เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 17 18 [19] 20 21
  พิมพ์  
อ่าน: 123554 ละเลงเลือด(ฝรั่งเศส)ที่สมรภูมิบ้านพร้าว
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 270  เมื่อ 28 ก.พ. 12, 22:41

อ้าว จะไปอีกคนแล้วหรือครับนี่
บันทึกการเข้า
Siwawuth
อสุรผัด
*
ตอบ: 5


ความคิดเห็นที่ 271  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 01:17

ยังอยู่ครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล

รู้สึกว่าผมจะทำให้คนที่นี่ไม่พอใจ ผมไม่มารบกวนที่นี่อีกแล้วครับ
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
******
ตอบ: 1342


ความคิดเห็นที่ 272  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 04:34

อ้าว คุณ Siwawuth จะน้อยใจหนีไปไหนหละครับ ถูกครูดุนิดเดียว

ผมหนะ ถูกท่านอาจารย์เทาชมพูลบ post ไว้ยังเคยเลย แต่ไม่มีเข็ดครับ  เรามาหาความรู้ จะมีตัวตนมากไม่ได้ครับ  คิดแต่มุมของเรามันไม่พอ
ผู้ใหญ่เตือนเราก็ต้องรับฟัง  ท่านไม่ได้ต่อว่าอะไรเราหรอก ท่านเห็นว่าอาจารย์นวรัตน(ลืมไปแล้วว่าของท่านแบบมีหรือไม่มีการันต์)อุตส่าห์ไปแวะพิพิธภัณฑ์ ถ่ายรูปมาด้วย แต่เหมือนเราดูเฉยๆ ท่านก็เลยสอนครับ
แค่ท่านตักเตือนเรา เพราะบางครั้งเราเผลอแสดงออกไปเหมือนกับไม่ได้ใส่ใจหรือกระตือรือร้นมากพอเท่านั้นเองครับ
ที่นี่ยังดี ครูดุแต่ไม่ตีนะ
บันทึกการเข้า

วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 273  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 06:09

ปล่อยวางเถอะครับ

อะไรมันมา เดี๋ยวมันก็ไป ตามเหตุของมัน เป็นสัจธรรมนำไปพิจารณาได้ทุกเรื่อง
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 274  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 06:12

ก่อนจะจบกระทู้นี้ ผมนึกขึ้นมาได้ว่าท่านอาจารย์เทาชมพูได้พาท่านผู้อ่านเข้าซอยหลวงวิจิตรวาทการไปลึกเหมือนกัน แต่ยังไม่สุดซอย  เรื่องสงครามอินโดจีนนี้จะไม่กล่าวถึงท่านผู้นี้เลยคงไม่ได้ เพราะท่านเป็นกุนซือฝ่ายบุ๋นในกับหลวงพิบูลสงครามในการสร้างประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยให้ใหญ่ยิ่ง เหมือนอาณาจักร์ไร้ซ์ที่สามของฮิตเลอร์  ผมจะพาท่านผู้อ่านไปดูก้นซอยเป็นการปิดฉากกระทู้นี้

เสร็จกิจสงคราม นายทหารแม่ทัพนายกองได้รับการพิจารณาเลื่อนชั้นยศกันทั่วหน้า  พลตรี หลวงพิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านก็สมควรจะได้มั่ง แต่เหล่าลูกน้องผู้รู้ใจได้ “จัดให้” นาย เลื่อนทีเดียวจากพลตรีขึ้นมาเป็นจอมพลเลย
ต่อจากนั้นก็มีการสร้างภาพ “ท่านผู้นำ” ขึ้นไปกระทบไหล่ฮิตเลอร์ที่กำลังดังสุดๆในโลกขณะนั้นด้วยโดยใช้เหล่ากุนซือฝ่ายบุ๋นนี้แหละ เป็นผู้คิดและดำเนินการ  แม้ท่านจอมพลเองจะเขินๆในทีแรก แต่มีผู้เห็นท่านเป็นเทพยดาหนักเข้าท่านเลยคิดว่าท่านเป็นจริงๆเหมือนกัน  งานปั้นจอมพลป.ขึ้นเป็นเทวดาตัวเป็นๆนี้ ผมได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กว่าเป็นฝีมือของหลวงวิจิตรวาทการ

ก็สำเร็จผลตามมุ่งหมายแหละครับ ฝรั่งมังค่าก็บรรยายภาพข้างล่างว่าจอมพลป.พยายามเลียนแบบฮิตเลอร์ทุกอย่าง  ทั้งๆที่ดูเหมือนว่า ท่านกำลังโบกมือให้แฟนๆเฉยๆ

