ยังไม่มีใครมาตอบ ผมขอข้ามไปคำถามอื่น
รัชกาลที่ ๖ เคยทรงพระราชนิพนธ์ล้อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพและนายกุหลาบลงในดุสิตสมิต
ถามว่า พระราชนิพนธ์ที่ว่านั้น คือ เรื่องอะไร และมีเนื้อหาอย่างไร

ตำนาน ........ ไทย
เพื่อความกระจ่าง ขออาราธนา คุณ Vee_Mee ดีกว่าครับ รับรองได้รายละเอียดครบถ้วน
รอท่าน Vee_Mee อาจจะนานหน่อย....หนูดีดี วัยรุ่นใจร้อนค่ะ

ขออนุญาตคัดลอก ที่ท่าน Vee_Mee เคยเขียนไว้ใน เรือนไทยเรานี่แหละ มาให้อ่านกันค่ะ
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3361.0;wap2ตำนานบุหรี่ไทย
พิมพ์แจกในงานศพ
หลวงจำนงนิตยภัต (อึ๊ อุคคานนท์) ฯ
------------------
คำนำ
ท่านตุ่ย ภรรยาหลวงจำนงนิตยภัต มาแจ้งความต่อกรรมการห่อพระตำหรับสำหรับพระบุรีว่า พร้อมใจกับรองอำมาตย์ตรี (อึ๊ม อุคคานนท์) ผู้บุตร จะทำการศพสนองคุณหลวงจำนงนิตยภัต (อึ๊ด อุคคานนท์) ผู้สามี และบิดา มีความศรัทธาจะรับพิมพ์หนังสือในหอพระตำหรับเป็นของแจกสักเรื่องหนึ่ง ขอให้กรรมการเลือกเรื่องหนังสือให้ อยากจะให้เป็นหนังสือซึ่งเนื่องด้วยเรื่องบุหรี่ เพราะหลวงจำนงนิตยภัตเป็นผู้ชอบสูบบุหรี่อย่างชำนิชำนาญจนมีชื่อเสียงในทางนั้น ข้าพเจ้าเห็นชอบอนุโมทนาด้วยได้คุ้นเคยชอบพอมากับหลวงจำนงนิตยภัตตั้งแต่ข้าพเจ้ามีอายุได้ครึ่งเดือน ได้ทราบเรื่องประวัติของคุณหลวงจำนงนิตยภัตอยู่แก่ใจ มีเรื่องราวดังจะกล่าวต่อไปนี้พอเป็นสังเขป
หลวงจำนงนิตยภัต นามเดิมอึ๊ด นามสกุลอุคคานนท์ เกิดเมื่อปีจอ พ.ศ. ๒๓๘๑ ตระกูลคนดง บิดาชื่อนายโอ๊ย มารดาชื่อก๊าว บ้านเดิมอยู่ที่ในดงพญาไฟ เมื่ออายุได้ ๘ ปีได้ไปเรียนหนังสืออยู่ในสำนักพระอาจารย์อินวัดคอกหมู ตำบลสูงนอน และอายุ ๑๔ ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ในสำนักพระครูประทีปแก้วเตร็จฟ้า (โคม) วัดลิงกัด และได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ในสำนักนั้นจนอายุครบอุปสมบทก็ได้อุปสมบท พระครูประทีปแก้วเตร็จฟ้าเป็นอุปัชฌาย์ พระสมุห์เปิ่นเป็นกรรมวาจาจารย์ พระใบฎีกาเซี้ยวเป็นอนุสาวนาจารย์ ครั้นมื่ออุปสมบทอยู่ได้ ๒๐ พรรษาแล้ว จึงลาสิกขาบท แล้วเข้ามาฝากตัวอยู่กับข้าพเจ้าที่บ้าน ข้าพเจ้าได้ใช้กวาดชลาบ้านอยู่ประมาณ ๖ เดือน แล้วจึงได้จัดการให้เข้ารับราชการในกรมปาฐะกะถาธิการ เมื่อครั้งข้าพเจ้ายังเป็นอธิบดีกรมนั้นอยู่ เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่ต้องให้เงินเดือนเลี้ยงอีกต่อไป ครั้นรับราชการอยู่ได้ ๑๐ ปี นายอึ๊ดได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นขุนจำนงนิตยภัต และต่อมาเมื่อข้าพเจ้าได้รับตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดทุย ขุนจำนงนิตยภัตก็ได้ย้ายตามข้าพเจ้าไปรับราชการในกระทรวงนั้น ในตำแหน่งเสมียนกวาดห้องเสนาบดี ได้ทำราชการในตำแหน่งนั้น ๕ ปี แล้วได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนขึ้นเป็นหลวงในนามเดิม และคงรับราชการในตำแหน่งนั้นต่อมาจนอายุครบ ๖๓ ปี มีความชราทุพพลภาพ จึงออกจากราชการรับพระราชทานเบี้ยบำนาญสืบมาจนถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๕๘ อายุได้ ๗๗ ปี
