เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
อ่าน: 74713 เมนูหมู หลายเมนู
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 11:30

รายการนี้เป็นอาหารโบราณ   มีมาอย่างน้อยก็รัชกาลที่ ๕  ปัจจุบันคงไม่ค่อยมีใครได้ยินกันแล้ว    คือ แกงเผ็ดหมูย่างกับกล้วยดิบ

เครื่องปรุง
หมูย่างหนังกรอบ           ๑        ชิ้น
กล้วยไข่หรือกล้วยน้ำว้า    ๕       ผล    เลือกชนิดดิบที่แก่จัด
พริกแห้งใหญ่               ๕       เม็ด
หอมใหญ่                   ๒        หัว
กระเทียม                    ๗       กลีบ
ข่า                           ๓       แว่น
ตะไคร้หั่น                   ๒       ช้อนโต๊ะ
ลูกผักชีคั่ว                  ๑       ช้อนโต๊ะ
กะทิคั้น                     ๕๐๐    กรัม
รากผักชี  ผิวมะกรูด เล็กน้อย  
ใบมะกรูด  ใบกะเพรา  น้ำปลา เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ
๑    ปอกเปลือกกล้วยดิบ   หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม   ล้างน้ำปูนใสหรือน้ำมะขามให้หมดยาง  หั่นหมูย่างเป็นชิ้นเล็กๆ
๒    โขลกพริกแห้งที่เอาไส้และเม็ดออก  กับเกลือ  ใส่ตะไคร้ ข่า รากผักชี ผิวมะกรูด   หอมใหญ่ซอย กระเทียมซอย  โขลกจนละเอียดเข้ากัน  ใส่ลูกผักชีคั่วลงไปโขลกรวมกัน  เป็นเครื่องแกง
๓    ผัดเครื่องแกงในข้อ ๒ กับกะทิ  ใส่หมูย่างกับกล้วยดิบ  เหยาะน้ำปลา เติมหางกะทิลงไป  
๔    เคี่ยวต่อจนเดือด  กล้วยสุก  ราดหัวกะทิ
๕    โรยหน้าด้วยใบมะกรูดกับกะเพรา   ตักเสิฟได้

หารูปแกงเผ็ดหมูย่างกับกล้วยดิบไม่ได้  เจอแต่แกงเผ็ดหมู(เฉยๆ)ในอินทรเนตร  ก็เลยนำมาลงพอเป็นแนวทางค่ะ


บันทึกการเข้า
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 11:52

หมูหวาน
เครื่องปรุง

1.เนื้อหมูสะโพก 1 กิโลกรัม

2.น้ำตาลปี๊บ 3 ขีด

3.เม็ดผักชี 1/2 ขีด

4.พริกไทยดำตรามือ 1/2 ขีด

5.รากผักชี 5 ราก

6.น้ำมันหอย 2 ทัพพี

7.ซีอี๊วดำ 1 ทัพพี

วิธีทำ

1.แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นบาง ๆ เลาะเส้นเอ็นพังผืดออกให้เหลือแต่เนื้อล้วน ๆ

2.นำเม็ดผักชีไปผัดในกระทะให้แห้งกรอบ แล้วโขลกให้ละเอียด

3.ผสมเม็ดผักชีกับน้ำตาลปี๊บ รากผักชี พริกไทยดำ น้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ ใส่เครื่องบดปั่นจนละเอียดจึงเทใส่กะละมัง

4.นำหมูที่แล่ไว้ใส่ลงไปคลุกกับเครื่องปรุงแล้วเคล้าให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง

5.นำหมูที่หมักแล้วไปอบหรือตากแดดให้แห้งสนิท จึงเก็บใส่ถุงพลาสติกรอไว้

6.เวลาขายจึงนำหมูมาทอดน้ำมันให้สุกร้อน ๆ กินกับข้าวเหนียวนึ่งอร่อยมาก

ที่มาครับ http://lekkathaifood.blogspot.com/2011/04/blog-post_4019.html


บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 12:09

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
เห่ชมเครื่องคาว

๏มัสมั่นแกงแก้วตา                 หอมยี่หร่ารสร้อนแรง

ชายใดได้กลืนแกง                  แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

๏ยำใหญ่ใส่สารพัด                 วางจานจัดหลายเหลือตรา

รสดีด้วยน้ำปลา                      ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ

