เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 7413 มยิลิราวณัน กไต เสถียรโกเศศและนาคะประทีป
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 05 ม.ค. 12, 12:28



        ประชุมเรื่องพระราม

ไทยเขษม ปีที่ ๗  เล่ม ๑๐  วันที่  ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๓

มีอยู่ ๕ ตอน คือ

ทศรสชาดก

อัทกุตะรามายณะ

ทูตองคท

มหิราพณ์ปาลา

มยิลิราวณัน  กไต         หน้า ๑๒๕๒

       
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 12:42



        มี "ไทยเขษม" อยู่  ๑๗ เล่ม   ได้ตั้งโต๊ะไว้ต่างหากเผื่อสหายที่สนใจจะได้ค้นคว้า

พบเรื่องต่างๆมากมี    ที่ต้องนำมาเล่ากันเพราะหาอ่านยาก  และสนุกสนานเป็นความรู้อย่างแท้จริง

ท่านที่มีหนังสือไทยเขษม หรือผ่านตามา  เชิญท่านผ่านทางไปโดยสวัสดิภาพ     จุดประสงค์ของ

การเล่านี้ก็เพื่อคุยกันถึงเรื่องรามเกียรติ์ที่ไม่ได้มาจากคัมภีร์ของวาลมีกิ    คงมาจากหลายคัมภีร์

        ด้วยความเคารพ เสฐียรโกเศศ และ นาคะประทีป    จึงจะคัดลอกอย่างละเอียดเท่าที่จะทำได้

และขอย่อความบางตอนเพื่อให้กระทู้ไม่ยาวนานจนเกินกำลังของผู้อ่าน
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 12:52



คำชี้แจง


มยิลิราวณัน  เป็นพากย์ทมิฬ  แปลว่าเรื่อง ราพย์นกยูง (อสูรตนนี้ทรงอุณหิษปักหางนกยูง)

แยกศัพท์เป็น  มยิล (นกยูง)  _อิ_ราวณัน ;     กไต  คือ  กถา

เป็นเรื่องอยุ่ใน ปกรณ์ทมิฬ

เรียงเป็นภาษาไทยตามคำบอกเล่าของท่านพราหมณ์ ป. สุพรหมัณยศาสตรี  แห่งราชบัณฑิตยสภา

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 13:06



        ทศกัณฐ์ เสียทหารทั้งนายไพร่ไปเป็นอันมากแล้ว   จึงเรียกประชุมเสนาอมาตย์ว่าจะ

ปราบปรามการสงครามอย่างไรดี      อมาตย์ผู้หนึ่งแนะว่า  ทศกัณฑ์มีทายาท ชื่อ  มยิลิราวณัน  อยู่ในบาดาล

จะขอให้ช่วยก็ได้

        ทศกัณฑ์เห็นชอบด้วย   จึ่งระลึกถึง    ทันใดนั้น มยิลิราวณัน มาปรากฎแก่จักษุ  และทูลถามว่า

ไฉนป้อมปราการประตูหอรบลงกา  จึงพังทะลาย         ทศกัณฑ์ก็เล่าเรื่องให้ฟัง      มยิลิราวณันรับอาสาว่าจะเอาพระรามไปถวายพลีแก่เจ้าแม่กาลี


        ระหว่างนั้นพระพายุไปบอพญาพิเภษณ์ว่า   จะมีการลักตัวพระรามพระลักษณ์       พิเภษณ์ขอให้หนุมานไปทำการเฝ้ายามรักษาพระองค์

หนุมานแผลงฤทธิฺยื่นหางไปพัรพลับพลาโดยรอบ ๆ  ซ้อนกันเป็นป้อมขนมแน่นทึบ   แม้แต่แมลงวันหรือมดก็เล็ดลอดเข้าไม่ได้

บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 13:38

หน้าตาหนังสือ มยิลิราวณัน กไต ฉบับดั้งเดิม ภาษาทมิฬ ยิงฟันยิ้ม




คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 13:44


        มยิราวณันกลับไปบาดาล   เห็นเป็นเรื่องเล็ก ๆ  จึงส่งเสนาผู้ใหญ่ให้ไปเอาองค์พระรามพระลักษณ์มา

มหาเสนาก็ยกกองขึ้นไป   พยายามจะแทรกหางหนุมานเข้าไป    แต่ถูกหางเบียดบดร่างกายบี้แบน  

บ้างกระดูกแตกละเอียด   ไม่สามารถจะเข้าไปได้   ก็พากันกลับไปรายงาน       ท้าวราพณ์ลองไปดูเองเห็นว่าจะเข้าไปไม่ได้แน่  

จึงแปลงกายเป็นพิเภษณ์ทำเป็นไปกำชับให้หนุมานระวังอย่างกวดขัน   แล้วขอเข้าไปตรวจตราหน้าที่   หนุมานก็อ้าปากให้เข้าไปทางนั้น

มยิลิราวณันก็ลักตัวพระรามพระลักษณ์ใส่หีบถือออกมา    แล้วลงไปบาดาล
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 13:55



        ขอบคุณ คุณหลวงเล็กค่ะ       ท่านเป็นผู้มีวาสนาสูงส่งยากจะหาผู้เทียมทัน

จะเหลียวไปทางใดก็มีหนังสือเก่าอยู่รอบกาย  แทบจะเล่าสู่กันฟังว่ามีบุญหล่นทับ

ขอให้ห้องสมุดส่วนตัวที่กำลังสร้างเสริมขึ้นใหม่จงเจริญก้าวหน้า   เก็บอย่างละสองเล่มคงเพียงพอ

สำหรับการใช้งาน
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 13:56



        ทศกัณฐ์ เสียทหารทั้งนายไพร่ไปเป็นอันมากแล้ว   
จึงเรียกประชุมเสนาอมาตย์ว่าจะปราบปรามการสงครามอย่างไรดี     
อมาตย์ผู้หนึ่งแนะว่า  ทศกัณฐ์มีทายาท ชื่อ  มยิลิราวณัน 
อยู่ในบาดาล  จะขอให้ช่วยก็ได้

        ทศกัณฐ์เห็นชอบด้วย  จึ่งระลึกถึง  ทันใดนั้น มยิลิราวณัน
มาปรากฎแก่จักษุ  และทูลถามว่า  ไฉนป้อมปราการประตูหอรบลงกา 
จึงพังทะลาย  ทศกัณฐ์ก็เล่าเรื่องให้ฟัง    มยิลิราวณันรับอาสาว่า
จะเอาพระรามไปถวายพลีแก่เจ้าแม่กาลี


ภาพประกอบการเล่าเรื่อง
ภาพซ้าย  ราวณะปรึกษากับอมาตย์
ภาพขวา  มยิลิราวณันเข้าเฝ้าราวณะ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 14:11


        มยิราวณันกลับไปบาดาล   เห็นเป็นเรื่องเล็ก ๆ  จึงส่งเสนาผู้ใหญ่
ให้ไปเอาองค์พระรามพระลักษณ์มา  มหาเสนาก็ยกกองขึ้นไป  
พยายามจะแทรกหางหนุมานเข้าไป    แต่ถูกหางเบียดบดร่างกายบี้แบน  
บ้างกระดูกแตกละเอียด   ไม่สามารถจะเข้าไปได้   ก็พากันกลับไปรายงาน      
ท้าวราพณ์ลองไปดูเองเห็นว่าจะเข้าไปไม่ได้แน่   จึงแปลงกายเป็นพิเภษณ์
ทำเป็นไปกำชับให้หนุมานระวังอย่างกวดขัน   แล้วขอเข้าไปตรวจตราหน้าที่  
หนุมานก็อ้าปากให้เข้าไปทางนั้น

มยิลิราวณันก็ลักตัวพระรามพระลักษณ์ใส่หีบถือออกมา    แล้วลงไปบาดาล

ภาพประกอบ
ภาพบนซ้าย  พิเภษณ์เข้าเฝ้าทูลพระรามพระลักษมณ์ว่า
มยิลิราวณันจะมาลักพาทั้งสองพระองค์ไปจากพลับพลา

ภาพบนขวา  มยิลิราวณันเข้าไปลาชายา?

