เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
อ่าน: 7095 ชีวิตนี้เป็นที่รัก เรื่องแปลสุดกระทิอนใจของอุไร สนิทวงศ์
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 06 ก.พ. 12, 14:53

แต่แล้ว โควินท์ก็ต้องเผชิญกับความทุกข์ในท่ามกลางความทุกข์อีก นั่นคือการสูญเสียบาปูมิตรในยามยาก แต่เพราะชีวิตย่อมเป็นที่รัก และโควินท์เป็นนักสู้ชีวิตที่ทรหด ฉะนั้นโควินท์จึงมิได้ยอมปล่อยตนให้ตกอยู่ในกองทุกข์ที่สิ้นหวัง โควินท์เชื่อว่าตราบใดที่ชีวิตยังไม่สิ้น แสงแห่งความหวังย่อมจะยังไม่ดับ ดังนี้เมื่อโควินท์ซัดเซไปถึงนิคมโรคเรื้อนของหมอโคทโบเล โควินท์จึงยอมตนอยู่ในนิคมนี้ด้วยความเต็มใจ หมอโคทโบเลผู้นี้หาได้เป็นแต่เฉพาะนายแพทย์ที่สามารถในการบำบัดโรคร้ายเท่านั้นไม่ หากยังสามารถเข้าใจซาบซึ้งถึงความต้องการและจิตใจของคนไข้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็เพราะครั้งหนึ่งหมอได้ประสบกับมรสุมของโรคร้ายนี้มาด้วยตนเองแล้ว จึงในนิคมคนไข้แห่งนี้มิได้ให้เฉพาะการบำบัดทางกายแต่อย่างเดียว หากยังให้การักษาทางใจอีกด้วย นั่นคือการสร้างสรรค์นิคมนี้ให้มีบรรยากาศอันอบอุ่นประหนึ่งบ้าน ในนิคมแห่งนี้ไม่มีดวงหน้าอันครองแต่ทุกข์ระทมเพราะโรคร้ายและความกดดันทางจิตใจ หากมีแต่ดวงหน้าแจ่มในด้วยความสุขอันเกิดแต่ความเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง ความอบอุ่นปลอดภัย และเหนือสิ่งอื่นในนั่นคือ ความหวัง !

โควินท์ได้บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อนิคมที่ตนเข้าไปอยู่ด้วยการรับเป็นช่างดัดเสื้อประจำนิคม ซึ่งโควินท์ทำงานนี้ด้วยความพีงพอใจและเพลิดเพลิน ครั้นแล้ววันหนึ่งโดยไม่คาดฝัน หมอโคทโบเลแจ้งให้โควินท์ทราบว่า จะขอทดลองยาขนานใหม่ที่พีงค้นพบกับโควินท์ ราวกับปาฏิหารย์ ! !  หลังจากที่โควินท์ได้รับการรักษาด้วยยาขนานใหม่แล้วไม่นานนัก ผิวพรรณหน้าตาของเขาก็กลับผ่องใสเกลี้ยงเกลา น้ำเสียงก็แจ่มในนุ่มนวลขึ้น และเมื่อหมอโคทโบเลออกปมากอนุญาตให้เขากลับบ้านได้นั้น โควินท์แทบจะไม่เชื่อว่าสิ่งที่เขาเคยคิดฝันมานานหนักหนาแล้วนั้นจะกลับกลายเป็นจริงขึ้นได้ ! ! แต่มันก็ได้เป็นจริงขึ้นแล้ว ในที่สุด.......เขาก็มีโอกาสที่จะกลับออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่อันอบอุ่นด้วยความรักระหว่างพ่อ-แม่-ลูก กับสุมิตรา ภรรยาผู้จงรักภักดี ผู้เฝ้ารอคอยเขาอย่างซื่อสัตย์อีกครั้ง
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 06 ก.พ. 12, 15:03

ฉากชีวิตตอนหนึ่งของโควินท์ได้จบลงแล้วอย่างน่าภาคภูมิใจ หากเราจะเปรียบชีวิตมนุษย์เหมือนเกลียวเชือก เชือกชีวิตของโควินท์ก็ได้ถูกมือมารร้ายมาแอบบั่นเสียจนเกือบจะขาดมิขาดแหล่อยู่หลายครั้งหลายครา แต่เพราะกำลังใจอันเข้มแข็งมิย่อท้อในการต่อสู้ โควินท์จึงสามารถฟั่นเกลียวเชือกชีวิตของตนให้แน่นหนาดังเดิมได้ ขณะที่กำลังติดตามเหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นเร้าใจในชีวิตของโควินท์นี้ เชื่อว่าคงจะไม่มีผู้ใดที่จะเว้นเสียได้ซึ่งอารมณ์ร่วมกับโควินท์ในทุกข์ระทมแสนสาหัสและความภาคภูมิใจในชัยชนะในบั้นปลายนั้น

ในที่สุด โควินท์ได้กลับเป็นบุคคลผู้แข็งแรงแจ่มใส ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอันอบอุ่นเป็นสุขอีกครั้ง ได้พบกับอนาคตอันมีความหวังที่มีแสงสว่างเรืองรองอยู่เบื้องหน้า

ถ้าโควินท์เป็นเหมือนคนธรรมดาทั่วไป มิใช่ "โควินท์ นักสู้ชีวิต" ผู้ทรหดกล้าหาญ โควินท์จะสามารถชุบชีวิตตนเองให้พบกับความสุขอันมีอนาคตได้ละหรือ ? เพราะศึกชีวิตของโควินท์นี้ช่างเป็นศึกชีวิตทีเหี้ยมเกรียมโหดร้ายทารุณยิ่งนัก มิใช่ศึกชีวิตที่เป็นของธรรมดาสามัญเลยทีเดียว

แต่เพราะโควินท์เป็นบุคคลพิเศษ ผู้สูงด้วยกำลังใจอันแกร่งกล้า และความมานะที่จะเอาชัย โควินท์จึงสามารถสร้างชีวิตอันเป็นที่รักของตนให้เป็นที่ประทับใจแก่บุคคลทั้งหลาย และนับว่าเป็นการต่อสู้ชีวิตที่ให้กำลังใจแก่ผู้อื่นอันควรแก่การยกย่องเป็นอย่างยิ่ง

การต่อสู้ในสนามชีวิตนั้น อาวุธที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจอันกล้าหาญเยี่ยงเหล็กเพชร

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
กระต่ายหมายจันทร์
พาลี
****
ตอบ: 284


ศศ (สะสะ) แปลว่ากระต่ายและกวาง


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 06 ก.พ. 12, 20:00

"สัตว์ทั้งหลายที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นย่อมจะดำรงชีวิตอยู่อย่างต่ำช้าที่สุดดีกว่าจะตายเสีย และมนุษย์ก็เช่นกัน" ชอบประโยคนี้มากเลยค่ะ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.053 วินาที กับ 19 คำสั่ง