เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
อ่าน: 74769 เมนูหมู หลายเมนู
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 18 ก.พ. 12, 10:55

ไส้อั่ว
กรรมวิธีการทำไส้กรอก (Sausage)
… คือ กรอกเนื้อ(หมู) ลงไปในไส้(หมู)
ภาษาคำเมือง “อั่ว” คือ กรอก หรือ ยัด …
ไส้อั่ว ก็แปลตรงๆ ว่า “ไส้กรอก” นั่นเอง

สูตรวิธีการทำ ไส้อั่ว

ส่วนผสม

1. ไส้หมูขูด         1   ขีด
2. หมูบด            1.5   กิโลกรัม
3. มันหมูแข็งบด         250   กรัม
4. ใบมะกรูดหั่นฝอย      2   ช้อนโต๊ะ
5. ขมิ้นผง            1   ช้อนชา
6. ไข่ไก่            1   ฟอง
7. ต้นหอม ผักชีหั่นฝอย      2   ช้อนโต๊ะ
8. พริกแกง         3   ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลาดี         1   ช้อนชา
10. ผงชูรส            1/2   ช้อนชา

ส่วนผสมพริกแกง

1. พริกแห้ง         15   เม็ด
2. กระเทียม         15   กลีบ
3. หอมแดง         10   หัว
4. ข่า            2   ช้อนโต๊ะ
5. ตะไคร้            2   ช้อนโต๊ะ
6. กะปิดี            1/2   ช้อนโต๊ะ
7. รากผักชี            1   ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ผสมหมูบดกับพริกแกงให้เข้ากัน เติมมันหมูแข็ง ใบมะกรูดหั่นฝอย ขมิ้นผงไข่ไก่ ต้นหอม ผักชีหั่นฝอย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. นำไปยัดใส่ในไส้หมูให้แน่น
3. ไล่อากาศออกให้หมด
4. ใช้เชือกมัดหัวท้าย
5. นำไปทอดหรือย่าง ก่อนทอดหรือย่างลวกน้ำร้อนก่อน


บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 18 ก.พ. 12, 18:42

ชอบกินใส้อั่วครับ เสียดายที่ใส้อั่วอร่อยๆนั้นค่อนข้างจะหายาก

ในปัจจุบันนี้ ใส้อั่วเปลี่ยนไปมาก มีตั้งแต่ใส้ในที่บดด้วยเครื่องจนส่วนผสมนละเอียดมากเกินไป ใส้อั่วสมุนไพรที่มีแต่สมุนไพรจริงๆ เหมือนกินฟางข้าวบดปรุงรส ใส้อั่วที่ใช้ใส้เทียมเหมือนปลอกบรรจุใส้กรอกของฝรั่ง ฯลฯ
ใส้อั่วแบบดั้งเดิมนั้นจะมีเนื้อค่อนข้างหยาบ (Coarse grain) เห็นเนื้อหมู เห็นชิ้นมันค่อนข้างจะชัดเจน ส่วนผสมของเนื้อและมัน รวมทั้งเครื่องปรุงจะต้องกำลังพอดีไม่หนักไปทางใดทางหนึ่งจนรู้สึกเหมือนกินสิ่งนั้น ใช้ใส้หมู ใส้ไม่ใหญ่จนเป็นลักษณะของใส้บวมและต้องไม่เล็กจนเหมือนเป็นใส้ที่เหี่ยวแห้ง แล้วก็ต้องปิ้งบนใบตองที่วางอยู่รองอยู่บนตะแกรงเหนือเตาไฟ ปิดด้วยใบตองอีกเพื่ออบให้หอม จะรมด้วยควันจากกาบมะพร้าวก็ยิ่งดี
ในแต่ละตลาดของแต่ละท้องถิ่นก็มักจะมีเจ้าที่ดังระเบิด เป็นที่รู้จักของคนถิ่นทุกคน

เมื่อลองชิมดูของที่ซื้อมาแล้วและรู้สึกว่าจะไม่อร่อยเท่าที่ควร ผมใช้วิธีหั่นเป็นชิ้นๆพอคำแล้วทอดในน้ำมันให้ค่อนข้างแห้งเกรียมนิดหน่อย ก็แก้ไขความอร่อยได้ครับ แต่หากเอาไปทอดทั้งท่อน ใช้การไม่ได้ครับ อมน้ำมันแล้วไม่ช่วยรสชาติอะไรเลย

 
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 19 ก.พ. 12, 18:38

จานสิงห์เหนือ-เสือใต้ (สะตอผัดแหนม)
 
