เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
  พิมพ์  
อ่าน: 67071 เจ้านายวังหลัง
Diwali
มัจฉานุ
**
ตอบ: 96


ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 17 มี.ค. 12, 00:11

ขอแสดงตัวว่า ยังเข้ามาเรียนอยู่นะครับ
แม้ว่า จะโดดเรียนหนีไป ตปท เป็นระยะ


เรื่องพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือพระเจ้าตากทรงเสียพระจริตนั้น

ขอแสดงความเห็นนิดหนึ่งนะครับ

ในตำนานและความเชื่อ รวมถึงคำสอนของฝ่ายมหาญาณ 
ว่าด้วย"พระองคุลีมาล"
คือ
"วางดาบแล้ว สำเร็จอรหันต์"

ประมาณว่า
แม้นว่าจะประหารคนมามากมาย ขนาด ๙๙๙ คนแล้ว
แต่เมื่อบรรลุอรหันต์แล้ว กรรมทั้งปวงคือจบสิ้นกัน ฯลฯ



ผมจินตนาการว่า
พระองค์ท่าน คงได้รับรู้เรื่องราวฝ่ายมหาญาณมาบ้าง
จากที่ผ่านพระชนม์ชีพอย่างโชกโชน
ทรงสังหารชีวิตปัจจนึกมามากต่อมาก
จึงทรงมุ่งเน้นนิพพานแต่เพียงอย่างเดียว


เอ้อ.... ถ้ามองมุมนี้
จะถือว่า เครซี่???(Fou [french]) หรือไม่ครับ
บันทึกการเข้า
babyblue
อสุรผัด
*
ตอบ: 8


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 17 มี.ค. 12, 13:57

เข้ามาลงชื่อเข้าชั้นเรียนค่ะ  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 17 มี.ค. 12, 18:44

ขอแสดงความเห็นนิดหนึ่งนะครับ

ในตำนานและความเชื่อ รวมถึงคำสอนของฝ่ายมหาญาณ  
ว่าด้วย"พระองคุลีมาล"
คือ
"วางดาบแล้ว สำเร็จอรหันต์"

ประมาณว่า
แม้นว่าจะประหารคนมามากมาย ขนาด ๙๙๙ คนแล้ว
แต่เมื่อบรรลุอรหันต์แล้ว กรรมทั้งปวงคือจบสิ้นกัน ฯลฯ

เรื่ององคุลีมาลสำเร็จอรหันต์คงไม่มีเฉพาะในมหายาน

และเมื่อบรรลุอรหันต์ กรรมทั้งปวงคงไม่จบสิ้น

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕  มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ อังคุลิมาลสูตร

[๕๓๓] ครั้งนั้น เวลาเช้า ท่านพระองคุลิมาลนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตในพระนครสาวัตถี. ก็เวลานั้นก้อนดิน ...  ท่อนไม้ ...  ก้อนกรวดที่บุคคลขว้างไปแม้โดยทางอื่นก็มาตกลงที่กายของท่านพระองคุลิมาล ท่านพระองคุลิมาลศีรษะแตก โลหิตไหล บาตรก็แตก ผ้าสังฆาฏิก็ฉีกขาด เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ. พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตรท่านพระองคุลิมาลเดินมาแต่ไกล ครั้นแล้วได้ตรัสกะท่านพระองคุลิมาลว่า เธอจงอดกลั้นไว้เถิดพราหมณ์ เธอจงอดกลั้นไว้เถิดพราหมณ์ เธอได้เสวยผลกรรมซึ่งเป็นเหตุ จะให้เธอพึงหมกไหม้อยู่ในนรกตลอดปีเป็นอันมาก ตลอดร้อยปีเป็นอันมาก ตลอดพันปีเป็นอันมากในปัจจุบันนี้เท่านั้น.

