เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 19 20 [21]
  พิมพ์  
อ่าน: 123838 ละเลงเลือด(ฝรั่งเศส)ที่สมรภูมิบ้านพร้าว
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 300  เมื่อ 25 มี.ค. 12, 00:36

อีกความเห็นที่อยากให้แก้ไข คือความคิดเห็นที่ ๑๗๘ เกี่ยวกับโรงเรียนเตรียมทหาร เหตุผลการตั้งโรงเรียนความจริงไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
อ้างถึง
พอโดนคนด่าหนักๆเข้าว่าไม่มีปํญญาแก้ไขปัญหา ทหารระดับผู้ใหญ่จึงยุบโรงเรียนเตรียมทั้งหมดมาตั้งเป็นโรงเรียนเตรียมทหาร


นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ ๑ กระทั่งครูบาอาจารย์ยุคนั้นก็ยังมีชีวิตอยู่หลายท่าน (อายุ๗๐ ขึ้นไป) ถ้าได้อ่านคงจะออกมาปฏิเสธกัน
และเล่าความจริงได้, ประวัติจอมพลถนอม   กิตติขจร ก็มีกล่าวถึงเหตุผลการรวมโรงเรียนเตรียม ฯ เหล่าต่าง ๆ เป็นโรงเรียนเตรียมทหาร

แต่คนรุ่นใหม่ที่ไม่ทราบความจริง มาอ่านก็อาจจะเชื่อข้อความนี้ จึงขอให้แก้ไขด้วยครับ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 301  เมื่อ 25 มี.ค. 12, 08:24

ขอบคุณครับคุณธรรมรัตน์

นี่ก็เป็นอีกสำนวนหนึ่งของผู้อยู่ในเหตุการณ์เดียวกันแต่รู้เห็นต่างกัน รายละเอียดของพล.อ.ไพฑูรย์ ขจรพันธุ์ ต่างกับพล.อ.พร ธนะภูมิ ก็ตรงเรื่องเวลาปะทะ ซึ่งน่าจะเป็นใกล้สว่างมากกว่าจะเริ่มต้นกลางดึกแล้วไปจบเอาบ่าย ส่วนเรื่องการมาการไปของรถถังแม้คล้ายกันแต่ก็ไม่เหมือน แล้วผมก็เพิ่งทราบว่าทหารประจำรถถังได้เหรียญกล้าหาญด้วย
 
ส่วนรถถังเรโนลต์ของฝรั่งเศสเป็นรถถังเบา ถ้าคุณธรรมรัตน์มีบันทึกหลักฐานการยึดมาได้ จะเอามาขยายความให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมด้วยก็คงจะดี ปัจจุบันอย่างนัอยรถเชลยชุดนี้ยังมีเหลืออยู่คันหนึ่งที่ศูนย์กลางทหารม้าสระบุรี วันดีคืนดีท่านก็เอาออกมาวิ่งสวนสนามอวดตัว

เช่นเดียวกับเหตุผลการตั้งโรงเรียนเตรียมทหารอย่างเป็นทางการ จะย่อความหรือจะถ่ายสำเนามาลงไว้ก็ได้ครับ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านที่ต้องการทราบข้อเท็จจริง  แต่ประโยคที่ผมนำมาเขียนก็เป็นเรื่องที่คนร่วมสมัยเขาเมาท์กันหลังไมค์ ความก็ตามนั้นไม่ได้นั่งเทียนเขียนเอาเอง เมื่อสองสามสัปดาห์ที่แล้วมีงานเลี้ยงฉลองอายุ๗รอบให้ผู้อาวุโสที่เคารพรักของวงการรักบี้ มีนักรักบี้ในอดีตอายุหกสิบปีขึ้นไปทุกวงการไปกันมาก พลตำรวจเอกซึ่งนั่งร่วมโต๊ะกับผมยังเล่าให้เฮฮา เรื่องพลเอกคนที่นั่งโต๊ะวีไอพีท่านเล่นมวยไทยแถมรักบี้ในการแข่งขันระหว่างเหล่าครั้งหนึ่ง  แล้วทำให้กองเชียรทั้งสองฝ่ายบนอัฒจรรย์เกิดวุ่นวายจนแทบจะต้องยุติการแข่งขันในวันนั้น


