เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 21
  พิมพ์  
อ่าน: 123751 ละเลงเลือด(ฝรั่งเศส)ที่สมรภูมิบ้านพร้าว
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 255  เมื่อ 27 ก.พ. 12, 22:54

คุณศิวาวุธน่าจะไปดูเองนะครับ ถ้าอยากถ่ายรูป ลองทำหนังสือถึงท่านเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ขออนุญาตเป็นเรื่องเป็นราวท่านอาจจะให้

ก็มันไม่น่าจะเป็นความลับอะไร แต่ถ้าไม่ปรามๆไว้บ้าง เดี๋ยวน้องหนูจะไปโพสต์ท่าเอานิ้วจิ้มแก้มกับปืนกระบอกโน้นกระบอกนี้วุ่นไปหมด บางกระบอกเขาเอาพวงมาลัยแขวนไว้ก็มี
บันทึกการเข้า
Siwawuth
อสุรผัด
*
ตอบ: 5


ความคิดเห็นที่ 256  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 03:00

คุณศิวาวุธน่าจะไปดูเองนะครับ ถ้าอยากถ่ายรูป ลองทำหนังสือถึงท่านเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ขออนุญาตเป็นเรื่องเป็นราวท่านอาจจะให้

ก็มันไม่น่าจะเป็นความลับอะไร แต่ถ้าไม่ปรามๆไว้บ้าง เดี๋ยวน้องหนูจะไปโพสต์ท่าเอานิ้วจิ้มแก้มกับปืนกระบอกโน้นกระบอกนี้วุ่นไปหมด บางกระบอกเขาเอาพวงมาลัยแขวนไว้ก็มี

ขอบคุณมากครับ แต่บ้านผมอยู่หาดใหญ่ เลยไม่ค่อยสะดวกที่จะไปซักเท่าไหร่
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 257  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 09:13

พิพิธภัณฑ์สรรพาวุธคงจะจัดทำขึ้นมาก่อนโลกมีอินเทอร์เน็ต   คำอธิบายประกอบอาวุธชนิดต่างๆ  จึงมีเท่าที่จะมีเอกสารประกอบ    ถ้าหากว่ามีอินทรเนตรช่วยค้นหาให้  บรรยายได้มากกว่านี้ และมีไกด์ที่รู้เรื่องดีคอยต้อนรับ  เวลาครูพานักเรียนไปชม คงจะสนุกมาก   
พิพิธภัณฑ์จะมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ ก็เพราะมีผู้นำชมที่อธิบายให้เห็นภาพเหตุการณ์จากของที่นำมาตั้งโชว์ไว้   ถ้าให้คนดูเข้าไปเดินดูอยู่ฝ่ายเดียวคงจะหงอยๆไปหน่อย     ถ้าคนดูรู้จักของพวกนั้นก็ยังพอสนุกได้บ้าง   ถ้าไม่ค่อยรู้อยู่แล้ว ก็แทบจะหลับกลางห้องไปเลย

นึกถึงพิพิธภัณฑ์อาวุธที่ออสเตรียที่ไปดูมาเมื่อเดือนกันยายน ปีก่อน     นอกจากอาวุธสารพัดชนิดตั้งแต่ยุคกลางจนสงครามโลกครั้งที่สอง   คุณไกด์แกเก่งมาก อธิบายฉาดฉาน  จะซักจะถามอะไรเขาก็รีบตอบเต็มอกเต็มใจ   ถ่ายรูปได้ไม่มีใครว่า
ของพรรค์นี้สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น   เห็นอาวุธที่ทหารยุโรปแบกกันมาตั้งแต่ยุคกลาง  เมื่อก่อนเห็นในรูปก็ไม่รู้สึกอะไรนัก  ไปเห็นของจริงเข้าแทบจะร้องโอ้ก(ตั้งใจสะกดไม้โทนะคะ คุณเพ็ญ)   เพราะดูด้วยตาก็รู้ว่ามันหนักเหลือเกิน   ปืนยาวกระบอกหนึ่ง ดูหนักราวแบกครกหินสัก ๑๐ ลูกพร้อมกัน     ทหารที่ออกรบต้องแบกปืนเดินไปไม่รู้กี่ไมล์ ไหล่น่าจะทรุดก่อนถึงสนามรบ  นี่ยังไม่รวมหมวกเหล็ก ชุดเครื่องแบบ รองเท้าบู๊ต  ที่หนาและหนักเหมือนแบกกระสอบอีก ๑ ใบไปด้วย

