เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 4975 แกรนด์ขย้อน
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
 เมื่อ 23 เม.ย. 01, 18:36

ไปเที่ยวภาคเหนือของอริโซน่า และทะเลทรายโมฮาวี่ใน แคลิฟอร์เนียมาค่ะ  เรื่องทะเลทรายเดี๋ยวไว้มาตั้งกระทู้ใหม่ละกัน  เล่าแต่เรื่อง กะแรนแคนยั่น กันก่อนละกันค่ะ

 ไปกะแรนแคนยั่นมากะหลายเทื่อ ไปเห็นแต่ขอบๆ ตานี้เลยขอดูให้สะใจ เลยไปนั่งเฮือเหาะลำกะติ๊ด เครื่องเซสน่า 7 ที่นั่งรวมคนขับด้วย เห็นวิวสวยมาก เพ่ิงเอาฟิล์มไปล้าง ได้มาแล้วจะเอามาแปะค่ะ ฝั่งใต้ก็เริ่มอุ่นขึ้นบ้างแล้วแต่ยังมีหิมะเกาะอยู่ใต้เงาแดดเป็นหย่อมๆนิดๆ บนถนนไม่มีหิมะหรอกค่ะ หมดไปตั้งแแต่เดือนกพ แล้วค่ะ ถึงมีหิมะตก ปกติแล้วตามฟรีเวย์จะมีรถกวาดหิมะค่ะ แต่ฝั่งเหนือนี่ หิมะท่วมยังกะสนามสกีเลย (ฝั่งเหนือนี่ปกติถ้าจะไปต้องไปต่างหากค่ะ ต้องไปเข้าทางรัฐยูท่าห์ ส่วนฝั่งใต้เข้าจากทางรัฐอริโซน่า) ดูไปก็เพลินดีค่ะ แต่เครื่องบินมันเล็กก็บินตะกุกตะกัก ตกร่องตกหลุมอากาศกันไปตลอด แถมห้องเคบินก็ไม่ได้ปรับความกดอากาศบินเหนือพื้นพันฟุต แต่ริมหุบมันเหนือระดับนำ้ทะเล 7-8000 ฟิตไปแล้ว ความดันมันจึงน้อยกว่าระดับนำ้ทะเลมาก โหยลมสว้านตีขึ้นจนหน้าจะมืด ทีนี้หละ ได้ไปถึง แกรนด์ขย้อน เลย โอ๊ะๆๆ พอลงมาจากเครื่องสนามบินมีแต่กลิ่นนำ้มันเครื่องบินฟุ้ง เลยได้ไป แกรนด์ขยอก ต่ออีกรอบ
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 17 เม.ย. 01, 08:14

เห็นขุมทองแม็กแคนน่าไหมครับ?  (ไม่ใช่ทองญี่ปุ่นนา... กำลังดัง อิอิ)

พูดถึงแกรนแคนยอนแล้วผมนึกถึงพวกอินเดียนแดงครับ
บันทึกการเข้า
เด็กดง
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 17 เม.ย. 01, 10:58

แม่นแล้วพี่จ้อ ชาวอินเีดียนแดงมีความสัมพันธ์อย่างไรกับแกรนแคนยอนหรือคะ สมัยเรียนปี2อาจารย์เคยเล่าเรื่องชางอินเดียนแดงให้ฟังว่าเค้าเคยอาศัยอยู่ในอเมริกามาก่อนบนภูเขาด้วยนะแล้วใต้ภูเขาที่ว่า(ไม่รู้ว่าเขานั้นมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าอย่างไร )มีทองเต็มไปหมดพอนักสำรวจอเมริการู้ว่ามีทองก้เลยขับไล่ชาวอินเดียนแดงไปเกิดการสู้รบกัน จำไม่ได้แล้วว่าใครชนะ
ใครทราบบ้าคะ
     ต้องขอโทษเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะที่ออกนอกเรื่อง
บันทึกการเข้า
นิรันดร์
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 17 เม.ย. 01, 11:37

ตอนนี้เกิดอาการตาร้อน อยากไปเห็นบ้างครับ
บันทึกการเข้า
จ้อ
แขกเรือน
สุครีพ
******
ตอบ: 1081

แต่งงานแล้วจ้า ...