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 302  เมื่อ 25 มี.ค. 12, 10:20

ภายในกองพลพระนครนั้น มีนายทหารรุ่นเดียวกับข้าพเจ้าอยู่ด้วยกองพันละ ๑ นาย คือ
ร.พัน.๑ ฯ มี ร.ต.สมจิตร   ชมะนันทน์
ร.ต.สมจิตร   ชมะนันทน์ ----> พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์  อดีตนายกรัฐมนตรี


บันทึกการเข้า
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 303  เมื่อ 25 มี.ค. 12, 12:08

เรื่องการยึดรถถังของฝรั่งเศสได้ ของร.พัน.๕ ผมจะนำมาพิมพ์ให้อ่านกันนะครับ
เรื่องของผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญของไทย สามารถตรวจสอบได้ตามเอกสารนี้
http://dop.rta.mi.th/dp_04/ak1.doc
และเหตุการณ์ของรถถังได้เหรียญกล้าหาญ ก็ต้องนำความคิดเห็นของคุณ NAVARAT เองมาตอบ

ความคิดเห็นที่ ๗๘
อ้างถึง
ตอนสาย รถถังแบบ ๗๖( Vickers 6ton)ของไทยสองคัน ควบคุมโดยร้อยเอกสนิท หงส์ประสงค์ ผู้บังคับกองร้อยเป็นผบ.นำมาเอง อีกคันหนึ่งสิบโทคนึงเป็นผบ. ก็ควบตะบึงจากปอยเป็ตเข้ามาในสมรภูมิเจอหมู่ปืนเล็กของร้อยตรีไพฑูรย์ ขจรพานิชที่ซุ่มอยู่ในป่าเข้า นึกว่าเป็นทหารพื้นเมืองของฝรั่งเศสเลยยิงทักทายไปชุดหนึ่ง

และความคิดเห็นที่ ๑๖๔
อ้างถึง
แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเหรียญกล้าหาญ ตามราชกิจจา ฯเล่ม ๕๘ ตอนที่ ๕๓ ลงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๔ หน้า ๒๓๓๓ แจ้งความณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๔ ให้เป็นเครื่องเชิดชูเกียรติแก่ผู้ได้รับพระราชทาน๔๑ นาย เป็นกองทัพบก ๑๕ นาย ตำรวจสนาม ๑ นาย กองทัพอากาศ ๒๕ นาย ดังมียศนามต่อไปนี้
กองทัพบก
นายพันตรี สุรินทร์ ปั้นดี
นายพันตรี สนิท หงษ์ประสงค์
นายร้อยโท ไชโย กระสิณ
จ่านายสิบเอก กิมไล้ แซ่เตียว
จ่านายสิบเอก คล้อย วงษ์สถิน
จ่านายสิบเอก โพล้ง กลัดตลาด
จ่านายสิบเอก ขุนทอง ขาวสุขา
นายสิบตรี ยงค์ สุขแสง
นายสิบตรี สำเภา สมประสงค์
นักเรียนนายสิบ จำนงค์ แฉล้มสุข
นักเรียนนายสิบ คณง รงค์กระจ่าง
พลทหาร สมัคร์ เนียวกูล
พลทหาร ยม สืบกุศล
พลทหาร อรุณ กลิ่นบัวแก้ว
พลทหาร เต็ก ขจรเวช
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 304  เมื่อ 25 มี.ค. 12, 16:54

ไปเจอมา เลยเอามาให้ดูกันเฉยๆ


http://www.virus-studios.com/forum/showthread.php?5390-(%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1)%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94(%E0%B8%9D%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%AA)%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7.....
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 305  เมื่อ 25 มี.ค. 12, 20:24

^
ลอกและตัดตอนเก่งมาก
ขาดไปอย่างเดียวคือชื่อของคุณ NAVARAT.C ผู้เขียนตัวจริงเท่านั้น
ถ้าหากว่าเจ้าของเว็บยังแวะเข้ามาอ่านอยู่   ดิฉันก็ขออย่างเดียวคือขอให้ลงที่มาของบทความว่า จาก NAVARAT.C  เว็บ www.reurnthai.com
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 306  เมื่อ 29 มี.ค. 12, 06:18

