เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 19
  พิมพ์  
อ่าน: 148948 เมนูอาหารป่า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 05 มี.ค. 12, 21:31

เขียนไปเขียนมาเลยเอาเรื่องที่จะเขียนในกระทู้สัมผัสป่าในอดีตมาบรรยาย
ขออนุญาตเอามารวมๆกันอยู่ในกระทู้นี้นะครับ ก็เรื่องมันพัวพันกันอยู่นี่ครับ เนาะ

ค่างนั้นยิงได้ง่ายมาก มีข้อสังเกตได้อย่างน้อยก็ 2 อย่างว่าที่ใดมีค่างบ้าง คือ กลิ่นขี้ค่างซึ่งหอมหวนมาก และเสียงร้องของชะนีซึ่งมีลักษณะผิดไจากเสียงโหยหวนตามปกติ ลักษณะอย่างนึง คือเสียงต่างๆจะสั้นลง และร้องบอกกันเป็นขรม แล้วค่อยเล่าขยายให้ฟัง

ลิงในป่าที่ผมทำงานดูจะมีสองพวก คือ พวกหางสั้น ผมเรียกกันว่าไอ้กังหางสั้น กับลิงหางยาว เลือดลิงนั้นก็กินได้เหมือนกับเลือดค่าง วิธีทำก็เหมือนกับค่าง คือ พอยิงได้ก็รีบตัดปลายหาง เอาหางจุ่มลงในขวดเหล้าขาว หรือหากยังไม่มีเหล้าในตอนนั้น เมื่อกลับถึงที่พักก็ผ่าท้องเอาเลือดที่คั่งอยู่ในช่องท้องเมื่อถูกลูกปืนหรือเมื่อตอนแล่เนื้อ นำออกมาผสมเหล้า แม้ว่าเลือดมักจะเป็นลิ่มแล้ว แต่ก็ยังพอคนให้ละลายได้ในแก้วเหล้า ส่วนดีลิงนั้น หากจะกินสดก็ทำให้แตกในแก้วเหล้า แต่หากจะเก็บไว้วันหลังก็เอาไปแขวนตากลม อย่าตากแดดเพราะจะแตก (ระเบิด) อดกิน
ได้ผลทางแก้เมื่อแก้ขบใหม ผมว่าเห็นผลนะ แต่ก็คงจะผนวกไปด้วยความเชื่อและจริตของใจว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ

ขอพักไว่ต่อในวันพรุ่งนี้นะครับ ฟังผมเล่าตอนนี้ กลัวจะนำไปคิด เดี๋ยวจะนอนไม่หลับ
เอ! ผมยังค้างไม่ตอบเรื่องอะไรบ้างครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 05 มี.ค. 12, 21:41

แกงจืดเหี้ยกับแกงจืดตะกวดค่ะ    ไม่ต้องมีภาพประกอบนะคะ (ข้อนี้ฝากบอกคุณเพ็ญชมพู)
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 06 มี.ค. 12, 21:55

เรื่องของแกงจืดเหี้ยกับตะกวดนี้ เกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระ

เอาเรื่องเหี้ยก่อน
วันหนึ่งในห้วยขาแข้งแถวบ้านไก่เกียง ผมได้ให้คนงานประจำคณะของผมซึ่งคนหนึ่งเป็นกะเหรี่ยง บ้านอยู่แถวแม่สะเรียง ซึ่งเป็นคนงานที่ติดสอยห้อยตามไปทำงานในป่ามาระยะหนึ่ง จัดการต่อแพไม้ไผ่ 15 ลำ จำนวน 3 แพ ลักษณะของแพนี้คือ 10 ลำผูกเป็นแผง (บากและร้อยไม้ที่ส่วนหัวแพ) ใช้เถาวัลย์และตอกผูก ก็ได้กว้างประมาณ 1 เมตร ตัดไม้ไผ่ทั้งต้นวางขวางท่อนนึงห่างจากหัวแพประมาณ 1 เมตร อีกท่อนนึงวางห่างออกมาประมาณ 3 เมตร อีท่อนวางไว้ตรงกลาง จากนั้นก็เอาไม้ไผ่อีก 5 ท่อนวางพาดข้างบน ตัดให้ความยาวพอดีกับท่อนขวาง แพนี้จะบรรทุกได้ประมาณ 4 คน แต่ผมบรรทุก 3 คนพร้อมสัมภาระติดตัว อีก 2 แพ บรรทุกแพละ 2 คนพร้อมสัมภาระ คือต้องมีคนอยู่ด้านหัวใช้ไม้ไผ่คอยยันหันหัวแพไม่ให้ชนกับโขดหิน ส่วนคนท้ายต้องยืนอยู่บนหางของไม้ไผ่ 10 ลำที่รวบเอาไว้ ผมทำงานนะครับ ไม่ใช่ใช้ล่องแก่งเพื่อสนุก คือต้องการสำรวจดูหินชนิดต่างๆที่โผล่อยู่ในลำห้วย เดินไม่ไหว น้ำลึกมากในบางช่วงบางตอน ปกติก็ประมาณเอว เดินลุยก็แย่แล้ว บางช่วงขนาดท่วมหัว ล่องลงมาตามน้ำจากบ้านเกริงไกร พอประมาณบ่ายสามโมงเย็น ก็เป็นเวลาที่จะต้องให้ความสนใจกับการเก็บหาอาหารมื้อเย็น
เจ้ากะเหรี่ยงลูกน้องคนโปรดก็เริ่มให้ความสนใจในทุกสิ่งที่จะเก็บกินได้ พลันก็เห็นตัวอะไรก็ไม่รู้วิ่งเลาะโคนวัชพืชที่ขึ้นอยู่ตามชายน้ำ พอเห็นตัวก็ไม่แน่ใจเพราะแสงสว่างในหุบเขาเริ่มไม่สว่างพอ ผิวหนังก็ดูเข้มไม่ค่อนจะออกเหลือง คิดว่าเป็นตะกวด กำลังพิจารณาอยู่ เจ้ากะเหรี่ยงอดไม่ได้ ยิงเลยครับ ห้ามก็ไม่ืัทันแล้ว จอดแพลงไปเก็บ อ้าวเป็นเจ้าตัวเหี้ยนี่นา
ด้วยสัจจะบางประการของผม คือ เมื่อยิงอะไรได้ก็ต้องกิน ไม่ไปเสาะแสวงหาให้เป็นเรื่องของการไปล่าไปเบียดเบียน เจ้าที่เจ้าทางเขาให้เรามาเองเมื่อถึงเวลา เชื่อใหมครับ ไม่เคยอดไม่เคยขาด อยากจะกินอะไรขอก็ได้เสมอ ขอหนึ่งได้หนึ่ง ขอสองได้สองเสมอ
พอพบหาดทรายเหมาะๆก็จอดแพ ตั้งแค้มป์พักแรม ทุกคนมีหน้าที่ช่วยกันคนละไม้ละมือ กางผ้าใบ หาฟืน เอาสัมภาระลง เอาเครื่องครัวออก เตรียมตะเกียงเจ้าพายุ ฯลฯ
สำหรับเหี้ยนั้น เริ่มต้นที่ต้องเอาไปเผาไฟให้หนังใหม้เกรียม ผิวแตกเป็นเหมือนเม็ดมะขามคั่วเสียก่อน จากนั้นก็ผ่าท้องเอาตับไตใส้พุงทิ้งให้หมด อย่าใ้ห้ใส้แตกเป็นอันขาด จะเหม็นจนกินไม่ได้เลยทีเดียว สัตว์พวกนี้เป็นสัตว์กินเนื้อมีแต่ของเน่าอยู่ในกะเพาะและลำใส้ จากนั้นก็นำมาหั่นเป็นชิ้นๆดูว่าจะทำอะไรดี เหลือเครื่องแกงสำเร็จรูปติดอยู่นิดเดียว ก็คงผัดได้ส่วนหนึ่ง ใส่พริกแห้งโขลกผสมลงไปให้เผ็ดๆเข้าไว้ ส่วนที่เหลือก็เลยลอง เลือกเอาเฉพาะส่วนหางมาต้มเป็นแกงจืด ใสหัวหอมแดงที่มี ใส่เกลือให้ออกรสเริ่มเค็ม ใส่น้ำปลาให้มีรสหอม ต้มน้ำให้เดือดพล่าน ค่อยๆหย่อนลงไปทีละชิ้น โดยยังรักษาให้น้ำเดือดปุดๆอยู่ ก็กินได้นะครับ ไม่เกลี้ยงหม้อ แม้จะกินกันแต่ก็ดูจะขยาดๆกันหน่อยด้วยชื่อของมัน มีกลิ่นคาวอยู่บ้าง

