เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
อ่าน: 26713 Rose and Love
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 00:39





แล้ว Carnation ดอกนี้ก็คงจะมากับคำตัดพ้อ...
ผมนอกเรื่องอีกแล้ว!!..

แค่อยากบอกว่าชอบวิธีเล่นกับดอกไม้ของหนังน่ะคราบบบ
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 10:35

           There is a rose in Spanish Harlem

           ชอบเวอร์ชั่นเสียงร้องของท่านเซอร์คลิฟฟ์ ริชาร์ด ครับ

       

          There is a rose in Spanish Harlem
A red rose up in Spanish Harlem
It is a special one, it's never seen the sun
It only comes out when the moon is on the run
And all the stars are gleaming
It's growing in the street right up through the concrete
But soft and sweet and dreamin'

          There is a rose in Spanish Harlem
A red rose up in Spanish Harlem
With eyes as black as coal that look down in my soul
And starts a fire there and then I lose control
I have to beg your pardon
I'm going to pick that rose and watch her as she grows in my garden
I'm going to pick that rose and watch her as she grows in my garden
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 17:20

           ท่วงทำนองคึกคักแต่เนื้อร้องแสนเศร้า เรื่องราวของความรักต่างเชื้อชาติ ต่างแดน
ในยุคสมัยนั้นที่เมื่อจากกันไกลไปแล้วคือไปลับ ไม่ได้กลับมาพบกันอีกชั่วชีวิต

                 Rose, Rose, I Love You (1951)

จากทำนองเพลงจีน เหมเกว่ เหมเกว่ หว่อ อ้าย หนี่ (1940) บันทึกเสียงร้องโดย Frankie Laine

         

มีเวอร์ชั่นเสียงร้องโดย Petula Clark ซึ่งมีเนื้อต่างกันแต่ออกมาในปีเดียวกัน ครับ

                  May Kway (Rose,Rose, I Love You)

         
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 19:41

กำลังนึกถึงแม่ดอกกุหลาบมลายู ที่ชื่อ Rose  ในเพลง Rose, Rose I Love You   แต่ไม่ทัน คุณ SILA ปาดไปก่อน

เพลงนี้เกิดมาห้าสิบหกสิบปีแล้ว  เมื่อโลกยังมีพรมแดน   เจ้าหนุ่มอเมริกันมาทำงานหรือเป็นกลาสีก็ไม่ทราบ เพราะพูดถึงเรือที่จะพาเดินทางกลับประเทศตะวันออก   ฝ่ายสาวน่าจะอยู่ในมาเลย์เซีย   เพราะหนุ่มอำลาสาวที่เขาเรียกว่า Flower of Malaya
ในคำลาบอกชัดเจนว่า  East is East and West is West, our worlds are far apart.
มาถึงยุคสื่อสารไร้พรมแดน  แค่เปิด skype ก็เห็นหน้ากันแล้ว    ไม่ต้องอำลา

ในเมื่อนำเพลงนี้มาลงไม่ทัน  ขอแก้ตัวด้วย  Ramblin' Rose  จากเสียงกำมะหยี่เนื้อหนาของแนท คิง โคล 

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 19:58

กุหลาบเมืองลาว



เพลง กุหลาบปากซัน ประพันธ์เนื้อร้องทำนองโดย จำปา ลัดตะนะสะหวัน ใช้ชื่อผู้แต่งว่า สุลิวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ เมื่ออายุได้ ๒๔ ปีขับร้องครั้งแรกโดยสันติ พิมสุวัน คลิปนี้ขับร้องโดย บัวเงิน ซาพูวง

ເພງກຸຫຼາບປາກຊັນ ປະພັນເນື້ອຮ້ອງທຳນອງໂດຍ ສຸລິວັດ ຫຼື ຈຳປາ ລັດຕະນະສະຫວັນ ຮ້ອງເທື່ອທຳອິດໂດຍ ສັນຕິ ພິມສຸວັນ ເພງນີ້ຮ້ອງໂດຍ ບົວເງິນ ຊາພູວົງ

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 20:03

กุหลาบเมืองเหนือ



เพลง"กุหลาบเวียงพิงค์"นี้ เป็นเพลงที่คุณวงจันทร์ ไพโรจน์ เป็นผู้ขับร้องและประพันธ์เพลงด้วยตัวเอง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ระหว่างเดินทางไปแสดงทางภาคเหนือ...