๏ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม         เจือน้ำส้มโรยพริกไทย

โอชาจะหาไหน                       ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง

หมูแนมแหลมเลิศรส            พร้อมพริกสดใบทองหลาง

พิศห่อเห็นรางชาง                   ห่างห่อหวนป่วนใจโหย

๏ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น               วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย

รสทิพย์หยิบมาโปรย               ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ

๏เทโพพื้นเนื้อท้อง                  เป็นมันย่องล่องลอยมัน

น่าซดรสครามครัน                 ของสวรรค์เสวยรมย์

๏ ความรักยักเปลี่ยนท่า           ทำน้ำยาอย่าง แกงขม

กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม        ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น

๏ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ             รสพิเศษใส่ลูกเอ็น

ใครหุงปรุงไม่เป็น                   เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ

๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม                   แกงคั่วส้มใส่ระกำ

รอยแจ้งแห่งความขำ               ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม

๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด                 ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม

คิดความยามถนอม                 สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์

๏ล่าเตียงคิดเตียงน้อง              นอนเตียงทองทำเมืองบน

ลดหลั่นชั้นชอบกล                 ยลอยากนิทรคิดแนบนอน

๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า          รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน

เจ็บไกลในอาวรณ์                   ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง

๏ รังนกนึ่งน่าซด                    โอชารสกว่าทั้งปวง

นกพรากจากรังรวง                 เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน

๏ไตปลาเสแสร้งว่า                 ดุจวาจากระบิดกระบวน

ใบโศกบอกโศกครวญ            ให้พี่เศร้าเจ้าดวงใจ

๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง         เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน

ผักหวานซ่านทรวงใน             ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ๚

ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาว ข้างบนนี้ ผมเห็นอาหารที่เป็น หมู สองเมนู ครับ
ต่อด้านล่างครับ V
บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 12:10

๏ หมูแนมแหลมเลิศรส       พร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชาง       ห่างห่อหวนป่วนใจโหย

ส่วนผสม

    เนื้อหมูนึ่งหรือลวกให้สุกหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 1 ถ้วย
    หมูสามชั้นนึ่งหรือลวกให้สุกหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ½ ถ้วย
    หนังหมูหั่นตามยาวบางๆ ลวกให้สุก ¼ ถ้วย
    หัวกะทิตั้งไฟพอเดือดทิ้งไว้ให้เย็น 3-4 ช้อนโต๊ะ
    ส้มซ่าปอกผิวออกคั้นเอาแต่น้ำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
    ผิวส้มซ่าหั่นฝอย 1 ช้อนชา
    กระเทียมดองหั่นตามยาวกลีบบางๆ 20 กลีบ
    ข้าวคั่ว ¼ ถ้วย
    ถั่วลิสงคั่วปอกเปลือกบุบพอแหลก ¼ ถ้วย
    หอมแดงปอกเปลือกหั่นตามยาวบางๆ 5 หัว
    ข่าอ่อนโขลกละเอียด 2 ช้อนชา
    พริกชี้ฟ้าหั่นฝอย 5 เม็ด
    น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
    น้ำกระเทียมดอง 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
    เกลือป่น 2 ช้อนชา
    ใบทองลาง, ใบชะพลู, ผักกาดหอม

วิธีทำ

    ผสมน้ำส้มซ่า น้ำมะนาว เกลือ น้ำกระเทียมดอง น้ำตาลทราย ข่า ในชามผสม คนให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสเปรี้ยว เค็ม หวาน
    ใส่เนื้อหมู หนังหมู ลงไปผสม คนให้เข้ากันดี ใส่ถั่วลิสง ข้าวคั่ว ลงผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน
    จัดผักทั้งสามชนิดลงบนจาน ใส่หมูที่คลุกเคล้าแล้วลงไป ราดหน้าด้วยหัวกะทิ โรยด้วยหอมแดง กระเทียมดอง ผิวส้มซ่า และพริกชี้ฟ้า


บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 12:16

๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า       รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลในอาวรณ์       ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง

ส่วนผสม

    เนื้อหมูสับละเอียด ½ กิโลกรัม
    หอมใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ½ ถ้วย
    รากผักชีสับละเอียด 1 ช้อนชา
    กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
    พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
    น้ำปลา 1 ช้อนชา
    น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
    ถั่วลิสงโขลกละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
    ไข่เป็ด 10 ฟอง
    พริกแดงหั่นฝอย 3 เม็ด
    น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
    ผักชีเด็ดใบๆ