ดิฉันเสียดายแทนคุณศิวาวุธ ที่น้ำเสียงคุณดูไม่สนใจพิพิธภัณฑ์ที่คุณนวรัตนอุตส่าห์แวะไปเก็บรูปมาฝาก พร้อมคำอธิบายในแต่ละรูป  ทั้งๆท่านเองก็ไม่ได้มีโครงการจะผลิตงานอะไรขึ้นมาเหมือนคุณ      ขอเล่าเป็นเกร็ดความรู้อย่างหนึ่งว่าคนที่เป็นนักเขียน ไม่ว่าเขียนสารคดี  นิยาย หรือการ์ตูน   ถ้าเขาจะเขียนเรื่องราวที่อิงจากเรื่องจริง   ต้องค้นคว้าและไปสัมผัสของจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  แม้แต่เป็นรายละเอียดเล็กน้อยก็อย่ามองข้าม    เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ    ไม่ใช่ว่าใช้แต่จินตนาการ  ถามคนอื่น หรือหารูปจากอินเทอร์เน็ตเท่านั้น    ถ้างานคุณไม่มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นๆ   คุณจะอยู่ในวงการไม่ได้นาน
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 258  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 17:54

คุณครูมาแล้ว

คุณศิวาวุธก็ยังไม่ต้องออกจากห้องไปไหน ท่านอาจารย์ท่านสอนด้วยความเมตตา ควรขอบพระคุณท่าน ไม่ต้องน้อยใจ



เดี๋ยวปืนฝรั่งเศสจะมาแล้ว จะได้เอาไปเขียนแบบไม่มั่วๆ
บันทึกการเข้า
Siwawuth
อสุรผัด
*
ตอบ: 5


ความคิดเห็นที่ 259  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 18:59

พิพิธภัณฑ์สรรพาวุธคงจะจัดทำขึ้นมาก่อนโลกมีอินเทอร์เน็ต   คำอธิบายประกอบอาวุธชนิดต่างๆ  จึงมีเท่าที่จะมีเอกสารประกอบ    ถ้าหากว่ามีอินทรเนตรช่วยค้นหาให้  บรรยายได้มากกว่านี้ และมีไกด์ที่รู้เรื่องดีคอยต้อนรับ  เวลาครูพานักเรียนไปชม คงจะสนุกมาก  
พิพิธภัณฑ์จะมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ ก็เพราะมีผู้นำชมที่อธิบายให้เห็นภาพเหตุการณ์จากของที่นำมาตั้งโชว์ไว้   ถ้าให้คนดูเข้าไปเดินดูอยู่ฝ่ายเดียวคงจะหงอยๆไปหน่อย     ถ้าคนดูรู้จักของพวกนั้นก็ยังพอสนุกได้บ้าง   ถ้าไม่ค่อยรู้อยู่แล้ว ก็แทบจะหลับกลางห้องไปเลย

นึกถึงพิพิธภัณฑ์อาวุธที่ออสเตรียที่ไปดูมาเมื่อเดือนกันยายน ปีก่อน     นอกจากอาวุธสารพัดชนิดตั้งแต่ยุคกลางจนสงครามโลกครั้งที่สอง   คุณไกด์แกเก่งมาก อธิบายฉาดฉาน  จะซักจะถามอะไรเขาก็รีบตอบเต็มอกเต็มใจ   ถ่ายรูปได้ไม่มีใครว่า
ของพรรค์นี้สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น   เห็นอาวุธที่ทหารยุโรปแบกกันมาตั้งแต่ยุคกลาง  เมื่อก่อนเห็นในรูปก็ไม่รู้สึกอะไรนัก  ไปเห็นของจริงเข้าแทบจะร้องโอ้ก(ตั้งใจสะกดไม้โทนะคะ คุณเพ็ญ)   เพราะดูด้วยตาก็รู้ว่ามันหนักเหลือเกิน   ปืนยาวกระบอกหนึ่ง ดูหนักราวแบกครกหินสัก ๑๐ ลูกพร้อมกัน     ทหารที่ออกรบต้องแบกปืนเดินไปไม่รู้กี่ไมล์ ไหล่น่าจะทรุดก่อนถึงสนามรบ  นี่ยังไม่รวมหมวกเหล็ก ชุดเครื่องแบบ รองเท้าบู๊ต  ที่หนาและหนักเหมือนแบกกระสอบอีก ๑ ใบไปด้วย