ผมจะเขียนถึงหลวงวิจิตรด้วยสำนวนภาษาของตัวเองก็จะถูกตั้งคำถามว่า “ใส่ไข่รึเปล่า”  ดังนั้นจึงขอนำบางตอนจาก“พลิกแผ่นดิน” โดยคุณประจวบ อัมพะเศวตมาปิดรายการแทนดีกว่า




บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 275  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 12:11

คุณศิวาวุธในฐานะสมาชิก ยังมีสิทธิ์จะเข้ามาถามและอ่านในเรือนไทยได้เสมอค่ะ  ดิฉันไม่ได้ลบสมาชิกภาพ   ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ด้านความรู้ของคุณเอง    
ชีวิตไม่ได้หยุดอยู่แค่อายุ 20  แต่จะต้องไปอีกไกล  คุณจะต้องเรียนรู้อีกมากในเส้นทางของคุณ
ไม่ต้องรับฟังดิฉันก็ได้   แต่โปรดเชื่อพระพุทธวัจนะด้วย

โสวจสฺสตา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ
ความเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย ฟังเหตุผล นี้เป็นมงคลสูงสุด

เอตาทิสานิ กตฺวาน   สพฺพตฺถมปราชิตา
สพฺพตฺถ โสตฺถี คจฺฉนฺติ   ตนฺเตสํ มงฺคลมุตฺตมนฺติ
เทพและมนุษย์ทั้งหลายกระทำมงคลเช่นนี้แล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทุกสถาน ย่อมถึงความผาสุกสวัสดีในที่ทั้งปวง นี้คือมงคลสูงสุดของเทพและมนุษย์เหล่านั้น.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 276  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 12:15


ต่อจากนั้นก็มีการสร้างภาพ “ท่านผู้นำ” ขึ้นไปกระทบไหล่ฮิตเลอร์ที่กำลังดังสุดๆในโลกขณะนั้นด้วยโดยใช้เหล่ากุนซือฝ่ายบุ๋นนี้แหละ เป็นผู้คิดและดำเนินการ  แม้ท่านจอมพลเองจะเขินๆในทีแรก แต่มีผู้เห็นท่านเป็นเทพยดาหนักเข้าท่านเลยคิดว่าท่านเป็นจริงๆเหมือนกัน  งานปั้นจอมพลป.ขึ้นเป็นเทวดาตัวเป็นๆนี้ ผมได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กว่าเป็นฝีมือของหลวงวิจิตรวาทการ

ก็สำเร็จผลตามมุ่งหมายแหละครับ ฝรั่งมังค่าก็บรรยายภาพข้างล่างว่าจอมพลป.พยายามเลียนแบบฮิตเลอร์ทุกอย่าง  ทั้งๆที่ดูเหมือนว่า ท่านกำลังโบกมือให้แฟนๆเฉยๆ

ในหนังสือ เมืองนิมิตร ความฝันของนักอุดมคติ ท่านผู้ประพันธ์ก็กล่าวถึงความนิยมฮิตเลอร์ที่กลายมาเป็น "เทรนด์" ใหม่ไปทั่วโลกเหมือนกัน    เขาเป็นผู้พลิกฟื้นความเกรียงไกรของเยอรมนีที่ป้อแป้จากพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ ๑ ให้กลายเป็นอาณาจักรไรซ์ที่ ๓ ขึ้นมาได้เหมือนเนรมิต   
ก็พอจะเข้าใจได้ว่า หลังจากจอมพลป. กวาดล้างอำนาจเก่า(ซึ่งไม่มีท่าทีว่าจะหาญขึ้นมาต่อกร) เรียบราบไปแล้วตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๘๒  ท่านก็หวังว่าไทยและผู้นำไทยจะรุ่งโรจน์ขึ้นมาได้แบบเดียวกัน
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 277  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 13:05

ท่านผู้เขียนเรื่องข้างบนนิยามฮิตเลอร์ว่าเป็นกษัตริย์ที่ไม่ได้สวมมงกุฏ

จอมพลป. หลังสงครามอินโดจีนฝรั่งเศสก็ไม่มีใครเทียบรัศมีท่านได้ ประวัติศาสตร์ได้บอกให้เราทราบว่า ท่านได้กลายเป็น "กษัตริย์ที่ไม่ได้สวมมงกุฏ"ของไทยแทนองค์พระผู้ทรงมงกุฏ ที่ผู้อ้างประชาธิปไตยอัญเชิญลงมาจากที่ทรงสถิตย์ แล้วนำตนขึ้นไปเถลิงแทน