ลงที่อยู่นี้น่าจะหาง่ายกว่า

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4942.0

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 307  เมื่อ 04 ต.ค. 12, 20:50

บันทึกการรบของกองพันทหารราบที่ ๕ ในการยึดรถถังฝรั่งเศสได้ จำนวน ๕ คัน

เขียนโดย พ.อ.เดชา   กาลบุตร (ชื่อเดิม ลำดวน  กาลบุตร) ในหนังสือที่ระลึก รุ่น ๒๔๗๘ รับราชการครบ ๓๐ ปี ๑ เม.ย. ๒๕๐๘

" สงครามอินโดจีน พ.ศ. ๒๔๘๔ ข้าพเจ้าเป็น ผู้บังคับกองร้อย ร.พัน.๕ ร้อย.๑ (กองร้อยที่ ๑ กองพันทหารราบที่ ๕ ) ที่ตั้ง ค่ายคอหงษ์ หาดใหญ่ สงขลา สังกัดกองพลวัฒนา
เคลื่อนที่จากหาดใหญ่โดยทางรถไฟมาสมทบเป็นกองหนุน ณ คลองลึก อรัญประเทศ
เมื่อเข้าที่ตั้งเรียบร้อยแล้ว ประมาณ ๑๕ วัน ได้รับคำสั่งให้เคลื่อนที่ไปที่ ต.บ้านกูบ ด่านปอยเปต ประมาณ ๑๐ วัน ให้เคลื่อนที่ไปต่อปีกขวา บ้านตะคองเคร่า
อยู่ประมาณ ๗ วัน ได้รับคำสั่งให ร.พัน.๕ ร้อย.๑ เคลื่อนที่ไปยึดบ้านโขมพัด และสำโรงทางปีกซ้าย ใน ก.พ.๒๔๘๔ เวลา ๐๓๐๐ และให้ยึดได้ก่อน ๐๖๐๐
บันทึกการเข้า
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 308  เมื่อ 04 ต.ค. 12, 20:59

ข้าพเจ้าเป็น ผบ.ร้อยผสม มีกำลังทหารราบ ๒ กองร้อย ทหารม้า ๑ หมวด ทหารสื่อสาร ๑ หมู่ ปืนกลหนัก ๑ หมวด และรถถัง ๑ หมวด
ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามคำสั่งโดยเคร่งครัด และได้เข้ายึดตำบลทั้งสองนี้ตามเวลา
ภูมิประเทศเป็นป่าโปร่ง เดือนมืด การเคลื่อนที่ลำบาก แต่ทหารทุก ๆ คนได้ปฏิบัติตนอย่างกล้าหาญ
เมื่อไปถึงตำบลนี้แล้ว ได้วางกำลังเป็นหน้ากระดาน ยึดพื้นที่ได้ทั้งสองตำบลอย่างเหนียวแน่น
ข้าพเจ้าได้วางกำลังทหาร ทหารราบ ๒ กองร้อยอยู่กลาง
หมวดรถถัง และปืนกลหนักอยู่ปีกขวา สำหรับปืนกลหนักปิดช่องทางเคลื่อนที่ของข้าศึก ส่วนหมวดทหารม้าต่อปีกซ้าย ข้าพเจ้าอยู่กับหมวดปืนกลหนัก
บันทึกการเข้า
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 309  เมื่อ 04 ต.ค. 12, 21:10