ดิฉันเสียดายแทนคุณศิวาวุธ ที่น้ำเสียงคุณดูไม่สนใจพิพิธภัณฑ์ที่คุณนวรัตนอุตส่าห์แวะไปเก็บรูปมาฝาก พร้อมคำอธิบายในแต่ละรูป  ทั้งๆท่านเองก็ไม่ได้มีโครงการจะผลิตงานอะไรขึ้นมาเหมือนคุณ      ขอเล่าเป็นเกร็ดความรู้อย่างหนึ่งว่าคนที่เป็นนักเขียน ไม่ว่าเขียนสารคดี  นิยาย หรือการ์ตูน   ถ้าเขาจะเขียนเรื่องราวที่อิงจากเรื่องจริง   ต้องค้นคว้าและไปสัมผัสของจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  แม้แต่เป็นรายละเอียดเล็กน้อยก็อย่ามองข้าม    เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ    ไม่ใช่ว่าใช้แต่จินตนาการ  ถามคนอื่น หรือหารูปจากอินเทอร์เน็ตเท่านั้น    ถ้างานคุณไม่มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นๆ   คุณจะอยู่ในวงการไม่ได้นาน

ขอบคุณที่อบกครับ แต่...

อันที่จริงสถานที่แบบนั้นผมอยากไปใจจะขาด เป็นไปได้จะอยู่ทั้งวันทั้งคืนเลย แต่โอกาสหลายๆอย่างทำให้ผมไปไม่ได้ ถ้ามีโอกาสจริงๆผมก็อยากไปเหมือนกัน

ผมศึกษาด้านนี้มา อาจจะไม่มากเท่าคนอื่นๆ แต่ผมก็ชอบวิชาการด้านนี้พอๆกับการวาดการ์ตูนที่ผมรักครับ

งานที่วาดออกมา ผมต้องนั่งหา เก็บลายละเอียดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางทีอาจจะนานกว่าเวลาที่ผมวาดซะอีก

ดังนั้น เมื่อคุณพูดแบบนี้ ผมเลยไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ ผมพยายามในสิ่งที่ผมชอบ แต่ก็โดนแบบนี้ บอกตรงๆ ผมน้อยใจครับ

ปล. ผมพูดและเรียบเรียงคำไม่ค่อยเก่ง ขอภัยถ้ามีใครไม่พอใจกับคำพูดของผม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 260  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 20:22

น้อยใจแล้วได้อะไรครับ ควรขอบพระคุณท่าน ท่านอาจารย์ท่านสอนด้วยความเมตตา
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 261  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 20:33

อาวุธเบามาตรฐานของฝ่ายไทยในสมรภูมิอินโดจีนต้องจบเพียงเท่านี้  คราวนี้หันมาดูฝ่ายฝรั่งเศสบ้าง

ปืนพก

Mle 1935  คนสวิสออกแบบ ฝรั่งเศสผลิต ใช้กระสุน 7.65mm Longue   บรรจุ 8 นัด


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 262  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 20:37

MAB Model D pistol ใช้กระสุน 7.65mm Longue  7.65x17mm Browning SR บรรจุ 9 นัด


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 263  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 21:07