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 17 มี.ค. 12, 21:01


ในตำนานและความเชื่อ รวมถึงคำสอนของฝ่ายมหาญาณ 
ว่าด้วย"พระองคุลีมาล"
คือ
"วางดาบแล้ว สำเร็จอรหันต์"

ประมาณว่า
แม้นว่าจะประหารคนมามากมาย ขนาด ๙๙๙ คนแล้ว
แต่เมื่อบรรลุอรหันต์แล้ว กรรมทั้งปวงคือจบสิ้นกัน ฯลฯ



ผมจินตนาการว่า
พระองค์ท่าน คงได้รับรู้เรื่องราวฝ่ายมหาญาณมาบ้าง
จากที่ผ่านพระชนม์ชีพอย่างโชกโชน
ทรงสังหารชีวิตปัจจนึกมามากต่อมาก
จึงทรงมุ่งเน้นนิพพานแต่เพียงอย่างเดียว


เอ้อ.... ถ้ามองมุมนี้
จะถือว่า เครซี่???(Fou [french]) หรือไม่ครับ

มหายาน สะกดอย่างนี้ค่ะ ไม่ใช่มหาญาณ
ยังไม่ค่อยเข้าใจคำถามของคุณ Diwali เลยค่ะ  กรุณาขยายความหน่อยได้ไหมคะ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 09:42

               เพิ่งได้มีโอกาสคุยกับจิตแพทย์อย่างสั้นๆ ครับ

             ถ้าว่าตามเนิ้อผ้าประวัติศาสตร์ที่เขียนถึงเหตุการณ์ที่พระเจ้าตากคิดว่าพระองค์ท่านบรรลุ
เป็นโสดาบัน และได้กระทำการลงโทษพระสงฆ์หลายรูปที่ตอบคำถามเรื่องพระภิกษุไหว้ฆราวาส
โสดาบันไม่ถูกพระทัย(แต่ถูกตามหลักธรรม) นั้น

             พอจะประมาณได้ว่า เป็นอาการของโรค Delusional disorder

           แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นต้องเข้าใจในเงื่อนไขที่ว่า ข้อมูลเพียงเท่านี้ โดยไม่มีการซักประวัติและ
ประเมินสภาพจิตโดยตรงจากผู้มีอาการและคนรอบข้าง ย่อมไม่เพียงพอต่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องแน่นอน
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 09:46

           โรคหลงผิดนี้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ โรคจิตเภท Scizophrenia ซึ่งเป็นกลุ่ม
ของโรคทางจิตเนื่องจากมี distortions of thinking and perception
           โดยที่ clear consciousness and intellectual capacity are usually maintained.
           ผู้ป่วยจึงยังคงปฏิบัติภารกิจได้(ดูเหมือน)ปกติ

             อีกโรคหนึ่งซึ่งอาจเข้าข่ายแต่ไม่น่าใช่คือ โรคจิตเวชในกลุ่มอารมณ์ผิดปรกติ
Mood(affective) disorder ที่ประกอบด้วยโรค เช่น  Bipolar affective disorder, Depressive Episode
และในกรณีนี้คือ  Manic episode ชนิด Hypomania ซึ่งมีลักษณะอาการ
 
             mild elevation of mood, increased energy and activity, and marked feelings
of well-being and both physical and mental efficiency. ครับ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 10:02

อ้างถึง
ผมจินตนาการว่า
พระองค์ท่าน คงได้รับรู้เรื่องราวฝ่ายมหาญาณมาบ้าง
จากที่ผ่านพระชนม์ชีพอย่างโชกโชน
ทรงสังหารชีวิตปัจจนึกมามากต่อมาก
จึงทรงมุ่งเน้นนิพพานแต่เพียงอย่างเดียว
        เข้าใจว่า คุณ Diwali หมายถึงว่า พระองค์ท่านทรงคิดว่าถ้าท่านบรรลุเป็น
พระอรหันต์ในชาตินี้ ก็จะจบสิ้นภพเท่านี้ ไม่มีภพหน้าให้ต้องรับวิบากกรรม
(แต่ช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตในภพนี้ก็ยังต้องรับผลกรรมจนกว่าจะละสังขาร)

           ถ้าหากพระองค์ทรงคิดเพียงเท่านี้ และปฏิบัติตามหลักธรรมเพื่อมุ่งนิพพาน
เช่น พระสงฆ์ และอุบาสก อุบาสิกา ผู้ปฏิบัติชอบก็ถือว่าถูกตรงตามหลักธรรม  

           แต่ถ้าหากคิดผิดเชื่อมั่นว่า พระองค์บรรลุ(ทั้งที่ไม่ได้บรรลุ) และ/หรือ มีความเชื่ออื่นๆ
ที่ผิดเพี้ยนไปหลุดโลก แล้วก็มีพฤติกรรมที่ผิดแปลก(เพราะความคิดนั้น) ก็เข้าข่ายเป็น
โรคหลงผิด ครับ
บันทึกการเข้า
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 10:15