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 17 เม.ย. 01, 23:55

เรื่องอินเดียนแดงนี่ผมไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ครับ โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตกของอเมริกา
คงมีเรื่องเล่าหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน สมัยที่พวกผิวขาวเข้าไปบุกเบิกแรกๆ
ใครทราบเรื่องมันส์ๆ เล่าให้สู่กันฟังบ้างก็ดีครับ

ผมคิดว่าพวกอินเดียนน่าสงสาร นอกจากยึดดินแดนแล้วยังถูกสังหารตายไปเสียเยอะ
ชนพื้นเมืองมักจะรับเคราะห์อยู่ร่ำไป อย่างในคิวบา เมื่อก่อนมีอินเดียนแดงอยู่
แต่หลังจากที่โคลัมบัสพบอเมริกาไม่นานชนเผ่าอินเดียนแดงในคิวบา และหมู่เกาะไกล้เคียง
ก็สูญพันธ์ไปเกลี้ยง สาเหตุหนึ่งก็มาจากถูกคนขาวสังหาร อีกสาเหตุก็คือเป็นหวัดตาย
เนื่องจากว่าพวกอินเดียนแดงอยู่โดดเดี่ยวมานาน ไม่เคยติดต่อกับโลกภายนอก
เลยไม่มีภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัด ซึ่งเป็นโรคเล็กน้อยของพวกยุโรปและเอเชีย
เลยพากันล้มหายตายจากกันหมด จนพวกเจ้าอณานิคมต้องนำพวกทาสผิวดำ
จากอัฟฟิกามาใช้แรงงานปลูกอ้อยแทน
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 18 เม.ย. 01, 02:03

จะให้พูดถึงเรื่องอินเดียนมันจะยาววววน่ะค่ะ  พอดีตอนนี้มีเรื่องจ่ออยู่มาก  ขอเล่าแบบกุดๆละกันนะคะ  ผิดพลาดขออภัยไว้ก่อน



ชาวอินเดียนหรือที่เราเคยได้ยินในหนังคาวบอยว่า อินเดียนแดงนั้น  ได้อยู่อาศัยในเขตตะวันตกของสหรัฐมานานแล้ว  ทรากโบราณวัตถุเก่าที่สุดที่ค้นพบมีอายุประมาณ 4 พันปี  เชื่อกันว่าแถบนี้เคยมีนำ้ท่าอุดมมากกว่า  แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาที่คึกคักมากครั้งสุดท้าย เมื่อพันปีมานี้เอง  อันเป็นเวลาที่คนอินเดียนโบราณ  หรือที่ชาวอินเดียนปัจจุบันเรียกบรรพบุรุษของตนว่า  อานาซาซี (Anasazi = the ancient ones) นั้นได้ทิ้งร่องรอยว่า  จู่ๆก็ละทิ้งถิ่นฐานบ้านช่องให้ร้างแล้วหายสาบสูญไป  อันเป็นเวลาประจวบกัยที่เกิดภาวะแผ่นดินไหว  ภูเขาไฟระเบิดในแถบนี้ต่อเนื่องกันอย่างรุนแรงเป็นเวลานาน  นักโบราณคดีที่ศึกษาเรื่องนี้ สันนิษฐานว่า  ชาวอานาซาซี คงจะคิดว่า  พระเจ้าทรงพิโรธขับไล่ให้ออกไปจากแผ่นดิน  จึงทิ้งข้าวของเครื่องมือไปอย่างทันใด  



บนผนังของหุบเขาในแกรนด์แคนย่อนนั้น  มีซากโบราณสถาน  ที่เป็นห้องก่อด้วยหินจากในหุบนั้นเอง  อยู่ตามช่องที่เกิดจากการกัดเซาะของนำ้เป็นถ้าหรือหน้าผา  เข้าใจว่า  สร้างไว้เป็นที่เก็บพืชผล  โดยพวกเขาจะลงไปทำไร่ในพ้ืนราบในหุบเขา  ที่มีนำ้จากแม่นำ้โคโลราโด้ไหลผ่าน  แล้วเอามาเก็บให้พ้นนำ้พ้นสัตว์  ความที่อากาศแห้งอยู่แล้ว  ช่วยให้เก็บได้นาน



ชาวสเปญเป็นคนผิวขาวพวกแรกที่เข้ามาสำรวจแถวๆแกรนด์แคนย่อนนี้  ราวๆช่วงคริสตวรรษที่ 16 เพราะเชื่อว่ามีเมืองที่เต็มไปด้วยทอง  แล้วก็ไปสำรวจทั่วทวีปอเมริกานั่นแหละค่ะ  เข้าไปเจออานาจักรพวก Aztec ในเม็กซิโกใต้การปกครองของกษัตริย์ชื่อ Montezuma เป็นเรื่องเล่ากันได้ยาวอีกค่ะ  วันนี้เอาเท่านี้ก่อนละกันนะคะ  



รูปนี้เป็นตัวอย่างห้องเก็บของที่ว่าของชาว Anasazi น่ะค่ะ  รูปอื่นๆค่อยเอามาทยอยลงนะคะ  เอ คุณเปี้ยวว่าจะมีที่ไว้เก็บรูปใช่มั้ยคะ  ไม่ทราบจะเอาไปไว้ที่ใหม่ดีกว่าหรือเอาเข้ากระทู้ดีคะ  เอาเข้ากระทู้นี่คงต้องหดรูปกันน่าดูเลย
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW514x005.jpg'>
บันทึกการเข้า
little sun
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 18 เม.ย. 01, 08:32