เมนูนี้คงจะพออยู่ในเมนูหมูได้นะครับ

ทำง่ายๆ เพียงเอาแหนมที่สุกดีแล้ว มาหั่นเป็นแว่นๆ หอมใหญ่ผ่าครึ่งหั่นเป็นแว่น พริกขี้หนูบุบ หรือพริกชี้ฟ้าสดหั่นเฉียง และสะตอ ลงผัดในกะทะ ปรุงรสตามชอบ ใส่น้ำปลา และน้ำตาลปึกนิดหน่อยเพื่อตัดรส หากมีน้ำพริกกะปิเหลืออยู่ก็ใส่ลงไป ผัดรวมกันไปก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 19 ก.พ. 12, 20:34

หารูปประกอบจากอินทรเนตรมาให้ค่ะ


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 20 ก.พ. 12, 18:37

คุณเทาชมพูได้เคยพาออกไปตะวันตก ทำให้ผมนึกถึงเมนูหมูได้อีกหนึ่งเมนูครับ
เมื่อสมัยไปเรียนหนังสือ ได้เห็นวิธีปรุงหมูแฮมอย่างหนึ่ง รู้จักกันแพร่หลายพอควรในรัฐทางใต้ของอเมริกา
 
หาชื้อหมูแฮมส่วนน่องหรือตะโพก ที่ตัดเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม. นำทอดในกะทะ คะเนว่าสุกดีตามใจชอบแล้ว ก็เอากาแฟชงให้ข้นหน่อยและออกหวาน (เคยได้ยินว่าใช้โคคาโคลาก็มี) เทลงไป ตักใส่จาน กินกับขนมปังเป็นอาหารเช้า ก็แปลกดี อร่อยพอได้ทีเดียวครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 20 ก.พ. 12, 19:42

สงสัยว่าหมูแฮมทอดกาแฟที่คุณตั้งว่ามา คืออาหารที่เขาเรียกว่า  fried ham with redeye gravy  นิยมกันอยู่ในรัฐทางใต้ของอเมริกา  บางแห่งก็ระบุลงไปว่า ham steaks  เพราะเอาหมูแฮมมาทอดแบบสเต๊ค   ส่วนกาแฟ ถ้าถามว่าใส่ลงไปทำไม คำตอบคือใส่เป็นน้ำเกรวี่   ทำเสร็จแล้วเรียกว่า เกรวี่ตาแดง   
โปรดอย่าถามว่าทำไมเรียกว่าตาแดง   ไม่รู้เหมือนกัน
เอารูปมาให้ดูกันค่ะ


บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 21 ก.พ. 12, 09:06

อาหารเช้า หาทานได้ทั่วไปทุกภาค ทุกจังหวัด ตามตลาดในเมืองไทยค่ะ...ต้มเลือดหมู... ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 21 ก.พ. 12, 09:19

ตามมาด้วยมื้อกลางวัน...ส้มตำคอหมูย่าง... ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 21 ก.พ. 12, 19:37

สงสัยว่าหมูแฮมทอดกาแฟที่คุณตั้งว่ามา คืออาหารที่เขาเรียกว่า  fried ham with redeye gravy  นิยมกันอยู่ในรัฐทางใต้ของอเมริกา  บางแห่งก็ระบุลงไปว่า ham steaks  เพราะเอาหมูแฮมมาทอดแบบสเต๊ค   ส่วนกาแฟ ถ้าถามว่าใส่ลงไปทำไม คำตอบคือใส่เป็นน้ำเกรวี่   ทำเสร็จแล้วเรียกว่า เกรวี่ตาแดง   
โปรดอย่าถามว่าทำไมเรียกว่าตาแดง   ไม่รู้เหมือนกัน
เอารูปมาให้ดูกันค่ะ


ผมก็ไม่ทราบที่มาของคำว่า redeye gravy ที่แท้จริง เพียงแต่ได้รับทราบจากเพื่อนสนิทชาวอเมริกันซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เขาเป็นทหารในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ลาเรียนอยู่ใน U เดียวกัน บอกว่า 
ham steak นั้น เป็นอาหารปกติ ราดด้วยกาแฟนั้นก็เป็นที่นิยมปกติ แต่มักจะเป็นการราดโดยตัวผู้สั่งอาหารจานนั้นบนโต๊ะ คำว่า redeye gravy นั้น คือให้ผู้ทำอาหารราดกาแฟมาให้ด้วยเลย