ภาพล่างซ้าย  มหาเสนากลับเฝ้าทูลมยิลิราวณันทราบเรื่อง
ที่ไม่สามารถเข้าไปลักพาพระรามพระลักษมณ์จากการคุ้มกันของหนุมานได้

ภาพล่างขวา  มยิลิราวณันแปลงเป็นพิเภษณ์เข้าไปลวงหนุมาน
แล้วลักพาพระรามพระลักษมณ์ลงใส่หีบออกมาจากพลับพลา


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 14:19



        ขอบคุณ คุณหลวงเล็กค่ะ       ท่านเป็นผู้มีวาสนาสูงส่งยากจะหาผู้เทียมทัน

จะเหลียวไปทางใดก็มีหนังสือเก่าอยู่รอบกาย  แทบจะเล่าสู่กันฟังว่ามีบุญหล่นทับ

ขอให้ห้องสมุดส่วนตัวที่กำลังสร้างเสริมขึ้นใหม่จงเจริญก้าวหน้า   เก็บอย่างละสองเล่มคงเพียงพอ

สำหรับการใช้งาน

       ขอบคุณที่ยอมา  ตอนนี้ก็ซ่อมห้องสมุดไปได้พอสมควร
เพิ่งไปรับบุญจากท่านผู้มีจิตเป็นพรหมเมื่อไม่นานมานี้ 
เล่นเอาแขนตึงไหล่ยอกหลายวัน  นี่ยังไม่นับที่เพิ่งไปเสาะหามาเพิ่มเองอีก
ตอนนี้เก็บอย่างละสองเล่ม ท่าจะไม่พอ  เพราะเก็บแยกเป็นสองที่ด้วย
เห็นถ้าจะต้องทวีคูณขึ้นอีก (หรือเปล่า?)
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 14:20


        ลำดับนั้น  พญาพิเภษณ์  เมื่อได้เวลาถึงยามปลอด   ได้ไปสนทนาสืบเหตุการณ์ที่หนุมาน

หนุมานแปลกใจจึ่งถามว่า  เมื่อกี้นี้ก็มาตรวจยามทีหนึ่งแล้ว   ล่วงเวลายังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง  ไฉนมาถามอีก

พญาพิเภษณ์ยิ่งประหลาดใจหนักขึ้น   รีบเข้าไปดูในพลับพลาที่ประทับ  ไม่เห็นองค์พระรามพระลักษณ์

ก็รู้ว่าถูกศัตรูเล็ดรอดเข้ามาลักสององค์ไปแล้ว        ทั้งพลับพลาก็โศกาอาดูรครวญคร่ำปรับทุกข์กันไม่เป็นสมฤดี


       พญาพิเภษณ์ได้สติ   สั่งหนุมานให้ไปตามในบาดาล    และชี้ทางไปบาดาลว่า   ที่กลางทะเลมีบัวทะเลใหญ่

มีดอกบัวมหึมา   ต้องลงไปทางหลอดดอกบัวนั้น          เมื่อถึงบาดาลแล้วจะพบป้อมไฟกาฬ   ยอดป้อมมีรากษส

ชื่อมัจฉครรภเป็นผู้รักษา     ซึ่งใคร ๆ จะเอาชนะมิได้   มีรากษสสองแสนเป็นบริวาร
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 16:40


     
        มีสระน้ำอยู่นอกเมืองอีกป้อมหนึ่ง    ชาวบาดาลจะออกไปตักน้ำที่นั่น   เมื่อตักน้ำแล้ว  จะกลับเข้าป้อมอีก   ต้องให้เจ้าหน้าที่

