|
ติบอ
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 29 ม.ค. 12, 17:37
|
|
ขออนุญาตนำภาพถ่ายโบราณมาฝากคุณ Siamese บ้างครับ ขนาดรองเท้าคนปกติ เทียบกับเท้าของสาวมัดเท้า และแก้วน้ำชา ดูแล้วค่อนข้างจะโหดร้ายทารุณอยู่ไม่น้อย... ถ้าจะต้องใช้ชีวิตชีวิตบนเท้าแบบนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 29 ม.ค. 12, 19:27
|
|
ขอบคุณครับคุณติบอ เห็นภาพเก่าเห็นแต่สตรีเลยวัยแรกรุ่นหลายภาพ ผมจึงขอนำภาพนักร้องหน้าตาเด็ก ๆ พันข้อเท้า โชว์เท้าเล็ก ๆ ให้ชมครับ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 29 ม.ค. 12, 21:17
|
|
เห็นคำถามของ อ.เทาชมพู เข้า ผมเลยลองถามคุณแม่ ว่า 1 'ฉุ่ง' ยาวสักแค่ไหน
มาเรียนให้อาจารย์ทราบว่า ผมลองวัดดูแล้ว 3 นิ้วจีนก็ตกราวๆ 4.5 นิ้วฟุตได้นะครับ
4.5 นิ้ว เท่ากับความยาวของไอโฟน 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 29 ม.ค. 12, 21:26
|
|
ประเพณีมัดเท้า ไม่เกี่ยวกับส่งเสริมสุขภาพหรือถือเคล็ดถือลางอะไร แต่เป็นค่านิยม ที่เริ่มต้นขึ้นจากในวังมาก่อน เคยอ่านพบว่าเป็นวิธีป้องกันมิให้นางสนมกำนัลที่ถูกส่งตัวเข้าวังหาทางเล็ดรอด ปีนกำแพงหนีไปได้ ก็เลยกลายเป็นค่านิยมว่าเท้าเล็กคือความงาม เด็กหญิงที่เป็นลูกผู้ดีจนถึงลูกชาวบ้านที่พอมีฐานะทั่วไป จะถูกมัดเท้าตั้งแต่อายุ ๕-๖ ขวบ แม้จะเจ็บปวดขนาดไหนจนร้องไห้กันทั้งแม่ทั้งลูก แม่ก็จำต้องทรมานลูกสาว เพื่อวันหนึ่งลูกเป็นสาวแต่งงานไป แม่ผัวจะได้ไม่รังเกียจ ว่ากันว่าสิ่งแรกที่แม่เจ้าบ่าวจะสำรวจลูกสะใภ้เมื่อนั่งเกี้ยวไปถึงบ้านฝ่ายชาย คือดูเท้าก่อนอื่นว่าได้มาตรฐานหรือเปล่า ท่าเดินกระโผลกกระเผลกของหญิงสาวจีน ถือเป็นท่าอ่อนช้อยดังสนต้องลม กลายเป็นเสน่ห์เซกซี่ที่สุดของผู้หญิง ลูกสาวขุนนางเศรษฐีจีน ไปไหนถ้าไม่นั่งเกี้ยวก็ต้องมีสาวใช้ห้อมล้อม เพื่อจะพยุงให้เดิน เพราะเธอเดินด้วยตัวเองไม่สะดวก
แต่...หญิงชาวบ้านระดับล่าง สาวใช้ หรือทาสหญิง ไม่ถูกมัดเท้า พวกนี้เมื่อถูกขายมารับใช้ในบ้านคนฐานะดี จะถูกมองว่าน่าเกลียดเพราะขนาดเท้าใหญ่ตามธรรมชาติ ถ้าใครอ่าน ทรัพย์ในดิน หรือ The Good Earth ของ Pearl S. Buck มีการพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน โอลันนางเอกของเรื่องที่เป็นสาวใช้และหญิงชาวนา ไม่ต้องมัดเท้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติบอ
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 29 ม.ค. 12, 23:39
|
|
พูดถึงปรเพีการมัดเท้ามาได้สักพักหนึ่งพอหอมปากหอมคอแล้ว ความวิบากบนถนนสายความงามชนิดถัดไปที่จะพูดถึง ยังอยู่กับหลักฐานโบราณในประเทศจีนอยู่ครับ..
หลักฐานที่ว่าไม่ใช่ภาพถ่ายหรือบันทึกชิ้นไหนๆ แต่เป็น 'ภาพเขียนสมัยราชวงศ์ถัง' หลายภาพ.. 'corset' ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติบอ
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 30 ม.ค. 12, 00:10
|
|
 สำหรับคนที่ยังสงสัยอยู่ ราชวงศ์ถังอายุราวๆสักพันกว่าปี (คิดให้ง่าย็ร่วมสมัยกับ 'ทวารวดี' ของไทยโดยประมาณ) คือ แปลว่าก่อนเมืองพระนครที่ทะเลสาบเขมรจะกลายเป็นเมืองเสียอีก
น่าอิจฉาประเทศเขตอบอุ่นไม่น้อยเลยครับ ที่เขามีของงามๆหลงเหลือมาให้เห็นกันได้นานๆ อยู่บ้านเราเมืองเรา ทั้งปลวก ทั้งฝน ทั้งรา ทั้งนิสัยคน และสภาพอาคาร ไม่เอื้ออำนวยให้เราได้เห็นหลักฐานโบราณวัตถุแบบนี้กันเลย เหอๆ...