เป็นคำ slang ที่ใช้สั่งให้คนครัวปรุงอาหาร
ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ขอความกรุณาอยาคิดว่าเป็นเรื่องลามกนะครับ ถือว่าเป็นความรู้ก็แล้วกัน
แฮมที่ตัดจากขาหมูนี้ ดูภาพให้ดีๆจะเห็นว่ามีกระดูกเป็นวงกลมติดอยู่ เมื่อราดน้ำกาแฟลงไป ส่วนหนึ่งของน้ำกาแฟจะขังอยู่ในโพรงกระดูกที่เป็นไขข้อ ออกเป็นสีแดงคล้ำ ก็เป็นลักษณะของ redeye แต่ในภาพรวมนั้น ในสมัยหนึ่งเมื่อกลางยุค 50's ถึงต้นยุค 60's ยุค Rock 'n Roll จะมีกลุ่มหนุ่มสาวชาวอเมริกันนั่งรถเปิดประทุน เมื่อขับรถสวนกันหรือขับแซงกัน สาวก็จะหันก้นโก้งโค้งถกกระโปรงให้รถอีกคันหนึ่ง แล้วตะโกนว่า redeye
จินตนาการเอาเองนะครับถึงภาพ hamsteak ที่มีกระดูกอยู่ตรงกลาง 
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 21 ก.พ. 12, 19:48

เพิ่งเคยได้ยินค่ะ
จนใจ ไม่มีภาพประกอบ   ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 21 ก.พ. 12, 20:23

มีภาพประกอบก็คงไม่ไหวครับ   ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 21 ก.พ. 12, 20:35

หนีไปเมนูอื่นดีกว่าครับ

หมูผัดกะปิและหมูผัดน้ำพริกเผาครับผม

นัยว่า หั่นหมูเป็นชิ้นๆ หอมใหญ่ซอย บุบกระเทียมเล็กน้อย เอาน้ำมันใส่กะทะ เจียวกระเทียมพอเริ่มสุก (ใส) เอาหมูลง กลับไปมาสักสองสามครั้ง เอากะปิ หรือน้ำพริกเผาใส่ลงไป ใส่น้ำตาลปึกนี๊ดเดียว ใส่หอมพอหอมเริ่มจะใส ก็ตักใส่จาน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ



 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 21 ก.พ. 12, 21:08

รูปหมูผัดกะปิ ค่ะ


บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 22 ก.พ. 12, 21:06

ยำหมูย่างกับยอดมะกอก

พอถึงฤดูมียอดมะกอกอ่อนขายในตลาดสดประจำถิ่น ผมเป็นอดไม่ได้ที่จะซื้อมาสักกำมือ แล้วก็ไปหาซื้อเฉพาะชิ้นหมูที่ย่างแบบน้ำตกสักหนึ่งชิ้นฝ่ามือ ที่แม่ค้าขายส้มตำข้างเหนียวไก่ย่างขายกันทั่วไป

ตามวิธีการทำดั้งเดิมนั้น เขาจะเอาหมูมาย่างให้พอสุกทั่วกัน จะสุกมากๆก็ไม่เป็นไีร ความอร่อยมิใช่อยู่ที่ตรงนั้น หั่นหมูเป็นชิ้นบางตามความพอใจ เอายอดมะกอกมาล้างน้ำ สลัดน้ำพอแห้งก็เอามาอังไฟให้สยบ แล้วซอยพอละเอียด กันไว้
เอาพริกแห้งเผา กระเทียมสัก 1 หัวเผา หอมแดงสัก 5 - 6 หัวเผา แล้วกะปิสักประมาณหัวแม่มือเผาใ้ห้หอม นำทั้งหมดมาโขลกเข้าด้วยกันพอละเอียด
เอาเครื่องทั้งหมดใส่ภาชนะก้นลึก เคล้า บีบขยำกันให้ดี เติมน้ำปลาชนิดดีๆ ให้ออกรสแรกเค็ม ต้กใส่จาน ทานเล่นเป็นแกล้ม ก็อร่อย หรือจะทานกับข้าวก็อร่อย

ด้วยความขี้เกียจและด้วยครัวในปัจจุบันไม่ใช้เตาถ่าน ผมก็แปลงวิธีการ ใช้หมูย่างเหมือนเดิม ให้แม่ค้าย่างให้สุกอีกหน่อย เอามาหั่นหนาบางตามใจชอบ เอายอดมะกอกมาอังบนไฟเตาแกสเลย จะให้ดูสุภาพหน่อยก็อังบนตะแกรง พลิกไปพลิกมาให้ใบสยบทั่วกัน เอามาซอย จากนั้นก็เอาพริกขี้หนูสวนมาหั่นซอยให้ละเอียดแบบทำน้ำปลาพริกของชาววังเขา เอาหอมแดงมาซอย (ไม่ใช้กระเทียม) เอาทั้งหมดคลุกเคล้าพอเข้ากัน เติมน้ำปลาดี แล้วบีบขยำให้เข้ากัน จะเรียกว่าแทบจะเป็นลักษณะของการคั้นก็ได้ เอาพริกป่นคั่วใหม่ๆหรือที่หอมๆใส่ลงไปอีกหน่อย เคล้าให้ทั่ว แล้วตักใส่จาน อร่อยไม่แพ้กันเลยทีเดียว