ชั่งตัวตรวจน้ำหนัก       ถ้าหนุมานล่วงป้อมนั้นได้  จะได้เห็นตัวเมือง

        หนุมานสาบานว่า   ถ้าเชิญองค์พระรามพระลักษณ์กลับคืนมาสู่พลับพลามิได้   ก็ไม่ขออยู่ดูหน้าโลก  จะฆ่าตัวตายเสียในบาดาล

จึ่งรีบออกไปตามทางที่พญาพิเภษณ์บอก        ไปจนถึงดอกบัว      ไปเห็นป้อมไฟกาล   ที่มีเปลวเพลิงรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ฮือ ๆ

หนุมานฆ่ารากษสสองแสนเรียบ

        ในที่สุดมัจฉครรภ์ผู้ขุนพลก็ออกมารบ   ฝีมือเข้มแข็งทัดเทียม  แสดงฤทธิ์ประหัตประหารเปลี่ยนทำนองรบ      ต่างหักโหมกำลังกันไม่ลง

หนุมานผู้ต้องสู้รบมาหลายระยะแล้ว  รู้สึกเหนื่อยอ่อนเต็มที   ขอพักรบ         

        และออกปากถามโดยดีว่าเป็นลูกเต้าเหล่ากอใคร      บิดามารดามีชื่อว่าอะไร


        ในชั้นแรก   มัจฉครรภ์ปฎิเสธ   และปรามาสว่าไม่สามารถต่อกรแล้วฤา      จึงมาล่วงถามถึงโคตรเค้าเหล่าตระกูล

แต่หนุมานทำไขสือในข้อนั้น   คงวิงวอนให้บอกวงศ์วาน          มัจฉครรภ์ทนวิงวอนมิได้    จึงสำแดงประวัติตนว่า

บิดาชื่อหนุมาน   มารดาเป็นปลาชื่อ ติมิติ

(สันสกฤต  ว่า  ติมิติมิงคล   เป็นปลาใหญ่เหลือขนาด   ทมิฬตัดเอาชื่อมาเรียกครึ่งเดียว) 
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 05 ม.ค. 12, 17:48

 


        หนุมานตกตะลึง   เพราะรู้สึกอยู่เสมอว่าตนเป็นพรหมจารี   ไฉนจึ่งมีลูกเป็นรากษสนี้

พลางควบคุมสติระลึกถึงเหตุการณ์ในหนหลัง    เห็นเหตุอยู่ราง ๆ ว่า    เวลาตนเข้าไปในเมืองลงกา

ขึ้นไปยังปราสาททศกัณฐ์ในเวลาดึกสงัด     เห็นเหล่ารากษสีนางในนอนกลิ้งหลับใหลไม่สำรวมกาย

บางทีใจลอยไปในเวลานั้น   เป็เหตุให้มีลูกได้เลยหรือไฉน      จึ่งร้องถามมัจฉาครรภดูอีกทีว่า   

"ก็ไหนชาวโลกยกย่องหนุมานว่าเป็นนิตยพรหมจารี   แต่ทว่าเขามีเมียด้วยหรือ"


        มัจฉครรภแถลงเหตุว่า   เมื่อตอนไปลงกา    เวลาที่หนุมานผลุดพ้นออกไปจากปากนางรากษสี ชื่อ  เว็ฏไก ( สํสกฤตว่า   สึหิกา, ผีเสื้อสมุทร)

มัเหื่อแตกมาก    หนุมานได้ปาดน้ำเหงื่อทิ้งลงไปในทะเล        ปลาขื่อติมิติกลืนเข้าไปก็มีลูก    คือตัวมัจฉครรภ