ปล. คนเล่าเอง ขออนุญาตนอกเรื่องสักนิดเถอะนะครับ... เห็นภาพผู้หญิงสมัยราชวงศ์ถังเซตนี้ทีไร... ผมอดนึกถึง Norma Desmond ใน Sunset Boulevard ไม่ได้ทู้กที แปะเพลงนอกเรื่อง... ไม่ได้เกี่ยวกับ corset แต่ไปดูความงามอย่างวิบากชนิดไม่ยอมหมดงามกันสักนิดนะคราบบบบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 30 ม.ค. 12, 10:13
|
|
ยังมองไม่ออกว่า corset ของสาวราชวงศ์ถังเป็นแบบไหน แต่ corset หรือชุดชั้นรัดทรงของสาวยุโรปสมัยวิคตอเรียนเป็นแบบนี้ เอวเล็กสุดอันเป็นอุดมคติสุดยอดของสาวสมัยนั้นคือ 17 นิ้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 30 ม.ค. 12, 10:31
|
|
คำว่า corset น.ม.ส. ทรงใช้ว่า "เฝือก" อ่านแล้วก็เห็นภาพความอึดอัดรัดแน่นทรมานกายได้ดี รูปข้างล่างนี้ เป็นรูปทางการแพทย์ วิเคราะห์ถึงคอร์เซ็ตต์ว่ามีผลอย่างไรกับอวัยวะภายในของสตรีบ้าง เพราะ "เฝือก" ที่รัดแน่นจนท่อนกลางของร่างกายกลายเป็นนาฬิกาทรายไปนั้น ทำให้อวัยวะภายในถูกบีบอัด จนวางผิดที่ผิดทางไปหมด ส่งผลเสียต่อการทำงานของตับ ไต ไส้พุง โดยตรง โรคภัยที่ผู้หญิงสมัยนั้นเป็นกันบ่อยๆ คือเป็นลมหน้ามืดง่าย จนดูว่าสาวๆล้วนอ่อนแอบอบบางน่าทะนุถนอม ได้ข่าวว่าแฟนตายในสนามรบก็ล้มพับลงกับพื้น เห็นหนูวิ่งผ่านก็ซวนเซหน้ามืด เจอผู้ร้ายก็ตกใจร้องกรี๊ดล้มสลบ ที่จริงพวกหล่อนหายใจได้ลำบากเพราะเฝือกเจ้ากรรมพวกนี้ ประเพณีกำหนดให้สาวๆวัยรุ่นไปจนสาวเต็มตัวต้องใส่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพื่อให้รูปร่างสวยงาม อีกโรคที่เป็นกันง่ายมาก คือตั้งครรภ์แล้วแท้ง เพราะไม่ถอดเฝือก มดลูกขยายไม่ได้
ท่านสมาชิกที่มีความรู้เรื่องการแพทย์ คงอธิบายได้ละเอียดกว่าค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 30 ม.ค. 12, 13:57
|
|
สาวจีนนอกจากทรมานเท้าแล้ว คงไม่ต้องทรมานเอวอย่างสาวยุโรป ความนิยมเอวเล็กยังมีเรื่อยมาในสังคมไทย จนกระทั่งกระโปรงทรงกระสอบ ที่เรียกว่าชุดแสค เข้ามาปลดแอกให้สาวๆ ในปลายทศวรรษ 1960s นางงามยุคก่อนนี้เอวบาง โดยไม่ต้องผ่ายผอมสูงชะลูดอย่างสมัยนี้ รูปร่างยังมีเนื้อมีหนัง แต่เอวเล็ก จำได้ว่าประมาณ 22 นิ้ว อย่างคุณอาภัสรา หงสกุลสมัยเป็นนางสาวไทยใหม่ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 30 ม.ค. 12, 15:03
|
|
ว่ากันว่าเพื่อให้เอวคอดสุดๆ ผู้หญิงวิคตอเรียนบางคนยอมให้แพทย์ผ่าตัดเอากระดูกซี่โครงล่างสุดออกไป แต่ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่ เพราะการผ่าตัดในสมัยนั้นน่าจะเสี่ยงตายอยู่มาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ติบอ
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 30 ม.ค. 12, 23:58
|
|
เรื่อง 'Rib removal surgery' สมัย victorian ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับอาจารย์ เคยได้ยินมาจากสมัยเรียนกายภาพบำบัด.. แต่ขนาดอาจารย์หมอที่เล่าเองก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
โดยส่วนตัวขออนุญาตตอบว่ารูปแม่สาวคนกลาง ในความคิดเห็นด้านบนนั่นก็ดูคล้ายอยู่มากครับ เพราะคนที่ไม่ได้ผ่าตัดเอาซี่โครงออกไป ต่อให้ใส่ corset รัดสักแค่ไหนแรงต้านจากซี่โครงก็น่าจะยังมีมากอยู่ และมากพอจะไม่ทำให้เอวหักเป็นรูปนาฬิกาทรายแบบแม่คนนี้ครับ
สำหรับหลายคนที่สงสัยว่าการผ่าตัดซี่โครงซี่ล่างๆออกไป จะทำให้เอวเล็กลงได้อย่างไร? หรืออันตรายไหม? ขอให้รอสักสองสามวันนะครับ... ผ่านเรื่อง corset ไปเมื่อไหร่ เรามาคุยกันเรื่องนี้ต่อก็น่าจะสนุกดีครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|