วิธีทำ

    ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่กระเทียมและรากผักชีลงผัดให้หอม ใส่หมูสับ หอมใหญ่ พริกไทยป่น ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย พอสุก ใส่ถั่วลิสง ผัดให้เข้ากัน ยกลงพักไว้
    เคาะไข่ใส่ชาม คนพอเข้ากัน ใช้กระทะก้นแบน ตั้งไฟอ่อนๆ ทาน้ำมันให้ทั่ว พอกระทะร้อน ใช้มือจุ่มไข่โรยเป็นเส้นๆ ให้เป็นตารางแผ่นสี่เหลี่ยม กว้างยาวประมาณ 4-5 นิ้ว วางพริกแดงและผักชีตรงกลาง ตักไส้ที่ผัดไว้ใส่ตรงกลาง แล้วห่อให้เป็นสี่เหลี่ยมพอคำ จัดใส่จาน

ที่มาครับ  http://www.papamenu.com/


บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 12:21

หรุ่ม กับ ล่าเตียง เหมือนกันไหมคะ
บันทึกการเข้า
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 12:29

แตกต่างกันนิดเดียวตรงที่ส่วนผสมของ ล่าเตียง จะมีเนื้อกุ้งสับ ครับ ส่วน หรุ่ม จะไม่มีครับ วิธีทำเหมือนกันครับ อาจารย์เทาชมพู
บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 10 ก.พ. 12, 12:41

น้ำพริกอ่อง+แคบหมู
ลักษณะของน้ำพริกอ่อง ต้องมีความข้น และไม่แห้ง จะมีรสชาติเผ็ดเปรี้ยว หวานกลมกลืนกัน แต่ไม่นิยมปรุงความหวานจากน้ำตาล เพราะน้ำพริกอ่องมีส่วนผสมของหมูติดมัน ถ้าใส่น้ำตาลลงไปจะทำให้เลี่ยน นิยมความหวานจากธรรมชาติของมะเขือสับ และปรุงรสเปรี้ยวด้วยมะเขือเทศกับน้ำส้มมะขามเปียก

ส่วนผสม
1. เนื้อหมูสับ 1/2 ก.ก.
2. มะเขือเทศสีดา 15 ลูก
3. ผักชี ต้นหอมอย่างล่ะ 2 ต้น
4. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมันสำหรับผัด 4 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมพริกแกง
1. พริกแห้ง 10 เม็ด
2. หอมแดงสัง 4 ช้อนโต๊ะ
3. กระเทียมสับ 4 ช้อนโต๊ะ
4. รากผักชี 5 ราก
5. กะปิ 1 ช้อนชา
6. เกลือ 1 ช้อนชา
(โขลกทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด)

วิธีทำน้ำพริกอ่อง
1. นำเนื้อหมูมาสับให้ละเอียด
2. นำผักชีต้นหอมหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
3. นำมะเขือเทศหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
4. นำน้ำมันใส่กะทะ ใส่พริกแกงที่โขลกแล้วผัดให้หอม
5. ใส่มะเขือเทศลงผัด เติมน้ำปลา, น้ำตาล ชิมดูให้ได้รสชาติตามต้องการ ตักเสิร์ฟกินกับผักสดหรือแคบหมู



บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
ขนมครกยุคมืด
อสุรผัด
*
ตอบ: 7


สวยคะ


ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 13 ก.พ. 12, 08:30

สมาชิกใหม่ขอรายงานตัวคะ  อายจัง

รายการอาหารที่ทานทุกวันเลย.... กระเพราหมูสับ บางครั้งก็ไข่เจียว บางครั้งก็ไข่ดาวคะ

นำหมูมาสับ ผัดใส่กระทะให้สุก บุบพริกนิดหน่อย หรือ มาก ๆ ก็ได้คะ ใส่น้ำพอขลุกขลิก ใส่ใบกระเพราปิดท้าย แล้วราดข้าวสวยร้อน ๆ อิ่มสบาย ๆ คะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เนทคะ  ยิ้มเท่ห์