เมืองไทยรุ่งโรจน์มาได้แค่ไหน อย่างไร สุดแต่คนจะตีความกันไป ประวัติศาสตร์ตอนนี้กำลังทำท่าจะเวียนๆมาอีกรอบ เดี๋ยวนี้ตัวท่านผู้อ่านเองก็ยังอยู่ในช่วงประวัติศาสตร์ที่คนในอนาคตจะกล่าวถึง

ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าเขาจะสรุปถึงเหตุการณ์ที่เราๆท่านๆเห็นตำตากันเช่นใด ภาพข่าวเดียวกัน พอออกทีวีคนบรรยายยังว่าไปคนละเรื่องแบบขาวกับดำ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 278  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 13:31

^

"ผู้ใดมีอำนาจวาศนา          ธรรมดาหาอะไรก็หาได้
กำหมัดคือยุติธรรมจงจำไว้    ใครหมัดใหญ่ได้เปรียบเรียบเทียวเกลอ
ใครหมัดย่อมต้องถ่อมกายายอบ     ต้องคอยหมอบคอยกราบราบเทียวเหนอ
คอยระแวงแขยงอยู่ละเออ    มิได้กล้าเผยอขึ้นตึงตัง
มีอำนาจวาศนาวาจาสิทธิ์    พูดสิ่งใดไม่ผิดเพราะฤทธิ์ขลัง
ถึงพูดผิดกำหมัดซัดลงปัง    กลายเป็นพูดถูกจังไปทั้งเพ
กำหมัดเล็กลูกเด็กก็เถียงได้    จะส่งเสียงเถียงไปไม่ไหวเหว
ต้องขอยืมหมัดโตไว้โบ๊เบ๊    เดินโอ้เอ้วางปึ่งให้ถึงดี"

พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 279  เมื่อ 29 ก.พ. 12, 16:37

ถูกต้องคร้าบ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 280  เมื่อ 02 มี.ค. 12, 12:49

ก่อนจะจบกระทู้นี้ และเชิญท่านที่สนใจไปนั่งล้อมวงสนทนากันต่อในกระทู้หน้า  ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ต่อจากสงครามอินโดจีน  ดิฉันขอเล่าส่งท้ายจากบันทึกของพ.อ.แสง จุละจาริตต์  เพื่อให้เข้าใจถึงบรรยากาศในสมัยนั้นได้ชัดเจนขึ้นนะคะ

พ.อ. แสงท่านเล่าว่า  แม้สงครามอินโดจีนจบลงด้วยชัยชนะทางฝ่ายไทย  ได้ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงคืนมา    แต่บรรยากาศยินดีปรีดาก็อาจจะเกิดแต่ทางด้านประชาชนผู้ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเป็นส่วนใหญ่     ส่วนทางทหาร ยังตระหนักถึงความตึงเครียดที่ก่อตัวหนักหนาขึ้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
เพราะขณะนั้น แสนยานุภาพของญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ทหารไทยประมาทมิได้เลย    ผู้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดย่อมรู้ว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่อันตรายคับขันเพียงใด     เพราะญี่ปุ่นได้เข้ามาตั้งฐาน บก.ทัพเรือ  ทัพอากาศ  ในอินโดจีนฝรั่งเศส    เป็นขั้นตอนก้าวกระโดดมุ่งเข้าครอบงำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเบ็ดเสร็จ  โดยฝีมือกองทัพเกรียงไกรของจักรพรรดิ์ฮิโรฮิโตแห่งญี่ปุ่น
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 281  เมื่อ 02 มี.ค. 12, 13:00

นายดาบหนุ่มน้อยอย่างพ.อ.แสง จุละจาริตต์    รวมทั้งนายดาบกองหนุนอื่นๆ  กับทุกรุ่นที่ถูกระดมไปสนามรบในสงครามอินโดจีน  ไม่ได้รับการปลดปล่อย    แต่กลับถูกฝึกเพิ่มเติมและบรรจุเข้าอัตรากำลังประจำการของหน่วยกองพันต่างๆ   ตามแผนรับสถานการณ์รุกราน  ที่กองทัพประเทศไทยในตอนนั้นตระหนักถึงภัยคุกคามนี้ดี   แม้ยังไม่กระโตกกระตากให้ประชาชนรู้ก็ตาม

