นักเรียนที่ดีต้องรู้จักขวนขวาย
เครื่องบินแบบบริพัตร ไปเยือนประเทศอินเดีย
เมื่อไทยสามารถสร้างเครื่องบินแบบบริพัตร ซึ่งเป็นเครื่องบินที่นับว่าดีเด่นในสมัยนั้นได้เอง ท่านเจ้าคุณเฉลิมอากาศ เจ้ากรมอากาศยานในระยะนั้น จึงมีความคิดเห็นว่า ควรจะมีการส่งเครื่องบินไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่เกียรติของประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
เมื่อเดือน พศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๒ อุปทูตอังกฤษ มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศนำคำเชิญของรัฐบาลอินเดีย ขอเชิญรัฐบาลแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ส่งเครื่งบินทหารไปเยี่ยมประเทศอินเดียเป็นทางราชการ กระทรวงการต่างประเทศจึงส่งเรื่องให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาให้ความเห็น กระทรวงกลาโหมตกลงรับคำเชิญและเมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว จึงให้กรมอากาศยานดำเนินการตลอด คือเลือกสรรเครื่องบิน กำหนดตัวบุคคลที่จะไป วัน เวลา เส้นทาง แล้วรายงานให้ทราบ
กรมอากาศยานตกลงส่งเครื่องบินแบบบริพัตร จำนวน ๓ เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ออกแบบสร้างเองจากโรงงานกรมอากาศยาน กำหนดถึงกรุงเดลี ใน ๑ มกราคม ๒๔๗๒ โดยบินออกจากดอนเมืองและลงพักเป็นระยะ ๆ ดังนี้ ดอนเมือง - ย่างกุ้ง - อัคยับ - กัลกัตตา - อัลละฮาบัด - เดลี
เครื่องที่ ๑ มีนายร้อยเอก จ่าง นิตินันทน์ ต่อมาเป็น นายพันตรี หลวงแสนพลเทพ เป็นนักบิน นายพันโท หลวงเนรมิตรไพชยนต์ เป็นผู้โดยสาร
เครื่องที่ ๒ มีนายร้อยเอก กฤษณ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ต่อมาเป็น นายพันตรี หลวงอัมพรไพศาล เป็นนักบิน และนายสิบเอก สีนวล มากพานิช ช่างเครื่องเป็นผู้โดยสาร
เครื่องที่ ๓ มีนายร้อยโท กิ่ง ผลานุสนธิ์ ต่อมาเป็น นาวาอากาศเอก หลวงล่าฟ้าเริงรณ เป็นนักบิน และนายสิบตรี ชื่น เมฆพยม ช่างเครื่องเป็นผู้โดยสาร
นอกจากนักบินและช่างเครื่องแล้ว ทางราชการได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปติดต่อช่วยเหลือทางพื้นดินด้วย มีร้อยเอง หลวงถกลนภากาศ ( มนต์ สิงหเสนี ) เป็นผู้ควบคุมนำชิ้นส่วนอะไหล่ไปไว้ตามตำบลต่าง ๆ ที่เครื่องบินจะลงพักระหว่างทาง คณะนี้ออกเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปยังปีนังในวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๔๗๒ แล้วโดยสารเรือต่อไปยัง ย่างกุ้ง อัคยับ กัลกัตตา แล้วเดินทางโดยรถไปอัลละฮาบัด และเดลี ในราววันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๔๗๒
พิธีส่งเครื่องบิน
วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๔๗๒ ก่อนกำหนดวันออกเดินทาง ได้มีการประกอบพิธีตามประเพณี นายพลเอกพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช เสนาบดีกระทรวงกลาโหม เสด็จมาประทับเป็นประธาน เวลา ๑๙.๐๐ นาฬิกา พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๗ รูป เจริญพระพุทธมนต์ที่สโมสรนายทหาร ดอนเมือง ซึ่งจัดขึ้นป็นโรงพิธี เสร็จแล้วเสนาบดีฯ และพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ประทับแรมและพักแรมอยู่ที่นี่ เพื่อส่งเครื่องบินซึ่งจะออกเดินทางในเช้าวันรุ่งขึ้น
วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๔๗๒ เวลาเช้าก่อน ๐๗.๐๐ นาฬิกา ได้ประชุมพร้อมกันที่สนามหน้าโรงซ่อมหมายเลข ๖ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมที่จะออกเดินทางได้แล้ว ผู้แทนรัฐบาลแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะไปเจริญสันถวไมตรียังเดลี ได้เรียงตัวเข้าไปนมัสการพระสงฆ์ รับประพรมน้ำพระพุทธมนต์ แล้เข้าถวายคำนับเสนาบดี รับการทรงเจิมหน้า แล้วแยกย้ายกันไปประจำเครื่องบิน
เวลา ๐๗.๐๐ นาฬิกาตรง นายพลตรี พระยาเฉลิมอากาศ ให้สัญญาณปล่อยเครื่องบิน นักบินทั้งสามเร่งเครื่องยนต์บังคับเครื่องขึ้นสู่อากาศ ท่ามกลางเสียงสวดชัยมงคลกถาของพระสงฆ์ และเสียงไชโยโห่ร้องของผู้มาส่ง
อุบัติเหตุ
ครั้นเวลา ๑๐.๔๕ นาฬิกา ของวันออกเดินทางนั้นเอง เครื่องบินตามทั้งสามเครื่องกลับมาลงที่สนามบินดอนเมือง รายงานว่าเครื่องนำประสบอุบัติเหตุ เครื่องยนต์ขัดข้องต้องร่อนลงในป่า เข้าใจว่าเป็นจังกวัดอุทัยธานี แต่ไม่เห็นเหตุกาณ์ทางพื้นดิน เพราะบริเวณนั้นเป็นป่าทิบ
นายพลเอกพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช เสนาบดีกระทรวงกลาโหม ซึ่งยังประทับอยู่ที่กรมอากาศยาน โปรดให้โทรเลขถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดตาก ขอให้ช่วยค้นหาเครื่องบินและนักบินซึ่งประสบอุบัติเหตุและให้นำแพทย์ไปด้วยเพื่อช่วยเหลือนักบินและผู้โดยสาร
ครั้นเช้าวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๔๗๒ ได้รับข่าวทางโทรเลขว่า นายร้อยเอก จ่าง นิตินันทน์ ปลอดภัยเดินบุกป่าจากที่เครื่องบินตกไปพักอยู่ที่บ้านหนองกี่ ท้องที่อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี พระยาศรีมหาเกษตร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ออกเดินทางไปค้นหาได้พบเข้า ส่วนนายพันโท หลวงเนรมิตรไพชยนต์ เครื่องบินหักบีบทับลำตัวท่อนบนถึงแก่กรรมทันที จึงจัดการนำศพไปไว้ที่จังหวัดอุทัยธานี เครื่องบินลำนั้นลหักอยู่ในป่าทึบดงหนองเงียก ตำบลพลวงสองนาง อำเภอทัพทัน ห่างจากเขาลำพยนประมาณ ๖ กิโลเมตร
การเดินทาง
การเดินทางครั้งหลังเป็นไปตามระยะทางและวันเวลาที่กำหนดไว้ แต่ได้เกิดมีเหตุที่น่าเสียใจอยู่บ้างคือ ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๔๗๒ ขณะที่เครื่องบินทั้งสองบินเข้าสู่เขตเมืองอัลละฮาบัด มองเห็นสนามบินที่จะลงอยู่แล้ว เครื่องของ ร.ท.กิ่ง ผลานสนธิ์ เกิดขัดข้องต้องลงบนชายหาดแม่น้ำคงคา ซึ่งได้ทราบในภายหลังว่าท่อทางเดินของน้ำมันรัวจนเบ็นซินหมด เครื่องบินได้รับความเสียหายไม่สามารถจะซ่อมให้ใช้การได้ทันความประสงค์ จึงส่งกลับทางเรือ หัวหน้าผู้ควบคุมและนักบินบาดเจ็บต้องเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองอัลละฮาบัด ส่วนอีกเครื่อลงสนามบินได้เรียบร้อย