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 13 ก.พ. 12, 10:36

หมูสับปลาเค็ม  มีหลายตำรา  เลือกตำราคุณหมึกแดงค่ะ
เครื่องปรุง
       1.หมูบด                         150 กรัม
       2.มันหมูบด                      50 กรัม
       3.ปลากุเลาดิบเค็มสับ          50 กรัม
       4.พริกไทยขาวป่น              1 ช้อนชา
      
วิธีทำ

    1.ในชามผสม ใส่หมูบด มันหมูบด ปลากุเลาดิบเค็มสับ พริกไทยขาวป่น ลงไปผสมให้เข้ากัน
    2.นำหมูที่ผสมแล้วมาปั้นเป็นก้อนแบน ๆ รี ๆ หนาประมาณ 2 ซม.
    3.เรียงหมูปั้นแล้วลงในภาชนะสำหรับเข้าไมโครเวฟ (จะนำไปนึ่งก็ได้) ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร
    4.นำเข้าเตาไมโครเวฟกด Stream นานประมาณ 10-15 นาที หรือแล้วแต่ปริมาณของวัตถุดิบ น้ำหนักน้อยก็ใช้เวลาน้อย น้ำหนักมากก็ใช้เวลามาก จนกระทั่งสุก
    5.นำจานที่นึ่งหมูมาวางซ้อนกับจานเย็นอีกจานหนึ่ง และนำเสิร์ฟทันทีกับข้าวสวย

ภาพจากอินทรเนตร


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 13 ก.พ. 12, 10:48

ขอนำเสนอ "ไส้อ่อนหมูทอดกรอบ"

ใครไม่ทานไส้หมูคงจะต้องเปลี่ยนใจสักหน่อยครับ เมนูนี้เป็นอาหารจีน ติดใจจึงนำมาฝาก (ร้านเก่าแก่สมัยบะหมี่ราชวงศ์)

1. นำไส้อ่อนมาล้างให้สะอาด ต้มให้สุกควรใส่เครื่องเทศนิดหน่อยเพื่อดับกลิ่นคาว
2. ผ่าไส้หมูออกให้แบนบาง ล้างให้สะอาด
3. นำลงทอดในน้ำมันมากหน่อย จนเกรียมเหลือง
4. จะได้ไส้อ่อนหมูทอดกรอบ แผ่นสี่เหลี่ยมสีน้ำตาล กรอบ ๆ
5. เสริฟพร้อมซีอิ๊วหวานดำ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 13 ก.พ. 12, 15:57

คะน้าหมูกรอบ ค่ะ

เครื่องปรุง
คะน้าอ่อนๆ  1 กำ ประมาณ 6-8 ต้น
กระเทียมกลีบใหญ่ 2 กลีบ
หมูกรอบ  หั่นเป็นชิ้นๆ
พริกขี้หนู  น้ำมันหอย  น้ำตาล น้ำปลา  ซีอิ๊วขาวเล็กน้อย

วิธีทำหมูกรอบ
๑ หมักหมูสามชั้นกับน้ำปลา หรือซี้อิ๊ว ประมาณครึ่งชั่วโมง
๒ นำขึ้นมาทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ   แล้วคลุกแป้งข้าวโพดให้ทั่ว
๓ ทอดหมูในน้ำมันร้อนจัดๆ จนสุก  ใช้น้ำมันมากๆ เพื่อไม่ให้ติดกระทะ
๔ เอาขึ้นมาพักไว้ให้เย็น

๑. ตำกระเทียม กับพริกขี้หนูพอหยาบๆ
๒. ล้างผักคะน้าให้สะอาด นำมาหั่นเป็นท่อนสั้นๆ
๓. หั่นหมูกรอบชิ้นหนาพอประมาณ พักไว้
๔. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอร้อนใส่กระเทียมกับพริกขี้หนูลงผัดพอหอม  ใส่หมูกรอบ ผักคะน้า 
๕  ใส่น้ำซุปหรือน้ำเปล่า ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย พริกไทยป่น
๖  ใช้ไฟแรง ผัดให้เร็ว  พอเข้ากันดีก็ยกลง


บันทึกการเข้า
นารีจำศีล
อสุรผัด
*
ตอบ: 46



ความคิดเห็นที่ 42  เมื่อ 14 ก.พ. 12, 17:48

หรุ่มกับล่าเตียง ไม่ได้ต่างกันที่ไข่เหรอคะ ฮืม
บันทึกการเข้า
naitang
หนุมาน
********
ตอบ: 5823


