิมพ์ธนบัตรญี่ปุ่นขึ้นใช้ในประเทศไทย
6. กองทัพญี่ปุ่นเข้าสำรวจเตรียมยึดทรัพย์ของชนชาติอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และฮอลันดา ตลอดจนสัมปทานป่าไม้ เหมืองแร่ ซึ่งต่อไปรัฐบาลไทยจะต้องชดใช้เป็นเงินจำนวนมหาศาล
7. กองทัพญี่ปุ่นให้ส่งมอบชนชาติอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และฮอลันดา ในสถานที่กักกันของไทย ที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาตร์ และการเมืองจำนวนหลายพันคน ไปเข้าค่ายเชลยญี่ปุ่นที่แม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าไทยไม่ได้ตกอยู่ในประเทศเป็นกลางที่ยอมให้ญี่ปุ่นเดินทัพผ่านไปเฉยๆ    แต่ตกอยู่ในฐานะถูกยึดครองจากญี่ปุ่นเต็มตัว   ไม่มีทางหลบหลีกเป็นอย่างอื่น  ญี่ปุ่นชี้ให้ไปทางไหนก็จำใจต้องยอมรับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 05 มี.ค. 12, 21:33

แต่ถ้ามองในแง่ตรงข้าม  ก็มีเหตุผลว่ารัฐบาลจอมพลป. อาจไม่ได้ถูกบีบคอถึงขั้นกระดิกกระเดี้ยไม่ได้    เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นปฏิบัติกับไทยอย่างสุภาพและประนีประนอมมากกว่าที่เคยทำกับประเทศอื่นๆที่ญี่ปุ่นเคยเข้าเข้ายึดครอง   ถ้าเทียบกับบางแห่งอย่างเกาหลีและนานกิง  ก็ถือว่าประชาชนไทยโชคดีกว่ามาก ที่ไม่ได้ถูกข่มเหงรังแกจนเป็นแผลบาดลึกต่อมาจนทุกวันนี้

นอจากนี้ รัฐบาลไทยอาจมองเห็นผลดีจากความร่วมมือกับญี่ปุ่น    ในกติกาสัญญาพันธไมตรีที่มีข้อตกลงลับต่อท้าย ว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุนไทยให้ได้ดินแดนด้านมลายูและพม่าซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษ   ดินแดนเหล่านี้เคยเป็นของไทยมาก่อนจะสูญเสียให้กับเจ้าอาณานิคม  ซึ่งพอไทยเกิดสงครามกับญี่ปุ่นขึ้นมาจริงๆอังกฤษก็ไม่ได้ช่วยเหลือตามที่ทำท่าทีเอาไว้แต่อย่างใด     ในเมื่อพึ่งอังกฤษไม่ได้แล้ว  ญี่ปุ่นแม้จะเข้ามายึดครองแต่ก็มีผลประโยชน์ต่างตอบแทน   รัฐบาลไทยก็หันมาทางนี้จะไม่ดีกว่าหรือ   ก็พอคุ้มกับที่ต้องอำนวยความสะดวกให้กับกองทัพญี่ปุ่น เช่น การสนับสนุนด้านการเงิน และการจัดหาที่ตั้งฐานทัพให้ในประเทศ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 05 มี.ค. 12, 21:39

จีนเป็นประเทศที่มองไทยแบบแรก  ด้วยความเห็นอกเห็นใจมากกว่าประเทศพันธมิตรอื่นๆ   เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2485 เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอนได้ปรารภกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษว่า ฝ่ายสัมพันธมิตรไม่ควรประกาศสงครามกับไทย เพราะจีนเชื่อว่าไทยถูกญี่ปุ่นบีบบังคับให้ประกาศมากกว่า
จีนยังเห็นอีกว่าการประกาศสงครามกับไทยเท่ากับเป็นการผลักดันให้ไทยหลุดจากฝ่ายพันธมิตรไปเข้าข้างญี่ปุ่นเต็มตัว   แต่อังกฤษก็ไม่ฟังจีน   พอรู้ว่าไทยประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ  จะจำใจหรือเต็มใจก็ไม่รู้ละ  ถือว่าประกาศออกมาแล้ว   อังกฤษก็ไม่รั้งรอที่จะประกาศสงครามกับไทยทันที   ทั้งๆกว่าจะรู้ก็ล่วงเข้าไปวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2485 แต่อังกฤษก็ให้มีผลย้อนหลังกลับไปมีผลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2485 
นอกจากนี้ อังกฤษไม่ลดราวาศอกแม้แต่คืบเดียว    โทรเลขถึงข้าหลวงใหญ่อังกฤษประจำประเทศ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอัฟริกาใต้ เพื่อขอความร่วมมือจากประเทศในเครือจักรภพ ให้ประกาศสงครามกับไทยเช่นเดียวกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 17 มี.ค. 12, 21:37

ดึงกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะว่าเนื้อเรื่องยังไม่จบ   แต่ตอนท้ายๆเดินเรื่องผิดคิวไปหน่อย กลายเป็นเรื่องประกาศสงครามกับอเมริกาและอังกฤษไป   ก็เลยต่อไม่ถูก
ตอนนี้จะต้องหวนกลับไปเรื่องญี่ปุ่นบุกตามคิวเดิมค่ะ   รอท่านกูรูใหญ่  NAVARAT.C ว่างพอจะมาจัดคิวให้   กระทู้ก็จะเดินหน้าต่อไปได้
นักเรียนก็จะได้ทยอยกันมาเข้าชั้นเรียนตามเดิม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 18 มี.ค. 12, 21:00