ปืนเล็กยาว

ปืนแบบMAS-36  ถือเป็นอาวุธหลักของทหารราบฝรั่งเศสและทหารอาณานิคมญวนทุกแนวรบ ปืนนี้อยู่ยงคงกระพันจนสิ้นสุดสงครามโลก แล้วฝรั่งเศสก็เอามาปราบคนเวียตนามที่ลุกฮือขึ้นเรียกร้องเอกราช ทว่าหนนี้มิได้เหมือนคราวที่ผ่านมาในอดีต ก่อนจีนจะเข้าไปติดอาวุธให้ญวนนั้น เสรีไทยทางอิสานก็เอาอาวุธทันสมัยที่อเมริกันมอบให้ส่งต่อให้เวียตนาม ผ่านลุงโฮ หรือโฮจิมินจนตั้งทหารได้๑กองพัน เรียกว่ากองพันสยาม ทำการต่อสู้กับฝรั่งเศสร่วมกับทหารอาณานิคมแปรพักตร์ หลังการรบครั้งสุดท้ายที่เบียนเดียนฟู ทหารฝรั่งเศสแพ้ย่อยยับ กรมทหารต่างด้าวที่รบกับไทยแล้วแพ้แต่ได้เหรียญกล้าหาญนั้น ประจานฝรั่งเศสอีก คราวนี้ถูกญวนสลายเรียบร้อยขนาดถุกยุบกรมออกจากสารบบไปเลย

ปืนMAS-36ถูกฝรั่งเศสทิ้งให้ตกอยู่ในมือทหารญวนเป็นจำนวนมาก เวียตนามเหนือใช้ปืนนี้ติดอาวุธให้หน่วยแทรกซึมเข้าไปปลดปล่อยเวียตนามใต้ จนอเมริกันทนไม่ได้ ต้องเข้าไปรับหน้าเสื่อแทนฝรั่งเศสที่ถอยหนีกลับบ้านไปหมดแล้ว ต่อมา อเมริกันก็บีบให้ไทยส่งทหารไปร่วมรบในสมรภูมิเวียตนามด้วย

ที่เล่ามายืดยาวเพราะที่พิพิธภัณฑ์สรรพาวุธมีปืนMAS-36นี้เก็บไว้หลายกระบอก มีป้ายบอกว่าเป็นปืนที่ทหารไทยยึดได้จากเชลยเวียตกงครั้งไปรบในสงครามเวียตนามครั้งกระโน้น




บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 264  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 21:29

ปืนกลมือ

MAS-38  ผลิตโดยบริษัทเดียวกับปืนเล็กยาวที่กล่าวไปแล้ว ปืนกลเป็นปืนประจำกายของนายทหาร ฝรั่งเศสได้นำปืนนี้มาใช้ในสงครามอินโดจีนตลอด



บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 265  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 21:32

ดังนั้น เมื่อคุณพูดแบบนี้ ผมเลยไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ ผมพยายามในสิ่งที่ผมชอบ แต่ก็โดนแบบนี้ บอกตรงๆ ผมน้อยใจครับ

Bitter pills may have sweet effect.

หวานเป็นลม ขมเป็นยา

 ยิ้มเท่ห์
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 266  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 21:50

ปืนกลเบา

แบบ FM-24/29 ปืนแบบนี้แหละครับที่ถุกนำไปที่สมรภูมิบ้านพร้าวด้วย



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 267  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 22:03

ปืนกลหนัก

แบบ Hotchkiss M1914 ทหารฝรั่งเศสคงไม่ได้แบกไปตีบ้านพร้าวเพราะหนักเกินไปครับ ปืนแบบนี้เหมาะจะตั้งป้องกันที่มั่น


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 268  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 22:08

เจ้าของการบ้านยังอยู่หรือไปแล้วก็ไม่ทราบ ผมจะบอกว่าถ้าจะเน้นแค่การรบที่สมรภูมิบ้านพร้าว ปืนเล็กของทั้งสองฝ่ายที่ผมหามาให้ก็คงจะครบแล้วครับ
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 269  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 22:25

ชอบโรงเรียนนี้ตรงที่ครูเป็นฝ่ายทำการบ้านนี่แหละครับ  เป็นนักเรียนขี้เกียจเรียนที่นี่สบายจริงๆ ยิงฟันยิ้ม
ต้องขอบพระคุณคุณครูทุกท่าน  และนักเรียนชั้นเยี่ยมที่มาให้ความรู้จริงๆ
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
หน้า: 1 ... 16 17 [18] 19 20 21
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 21 คำสั่ง