เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 6
  พิมพ์  
อ่าน: 74914 เมนูหมู หลายเมนู
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 03 ก.พ. 12, 23:16

ขอเปิดฉากใหม่ พาไปทางตะวันตก
ตามประวัติ  หมูเป็นที่รู้จักของฝรั่งมาตั้งแต่ 1500 ปีก่อนคริสตกาล    เมื่อสเปนส่งเสริมให้คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสออกมาหาเส้นทางใหม่เพื่อเดินทางไปอินเดีย    พระราชินีอิซาเบลลาทรงบังคับให้เขานำหมูลงเรือไปด้วย 8 ตัว  ในเที่ยวเดินเรือไปคิวบา
แต่คนที่นำหมูไปเผยแพร่ในอเมริกาในยุคที่ยังมีแต่ชนเผ่าอินเดียนแดงครองทวีปอยู่  ชื่อเฮอร์นานโด เดอ โซโต  ผู้หอบหิ้วหมู 13 ตัวข้ามทะเลจากยุโรป  ไปถึงอ่าวเทมปาในฟลอริดา เมื่อค.ศ.  1539   ชาวอินเดียนแดงชอบรสชาติของหมูมาก


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 04 ก.พ. 12, 09:40

ในสมัยที่ยังไม่มีตู้เย็น    วิธีเก็บเนื้อหมูไว้กินนานๆ คือทำหมูแช่เกลือ (salt pork)    ด้วยการต้มน้ำ ใส่เกลือกับดินประสิวลงไป  แล้วแช่เนื้อหมูทั้งสันใน ขาหมู หมูสามชั้นฯลฯ ลงไปในถังไม้    ให้น้ำเกลือรักษาสภาพหมูไว้ไม่ให้เน่า
แต่เวลากิน จะต้องเอาหมูออกมาแช่น้ำ ล้างหลายๆหน ให้สะอาดก่อนเอาลงทอด      มิฉะนั้นดินประสิวที่ผสมอยู่ในน้ำเกลือจะเป็นพิษแก่ร่างกายได้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 05 ก.พ. 12, 09:21

ฝรั่งมีเมนูหมูแบบหนึ่งที่ถือว่าเป็นอาหารชั้นยอด   ทำกันเฉพาะในงานเลี้ยงสำคัญๆ เท่านั้น เพราะกรรมวิธีใหญ่โตและยุ่งยากเกินกว่าครอบครัวเล็กๆจะทำกินกันเป็นมื้อเย็น เอาขึ้นโต๊ะอาหารในครัวหรือห้องรับประทานอาหารได้
นั่นคือ หมูหัน (roast pig)
ถ้าหากว่าเป็น pork หมายถึงหมูเป็นชิ้นๆ  อย่างนี้ละก็ถือว่างานเล็ก   แต่ถ้าเป็น pig ก็กลายเป็นงานใหญ่ เพราะเป็นหมูทั้งตัว

หมูหันของเขา เอาหมูขนาดกำลังดีมาควักไส้ออก ล้างให้สะอาดแล้วย่างไฟอย่างระมัดระวัง   จนกระทั่งสุกเหลืองเสมอกันทั้งตัว   เสร็จแล้วก็เอาขึ้นโต๊ะ จัดไว้ในท่าหมอบ  หัวหูก็อยู่ครบ  มองสบตาคนกินอยู่กลางโต๊ะ      มีผลไม้และผักที่กินกับหมูแก้เลี่ยนกองอยู่รอบๆตัว   ที่นิยมกันก็คือแอปเปิ้ล เอาใส่ปากไว้ลูกหนึ่งให้หมูนอนคาบอยู่ด้วย


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 05 ก.พ. 12, 11:04

หมูเค็มหรือหมูแช่เกลือในสมัยก่อน  คงจะเค็มมาก  ขนาดล้างน้ำเกลือหลายน้ำแล้วก็ยังเค็มอยู่ดี    เวลากินจึงไม่ใช่ว่าทอดเฉยๆ   มีวิธีชุบแป้งทอดจนกรอบ   พอเข้าปาก แป้งจะลดความเค็มลงได้มาก
แต่ถ้าเป็นหมูแฮมหรือเบคอน ก็กินทั้งอย่างนั้น ไม่ต้องชุบแป้ง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 05 ก.พ. 12, 19:51

