พืชพันธุ์แปลกประหลาด

[:D :D]

ดูดีดี แยกออกไหมคะ 
ไหนพืช ไหนก้อนหิน...

[:D :D]

พืชประหลาดชนิดนี้ ชื่อว่า Lithops หรือ flowering stones หรือ living stones (หินมีชีวิต)
จัดอยู่ในกลุ่มของพืชอวบน้ำ(Succulent plant)
ชื่อนี้มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ คำว่า "Lithos" ซึ่งแปลว่า "หิน"
และ "-ops" ซึ่งแปลว่า "เหมือน" ดังนั้นคำว่า "Lithops" จึงแปลได้ว่า "เหมือนหิน"
Lithops เป็นพืชอวบน้ำที่ขึ้นอยู่ในทะเลทรายอันแห้งแล้ง มีลักษณะคล้ายกับกรวดก้อนเล็กๆ
มีขนาด รูปร่าง ลวดลาย และสีสันที่หลากหลาย
ถึงจะเหมือนหินอย่างไรก็ยังออกดอกสวยงามให้ได้ชมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว

[SILA]

สืบเนื่องจากต้นกัลปพฤกษ์ วันนี้อ่านในไทยรัฐออนไลน์ พบบทความนี้ครับ

          ต้นกัลปพฤษ์ : ต้นคริสต์มาสของสมเด็จฯ

เขียนโดยคุณเผ่าทอง ทองเจือ

          เล่าย้อนเหตุการณ์ไปตอนปลายปี ๒๕๔๒ กับงานพระราชทานเลี้ยงปีใหม่แก่ข้าราชบริพาร
สมเด็จฯ ต้องพระราชประสงค์ให้คิดทำต้นคริสต์มาสแบบไทยๆ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

          คุณเผ่าทองตีโจทย์หลายตรลบจนลงตัวที่ ต้นกัลปพฤกษ์   

         http://www.thairath.co.th/content/edu/226695

[SILA]

         จากกัลปพฤกษ์ นึกถึงต้นไม้อีกหนึ่ง ใน กามนิต วาสิฎฐี  - ประวาลพฤกษ์ - ปาริชาต

พจนานุกรมให้ความหมายว่า

           ปาริฉัตร, ปาริชาต น. ต้นไม้สวรรค์ในสวนพระอินทร์, ต้นทองหลาง

บนลานอโศก วาสิฎฐีเล่าเรื่องต้นไม้นี้ให้กามนิตฟังว่า

             ครั้งหนึ่งพระกฤษณะทรงทำสงคราบกับพระอินทร์ รุกไล่ตามขึ้นไปถึงสวรรคโลก
แล้วได้ต้นประวาลพฤกษ์ที่ปลูกไว้บนสวรรค์ เอาลงมาปลูกไว้ในสวนของพระกฤษณะ ต้นประวาล
มีดอกสีแดงเข้ม ส่งกลิ่นไปรอบปริมณฑลได้ไกล ถ้าใครได้กลิ่นดอกประวาลก็จะระลึกชาติที่ล่วงไปแล้ว
นมนานได้ทุกชาติ

              "แต่ก็มีฤษีเท่านั้นที่สามารถจะได้สูดกลิ่นหอมนี้ในมนุษยโลก"

Indian Coral Tree - ทองหลาง, ทองหลางด่าง, ทองหลางลาย, ปาริชาต

[SILA]

จากพจนานุกรม  

         ประวาล  น. หน่อหรือแขนงต้นไม้ที่แตกออก
ในขณะที่
         ประพาฬ    - รัตนะ (แก้ว) ชนิดหนึ่ง สีแดงอ่อน เกิดจากหินปะการัง ใต้ทะเล (ป. ปวาฬ)

ซึ่งคำหลังนี้ใช้บรรยายต้นปาริชาตบนสวรรค์ เมื่อกามนิตลอยเลื่อนไปสู่หุบเขา

            เห็นเป็นหุบเขาลึก มีหินผาสกัดกั้นไว้ด้วยยอดสูงลิบลิ่วดูเหมือนจดขอบสวรรค์
กลางหุบเขามีไม้ประหลาดต้นหนึ่ง ลำต้นและกิ่งเรียบรื่นเป็นสีแดงดั่งแก้วประพาฬ
ใบแกมเหลืองแก่ มีดอกแดงเข้มส่งสีรุ่งโรจน์ราวกับจะลุกไหม้ ....