ในตอนเช้า ฟ้าสาง เวลาประมาณ ๐๗๐๐ น. รถถังข้าศึก มีกำลังรถถัง ๕ คันเคลื่อนที่มาทางด้านขวาจะเข้ายึดช่องแคบที่ข้าพเจ้าตั้งหมวดปืนกลหนักอยู่
ช่องทางนี้เป็นทางเกวียน รถถังข้าศึกได้เคลื่อนที่เข้ามาในระยะประชิด โดยที่ข้าพเจ้ายังไม่สั่งยิง
รถถังคันแรกได้เคลื่อนที่หลวมตัวเข้ามา ข้าพเจ้าจึงได้สั่งยิง และได้ตลุมบอน
รถถังคันแรกได้ยิงกราด แต่ทหารของข้าพเจ้าได้เข้ายึดรถถังคันแรก
ในขณะเดียวกัน ทหารของข้าพเจ้าได้ขึ้นไปอยู่บนรถถังของข้าศึก และบังคับด้วยพานท้ายปืน พลขับตาย
และ รถถังคันที่ ๒ ที่ตามเข้าม ยกธงขาว และทั้ง ๕ คันหยุด ทหารของข้าพเจ้าได้ล้อมรถถังทั้ง ๕ คันไว้ และบังคับให้รถถังทั้ง ๕ คันเคลื่อนที่เข้ามาในเขต
จึงบังคับให้พลประจำรถถังออกมาจากรถถัง ใช้ผ้าพันแข้งปิดตา และมัดมือไขว้หลังผูกติดกับต้นไม้ไว้
บันทึกการเข้า
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 310  เมื่อ 04 ต.ค. 12, 21:20

ขณะเดียวกันนี้เอง มีทหารม้า ๑ หมวด ได้เคลื่อนที่เข้ามาเพื่อช่วยเหลือรถถังข้าศึก แต่ขณะวิ่งตลุมบอนเข้ามานี้เอง
ปืนกลหนักและปืนรถถังได้ทำการยิงทหารม้าหมวดนั้นล้มตายไปประมาณ ๕ ตัว และข้าศึกได้เสียชีวิตไป ๕ คน
ส่วนที่เหลือได้ถอยกลับออกไป ขณะเดียวกันนี้เสียงปืนฝ่ายเราได้ดังขึ้นตลอดแนว ทำการยิงกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วจึงหยุดยิง
และทางด้านขวา ทหารม้าของข้าศึกได้เข้าตลุมบอนอีก จึงเพิ่มกำลังมาอีก ๑ หมวด
ปรากฏว่าข้าศึกได้ล่าถอยกลับไป ข้าพเจ้าจึงให้สัญญาณหยุดยิงตลอดแนว
แต่ข้าศึกทางด้านซ้ายได้ยิงมาประปราย ข้าพเจ้าหยุดยิง ไม่ได้โดต้ตอบ ข้าศึกก็หยุดยิงด้วย
ต่อมาข้าพเจ้าจึงได้ไปตรวจแนว ปรากฏมีทหารของข้าพเจ้าถูกกระสุนของข้าศึก ยิงถูกของลับขาดไป ๑ คน นอกนั้นปลอดภัย
บันทึกการเข้า
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 311  เมื่อ 04 ต.ค. 12, 21:37

ต่อมาเวลา ๐๘๐๐ ข้าพเจ้าให้พลนำสารติดต่อไปยังกองพันซึ่งอยู่ห่างจากข้าพเจ้าประมาณ ๑๐ ก.ม. เพื่อขอกำลังเพิ่มเติมและแจ้งเหตุ
ประมาณ ๑๐๐๐ ได้รับกำลังเพิ่มเติมจากทางด้านขวา
ในระหว่างเวลาที่กล่าวนี้ มีทหารม้าข้าศึก รถถังข้าศึกและรถยนต์หุ้มเกราะข้าศึกได้มาลาดตระเวน และยิงอยู่ประปราย
แต่ข้าพเจ้าก็มิได้ยิงตอบ จนถึงเวลา ๑๐๐๐ ส่วนของกองพลจึงได้เคลื่อนที่มาถึงบริเวณที่ข้าพเจ้ายึดอยู่
ข้าพเจ้าจึงได้มอบรถถังจำนวน ๕ คัน ให้แก่กองพลรับไป
กองพลได้นำรถถัง ๕ คันนี้พร้อมด้วยเชลยศึกจำนวน ๑๑ คน ร้อยโททหารฝรั่งเศส ๑ คน นอกนั้นเป็นนายสิบเขมร
ในวันนั้นข้าพเจ้าและทหารในบังคับบัญชารับประทานอาหารเช้าเวลา ๑๔๐๐ น. เพราะหน่วยพลา ฯ หาที่ตั้งไม่ถูก
ต่อมาอีก ๑๐ วัน รถถัง ๕ คันนี้ ก็ได้นำส่งกรุงเทพ ฯ มีขบวนรับกันอย่างเอิกเกริกที่หัวลำโพง มีผู้ได้เหรียญกล้าหาญหลายคนเพราะยึดรถถัง
แต่ข้าพเจ้าและผู้ใต้บังคับบัญชาไม่มีผู้ใดได้ ข้าพเจ้าอยู่ประจำที่ตำบลนี้จนกระทั่งการไกล่เกลี่ยได้เสร็จสิ้นไป
จนกระทั่งได้เคลื่อนที่กลับคอหงษ์ หาดใหญ่"
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 312  เมื่อ 04 ต.ค. 12, 21:53

