รายละเอียดเกือบไม่ต่างจากบันทึกของพ.อ.นิ่ม ชโยดม แต่มีเพิ่มอะไรขึ้นบ้าง เช่นเรื่องทหารฝรั่งเศสหนีอ้าวกลับไปศรีโสภณตามคำให้การของนายเนตเจ้าของนาแถวนั้น
ผมเคยเห็นเรื่องตามสำนวนนี้แล้ว และเอามากลั่นกรองเทียบเคียงกับสำนวนอื่นๆ รวมทั้งฝ่ายฝรั่งเศสด้วย โดยให้น้ำหนักไปที่ปากคำของพลเอกพรฯ ในฐานะที่ท่านเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ย้อนกลับไปอ่านก็ยังคงสอดคล้องกันอยู่ อะไรที่ต่างกัน เช่นมีหมามาดมกลิ่นหรือไม่มี ผมก็ใส่ไว้ทั้งสองสำนวน เรื่องทหารฝรั่งเศสวิ่งแข่งกันหนีอ้าวไปศรีโสภณก็มี
นับตั้งแต่เสียงปืนนัดแรกระเบิดจนเงียบสงบลงในยกแรกนับเวลาแล้วไม่เกินครึ่งชั่วโมง แต่การรบวันนั้นยังไม่ยุติ
เหตุการณ์ทางบ้านยางที่เสียงปืนดังขึ้นก่อนหน้านั้น พันตรีวุฒิ วีระบุตรผู้บังคับบัญชากองทัพทหารราบที่๑ รักษาพระองค์ซึ่งตั้งอยู่ในที่มั่น คิดว่าเป็นแค่กลลวงของฝรั่งเศสว่าจะเข้าตีแต่ความจริงแล้วจะตีบ้านพร้าว เพราะยังยิงกันแค่เปาะแปะ พอได้ยินเสียงปืนดังขึ้นปานโลกาพินาศทางทิศใต้ เสียงปืนของฝ่ายบุกก็เงียบไป ทหารไทยที่บ้านยางรอแล้วรออีกไม่เห็นมีใครบุกเข้าโจมตีจริงๆ ก็จะบุกอะไรได้เล่า กองกำลังผสมเซ ชื่อมันก็ไม่เป็นมงคลอยู่แล้ว บรรดาทหารพื้นเมืองญวนเขมรพอได้ยินเสียงปืนของไทยหนักแน่นเขย่าประสาทเข้าเท่านั้น ก็รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง รู้กลางๆว่าเผ่นดีกว่า นายทหารฝรั่งเศสเห็นลูกน้องวิ่งก็วิ่งตามบ้าง ในที่สุดก็ตะโกน ซีโส่โพ้น ซีโส่โพ้น ให้ไปเจอกันที่ศรีโสภณเลย
ส่วนการบ้านของคุณศิวาวุธ ผมจะเริ่มทยอยส่งครับ
ขอบคุณที่ส่งฝีไม้ลายมือมาให้ดู
เดี่ยวนี้ถ้าหน้าตาไม่ออกไปทางเกาหลีหรือญี่ปุ่น คงไม่ได้แสดงทั้งหนัง ทั้งละคร รวมไปถึงหนังสือการ์ตูนด้วยนิ