           ในหุบเขานั้น มีสีสันก็เพียงสาม คือสีน้ำเงินแก่ของท้องฟ้า สีเขียวของหิน และสีแดงประพาฬ
ของต้นไม้ และมีกลิ่นหอมเป็นกลิ่นเดียว กลิ่นหอมอันน่าพิศวงไม่เหมือนกลิ่นหอมอื่นๆ เป็นกลิ่นมาจาก
ดอกไม้สีแดงจัด ซึ่งเท่ากับดูดดึงให้กามนิตมา
            ในทันใดนั้น ลักษณะประหลาดแห่งกลิ่นหอมก็เริ่มสำแดงอาการ กล่าวคือ ขณะกามนิตสูดกลิ่น
ซึ่งตลบฟุ้งอยู่ทั่วหุบเขานั้น ความรู้สึกระลึกเรื่องหนหลังได้แล่นพรูเข้าสู่ใจโดยเร็ว ทำลายทะลุฝ้ามืดที่กำบังไว้
ตั้งแต่ตื่นขึ้นในสระจนบัดนี้
            กามนิต ระลึกถึงความเป็นไปในอดีตได้ตลอด

ต้นปาริชาต(บนสวรรค์) จากภาพประกอบหนังสือเรื่องกามนิต โดย อ.ช่วง มูลพินิจ

[เพ็ญชมพู]

เพลินเพลงยามเย็นกับสวีทนุช

"ดอกปาริชาตสวรรค์"



 

[เพ็ญชมพู]

จาก ข่าวสดออนไลน์

เจอ "มะละกอ" ประหลาดออกดอกที่โคน

วันที่ ๒๘ ธ.ค.นายสมนึก เหมมณี เกษตรจังหวัดชุมพร รับแจ้งจากนางชูแสง แดงสกล อายุ ๔๓ ปี อาชีพทำสวนยางพารา และพืชเกษตรล้มลุกอื่น ๆ อยู่บ้านเลขที่ ๑๗ หมู่ที่ ๔ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า ที่กลางสวนหลังบ้าน มีต้นมะละกอพันธุ์แขกดำประหลาด ออกดอกสีแดง เป็นพวงที่ราก



ต้นมะละกอพันธุ์แขกดำประหลาดที่ปลูกอยู่ในสวนยางพาราบนเนื้อที่ประมาณ ๓ ไร่ พบต้นมะละกอพันธุ์แขกดำลำต้นสมบูรณ์ สูงประมาณ ๔ เมตร ออกผลทั้งแก่ทั้งอ่อนดกเต็มคอนับได้ ๒๒ ลูก ห่างจากโคนต้นประมาณ ๑ เมตร มีรากแขนงแยกเลื้อยไปบนพื้นดินสามารถมองเห็นได้และมีช่อดอกสีแดงเป็นพวงนับได้ ๑๑ ดอก ลักษณะกลมโตกว่าเหรียญ ๑๐ บาทเพียงเล็กน้อย สีแดงเข้มดูสวยงาม และที่ดอกซึ่งบานเต็มที่ เมื่อใช้แว่นขยายส่องดู จะพบว่าเป็นดอกมะละกอเล็ก ๆ จำนวนนับ ๑๐๐ ดอกติดอยู่รายล้อม  เจ้าหน้าที่เกษตร จึงใช้ไม้เขี่ยพิสูจน์ที่พื้นดินพบว่าดอกมะละกอดังกล่าว งอกขึ้นมาจากรากแขนงมะละกอจริง ๆ นอกจากนี้ยังพบว่ามีต้นมะละกออีกต้นหนึ่งพันธุ์เดียวกันห่างจากต้นแรกประมาณ ๗ เมตร ก็กำลังมีช่อดอกแบบเดียวกันออกโพล่ขึ้นมาจากรากแขนงเช่นกัน

ด้านนายประทีป ธนาโรจน์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กล่าวว่า จากการตรวจพิสูจน์ ต้นมะละกอซึ่งออกดอกที่ราก เบื้องต้นพอจะสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลที่รากมะละกอ เนื่องมาจากการใช้สารเคมีจำพวกไกรโฟเซต (ยาฆ่าหญ้าชนิดดูดซึม) มาเป็นเวลานาน เพราะผิวรากมะละกอจะอ่อนแอและไวต่อสารเคมีประเภทนี้มาก ซึ่งจะได้นำดอกมะละกอที่พบไปเข้าห้องแล็ปเพื่อตรวจพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง

ในขณะที่นางชูแสง เมื่อทราบเหตุผลดังกล่าวดังนั้นจึงโต้แย้งว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะตนเองปลูก  พืชเกษตรอื่น ๆ รวมทั้งมะละกอมานานหลายปีแล้ว แต่ละรอบปีปลูกมะละกอไม่น้อยกว่า ๓๐๐ ต้น แต่ตนไม่เคยพบเห็นมะละกอแปลกประหลาดอย่างนี้มาก่อนเลย จึงยังสรุปไม่ได้ว่าเกิดจากสารเคมี หรือเกิดจากอะไรกันแน่ ต้องคอยดูกันต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อนจะสรุปว่าเกิดจากอะไร

คุณหลวงเชื่อคุณประทีป ธนาโรจน์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ไหม

และนี่คือดอกมะละกอจริงฤๅ

และถ้าหากไม่ใช่

มันคืออะไร

 

[:D :D]

เหมือนกันไหมคะ...
พบกันคนละจังหวัดเลยค่ะ...

"พระมหาฉลองเปิดเผยอีกว่า ได้นำดอกไม้แปลกนี้มาเก็บไว้ส่วนหนึ่ง ปรากฏว่าได้เกิดเหี่ยวเฉา อีกส่วนหนึ่งได้ใส่ไว้ในช่องฟรีซตู้เย็น พบว่ายังไม่เหี่ยวเฉาแต่ อย่างใด พร้อมกันนี้ได้สอบถามนายบุญยันต์ มูลศรีวัง อายุ 30 ปี อาชีพพรานป่าที่เข้าไปหาของป่ามาขาย ได้รับคำตอบว่าไม่เคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้มาก่อน แม้ว่าจะเข้ามาหาของป่าเป็นประจำ เมื่อลองนำไปให้คนเฒ่า คนแก่อายุกว่า 70 ปี ภายในหมู่บ้านตลิ่งชันดู ไม่มีใคร เคยเห็นหรือรู้จักดอกไม้ชนิดนี้ ชาวบ้านที่ทราบเรื่องต่างแห่กันมาดูพร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า “ดอกไม้พระพุทธเจ้า” ..."

อ่านรายละเอียดได้ตามเว็บข้างล่างนี้ค่ะ
http://www.andamanguide.com/thailand_news/news_1_901.html

[เพ็ญชมพู]

หลังจากนั้น พระมหาฉลองได้เก็บส่วนผลไว้ที่วัดตลิ่งชัน มีชาวบ้านมาขอดอกไม้แปลกนี้เพื่อจะนำไปบูชา เกรงว่าหากมีชาวบ้านหรือพ่อค้าไปพบอาจจะลักลอบขุดไปขาย จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้หรือผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องพันธุ์ไม้ไปตรวจสอบเพื่อการอนุรักษ์เป็นมรดกของชาติต่อไป เพราะอาจจะเป็นพืชโบราณหรือพืชสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นก็เป็นได้

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นายชลธิศ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักป่าไม้ชุมชน กรมป่าไม้ โดยนำภาพถ่ายไปให้ ผู้เชี่ยวชาญป่าไม้ ไปทำการตรวจสอบ ได้รับคำตอบว่าไม่เคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้มาก่อนเช่นเดียวกัน แต่หากดูที่รูปถ่ายอย่างเดียวคงจะไม่สามารถพิสูจน์ให้ แน่ชัด คงจะต้องไปดูของจริงและตัดชิ้นส่วนไปตรวจสอบ ด้วยการส่องกล้องดู

ไม่น่าเชื่อว่า นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และ ผู้เชี่ยวชาญป่าไม้ ไม่รู้จัก ขนุนดิน

 

[:D :D]

คำเฉลยเรื่อง "ดอกไม้พระพุทธเจ้า" มาแล้วค่ะ...