ในตอนนั้น  ประเทศเจ้าอาณานิคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างฝรั่งเศสและอังกฤษ  กำลังเกิดอาการง่อยเปลี้ยเสียขาอยู่กับสงครามในยุโรป ที่เยอรมันบุกหนัก ซ้ำเป็นฝ่ายมีชัยตลอด      ฝรั่งเศสและอังกฤษจึงต้องปล่อยอินโดจีนออกจากอำนาจ   ให้ตั้งแผนรับศึกและช่วยเหลือตัวเองกันไปตามยะถากรรม  
ประเทศพี่เบิ้มประเทศเดียวที่ยังเหลืออยู่ และฮึ่มๆคุมเชิงอยู่ทางแปซิฟิคก็คือสหรัฐอเมริกา     ซึ่งเป็นประเทศที่ยังไม่บอบช้ำ เพราะสงครามไม่ได้ข้ามทะเลจากแอตแลนติคมาถึงวอชิงตันหรือนิวยอร์ค    ทางตะวันออกของประเทศมีมหาสมุทรแปซิฟิคคั่นอยู่   เครื่องบินรบบินไม่ถึงคาลิฟอร์เนีย

ขอเชิญไปต่อที่กระทู้นี้ค่ะ
เมื่อญี่ปุ่นบุก : ไทยในสงครามมหาเอเชียบูรพา
บันทึกการเข้า
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 282  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 10:07

เรื่องการรบที่สมรภูมิบ้านพร้าวของกองพันทหารราบที่ ๓ มีอีกสำนวน เขียนโดย พล.อ.ไพฑูรย์   ขจรพันธุ์ พิมพ์ในหนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ ไม่ทราบว่ามีข้อมูลนี้หรือเปล่าครับ ?
ถ้าไม่มี ผมจะนำมาพิมพ์เพื่อเสริมเหตุการณ์ด้วย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 283  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 10:33

ดิฉันไม่มีหนังสือเล่มนี้ค่ะ
สนใจ อยากทราบว่าท่านบันทึกเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไรบ้าง
ขอบคุณคุณ Thammarat ล่วงหน้าค่ะ
บันทึกการเข้า
Thammarat
อสุรผัด
*
ตอบ: 29


ความคิดเห็นที่ 284  เมื่อ 22 มี.ค. 12, 11:30

หนังสืออนุสรณ์พระราชทานเพลิงศพ พล.อ.ไพฑูรย์   ขจรพันธุ์ วันเสาร์ ที่ ๒๕ เม.ย. ๕๒ ได้รับจากงานสัปดาห์หนังสือ ฯ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อ ๑๙ ต.ค. ๕๔
มีบันทึกเกี่ยวกับการรบของกองพันทหารราบที่ ๓ ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานส่วนหนึ่งของผู้บันทึก และมุมมองของท่าน ผมขอคัดลอกมาตามหนังสือดังนี้ (มีตัดทอนบางส่วน และใช้คำย่อ เพื่อให้พิมพ์เร็วขึ้น)

กรณีพิพาทอินโดจีน
นักเรียนนายร้อยรุ่นข้าพเจ้าซึ่งเข้ารับการศึกษาปีที่ ๑ เมื่อ ๑ พฤษภาคม ๒๔๘๐ กำหนดจบการศึกษาออกรับราชการเป็นนายทหารใน ๑ พฤษภาคม ๒๔๘๓ แต่เนื่องจากได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ขึ้น คือ ประเทศเยอรมัน ได้ประกาศสงคราม และเคลื่อนกำลังเข้ายึดประเทศโปแลนด์ เมื่อ ๑ กันยายน ๒๔๘๒
ดังนั้น เราจึงได้ข่าวว่าทางการดำริจะให้พวกเราออกรับราชการ เป็นนายทหารสัญญาบัตรมาตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๔๘๒ แล้ว โดยทางโรงเรียนนายร้อยได้ปรับปรุงหลักสูตรใหม่ พวกเราต้องเร่งศึกษา และฝึกยุทธวิธีเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะมีการเร่งงรัดกวดขันการฝึกแก้ปัญหาทางยุทธวิธีในตอนเย็นทุกวัน แต่แล้วเมื่อเหตุการณ์ยังไม่มีอะไรรุนแรงกระทบกระเทือนต่อประเทศไทยมากนัก  จึงให้คงศึกษาไปตามปกติจนจบการศึกษาออกรับราชการใน ๑ พฤษภาคม ๒๔๘๓ ตามเดิม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 17 18 [19] 20 21
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.063 วินาที กับ 19 คำสั่ง