|
ติบอ
|
|
ความคิดเห็นที่ 120 เมื่อ 22 มิ.ย. 06, 12:38
|
|
ไม่ส่งได้มั้ยคุณหมู ภาษาอะไรก็ไม่รู้มนุษย์อย่างผมอ่านไม่ออกน่ะ
เดาว่า 2 บรรทัดแรกอาจจะเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ
ศิษย์รอศิษย์บ่นร้อง......... เพราะขยัน
ครูจักบอกครูปัน.............. กิจให้
นิทานสนุกรางวัล............. ล่อใจ ... มาแฮ
เรียนเสร็จไซร้จักได้......... ทดสอบปัญญา
ผิดกี่ที่ คุณหมูซาดิ๊ดโปรดพิ๊ดจาระนาด้วยคั๊บ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
|
ความคิดเห็นที่ 121 เมื่อ 22 มิ.ย. 06, 13:25
|
|
คิดถึงเรือนไทยยุคโน้นอยู่เหมือนกันครับ
ที่ผมจะพูดนี้ไม่เกี่ยวโดยตรงกับกลโคลง แต่ผมเห็นว่าเป็นเรื่องคาบเกี่ยวกัน จำได้ว่าเราเคยคุยกันเรื่องนี้ในเรือนไทยกระทู้ไหนก้ไม่รู้นานแล้ว ว่าด้วยการที่เขียนอะไรออกมาอย่างหนึ่งแล้วสามารถอ่านเป็นกาพย์ยานีก็ได้ เป็นโคลงก็ได้
จำได้ว่าคนหนึ่งที่เล่นอย่างนี้ คือกวีชิต บุรทัต แต่จำผลงานของท่านไม่ได้แล้วครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
หมูน้อยในกะลา
|
|
ความคิดเห็นที่ 122 เมื่อ 22 มิ.ย. 06, 14:25
|
|
เยี่ยมมาก คุณตะบอง เอ๊ย ติบอ
ผิดหลายที่อยู่ ( สำหรับผมนั้น ฉันทลักษณ์สำคัญนักล่ะ..ตอนนี้เลยไม่เน้นไพเราะ เน้นสนุกกับกลและฉันทลักษณ์ก่อนล่ะครับ )ลองดูฉันทลักษณ์ใหม่อีกสักติ๊ด..
คุณติบอจับทางโคลงโต้คุณครูของผม ถูกแล้วครับ (บอกให้ว่าวรรคแรก ถูกต้องทุกคำครับ)
ระหว่างครูยังไม่มา ผมขอแอบไปงีบก่อน ค่ำๆจะแว้บมาใหม่
เรื่องที่คุณพระนิลคุยถึงอยู่นั้นน่าสนใจเหมือนกันครับ ผมเคยเห็นผ่านๆตา และเคยอ่านอยู่ครั้งหนึ่ง เดี๋ยวขอตัวไปทบทวนก่อนครับจะได้มีรายละเอียดมาคุยด้วยได้
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
CrazyHOrse
|
|
ความคิดเห็นที่ 123 เมื่อ 23 มิ.ย. 06, 02:07
|
|
เป็นกาพย์ฉบังนะครับ กาพย์ยานียังนึกไม่ออกว่าจะทำยังไง
ยามเราเคียงคู่เจ้าชวน ชมชื่นป่าสวน รื่นรมย์ร่มไม้ใบไหว
เมื่อต้องลมตราตรึงใจ เจ้าจะอยู่ไกล หรือใกล้พี่นี้ไม่ลืม
ยามเราเคียงคู่เจ้า ชวนชม
ชื่นป่าสวนรื่นรมย์ ร่มไม้
ใบไหวเมื่อต้องลม ตราตรึง ใจเจ้า
จะอยู่ไกลหรือใกล้ พี่นี้ ไม่ลืม
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
|
|
|
|
CrazyHOrse
|
|
ความคิดเห็นที่ 124 เมื่อ 23 มิ.ย. 06, 14:16
|
|
คราวนี้ลอง ทวิภว ของกาพย์สุรางคนางค์กับโคลงสุภาพบ้าง
*โคลงสุภาพ*
พี่เดินเคียงคู่น้อง ชวนดู
ปูวิ่งแล่นลงรู เร่งร้อน
แทรกซอนสู่ทรายซู่ ซ่าซัด สะบัด
ว่อนวาบกระจายซ้อน หลีกลี้ หนีหาย
*กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘*
พี่เดินเคียงคู่ น้องชวนดูปู
วิ่งแล่นลงรู เร่งร้อนแทรกซอน
สู่ทรายซู่ซ่า ซัดสะบัดว่อน
วาบกระจายซ้อน หลีกลี้หนีหาย
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
|
|
|
|
CrazyHOrse
|
|
ความคิดเห็นที่ 125 เมื่อ 23 มิ.ย. 06, 14:22
|
|
มือไวผิดอีกแล้วครับ กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ ครับ ไม่ใช่ ๒๘
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
|
|
|
|
CrazyHOrse
|
|
ความคิดเห็นที่ 126 เมื่อ 23 มิ.ย. 06, 14:32
|
|