ขอบคุณอาจารย์มากครับสำหรับคำตอบที่ให้มาครับ
มีคำถามอีกครับ คือว่าการสำเร็จโทษพระเจ้าตากนั้น สำเร็จโทษแบบไหนครับ คือผมอ่านเจอในหนังสือมีคำหนึ่งที่เจ้าพระยาจักรีดำรัสว่า  จึงมีรับส่งใหเอาตัวประหารชีวิตสำเร็จโทษเสีย จึงไม่รู้ว่าจะสำเร็จโทษแบบไหน
บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 10:31

อ้างถึง
ในตำนานและความเชื่อ รวมถึงคำสอนของฝ่ายมหาญาณ 
ว่าด้วย"พระองคุลีมาล"
คือ
"วางดาบแล้ว สำเร็จอรหันต์"

ประมาณว่า
แม้นว่าจะประหารคนมามากมาย ขนาด ๙๙๙ คนแล้ว
แต่เมื่อบรรลุอรหันต์แล้ว กรรมทั้งปวงคือจบสิ้นกัน ฯลฯ



ผมจินตนาการว่า
พระองค์ท่าน คงได้รับรู้เรื่องราวฝ่ายมหาญาณมาบ้าง

ความเข้าใจเกี่ยวกับ องคุลิมาล "วางดาบแล้วบรรลุอรหันต์" ไม่ได้จำกัดเฉพาะในมหายานนะคะ

เถรวาทก็เชื่อหลักการของการบรรลุอรหันต์ว่า
ดับเหตุที่จะไปเกิดใหม่จนสิ้น ภพหน้าไม่มี
จึงหนีวิบากกรรมได้เด็ดขาด เพราะไม่มีขันธ์ 5 มาเกิดอีกต่อไป 

แต่หากยังไม่ตาย(ขันธ์ 5 ยังอยู่)แม้บรรลุอรหันต์แล้ว(สอุปาทิเสสะนิพพาน)
ชาตินี้ จะต้องรับผลของกรรมที่ทำไว้ หนีไม่พ้นแน่นอน
ต่างกันแต่ว่า กรรมหนักเบาขนาดไหน อะไรให้ผลก่อน

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ พระพุทธเจ้านั่นเอง ต้องรับวิบากกรรมเก่าหนัก ๆ ที่ทำไว้กับบุพพการีในอดีตชาติของพระองค์ ในคราวใกล้ปรินิพพานก็ยังตามมาให้ผลได้
บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 10:47

อ้างถึง
พอจะประมาณได้ว่า เป็นอาการของโรค Delusional disorder

           แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นต้องเข้าใจในเงื่อนไขที่ว่า ข้อมูลเพียงเท่านี้ โดยไม่มีการซักประวัติและ
ประเมินสภาพจิตโดยตรงจากผู้มีอาการและคนรอบข้าง ย่อมไม่เพียงพอต่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องแน่นอน

ขอแสดงความนับถือคุณ SILA ตรงนี้ค่ะ

ชาวเรือนไทย สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างเสรี
แต่ไม่ควรสรุปเป็นเด็ดขาดลงไป เพราะไม่มีใครได้ซักประวัติผู้ป่วยทางจิตค่ะ

ดิฉันค่อนข้างเห็นด้วยกับคำว่า Depression หรือ ทรงประชวรด้วยโรคซึมเศร้า เพราะทรงตรากตรำกรำศึกค่ะ

หากเป็นSchizoprenia น่าจะคุมสติไม่ได้ และ วุ่นวายมาก พลุ้งพล่านมากกว่านี้
ที่ปรากฏคือ เมื่อถูกพระยาสรรค์จับตัวไว้ ก็ทรงยอมแพ้แต่โดยดี
ยอมบวช และห้ามปรามมิให้ใครต่อสู้เพื่อพระองค์เอง
แม้ในขณะที่จะประหาร ก็ยังทรงขอพบสมเด็จเจ้าพระยาฯ

Delusion จากการเข้าใจผิดว่าบรรลุอรหันต์นั้น เกิดได้กับทุกคนที่หลงผิดจากผลการปฏิบัติธรรมค่ะ
ปัจจุบันก็มีมากที่กล้าออกมาประกาศธรรมวิเศษของตน ไม่จำเป็นต้องป่วยเป็นโรคทางจิตใด ๆ ก็ได้