คุณวงจันทร์ ไพโรจน์ ได้เคยเล่าถึงที่มาเพลงกุหลาบเวียงพิงค์ ไว้ดังนี้

ในปี ๒๕๐๐ มีโอกาสติดตามวงดนตรีแม่ดมที่อยู่แถวเฉลิมบุรีไปเดินสายเหนือ โดยมีบังเละ และสุรพล สมบัติเจริญไปด้วย รถไฟวิ่งผ่านสถานีต่าง ๆ จนมาถึงลำปางเมื่อแฟนเพลงรู้ว่าวงจันทร์ ไพโรจน์มา ก็นำดอกกุหลาบมอญสีออกชมพูอ่อนมามอบให้มากมายผ่านหน้าต่างรถไฟ ระหว่าง ที่กำลังชื่นชมความงามของดอกกุหลาบอยู่ สายตาของเธอ ก็ไปเห็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลงข่าวสาวเหนือฆ่าตัวตายเพราะความรัก

เธอรู้สึกเศร้า ก็เลยแต่งออกมาเป็นกลอน ๓ ห้อง เพราะเคยเห็นว่าเพลง "ดูดวงเดือน " ก็มีแค่ ๓ ท่อนเช่นกัน หกเดือนผ่านไป บริษัทกมลสุโกศล ได้ขอซื้อเพลงกุหลาบเวียงพิงค์ นี้ ให้เธออัดแผ่น แต่ก่อนที่จะร้องลงแผ่นเสียง คนควบคุมเสียงบ่นว่าเนื้อเพลงสั้นไป

เมื่อเธอรู้สึกเกรงใจนักดนตรี ก็เลยอ้อนพี่ ๆ น้อง ๆ นักร้องนักดนตรีมาช่วยแต่งห้องสุดท้าย " หมู่เฮาชาวเหนือ!! " ครูสำเนียง ม่วงทอง ขึ้นเนื้อท่อนแรกก่อนสั้นๆเธอก็เลยต่อ " อย่าไปเชื่อเชียวหนอคำชาย"

จากนั้นมนัส ปิติสานต์ มาช่วยเสริมอีกแรง "เดี๋ยวจะต้องเจ็บช้ำใจตาย " ก่อนที่จะรีบไปเตรียมตัวสีไวโอลิน จังหวะนั้น สุรพล สมบัติเจริญ ได้มาเชื่อมต่อ "เปิ้นเมืองใต้พูดจาหลอกลวง "กลับ มาถึงคิวครูสำเนียง ม่วงทองอีกครั้ง แกเอื้อน " หากเปิ้นได้เฮา " อารมณ์นั้นเธอคิดถึงเด็กสาวชาวเหนือที่ฆ่าตัวตาย ก็เลยแต่งว่า "เปิ้นคงทิ้งเฮาน้ำตาไหลร่วง "ถึงตรงนี้หยุดคิดกันอยู่นานก่อนที่คุณสุรพล สมบัติเจริญ จะคิดท่อนสุดท้ายของเพลงได้ว่า " หากหลงลมคงโดนหลอกลวง ช้ำทรวงเหมือนดั่งบัวบาน"

แต่ภายหลังเมื่อเพลงกุหลาบเวียงพิงค์จบกระบวนการผลิต และออกมาเป็นแผ่นเสียง กลับให้เครดิตสุรพล สมบัติเจริญ ว่าเป็นผู้ประพันธ์เพลง จึงสร้างความสับสนให้กับวงการเพลงไม่น้อย

http://www.oknation.net/blog/countryman/2009/01/05/entry-1

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
kulapha
มัจฉานุ
**
ตอบ: 96


ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 20:07




ขอร่วมด้วยค่ะ
The Last Rose of Summer

'Tis the last rose of summer
Left blooming alone;
All her lovely companions
Are faded and gone;
No flower of her kindred,
No rosebud is nigh,
To reflect back her blushes,
To give sigh for sigh.


I'll not leave thee, thou lone one!
To pine on the stem;
Since the lovely are sleeping,
Go, sleep thou with them.
Thus kindly I scatter,
Thy leaves o'er the bed,
Where thy mates of the garden
Lie scentless and dead.


So soon may I follow,
When friendships decay,
From Love's shining circle
The gems drop away.
When true hearts lie withered
And fond ones are flown,
Oh! who would inhabit,
This bleak world alone?