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 06 ม.ค. 12, 10:33



        หนุมานปลื้มใจ  ตรงเข้าไปกอดจูบ  บอกว่าตัวเองคือหนุมาน   เสียใจที่มารบกับลูก

ลูกก็เสียใจว่าได้ทำผิดที่ต่อสู้กับบิดา    หนุมานพูดว่าได้มาที่นี้เพื่อค้นหาองค์พระรามพระลักษณ์

ขอให้มัจฉครรภปล่อยให้ล่วงด่านเข้าไป   มัจฉครรภแสดงความเสียใจว่า  มิรู้ที่จะยอมได้อย่างไร  เพราะตั้งแต่เป็น

ตัวตนขึ้นมา   ก็ได้รับความอุปถัมภ์ด้วยความกรุณาปรานีจนเติบโต  ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาด่าน

หนุมานก็เป็นผู้รอบรู้ธรรมศาสตร์ทั้งหมดดีอยู่แล้ว

        หนุมานไม่ยอมฟังเสียง    ได้พยายามปลอบโยนเอาใจต่าง ๆ   ว่าถ้าพ่อเสียทีลูกก็จะได้รับความอัปยศด้วย

        มัจฉครรภ์ยืนยันว่า   ตราบเมื่อมีชีวิตอยู่จะทรยศต่อมยิลิราวณันไม่ได้     มีอยู่ทางหนึ่งก็คือต้องชกหน้าอกมัจฉครรภ์อย่างแรง

เพราะหนุมานมีแรงมากประหารรากษสเสียนับได้สองพัน   เมื่อมัจฉครรภ์สลบลง   ก็เป็นโอกาสที่จะผ่านป้อมไปได้โดยไม่มีใครขัดขวาง


        หนุมานไม่พอใจที่ต้องทำกับลูกถึงปานนั้น  แต่ก็ต้องทำ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 06 ม.ค. 12, 10:52



        ป้อมชั้นในยังมีอีกหลายแห่ง   มีป้อมอิฐ  ป้อมทองเหลือง  ป้อมสัมฤทธิ์   ป้อมทองคำ

แต่ละแห่งมีหารรักษาการป้อมละมากมาย   หนุมานก็สังหารหมด          ไปถึงป้อมแก้วประพาลที่มีทหาร

แปดสิบแสน   หนุมานผู้มิได้นำอาวุธมาด้วยต้องถอนเสาธงมาเป็นอาวุธ


        ไปถึงด่านที่มีตราชูแขวนอยู่   มีกอวทหารเฝ้าอยู่หนาแน่น   หนุมานจึงจำต้องแฝงตัวคอยหาโอกาส

อยู่บนต้นไม้


        มยิลิราวณันตื่นก็สั่งนางทูรตัณฑิไกให้ไปตักน้ำด้วยหม้อทอง          นางขึ้นเสียงว่า  นางและลูกก็ถูกจองจำอยู่ด้วยกัน 

ที่ให้แม่ไปตักน้ำจะทำพิธีพลีกระมัง   ไม่จำเป็นต้องลำบากจะฆ่าเสียก็ได้  ไม้ต้องมีพิธีอะไร           มยิลิราวณันบอกว่าจะทำ

พิธีฆ่าพระรามพระลักษณ์ต่างหาก

       นางเดินออกมาตักน้ำ  เศร้าสร้อยละห้อยไหิ  รำพันถึงความชั่วช้าของมยิลิราวณัน  และการที่นางไร้ที่พึ่ง 

       หนุมานซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ได้ยินเสียงนางยักษีพิลาป   จึงถามว่าทำไมนางกับลูกจึงไม่มีที่พึ่ง        นางเกรงว่าจะเป็น

มยิลิราวณันแปลงมาคอยซุ่มถามเอาความ   จึ่งเงียบเสียงทันที

        หนุมานลงจากต้นไม้เข้าไปเล่าว่าตนเองคือหนุมาณ  มาที่นี้เพื่อช่วยพระรามพระลักษณ์และนางกับลูก   ขอให้บอกว่า พระรามพระลักษณ์อยู่ทางไหน

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 20 คำสั่ง