จะเปลี่ยนเนื้อหมูเป็นไก่ ก็อร่อยทั้งนั้น ที่จริงแล้วการยำแบบนี้ใช้กับการยำแย้ ซึ่งแย้จะออกหากินเมื่อฝนเริ่มตกใหม่ๆสัก 2- 3 วัน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับมะกอก
เิ่ริ่มออกยอดอ่อนๆ ยอดมะกอกนั้นเก็บกินได้ทั้งที่กำลังแตกใบอยู่บนดิน หรือจากต้นที่โตแล้ว หากเป็นแย้ ก็จะผ่าท้องเอาใส้ออก นำไปต้ม ไม่ต้องลอกหนังออก พอสุกแล้วก็เอาออกมาสับทั้งกระดูกให้ละเอียดแบบลาบ

ก็เป็นอาหารที่อร่อยสำหรับคนทำงานในป่าครับ         
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 25 ก.พ. 12, 19:55

คุณตั้งคงจะมีเมนูอาหารป่าหลายอย่าง   ที่พวกเราไม่ค่อยมีโอกาสรู้จักกันนัก     ขอเชิญเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ

ถ้าใครชอบต้มยำแซ่บๆ   หมูก็นำมาทำได้อีกเหมือนกัน

ต้มแซบหมูตุ๋น

ต้มแซบหมู อาหารรสชาติจัดจ้าน ซดคล่องคอจะเป็นอาหารหรือเป็นกับแกล้มก็รสชาติจิ๊ดจ๊าดถูกปากใครหลายๆคน จะทำขายหรือทำกินเองที่บ้านก็ได้
ส่วนประกอบไม่ยุ่งยาก มีสมุนไพรรสชาติเผ็ดร้อน ที่ดีต่อสุขภาพหลายชนิดเป็นส่วนประกอบ

ส่วนผสม
กระดูกหมูคาตัง 500 กรัม
ขาหมูขาหน้าเลาะเอากระดูกและหนังออก 1 ขา
เกลือสมุทร 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 6 ถ้วยตวง

เครื่องปรุงสำหรับ 1 ชาม

หมูตุ๋นและน้ำซุป 2 ถ้วย
ใบมะกรูดฉีก 1 ใบ
หอม แดง หั่น 3 หัว
น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
ข่าหั่นแว่น 4 แว่น
ตะไคร้หั่นเฉียง 1 ต้น
ผักชีฝรังหั่นท่อนขนาด 2 ต้น
โหระพาเด็ดใบ 1/4 ถ้วย
พริกขี้หนูคั่วป่น 1/2 ช้อนชา
พริกขี้หนูแห้งทอด
ต้นหอมสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ
1. ก่อนอื่นต้องมาทำหมูตุ๋น โดยล้างกระดูกหมูใส่ลงในหม้อ จากนั้นหั่นเนื้อขาหมูเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 1 นิ้ว ใส่ลงในหม้อเติมน้ำลงไป ยกหม้อขึ้นตั้งบนไฟปานกลางเดี่ยวจนเดือด หมั่นช้อนฟองทิ้งจนน้ำซุปใส ปรุงรส ด้วยเกลือและน้ำตาลทราย เคี่ยวนานประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง หรือจนเนื้อขาหมูเปื่อยนุ่ม
2. ปรุงต้มแซบต่อ 1 ชาม โดยตักหมูตุ๋นและน้ำซุปใส่ลงในหม้อตั้งบนไฟกลางจนเดือด ใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกูรด หอมแดง เคี่ยวต่ออีกสักครู่พอมีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำปลา เผ็ด ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มกลมกล่อม ใส่ผักชีฝรั่ง ปิดไฟ
3. เตรียมชามเสิร์ฟ ตักต้มแซบหมูตุ๋นร้อนๆใส่ ใส่พริกขี้หนูแห้งทอด ใส่พริกป่นและใบโหระพาโรยหน้า ตกแต่งด้วยต้นหอมเสิร์ฟ ร้อน ๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ   หรือเป็นกับแกล้มก็อร่อยถูกใจ

http://tom-yum-thai.blogspot.com/2010/07/blog-post.html


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 19 คำสั่ง