เรื่องของตะกวด เอาไว้พรุ่งนี้นะครับ

     
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 06 มี.ค. 12, 22:18

เคยอ่านพบว่าเนื้อตัวเงินตัวทองมันเหมือนเนื้อไก่    ต้มแบบนี้ก็คล้ายๆต้มซุปไก่ใสๆ   รสชาติคล้ายเนื้อไก่ไหมคะ
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 07 มี.ค. 12, 18:27

เคยอ่านพบว่าเนื้อตัวเงินตัวทองมันเหมือนเนื้อไก่    ต้มแบบนี้ก็คล้ายๆต้มซุปไก่ใสๆ   รสชาติคล้ายเนื้อไก่ไหมคะ

วันนี้วันพระใหญ่ ขออนุญาตยังไม่ตอบหนึ่งวันนะครับ
แต่จะขอเลี้ยวผิดซอยไปในเรื่องรัตนชาติที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับสัตว์ และก็จะยังไม่เล่าเรื่องเกี่ยวกับรัตนชาตินี้ ผมคิดว่าท่านทั้งหลายคงพอจะเดาออกแล้ว
มีอยู่ 3 ชื่อครับ อะไรบ้างเอ่ย ฮืม 

 


 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 07 มี.ค. 12, 19:58

คุณตั้งเล่นเกมทศกัณฐ์แล้วไหมล่ะ
นึกออกแต่ cat's eye หรือไพฑูรย์ ค่ะ


บันทึกการเข้า
benjawan
อสุรผัด
*
ตอบ: 5


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 07 มี.ค. 12, 20:03

ขอตอบว่า แก้วตาเสือ ( tiger's eye ) เพชรตาแมว ( chrysoberyl ) และไข่มุกค่ะ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 07 มี.ค. 12, 20:11

ไข่นกการเวก   ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 07 มี.ค. 12, 20:43

พลอย turquoise  เขาเรียกว่าพลอยสีขี้นกการเวก หรือ ไข่นกการเวกกันแน่คะ   
ตอนเด็กๆได้ยินเขาเรียก สีขี้นกการะเวก   ปัจจุบันกลายเป็นไข่นกการเวก
ตกลงว่านกการเวก ไข่มันสีนี้หรือ?


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 07 มี.ค. 12, 21:58

ไข่นกการเวกนี้ เรียกกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕

เมื่อทรงส่งตุ้มหูไข่นกการเวกพระราชทานเจ้าจอม ม.ร.ว.สดับ  ก็พระราชทานแก่เจ้าจอมเอิบด้วย ๑ คู่
“ตุ้มหูคู่หนึ่งเปนไข่นกการเวกเหมือนกัน ฉันได้ซื้อที่เมืองนีศส่งทางไปรสนีย์ให้สดับ.. ...ฉันได้ส่งไปอีกคู่ ๑ สำหรับให้เอิบจากปารีสรวมเป็นสองคู่ด้วยกัน”


ฝรั่งว่า turquoise ที่ดีต้องเป็น สีไข่นกโรบิน

ไข่นกออกฟ้าอมเขียวมีแน่ ๆ

แต่ขี้นกสีนี้ยังไม่เคยเห็น

 ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 08 มี.ค. 12, 10:30

“เขี้ยวหนุมาน”  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 08 มี.ค. 12, 10:49

พลอยตาเสือ-red tiger's eye  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 08 มี.ค. 12, 10:51

พลอยตาเหยี่ยว-Hawk's Eye-Falcon's Eye  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 08 มี.ค. 12, 10:57

หินเสือดาว-Leopard Skin Jasper  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 08 มี.ค. 12, 11:00

หินไข่นกกระทา-Dalmatian Jasper  ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 19
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.047 วินาที กับ 20 คำสั่ง