ขอบคุณคุณธรรมรัตน์เป็นอย่างยิ่งครับ ที่ไม่ลืมจะนำข้อมูลดีๆอย่างนี้มาเติมให้

ทำให้เห็นข้อเท็จจริงประการหนึ่งว่า ในการรบครั้งนี้มีผู้เสนอหน้ากับนายจนได้รับเหรียญกล้าหายหลายคน ในขณะที่ผู้กล้าหาญตัวจริงถูกเบียดไปอยู่หลังแถว
บันทึกการเข้า
Nithi Kanisthanon
อสุรผัด
*
ตอบ: 14


ความคิดเห็นที่ 313  เมื่อ 07 ธ.ค. 13, 12:32

วันที่ ๑๓ พ.ย. ๒๔๘๓ ตั้ง กองบัญชาการทหารสูงสุด พล.ต.หลวงพิบูลสงคราม เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเป็นผู้บัญชาการทหารบกด้วย
๒๕ พ.ย. ๒๔๘๓ ตั้ง พ.อ.หลวงวิชิตสงคราม เป็นเสนาธิการทหารบก
ตั้งกองทัพบูรพา โดย พ.อ.หลวงพรหมโยธีเป็นแม่ทัพ ๑ ด้านบูรพา, ตั้งกองทัพอีสาน โดย พ.อ.หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต เป็นแม่ทัพ ๒ ด้านอีสาน
ตั้งกองพลพระนคร ขึ้นตรงต่อกองทัพบูรพา โดย พ.ท.หลวงไกรชิงฤทธิ์ เป็น ผบ.พล. และ พ.ต.เติม   กนิษฐานนท์ เป็นรอง ผบ.พล.
กองพลพระนคร ประกอบร้วย ร.พัน.๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ ฯ , ร.พัน.๓ และ ร.พัน.๙ เป็นกำลังรบหลัก มี กองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๑ (ป.พัน.๑) , กองร้อยทหารช่าง และกองร้อยรถถังสนับสนุน
สำหรับ ร.พัน.๓ นั้น พ.ต.ขุนนิมมานกลยุทธ ได้เลื่อนเป็น ผบ.พัน. สำหรับร้อย.๑, ร้อย. ๒ และร้อย.๔ คงเดิม
ส่วนร้อย. ๓ เอานายทหารใหม่ รุ่นหลังข้าพเจ้า ๑ รุ่น คือ ว่าที่ ร.ต.พร   ธนภูมิ มารักษาการผบ.ร้อย.

ในขณะนั้นแต่ละกองร้อยมีนายทหารคือ ผบ.ร้อย. ๑ นาย และ ผบ.หมวด ๑ นาย
ร้อย.๑ ร.อ.อุดม   วรรณศิริ
ร้อย. ๒ มี ร.อ.อัมพร    เสือไพฑูรย์ เป็น ผบ.ร้อย. และข้าพเจ้า ว่าที่ ร.ต.ไพบูลย์   ขจรพันธุ์ เป็น ผบ.หมวด
ร้อย.๓ มี ว่าที่ร.ต.พร ธนภูมิ คนเดียว รักษาการ ผบ.ร้อย.
ร้อย.๔ มี ร.อ.ขุนทอง   ไกรจิตติ เป็น ผบ.ร้อย. และ ร.ต.ยง   ณ นคร เป็น ผบ.หมวด

ภาพ  พ.ต. เติม กนิษฐานนท์ รอง ผบ.พล กองพลพระนคร ในรูปประดับเหรียญชัยสมรภูมิด้วย


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 19 20 [21]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.178 วินาที กับ 19 คำสั่ง