ฮึ๊บ ! (ฮื้บ ?- ไม่ทราบสะกดอย่างใดจึงจะถูกต้องที่จะแสดงอาการ"ตกใจตื่น" รอคุณเพ็ญชมพูมาฟันธงก็แล้วกัน)
.
.
.
เอ้า อาจารย์ใหญ่เรียกแล้วคร้าบ ขอเช็คชื่อหน่อย

คุ ณ ป ร ะ ก อ บ  บ   บ    บ      บ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 15:17

อาจารย์ผู้สอนท่านเรียกเด็กชายประกอบแล้วนะคะ   ตกใจตื่นขึ้นมารึยังเอ่ย


บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 22:09

กำลังอาละวาดอยู่แถวห้องเรื่องเรื่องวังหลัง พิมพ์กระทู้อยู่ พิมพ์ไปลุ้นไปว่าหมิ่นเหม่หรือไม่   โดนอาจารย์ตามตัวมาที่ห้องนี้ต้องรีบกลับมาทันที  ขนาดเป็นนักเรียนหลังห้องแล้วนะนี่
มาถึงโดนคุณครูเรียกให้ตอบ ไม่ออกความเห็นอะไรเดี๋ยวจะถูกลงโทษ

ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับบันทึกของพลอากาศเอกทวี จุลทรัพย์  ดูเหมือนเสธทวีท่านจะเคยได้รับหน้าที่มอบหมายไปให้ประเมินศักยภาพของกองกำลังอังกฤษในมลายา ว่าพอจะรับมือกับญี่ปุ่นได้หรือไม่
เพราะช่วงสถานการณ์อึมครึม  ตอนนั้นใครๆ ก็เก็งกันแล้วว่าพี่ยุ่นเอาแน่ แต่อังกฤษเองก็ไม่อยากจะให้ไทยเราไปเข้ากับญี่ปุ่นเต็มตัว  รู้สึกว่าจะมีสัญญิงสัญญากันไว้ว่าถ้าญี่ปุ่นบุกไทย อังกฤษเองจะช่วยเหลือเราด้วย
ทางไทยก็ส่งทีมงานไปประเมินดูท่าทีฝ่ายอังกฤษ   พอทีมงานไทยไป อังกฤษก็จัดการสวนสนามใหญ่โตโชว์พาวให้คณะจากไทยดู ให้มั่นใจว่าไม่ต้องห่วง กำลังรบพร้อมสรรพ รถถังเรือบินพร้อม จำนวนมีเหลือเฟือด้วย
แต่รู้สึกท่านเสธฯ ทวีท่านจำได้ ว่าไอ้รถถังที่มาสวนสนามโชว์ มันเวียนเทียนผ่านมาผ่านไปหลายรอบ  แต่คันเดิมตลอด  กลับไปท่านจึงไปเขียนรายงานว่า ถ้าญี่ปุ่นบุก อังกฤษไม่มีกำลังพอมาช่วยเราได้แน่ๆ เราต้องบู๊ด้วยตัวเอง
นี่อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจเข้าร่วมกับญี่ปุ่นได้รวดเร็บฉับไวมากก็ได้ 

แล้วก็เป็นจริงตามนั้นซะด้วย อังกฤษต้านญี่ปุ่นได้ไม่นานเลย
ทั้งที่ในความเป็นจริง กำลังรบของอังกฤษในมลายาและสิงคโปร์ มีมากกว่าญี่ปุ่นฝ่ายบุกอีก แต่ด้วยการวางแผนการรบที่ไม่เอาไหน ขวัญกำลังใจตกต่ำ
เจอลูกเนียนวางเขื่องของนายพลยามาชิตะเข้า แม่ทัพอังกฤษก็ยอมแพ้ซะง่ายๆ ทั้งที่จริงญี่ปุ่นฝ่ายบุกเองก็หมดก๊อกแล้ว 
มีแม่ทัพอ่อนด้อย การข่าวไม่มีประสิทธิภาพ ประเมินกำลังฝ่ายบุกไม่ได้ ขวัญกำลังใจไม่มี น่าจะเป็นสาเหตุหลักของการแพ้ในคราวนี้เลย


ตอนนี้กำลังมุอ่านหนังสือ Battle of Britain เป็นภาษาอังกฤษอยู่ครับ อ่านไปเปิดดิกไป  กำลังถึงตอนฮิตเลอร์บุกฝรั่งเศษ รุกไล่จนอังกฤษต้องอพยพหนีกันตรงดังเคิร์ก  สนุกมาก เสียอย่างเดียวแปลไม่ค่อยออก
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนตอนญี่ปุ่นบุกมลายาสิงคโปร์เลย   คือกำลังของฝ่ายอังกฤษ+ฝรั่งเศส ทั้งทหารราบ รถถัง เครื่องบิน ปืนใหญ่ เหนือกว่าเยอรมันอย่างมาก 
เยอรมันเองไม่ได้พร้อมอะไรมากมายเลย กำลังพลที่เป็นทหารชั้นดีที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีก็มีแค่ไม่กี่กองพล  แม่ทัพนายกองเยอรมันเองส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับการบุก เพราะคิดว่ายังไม่พร้อมอย่างมาก
แต่เจอลูกบ้านักพนันกล้าได้กล้าเสียของฮิตเลอร์เข้า   แถมหลงกลลวงของฝ่ายเยอรมัน ทำให้ประเมินการบุกผิด สุดท้ายจึงแพ้ไปในเวลาไม่นาน
แล้วอังกฤษก็ไม่เข็ด มาล้มเหลวตอนป้องกันสิงคโปร์อีกแบบคล้ายๆ กัน  นี่แหละ ไม่รู้เขา รู้แต่เรา รบร้อยครั้ง แพ้ทุกครั้ง
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 19 คำสั่ง