แต่อาการที่โกรธพระสงฆ์ที่ไม่ยอมไหว้ตน แล้วลงโทษอย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุ
นี่คืออาการโกรธแรง ๆ อันเป็นผลจากอาการซึมเศร้า เกิดอารมณ์รุนแรงชั่ววูปได้ง่าย ๆ

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 14:38

ขอบคุณคุณร่วมฤดี ครับ

ส่วนประเด็น
อ้างถึง
หากเป็นSchizoprenia น่าจะคุมสติไม่ได้ และ วุ่นวายมาก พลุ้งพล่านมากกว่านี้

        หากผู้ป่วยเป็นไม่มาก จะไม่ออกอาการชัดเจน ยังพูดคุยรู้เรื่อง ความคิดก็สมเหตุสมผล
(ยกเว้นในเรื่องที่หลงผิด) สามารถทำงานทำการได้เป็นปกติ

       และ วันนี้ได้ถามความเห็นจิตแพทย์อีกคนหนึ่งก็มีความเห็นว่าเป็น Delusion disorder
เช่นกัน โดยยึดตามข้อมูลส่วนที่ว่าด้วยเรื่องการบรรลุเป็นโสดาบันและการลงโทษพระสงฆ์
อย่างรุนแรง ครับ       
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 15:30

ไม่มีความรู้เรื่องจิตเภท  ต้องถอยไปนั่งฟังผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้เขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ



ขอบคุณอาจารย์มากครับสำหรับคำตอบที่ให้มาครับ
มีคำถามอีกครับ คือว่าการสำเร็จโทษพระเจ้าตากนั้น สำเร็จโทษแบบไหนครับ คือผมอ่านเจอในหนังสือมีคำหนึ่งที่เจ้าพระยาจักรีดำรัสว่า  จึงมีรับส่งให้เอาตัวประหารชีวิตสำเร็จโทษเสีย จึงไม่รู้ว่าจะสำเร็จโทษแบบไหน
สำเร็จโทษ คือการประหารชีวิต    ถ้าเป็นสามัญชนคือการตัดศีรษะ แต่ถ้าเป็นเจ้านายก็ทุบด้วยท่อนจันทน์
พยายามหารายละเอียดจากหนังสือหลายแห่งว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงถูกทุบด้วยท่อนจันทน์อย่างเจ้านายหรือไม่   แต่ไม่พบ   เคยอ่านพบว่าทรงถูกประหารอย่างนักโทษทั่วไปค่ะ 
ใน พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา  บันทึกว่า
"ผู้คุมและเพชฌฆาตก็หามออกไปนอกพระราชวัง   ถึงหน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ก็ประหารชีวิตตัดศีรษะถึงแก่พิราลัย"
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 17:21

พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรีฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) เล่าว่า

"ณ วันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 5 เพลาเช้า 2 โมง เสด็จพระราชดำเนินทัพมาจากเสียมราบ ประทับ ณ พลับพลาหน้าวัดโพธาราม ฝ่ายข้าทูลละอองฯ ผู้ใหญ่ผู้น้อยพร้อมกันไปเชิญเสด็จลงเรือพระที่นั่งกราบ ข้ามมาพระราชวังสถิต ณ ศาลาลูกขุน มีหมู่พฤฒามาตย์ราชกุลกวีมุขเฝ้าพร้อมกัน จึ่งมีพระราชบริหารดำรัสปรึกษาว่า เมื่อพระเจ้าแผ่นดินอาสัจละสุจริตธรรมเสีย ประพฤติการทุจริตฉะนี้ ก็เห็นว่าเป็นเสี้ยนหนามหลักตออันใหญ่อยู่ในแผ่นดิน จะละไว้มิได้ ขอให้ปริวัตรออกประหารเสีย   ฝ่ายทแกล้วทหารทั้งปวงมีใจเจ็บแค้นเป็นอันมาก ก็นำเอาพระเจ้าแผ่นดินและพวกโจทก์ทั้งปวงนั้นไปสำเร็จ ณ ป้อมท้ายเมืองในทันใดนั้น"
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 17:35

กลับมาที่สงครามเก้าทัพ อีกครั้งหนึ่ง

สมรภูมิที่ดุเดือดที่สุดของสงครามเก้าทัพอยู่ที่กาญจนบุรี    เมื่อทัพหน้าของกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาททรงมีชัย ตีทัพพม่าแตกได้สำเร็จ    พม่าแตกหนีไป ไทยไล่ตามไปจนถึงชายแดน   พระองค์เจ้าขุนเณรซึ่งชำนาญในการรบแบบกองโจร ก็ตามสกัดตีพม่าไปจนถึงท่าดินแดงและสามสบ   พระเจ้าอังวะเลิกทัพกลับไปเมาะตะมะ