ไม่น่าเชื่อว่า นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และ ผู้เชี่ยวชาญป่าไม้ ไม่รู้จัก ขนุนดิน

 

"ดอกไม้พระพุทธเจ้า" ดังกล่าวแท้จริงแล้ว เป็นพืชที่มีชื่อ เรียกอยู่แล้วว่า “ขนุนดิน” ขนุนดินเป็นพืชดอก ล้มลุก ใบเลี้ยงคู่ ที่มีวิสัยเป็นพืชเบียนราก (root parasitic plant) ขึ้นอยู่กินบนรากพืชชนิดอื่น เช่นรากไทร (Ficus spp.) สมพง (Tetrameles nudiflora) ฯลฯ มักมีลําต้นใต้ดินเป็นก้อน (tuberous stem) ดังภาพที่2 ไม่มีใบที่แท้จริง และจะโผล่ ให้เห็นในช่วงฤดูฝน ลําต้นแยกเพศ โดยที่มีช่อดอกทั้งช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมีย มีรูปร่าง เป็นรูปทรงกระบอก รูปร่างคล้ายลูกขนุนอ่อน และมีดอกย่อยจํานวนมากเรียงอัดแน่นอยู่ แกนช่อ ดอก ต้นขนุนดินเป็นพืชที่มีใบขนาดเล็ก เป็นใบเกล็ดเท่านั้น ในทางอนุกรมวิธานพืชได้จําแนกให้ ต้นขนุนดินเป็นพืชดอกอยู่วงศ์ Balanophoraceae

[:D :D]

ว้าย...น่ารักจัง... พืชหน้าตาคล้ายสัตว์...แปลกประหลาด...
ต้นอะไรเอ่ย...

[เพ็ญชมพู]

Dracula cordobae

ขึ้นไปชมที่งานพืชสวนโลกที่เชียงใหม่ได้โดยพลัน

 

[:D :D]

ข่าวบอกว่า จัดแสดงกล้วยไม้แดร๊กคูร่า (Dracula) ที่มีดอกรูปร่างคล้ายสัตว์ต่างๆ กว่า 123 ชนิด  
โห..ต้องไปดู...

[:D :D]

พืชที่มีลักษณะคล้ายสัตว์..ยังมีอีกนะคะ..

ดอกเทียนนกแก้ว

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Impatiens psittacina   Hk.f.  
ชื่อวงศ์ : BALSAMINACEAE  

ลักษณะ พืชล้มลุก อายุหลายปี สูงได้ถึง 1.5 ม.
ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่กว้าง โคนใบมน ปลายใบแหลมขอบใบจัก
ขนาดกว้าง 2-4 ซม. ยาว 4-6 ซม.
ดอกสีม่วงแกมแดงและขาว ออกเดี่ยวตามก้านใบหรือปลายยอด
ขนาดดอกบาน 2-3 ซม.
ก้านดอกยาวได้ถึง 6 ซม. กลีบรองดอกรูปถ้วยปากบาน
ส่วนโคนเป็นถุง มีงวงน้ำหวานสั้นอยู่ท้ายสุด
บริเวณที่ติดกับก้านดอกพองเป็นปีกโค้ง 2 ปีก
กลีบดอก 5 กลีบไม่เท่ากัน กลีบบนรูปขอบขนานยาวที่สุด
ปลายแยกลึกเป็น 2 แฉก กลีบข้าง 2 กลีบแผ่เป็นปีกแคบ
กลีบล่างแผ่เป็นปีกกว้าง ปลายเว้าเป็น 2 พู
เกสรผู้เป็นมัด ลักษณะม้วนงออยู่ในหลอดดอก
ผลเป็นฝักทรงยาว รูปกระสวย ภายในมีเมล็ดมาก
เป็นพืชที่หายาก พบเฉพาะที่สูงทางภาคเหนือ  

[:D :D]

พืชที่มีลักษณะคล้ายสัตว์..ยังมีอีกค่ะ.. ยังมีอีก...

Sea Anemone Mushroom / Octopus Stinkhorn
เป็นเห็ดที่มีลักษณะคล้ายปลาหมึก จัดอยู่ในกลุ่มของเห็ดเขาเหม็น
มีลักษณะพิเศษคือ จะส่งกลิ่นเหม็นเมื่อดอกเห็ดแก่เพื่อดึงดูดแมลงให้มาตอม
ซึ่งจะทำให้สปอร์ติดไปกับแมลงเพื่อการกระจายพันธุ์