อาหารดั้งเดิมอีกอย่างหนึ่งคือถั่วอบ ใส่หมูเบคอน   ถั่วอบออกหวานๆ ตัดกับรสเค็มของหมูสามชั้นแช่เกลือที่หั่นเป็นชิ้นบางๆ
รูปทางซ้าย ตักถั่วราดหน้าขนมปังด้วยค่ะ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 05 ก.พ. 12, 20:04

สเต็คหมู


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 05 ก.พ. 12, 20:36

 หมูทอดกับสับปะรด


บันทึกการเข้า
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 08 ก.พ. 12, 12:17

แกงฮังเล อาหารพื้นเมืองของชาวล้านนา ครับ
เครื่องปรุง
1.เนื้อหมูสันนอก 1 กิโลกรัม
2.หมูสามชั้น 500 กรัม
3.ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำ 4 ถ้วย
5.กระเทียมปอกเปลือก 1/4 ถ้วย
6.ขิงสดหั่นเป็นเส้นบาง 1/4 ถ้วย
7.น้ำมะขามเปียก 3 - 4 ช้อนโต๊ะ
8.ผงแกงฮังเล หรือผงกะหรี่ 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง
1.พริกแห้ง 5 เม็ด
2.ข่าหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
3.ตะไคร้หั่นบาง 1 ช้อนโต๊ะ
4.กระเทียมปอกเปลือกหั่นเล็ก 1 ช้อนโต๊ะ
5.หอมแดงปอกเปลือกหั่นบาง 2 ช้อนโต๊ะ
6.กะปิ เกลือป่น อย่างละ 1 ช้อนชา
โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด

วิธีทำ
1. หั่นหมูทั้งสองอย่างเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 2 x 2นิ้ว เคล้าด้วยซีอิ๊วดำหมักไว้ 2. เคล้าเครื่องแกงกับหมูเข้าด้วยกัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่งโมง
3. ใส่หมูลงในหม้อ ใช้ไฟอ่อน ๆ ผัดพอหมูตึงตัว ใส่น้ำลงในหม้อ ปิดฝา ตั้งเคี่ยวไปเรื่อย ๆ
4. ใส่ขิงซอย กระเทียมที่ปอกเปลือกเป็นกลีบ ใส่ผงแกงฮังเลหรือผงกะหรี่ ตั้งเคี่ยวจนหมูนุ่ม และน้ำงวด
5. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก ชิมรสให้ได้ 3 รส เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ถ้าอ่อนเค็มให้เติมเกลือ


บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 08 ก.พ. 12, 12:18

น้ำพริกอ่อง
เครื่องปรุง
1.หมูสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
2.พริกแห้งเม็ดใหญ่ปิ้งให้หอม 7 เม็ด
3.หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
4.กระเทียม 1 หัว
5.กะปิ 2 ช้อนชา
6.เกลือ 1 ช้อนชา
7.มะเขือเทศลูกเล็กซอย 2 ถ้วย
8.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
9.น้ำซุป (น้ำต้มกระดูกหมู) 1/2 ถ้วย
10.กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1 โขลกพริกแห้ง เกลือ กระเทียม หอมแดง กะปิ ให้ละเอียด
2 ใส่น้ำมันลงกระทะพอร้อนใส่น้ำพริกลงผัดแล้วใส่หมูสับมะเขือเทศซอยน้ำซุปจากนั้นผัดให้แห้งเป็นน้ำขลุกขลิก ชิมดู
รับประทานกับผักสด หรือผักลวกก็ได้ เช่น แตงกวา กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี ผักชี ยอดขี้เหล็กหลวง


บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 08 ก.พ. 12, 12:22

ลาบหมูภาคเหนือ

ส่วนประกอบ

    หมูสันในบดละเอียด 500 กรัม
    ตับหมูลวก 150 กรัม
    ใส้หมูต้มสุก 150 กรัม
    เลือดหมู (คั้นด้วยตะไคร้) 1 ช้อนโต๊ะ
    เครื่องเทศสำหรับลาบ 1 ช้อนโต๊ะ
    มะแขว่นโขลกละเอียด 1/2 ช้อนชา
    พริกขี้หนูแห้งคั่วป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
    ข่าซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
    ตะไคร้ซอย 2 หัว
    รากผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
    เกลือ 1/2 ช้อนชา
    กระเทียม 2 หัว
    หอมแดง 3 หัว
    ต้นหอมผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
    ผักไผ่ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
    กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
    หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