ถ้าเป็นกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ จะเขียนให้มีทวิภวกับโคลงดั้นได้ง่ายเพราะจำนวนคำในแต่ละบทเท่ากัน และบังคับไม่มากนักครับ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
|
|
|
|
CrazyHOrse
|
|
ความคิดเห็นที่ 127 เมื่อ 23 มิ.ย. 06, 15:24
|
|
ทวิภวของวิวิธมาลีโคลงดั้นกับกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ ครับ
@ วิวิธมาลีโคลงดั้น @
บรรยายยามเมื่อผู้ ปกครอง
เหลือจะเลวระยำ ถ่อยถ้อย
วาจามุ่งประลอง ทำเก่ง
ท่องแต่ธรรมล้วนร้อย หลอกลวง
@ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ @
บรรยายยามเมื่อ
ผู้ปกครองเหลือ
จะเลวระยำ
ถ่อยถ้อยวาจา
มุ่งประลองทำ
เก่งท่องแต่ธรรม
ล้วนร้อยหลอกลวง
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
|
ความคิดเห็นที่ 128 เมื่อ 23 มิ.ย. 06, 18:14
|
|
ขอบคุณมากครับ
เหมือนเราเคยมีกระทู้เก่าๆ คุยกันเรื่องนี้ เดี๋ยวต้องขอไปหาดูก่อน
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
|
ความคิดเห็นที่ 129 เมื่อ 23 มิ.ย. 06, 18:24
|
|
จากกระทู้เก่า ของคุณอุ้ย หลายปีแล้วครับ เอาบทกวีของคุณเนวรัตน์ พงศ์ไพบูลย? กวีซีไรท์ มาเล่าสู่กันฟัง บทกวีบทเดียวกัน ถ้าเขียนและอ่านอย่างนี้ หน้าตาเป็นกลอนสุภาพ
"...พิเศษสาร..เสกสร้าง..รังสรรค์สาร
ประจงจาร..ฉันทภาค..พริ้งพรายฉาย
เฉกเพชรพรรณ..เพราเฉิด..เลิศแลลาย
ระยับสาย..สะอิ้งส่อง..สร้อยกรองทรวง
ดวงดอกไม้..มิ่งแก้ว..โกมุทมาศ
เอี่ยมสะอาด..พิสุทธิ์ฉ่ำ..ซึ้งคำหลวง
โรจน์รุ่งดุจ..ดาวฤกษ์..เบิกราดวง
ประดับรวง..ผึ้งร่ำ..น้ำคำกวี
ชีวิตนิด..หนึ่งน้อย..นี้หนักนัก
ปราชญ์ประจักษ์..หลักแน่..ล้วนหน่ายหนี
ทุกข์สุขศักดิ์..สรรพทั่ว..ชั่วแลดี
ใช่ดีถี่..ถ้วนเท็จ..ล้วนเลศนัย
ใช้ชีพนี้..ชี้เช่น..เป็นแบบบท
ประจงจด..แนบเนื่อง..ร้อยเรื่องไข
หลากข้อแยบ..ยลคิด..จิตฤๅใจ
จักสอดใส่..สร้อยสว่าง..ไว้ทางกวี"
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นิลกังขา
แขกเรือน
สุครีพ
ตอบ: 1012
ทำงานราชการ
|
|
ความคิดเห็นที่ 130 เมื่อ 23 มิ.ย. 06, 18:29
|
|
บทเดียวกันนี่แหละ เรียงอีกแบบ กลายเป็นโคลงสี่
พิเศษสารเสกสร้าง ..... รังสรรค์
สารประจงจารฉันท ....... ภาคพริ้ง
พรายฉายเฉกเพชรพรรณ ...... เพราเฉิด เลิศแล
ลายระยับสายสะอิ้ง ........ ส่องสร้อยกรองทรวง
ดวงดอกไม้มิ่งแก้ว ....... โกมุท
มาศเอี่ยมสะอาดพิสุทธิ์ ....... ฉ่ำซึ้ง
คำหลวงโรจน์รุ่งดุจ ....... ดาวฤกษ์ เบิกรา
ดวงประดับรวงผึ้ง......... ร่ำน้ำคำกวี
ชีวิตนิดหนึ่งน้อย.............. นี้หนัก
นักปราชญ์ประจักษ์หลัก .........แน่ล้วน
หน่ายหนีทุกข์สุขศักดิ์ .......... สรรพทั่ว ชั่วแล
ดีใช่ดีถี่ถ้วน ............. เท็จล้วนเลศนัย
ใช้ชีพนี้ชี้เช่น ......... เป็นแบบ
บทประจงจดแนบ.......... เนื่องร้อย
เรื่องไขหลากข้อแยบ ........... ยลคิด จิตฤๅ
ใจจักสอดใส่สร้อย ........... สว่างไว้ทางกวีฯ
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
หมูน้อยในกะลา
|
|
ความคิดเห็นที่ 131 เมื่อ 25 มิ.ย. 06, 13:41
|
|
ขอนอกเรื่องมาเฉลยโคลงกล ก่อนสักนิดครับ
ศิษย์รอศิษย์บ่นร้อง......... เพราะขยัน
ครูบอกครูจักปัน.............. กิจให้
นิทานสนุกรางวัล............. มาล่อ..ใจแฮ
เรียนเสร็จทดสอบไซร้.......จักได้ ปัญญา
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