ส่วนกรมพระราชวังหลังทรงยกทัพไปคุมเชิงพม่าอยู่ที่นครสวรรค์    ทัพพม่าเดินทัพผ่านเชียงใหม่ลงมาได้อย่างสะดวก เพราะเชียงใหม่ตอนนั้นเป็นเมืองร้างไม่มีคนรักษา  เจ้าเมืองพาชาวเมืองหนีภัยสงครามจากพม่ามาอยู่ที่สวรรคโลกตั้งแต่สมัยธนบุรี   ต่อมาถึงแก่อนิจกรรม   ชาวเมืองก็เลยอพยพไปอยู่ที่ลำปางแทน    
พม่ายกมาถึงลำปาง เข้าตีเมือง  แต่พระยากาวิละเจ้าเมืองลำปางมีฝีมือเข้มแข็ง รักษาเมืองเอาไว้ได้   พม่าก็เลยได้แต่ล้อมเมืองอยู่  จากนั้นก็ส่งทัพ ๕๐๐๐ คนยกมาทางสวรรคโลก   เจ้าเมืองสวรรคโลก สุโขทัยและพิษณุโลกมีกำลังคนน้อย เพราะยับเยินมาแต่ครั้งศึกอะแซหวุ่นกี้   ก็ต้องหนีเข้าป่ากันไป
พม่าก็ยกพลลงมาตั้งค่ายที่บ้านระแหง  แขวงเมืองตาก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 19 มี.ค. 12, 17:49

 ถึงตอนนี้มีเหตุการณ์จะว่าน่าขำก็น่าขำ น่าเศร้าก็น่าเศร้า แทรกเป็นเกร็ดอยู่ตอนหนึ่ง   คือกรมพระราชวังหลัง ทรงสั่งให้เจ้าพระยามหาเสนา(ปลี) ซึ่งตั้งค่ายอยู่ที่เมืองพิจิตร  ยกไปตีค่ายพม่าที่ปากแม่น้ำพิง
เจ้าพระยามหาเสนา จัดให้พระยาสระบุรีเป็นทัพหน้าล่วงหน้าไปก่อน    ตัวท่านเองเป็นทัพใหญ่ยกตามไปสมทบ   ส่วนทัพกรมพระราชวังหลังและพระโอรสที่อยู่สวรรคโลก  ก็ยกไล่หลังไปเป็นอันดับสุดท้าย

ทัพพระยาสระบุรี ยกพลเคลื่อนขบวนทัพไปตามริมแม่น้ำตั้งแต่เช้ามืด    พอเห็นรำไรไม่ค่อยจะชัดเจน   ตรงนั้นเผอิญมีนกกระทุงออกมาหากินแต่เช้าตรู่   ทัพไทยทางนี้เห็นฝูงนกกระทุงมากมายเคลื่อนมาตะคุ่มๆ   ไม่ดูตาม้าตาเรือ เข้าใจว่าทัพพม่ายกพลแห่กันข้ามน้ำมา    คิดว่าในสมัย ๒๐๐ กว่าปีโน้นเมื่อป่ายังอยู่ติดกับเมือง  ฝูงสัตว์ป่าคงมากมายเหลือคณานับ  แค่ฝูงนกกระทุงก็ไม่รู้ว่ากี่หมื่นตัวแล้ว   พระยาสระบุรีก็ตกใจ รีบทำสัญญาณให้ทัพไทยล่าถอยจากฝั่งน้ำ

เมื่อความทราบถึงกรมพระราชวังหลังที่ยกทัพตามมา    ว่าพระยาสระบุรีตื่นตกใจหนีนกกระทุง    ถึงแม้ว่ายังไม่ก่อความเสียหายให้ทหารไทยต้องตายแม้แต่รายเดียว แต่แม่ทัพตาขาวอย่างนี้เอาไว้ไม่ได้   ท่านก็ตัดสินโทษประหารตัดหัวเสียเลย   แล้วเสียบหัวประจานไว้บนหาดทรายริมแม่น้ำ มิให้ใครเอาเยี่ยงอย่าง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.072 วินาที กับ 20 คำสั่ง