The Last Rose of Summer
เป็นบทกวีประพันธ์โดยกวีไอริชนามว่า
Thomas Moore ซึ่งเป็นสหายกับท่านไบรอนและ เชลลีย์
2 กวีนามอุโฆษของอังกฤษ

Moore เขียนบทกวีชิ้นนี้เมื่อปี 1805
ขณะที่พำนักอยู่ Jenkinstown Park เมือง County Kilkennyไอร์แลนด์
Sir John Stevenson ได้นำมาแต่งทำนองประกอบ
และขับร้องกันจนแพร่หลายกันมา

ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับไอริชหลายๆเรื่องมักจะเอาเพลงนี้มาประกอบ
ให้ความรู้สึกถึงความโดดเดี่ยว ห่างไกล อ้างว้างของชาวไอริช

แม้ทำนองเพลงจะหวานอ้อยสร้อย
แต่คำร้องแสนเศร้าเมื่อพูดถึงสตรีนามหนึ่ง
คงจะมีชื่อพ้องกับกุหลาบ
ที่รอคอยวันสุดท้ายของตัวเอง
สลัดกลีบดอก ก้านใบทิ้งตัวซบลงกับปฐพี
หลังจากญาติมิตร คนสนิทชิดใกล้ได้ร้างลาจากไปก่อนหน้าแล้ว

ทั้งเนื้อเพลงและท่วงทำนองหวานละเมียดเช่นนี้เอง
กลายเป็นแรงบันดาลส่งต่อให้กับบทเพลงไทย "กำสรวลจันทร์"
เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัล จากเรื่อง ฟ้าทะลายโจร
ภาพยนตร์ไทยสีลูกกวาดหวานๆที่เคยดู

เปิดเพลงเพราะๆฟัง จิบชาเย็นๆ ขนมสักชิ้น
มองดูใบไม้เคลื่อนไหว และเสียงมะม่วงหล่นตุ๊บ ตุ๊บ
ก็คงจะมีความสุขตามประสาคนรักหน้าร้อนนะคะ


อ้อ  ถ้าใครได้ดูหนังญี่ปุ่นเรื่อง โอชิน

เพลงนี้ถูกนำมาใช้ช่วงที่ พี่ชายคนดี"ชินซากุ.ของโอชินที่หนีทหารไปอยู่ในป่าลึก
ผู้ชอบเป่าเม้าท์ออร์แกนด้วยท่วงทำนองเดียวกัน
ไม่รู้ว่า กุหลาบจากอังกฤษไปโผล่ในแดนซากุระได้อย่างไรหนอ
บันทึกการเข้า
kulapha
มัจฉานุ
**
ตอบ: 96


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 20:15



"กำสรวลจันทร์" จาก ฟ้าทะลายโจร
เปลี่ยนจากกุหลาบเป็นจันทน์กะพ้อ
ก็เพราะเหมือนๆกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 20:31

กระทู้ชักจะคึกคัก   คนที่รักเสียงเพลงและดอกกุหลาบ จะได้มาชุมนุมกันก็คราวนี้

ขอเปลี่ยนจากกุหลาบแสนหวาน หรือแสนเศร้า มาเป็นกุหลาบคึกคักปลุกใจให้ฮึกเหิม     เพลงนี้ไม่รู้ชื่อผู้แต่ง  บางกระแสบอกว่ามีแต่ชื่อย่อว่า J.K.   โน้ตและเนื้อเพลงตีพิมพ์ประมาณค.ศ. 1836   ท่วงทำนองเดิมเป็นโฟคซอง  แต่ต่อมาก็กลายเป็นเพลงมาร์ช แพร่หลายไปทั่วสหรัฐอเมริกา    เป็นเพลงประจำรัฐของ Texas
เนื้อร้องพูดถึง "แม่กุหลาบเหลืองแห่งเทกซัส" The Yellow Rose of Texas   ที่หนุ่มคนรักจำต้องจากเธอไปด้วยภารกิจ  น่าจะเป็นสงคราม  แต่ก็สัญญาว่าจะกลับมาหาและไม่จากไปไหนอีก
คำว่า yellow ในสมัยนั้นนิยมเปรียบกับสาวลูกครึ่งคนดำผสมคนขาว ที่เรียกว่า mulatto  ส่วนใหญ่จะเป็นพ่อผิวขาวและแม่ผิวดำ   พวกนี้ส่วนใหญ่จะแต่งงานกับหนุ่มผิวดำ หรือลูกครึ่งเหมือนกัน      ไม่ค่อยแต่งงานกับหนุ่มผิวขาว  ก็พอจะอนุมานได้ว่าเจ้าหนุ่มผู้คร่ำครวญหาแม่กุหลาบเหลืองก็เป็นหนุ่มผิวดำเหมือนกัน



บันทึกการเข้า
ติบอ
นิลพัท
*******
ตอบ: 1906


Smile though your heart is aching.


