๑. อ.NAVARAT.C กล้านั่งภายใต้ฉัตรขาวไหม ?
แค่คิด ก็มิบังอาจแล้วครับ
ผมเข้าใจดีอยู่แล้วครับ ผู้ที่นั่งภายใต้เศวตฉัตรก็คือพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น
ตรงนี้เข้าใจว่าเมื่อช้างออกศึกอาจจะงอคันฉัตรลงไป หรือถอดพักไว้ ส่วนองค์กษัตริย์เลื่อนมาคอช้าง ต่อเมื่อเสร็จศึกแล้วจึงเปลี่ยนที่นั่งระหว่างกัน ครั้นแล้วจึงอัญเชิญเศวตรฉัตรกางกั้นเหนือพระเศียรต่อไป
ผมก็ไม่ทราบว่าท่านจะทำกันดังที่คุณหนุ่มสยามว่าหรือเปล่า เหมือนที่สมเด็จฯทั้งสององค์ท่านก็มิทรงทราบนอกจากสันนิฐาน อย่าลืมว่ายุทธหัตถีครั้งสุดท้ายก็คือสมัยพระนเรศวรมหาราช คนสมัยปลายอยุธยาอาจจะได้เห็นกษัตริย์ทรงช้างพระที่นั่งบนพระราชอาสน์สัปคับที่มีเศวตฉัตร แต่มิใช่ในโอกาสที่เสด็จออกศึกสงคราม สมัยรัตนโกสินทร์ การเสด็จโดยช้างพระที่นั่งคงไม่มีแล้ว คนรุ่นหลังก็ใช้การสันนิฐานเอาทั้งนั้น
ในการรบบนหลังช้างนั้น จะงอฉัตรหรือถอดพักไว้(บนหลังช้าง?) น่าจะเกะกะเป็นอย่างยิ่ง ถ้าจะเสด็จพร้อมเศวตฉัตร ผมยังคิดว่า สันนิฐานของสมเด็จกรมพระยานริศฯที่ทรงว่า คนข้างล่างเป็นผู้อัญเชิญ จะน่าเชื่อกว่า
ฉัตรก็คือร่ม เจ้าร่มขาวหลวงพระบาง ร่มเป็นเครื่องประจำยศ พร้อมด้วยบังสูรย์พัดโบก ยศน้อยลงก็ลดลงเป็นชั้นๆ ฉัตรหลังพระคชาธาร แม้ถูกชนปังเดียวก็จะต้องหักสะบั้นลงมาเป็นแน่ เศวตฉัตรจะเป็นร่มขาว ซึ่งพนักงานเดินดินจะเชิญเอางานถวายพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งประทับอยู่เหนือคอช้างจะได้หรือไม่ เห็นจะไม่สูงกว่าประทับพระที่นั่งพุดตานในการแห่พยุหยาตราไปมากนัก๒. หากไม่มีหนังสืองานศพ
งานศพไหนครับ?
ก็ลองคิดดูว่า กูบช้างมีเครื่องปักคันฉัตรหรือไม่ ดังภาพประกอบเป็นโครงเหล็กไว้รองรับศาสตราวุธ และหากปักคันฉัตรแล้วต้องโยงลวดตรึงทั้งสี่มุมอีกด้วย เพื่อไม่ให้ฉัตรเกิดอาการแกว่ง ซึ่งอาจจะทำให้หักได้ ในส่วนตัวผมคิดว่าการรบหลังช้างมิควรนำฉัตรออกไปด้วย หากแต่เมื่อเสร็จศึกเปลี่ยนที่นั่งระหว่างกันแล้วจึงปักฉัตร
กรุณาย้อนอ่านข้างต้นครับ