ตลอดเวลาที่รับราชการอยู่กับข้าพเจ้า หลวงจำนงนิตยภัต ได้แสดงตนปรากฏว่า เป็นผู้มีความสามารถในทางสูบบุหรี่หาตัวจับได้ยาก แต่ใช่แต่จะได้สามารถในทางนี้ ต่อเมื่อเข้ามารับราชการอยู่กับข้าพเจ้าแล้วเท่านั้นก็หามิได้ ข้าพเจ้าได้เคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่เล่ากันมาว่า หลวงจำนงนิตยภัตเป็นผู้ที่ชอบสูบบุหรี่มากมาตั้งแต่ยังหนุ่ม จนได้มีชื่อเสียงเรียกกันมาแต่เมื่อยังอุปสมบทอยู่นั้นว่า คุณอึ๊ดปล่องไฟ การที่สูบบุหรี่จนมีชื่อเสียงเช่นนี้ที่จริงไม่ใช่ของใหม่ เพราะได้ปรากฏมาแล้วแต่โบราณว่า นายโข่ง มหาดเล็กในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ เป็นผู้ที่สูบบุหรี่เก่ง ได้เคยสูบประชันกับทหารฝรั่งเศสในสมัยนั้น พวกทหารฝรั่งเศสนอนกลิ้งกันเป็นแถวไปจึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นออกขุนกำแหงบุหรี่ และราชทินนามนี้เองภายหลังเลื่อนเป็นพระกำแพงบุรี ต่อลงมาในแผ่นดินสมเด็จพระเพ็ทราชาออกขุนกำแหงบุหรี่หรือกำแพงบุรี จึงติดอยู่ในกรมช้างต้นสืบมา
(เรื่องออกพระกำแพงบุหรี่นี้เก็บมาแสดง เพื่อให้ท่านทั้งหลายเห็นว่า ข้าพเจ้าเชี่ยวชาญปานใดในทางพงศาวดาร)
ส่วนบุหรี่จะได้เกิดมีขึ้นในกรุงสยามเมื่อใดนั้น ไม่ปรากฏชัด ในหอพระตำหรับก็มีหนังสือเรื่องนี้อยู่ฉบับเดียว แต่ที่พิมพ์คราวนี้เท่านั้น และไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้แต่ง แต่เทียบดูสำนวนโวหารกับหนังสืออื่นๆ ข้าพเจ้าสันนิษฐานว่า พระเจ้าเหา หรือบางทีจะก่อนนั้นหรือภายหลังนั้นก็ได้ แต่ข้อนี้ข้าพเจ้าไม่ได้มีโอกาสปฤกษากับนาย ม.ส.ว. ยี่สุ่น จึงกล่าวแน่นอนไม่ได้
อนึ่ง ข้าพเจ้าได้คิดไว้ว่าจะแต่งคำนำนี้ให้ยืดยาวกว่านี้อีก แต่เสียใจที่ได้ทราบข่าวากโรงพิมพ์ว่า กระดาษของเราเหลือน้อยเกรงจะพิมพ์ไม่พอ จึงจำต้องระงับไว้ที ๑ แต่คงจะหาโอกาสแต่งคำนำให้ยาวยิ่งกว่านี้จงได้ในหนังสือคาวหน้าที่จะมีใครมาขอพิมพ์ เพราะฉะนั้นท่านผู้อ่านอย่าเสียใจเลย
ข้าพเจ้าขออนุโมทนากุศลบุญราศี ซึ่งท่านตุ่ย และรงอำมาตย์ตรีอึ๊ม อุคคานนท์ ทำการปลงศพสนองคุณหลวงจำนงนิตยภัต ผู้สามีและบิดา และให้โอกาสแก่ข้าพเจ้าแต่งคำนำนี้ และเชื่อว่าท่านทั้งหลายที่รับหนังสือนี้ไปอ่าน ก็คงจะอนุโมทนาอย่างเดียวกัน
(ลายเซ็นแกะไม่ทัน)
สภานายก
หอพระตำหรับสำหรับบุรี
วันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๑
ตำนานบุหรี่ไทย
๏ บุหรี่ไทยท่านใช้สำหรับสูบ สูดควันเข้าอมไว้ในปากแล้วพ่นออกมา ช้าบ้างเร็วบ้างตามวิสัยและอัธยาศัยของบุคคลผู้สูบ ส่วนยาที่ใช้นั้นคือยาเกาะกร่าง หรือยาเพชรบูรณ์ มวนด้วยใบจากบ้าง, ใบตองอ่อนบ้าง, ใบตองแก่บ้าง, กลีบบัวแดงบ้าง, กลีบบัวขาวบ้าง.
๏ เมื่อจะสูบใช้จุดด้วยดุ้นแสมจากครัวไฟบ้าง ชุดบ้าง เหล็กไฟบ้าง ไม้ขีดไฟบ้าง เมื่อจุดล้วจึ่งดูดสูดควันเข้าไปในปาก สตรีสูบบ้างก็มี แต่ทารกสูบมักวิงเวียนอาเจียนแม่นแล.
๏ จบตำนานบุหรี่ไทยตามฉบับเดิมเพียงเท่านี้.
---------------------------------------------------------------
ตอนท้ายท่าน Vee_Mee ถามว่า สภานายกหอพระตำหรับสำหรับบุรี และ นาย ม.ส.ว.ยี่สุ่น นั้นหมายถึงใคร
และ
อาจารย์เทาชมพูได้ตอบว่า
สภานายกฯ เคยเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดทุยมาก่อน เดาว่าหมายถึงสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ
นายม.ส.ว. ยี่สุ่น เดาว่าเป็นนายกุหลาบ ดอกยี่สุ่นคือกุหลาบชนิดเล็ก
และท่าน Vee_Mee ได้เฉลยไว้ว่า...
วัดลิงกัด คือ วัดลิงชบ ปัจจุบันคือ วัดบวรมงคล
กระทรวงมหาดทุย คือ กระทรวงมหาดไทย
สภานายกหอพระตำหรับสำหรับบุรี คือ สภานายกหอพระสมดสำหรับพระนคร คือ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
นาย ม.ส.ว.ยี่สุ่น คือ นาย ก.ศ.ร.กุหลาย