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 00:08

จากกุหลาบแบบปลุกใจใน The Yellow Rose of Texas แล้ว
ขอพื้นที่ให้กุหลาบแบบดราม่าบ้างนะครับ 'Rose Turn' ครับผม





ปล. เกือบนอกเรื่องไป Being Alive อีกแล้วผม  รูดซิบปาก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 10:54

ฟังเพลงกล่อมอารมณ์ให้หายเหนื่อยจากงาน บ้าง

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 11:05

หนึ่งในเพลงโปรด  Days of Wine and Roses    เคยแปลลงในกระทู้ สัมผัสจินต์ สัมผัสใจ มาก่อน



The days of wine and roses
Laugh and run away like a child at play
Through the meadow land toward a closing door
A door marked "nevermore" that wasn't there before.

The lonely night discloses
Just a passing breeze filled with memories
Of the golden smile that introduced me to
The days of wine and roses and you.

ทำนอง     Henry Mancin
เนื้อร้อง    Johnny Mercer
เพลงประกอบยอดเยี่ยม รางวัลตุ๊กตาทอง ประจำปี 1962

ทิวาราตรีกาล.............หอมหวานปานเปรียบเมรัย

กุหลาบซาบซ่านใจ........เริงรื่นใดไหนเทียมทัน

คืนวันผันผ่านพ้น.........เสื่อมคลายมนต์สรวงสวรรค์

ประตูปิดสนิทพลัน.............ไม่มีวันหันกลับมา

ราตรีนี้ว่างเปล่า..........ยะเยียบเศร้าเหงาอุรา

ลมพริ้ม ยิ้มแก้วตา........พัดผ่านมาเพียงฝันไป 

แปลโดย เทาชมพู
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 11:14

แถมเพลงหวานในอดีตอีกเพลง  เข้ากับกระทู้  Moonlight  and Roses

บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 14:04

         หนึ่งในเพลงลายเซ็นของ Nana Mouskouri นักร้องหญิงคนสำคัญแห่งยุโรป
ที่มีผลงานมากมายและประสบความสำเร็จเป็นที่นิยมอย่างสูง
         เมื่ออายุมากขึ้นเสียงเริ่มแหบห้าว เธอหันไปร้องเพลงแนวแจ๊ซก่อนที่จะวางไมค์
ไปในที่สุด

             White Rose of Athens (1962 )

      http://www.youtube.com/watch?v=7WoXaFZpcDY&feature=related

The summer days are ending in the valley
And now the time has come when we must be apart
But like the rose that comes back with the springtime
You will return to bring the summer to my heart

Till the white rose blooms again
You must leave me, leave me lonely
So goodbye my love till then
Till the white rose blooms again

The autumn leaves are falling in the valley
And soon the winter snow will lie upon the ground
But then I know, I know that like the roses
You will come back again when springtime comes around

Till the white rose blooms again
You must leave me, leave me lonely
So goodbye my love till then
Till the white rose blooms again
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 17:39

เพลงชื่อ The Rose    มีนักร้องเสียงดี นำไปร้องกันหลายคน ทั้งหญิงและชาย







Some say love, it is a river
That drowns the tender reed
Some say love, it is a razor
That leaves your soul to bleed
Some say love, it is a hunger
An endless aching need
I say love, it is a flower
And you, its only seed

It's the heart, afraid of breaking
That never learns to dance
It's the dream, afraid of waking
That never takes the chance
It's the one who won't be taken
Who cannot seem to give
And the soul, afraid of dying
That never learns to live

When the night has been too lonely
And the road has been too long
And you think that love is only
For the lucky and the strong
Just remember in the winter
Far beneath the bitter snows
Lies the seed that with the sun's love
In the spring becomes the rose


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 19 คำสั่ง