ความคิดเห็นที่ 43  เมื่อ 15 ก.พ. 12, 19:54

สวัสดีครับ
ขออนุญาตรายงานตัวและเข้าร่วมวงสนทนาด้วยครับ (หลังจากหายไปกับสายน้ำที่ท่วมมานาน)

ผมจะขอเข้าร่วมวงด้วยเรื่องของเมนูซี่โครงหมูย่างที่คุณเทาชมพูกล่าวถึงในช่วงแรกๆของกระทู้ครับ

ซี่โครงหมูย่างนั้นมีตำราการทำอยู่มากมาย ที่เคยเห็นการทำของไทยในสมัยก่อนนั้น อย่างหนึ่งก็คือ จะย่างด้วยถ่านที่ใส่กาบมะพร้าวลงไปด้วย แล้วก็ใช้ใบตองปิดทับซี่โครงเพื่อให้หอม จะเรียกว่าเป็นลักษณะของการรมควันก็คงจะไม่ผิด เป็นการย่างที่ใช้เวลาและใจเย็นมากๆ ก็อร่อยสุดๆเหมือนกัน

ปัจจุบันนี้ ซี่โครงหมูย่างคงจะจำแนกออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ แบบฉ่ำ (แฉะ) และแบบแห้ง ซึ่งเครื่องหมักหรือเครื่องปรุงก็น่าจะแยกออกได้เป็น 3 ลักษณะเช่นกัน คือ เครื่องหมักแห้ง (เป็นผง หยาบบ้าง ละเอียดบ้าง) และเครื่องหมักที่เป็นของเหลวข้น (พวกซอสบาบีคิวต่างๆ) และเครื่องหมักแบบไทย (พวกหอม กระเทียม เกลือ พริกไทย น้ำปลา ซีอิ๊ว ฯลฯ)

จะใช้เครื่องหมักแบบใหนก็อร่อยทั้งนั้นแหละครับ แต่ความอร่อยถึงระดับสุนทรีย์นั้นมันไม่อยู่แต่เพียงเรื่องของรสที่ติดอยู่บนผิวเนื้อเท่านั้น มันผนวกไปด้วยรสที่เข้าแทรกอยู่ในเนื้อ ความนุ่มเปื่อย และความร่อนของเนื้อจากกระดูกด้วย

ผมไปได้ความรู้มาจากรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ The Great Falls ในประเทศซิมบับเว ว่า การหมักให้ได้ความอร่อยเป็นที่สุดนั้น นอกจากเครื่องปรุงแล้ว จะต้องคลุกเคล้าเครื่องปรุงแล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 4 คืน เนื้อจึงจะนุ่มเปื่อยละมุนละไม แล้วก็ไปได้ความรู้มาจากหลายๆแห่งในซีกโลกตะวันตก ซึ่งมี 2 วิธีการ  คือเริ่มย่างด้วยไฟค่อนข้างแรง เมื่อน้ำเนื้อเริ่มเอ่อในด้านบน จึงค่อยกลับด้าน พอผิวเริ่มแห้งเท่าๆกัน ก็ใช้ไฟอ่อนรุมๆไปจนสุกทั่วกัน วิธีการนี้นัยว่าเพื่อให้น้ำเนื้อยังคงเก็บอยู่ภายใน และอีกวิธีการหนึ่งคือย่างด้วยไฟอ่อนๆ รุมๆไปจนสุก วิธีการที่สองนี้จะได้เนื้อที่เปื่อยนุ่มจริงๆ เป็นที่ชอบของคนมีอายุ

ขอเว้นวรรคสักครู่ครับ       

 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 44  เมื่อ 15 ก.พ. 12, 20:07

ยินดีมากที่คุณตั้งกลับมาเรือนไทยอีกครั้งค่ะ  ขอต้อนรับด้วยซี่โครงหมูย่าง แถมแจกันดอกไม้    ในโอกาสที่กลับมาร่วมวง
นึกๆอยู่เหมือนกัน ว่าคุณตั้งจะถูกกระแสน้ำพัดพาไปไกล  กลับมาไม่ได้เสียแล้ว   ยิ้มเท่ห์


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 19 คำสั่ง