- นำเครื่องเทศสำหรับลาบมาโขลกรวมกับรากผักชีซอย ข่าซอย กระเทียม หอมแดงให้ละเอียดเตรียมไว้ ถ้าจะให้ได้รสดั้งเดิม ลองหาซื้อพริกลาบของคนเหนือมาใช้แทน
- นำตับหมูลวกและไส้หมูต้มสุกมาหั่นเป็นชิ้นพอคำพักไว้
- นำหมูสับใส่ลงในชามเติมเลือดที่คั้นด้วยตะไคร้แล้ว และใส่เครื่องในที่หั่นไว้ตามลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ใส่เครื่องปรุงที่โขลกเตรียมไว้แล้วลงไป คนให้เข้ากัน เติมเกลือป่น พริกป่น และมะแขว่น ชิมรสตามชอบ(ถ้าไม่เคยทานลาบสดๆ ก็อย่าพึ่งชิมในตอนนี้เลยเอาไว้ไปชิมในขั้นตอนคั่วดีกว่า)
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ นำลาบที่ปรุงได้ที่แล้วไปคั่วให้สุกชิมรสก่อนยกลง ใส่ต้นหอมผักชีซอยและผักไผ่ซอยลงไปคนให้เข้ากัน ตักใส่จานเสิรฟโรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว รับประทานกับผักสดและเครื่องเคียง


บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 08 ก.พ. 12, 12:27

ลาบหมูทอด : fried minced meatballs
 
“ลาบหมูทอด” บางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นปากคุ้นลิ้น ส่วนใครที่เคยกินแล้วก็คงจะคุ้นในรสชาติกันดี และจะว่าไปแล้วลาบหมูทอดนี่ ถือเป็นอาหารที่จะกินเล่นเป็นกับแกล้มก็ได้ หรือกินเอาหนักท้องเป็นกับข้าวก็ดี ซึ่งลาบหมูทอดนั้นหากว่าทอดดีๆแล้ว จะให้รสชาติของลาบหมูที่กรอบนอกนุ่มใน กินแล้วได้รสชาติแตกต่าง(เล็กน้อย)จากลาบหมูปกติไปอีกแบบ ว่าแล้วเราก็เตรียมเครื่องปรุงและไปลงมือทำลาบหมูทอดกันดีกว่า


เครื่องปรุง สำหรับรับประทาน 2 คน

    หมูสับ 150 กรัม
    ข้าวคั่วบดละเอียด 1 ชต.
    น้ำปลา 1 1/2 ชต.
    น้ำมะนาว 1 ชต.
    น้ำตาลทราย 1 ชช.
    แป้งอเนกประสงค์ 1/2 ชต.
    พริกป่น 1/2 ชต.
    หอมแดงซอยละเอียด 2 ชต.
    ใบสะระแหน่ซอยละเอียด 3 ชต.
    ไข่ขาว 1/2 ฟอง (ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
    น้ำมันพืชสำหรับทอด 2-3 ชต.
    ผักสำหรับทานเคียงเช่น ผักกาดขาว สะระแหน่ ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ แตงกวา พริกแห้งทอด

วิธีทำ ง่าย ๆ   นำเครื่องปรุง ทุกอย่างมา ผสมกัน แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน  แล้วก็ ปั้น ๆ ให้แบนนิด ๆ แล้วก็นำไปทอด

ที่มาครับ  http://board.postjung.com/543174.html


บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 08 ก.พ. 12, 20:01

^
น่ากินมากค่ะ
เอาเมนูหมูของภาคกลางมาฝากบ้าง

น้ำมันพืช                                3         ช้อนโต๊ะ
หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้น              200      กรัม
กระเทียมสับ                       2         ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย                         25        กรัม
กะปิ                                  40        กรัม
น้ำละลายกะปิ                      80        กรัม
น้ำตาลปี๊บ                           40        กรัม
ซอสเห็ดหอม ตราเด็กสมบูรณ์       2         ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาวสูตร 1 ตราเด็กสมบูรณ์     2         ช้อนชา
น้ำมะขามเปียก                      20        กรัม
ใบมะกรูดฉีก                         3          ใบ
พริกขี้หนูสดซอย                    10       กรัม

วิธีทำ

-     ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใส่หมูสามชั้นลงผัดจนสุกเหลือง ใส่กระเทียม ตะไคร้ ผัดจนหอม ตามด้วยกะปิที่ละลายกับน้ำ  น้ำตาลปี๊บ ซอสเห็ดหอม ตราเด็กสมบูรณ์  ซีอิ๊วขาวสูตร 1 ตราเด็กสมบูรณ์ น้ำมะขามเปียก และใบมะกรูด ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง  โรยหน้าด้วยพริกขี้หนูสดซอย พร้อมรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ

http://www.postalcustoms.com


บันทึกการเข้า
หล่อลากดิน
อสุรผัด
*
ตอบ: 11



ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 21:19

เรียน คุณเทาชมพู ที่เคารพ
ผมติดตาม เรือนไทยมานานพอสมควร แต่ไม่ได้โพสท์อะไรเท่าไร
ผมได้ความรู้มากมายจากที่นี่ ผมประกอบอาชีพเป็นพ่อครัวอยู่ที่ออสเตรเลีย
สนใจเรื่องราวในฟอรั่ม วิเสทนิยม มาก หากผมจะขออนุญาต เก็บข้อมูล
โดยการสำเนาไปไว้ที่เฟสบุคผม และเขียนที่มาว่าจากเวปเรือนไทยและให้เครดิตเจ้าของเรื่องต่างๆ กำกับไว้
จะเป็นไปได้หรือไม่ครับ ที่ผมสนใจเรื่องแรกนี้คือกระทู้นี้ครับ ผมอยากเก็บข้อมูลไว้น่ะครับ
ขอบพระคุณครับ
บันทึกการเข้า

สิ่งที่สอนคนเราไม่ได้ ก็คือ " สามัญสำนึก "

เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 21:40

ไม่ขัดข้องค่ะ   ขอบคุณที่ทำลิ้งค์ไว้ว่ามาจากเรือนไทย และกระทู้ไหน
คิดว่าท่านอื่นๆที่โพสต์ความเห็นก็คงไม่ขัดข้องเช่นกัน
แต่ถ้าท่านไหนไม่ประสงค์จะให้โพสต์ข้อความของท่านลงใน FB คุณหล่อลากดิน    กรุณามาลงชื่อแจ้งไว้ด้วยค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 09 ก.พ. 12, 21:45

ยกมาจากกระทู้ อาหารไทยในอดีต
หมูฆ้อง
ตำรับ นางต่อม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

ชื่อ "หมูฆ้อง" น่าจะเป็นอย่างเดียวกับอาหารฮกเกี้ยนที่นิยมกันอยู่ในภูเก็ต "หมูฮ้อง"   เพราะเป็นหมูสามชั้นเคี่ยวกับซีอี๊วแบบเดียวกัน

เครื่องปรุง
๑   หมูสามชั้น
๒   ซีอิ๊วดำ
๓   น้ำตาลปึกหรือน้ำตาลหม้อ
๔   พริกไทยเม็ด
๕   กระเทียม

วิธีทำ
๑  ล้างหมูให้สะอาด  หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ ๑ นิ้วครึ่ง
๒  ตั้งกระทะพอร้อน  ใส่หมูลงไป ปิดฝา  ให้น้ำมันไหลออกจากหมู
๓  นานๆจึงคนสักครั้ง  แล้วปิดฝาไว้อีก 
๔  เมื่อหมูระอุดีแล้ว  ใส่ซีอิ๊วดำลงไปให้มากจนจับเนื้อหมูเป็นสีแดงแก่  แล้วปิดฝาไว้อีกครั้ง
๕  ปอกกระเทียม ทั้งกลีบ  พริกไทยบุบพอแตก ใส่ลงในกระทะ คนให้เข้ากับหมู
๖  เมื่อเริ่มหอมกลิ่นกระเทียมพริกไทย   ก็ใส่น้ำตาลปึกหรือน้ำตาลหม้อลงเล็กน้อย  คนอีกครั้งให้เข้ากัน
๗  เมื่อหมูและเครื่องเทศเข้ากันดีแล้ว  ใส่น้ำลงไปประมาณครึ่งกระทะ
๘  ปิดฝา เคี่ยวต่อไปจนน้ำงวด   ถึงจะยกลงได้

ถ้าไม่กลัวอ้วน หรือไขมันในเส้นเลือด   อาหารจานนี้น่าทำ  หมูฆ้องคงอร่อยเพราะหมูสามชั้นเนื้อนิ่มอยู่แล้ว  รสก็มีทั้งเค็มและหวานน้อยๆ  ยังหอมกระเทียมพริกไทยอีกด้วย
หมูฆ้องเก็บไว้กินได้หลายวัน  แต่ต้องอุ่นทุกวัน


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 19 คำสั่ง