ลิตเติลพอจะรู้นิดเดียวเกี่ยวกับการนำชาวอัฟฟิกาเข้ามาทำงานว่าคนอเมริกานำชาวอัฟฟิกามาโดยเรือขนาดใหญ่  เค้าจะจับให้ชาวอัฟฟิกานอนเรียงกันเป็นแถวๆนอนตัวติดกันแทบขยับไม่ได้เลยล่ะไม่ได้มีเพียงแถวเดียวนะคะมีซ้อนกันขึ้นไปอีกแต่เค้าเอาไม้กั้นเอาไว้ เค้าให้นอนอยู่อย่างนั้นตลอดการเดินทางเลยล่ะ จำได้แค่นี้เอง เรื่องนี้น้องสาวอ่านให้ฟัง
บันทึกการเข้า
3งง-???
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 18 เม.ย. 01, 15:55

หลงทาง จาก ห้องสมุด-มองอดีต มาเจอคุณพวงร้อยที่นี่
เห็นกระทู้แล้วก็ว่าเดาว่าคนตั้งกะลังอารมณ์ดี อิอิอิ
นี่อีกไม่กี่อาทิตย์ก็ว่า จะไปตลุยแกนด์ขะย้อนที่ว่าเหมื่อนกัน แต่ไปวน เมือง "สร้าง ฝันซิโก้" เค้าว่ามีถนนยึกยักคดไปมาที่มีชื่อถนน"ลำบาก"  กะ สะพาน "โก๋เด็ก เก๊ก"   นะ

ส่วนที่คนที่ 1 ว่านะ ก็เคยได้ยินเหมื่นกัน นะ ว่า มี ขุมทอง " แม่ แค้น น้า"  นะ ก๊าบบบ ก็ไม่รู้เหมื่อนกันว่า แค้นเรื่องอะไรกันมาก่อน นะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 19 เม.ย. 01, 15:59

มีเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับประวัติแกรนด์แคนยอน เอามาฝากคุณพวงร้อยค่ะ

ถ้าเคยอ่านแล้ว ขออำไพที่เล่าซ้ำ  

 ที่นึกอยากทบทวนขึ้นมา   เพราะชอบแกรนด์แคนยอนมากค่ะ



เมื่อ ๕๐๐ ปีก่อน   ทางตะวันตกของอเมริกามีแต่อินเดียนแดงเป็นเจ้าของถิ่น   มีหลายเผ่าทั้งพอว์นี และเพบโล    

ในตอนนั้นเองสเปนก็เดินเรือมาทางโลกใหม่ ขึ้นฝั่งที่เมกซิโกเข้ารุกรานอาณาจักรมายา แอสเทค และอินคา  จับพวกนี้ฆ่าและขนสมบัติซึ่งมีทองคำรวมอยู่มากไปหมด  แล้วยังทำลายอารยธรรมของพวกนี้แทบไม่เหลือซาก

สมบัติที่ได้มาจากชนพื้นเมือง ทำให้สเปนเริ่มตื่นเต้นว่าอาจจะมีขุมสมบัติที่อื่นๆอีก   พวกนี้สืบจนได้ยินตำนานเก่าแก่เล่าถึง " เจ็ดนครแห่งซิโบลา" ว่าไกลขึ้นไปทางเหนือ  คือดินแดนส่วนที่เป็นรัฐทางตะวันตกของสหรัฐในยุคนี้  มีเจ็ดนครซึ่งรวยหนักไปกว่าพวกเม็กซิโก  ขนาดกำแพงทำด้วยทองคำ  ประตูเมืองฝังมรกตเม็ดเป้งๆ

กระแสความเชื่อเรื่องทองคำฮือฮาอยู่พักใหญ่  ไม่แพ้สมบัติในถ้ำลิเจีย   จนนายทหารสเปนชื่อ ฟรานซิสโก วาสเควซ โคโรนาโด( ไม่ใช่โคโลราโดนะคะ) ตัดสินใจออกสำรวจพร้อมกองทหารราว ๓๐๐ คน  

แต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากอินเดียนแดงเผ่าเล็กๆ ยากจนค่นแค้นแทบไม่มีผ้าผ่อนพันกายอยู่ในที่ราบกว้างใหญ่   ไม่มีคนผิวขาวเยี่ยมกรายไปถึง  

ถึงกระนั้นแกก็ไม่ย่อท้อ  บุกหาทองคำไปจนขึ้นไปถึงทางตอนเหนือของรัฐแคนซัสในปัจจุบัน    ด้วยความเชื่อจากปากอินเดียนแดงว่ามีนครทองคำอยู่ทางเหนือขึ้นไปอีก  จนทหารทนความกันดารไม่ไหว ล้มตายลงเสียตั้งมากก็ไม่มีท่าทีว่าเจอ  ในที่สุดแกก็รู้ว่าถูกอินเดียนแดงหลอกให้ไปตาย  จึงจับอินเดียนแดงนำทางฆ่าเสีย  แล้วล่าถอยกลับไปด้วยความผิดหวัง



เส้นทางที่นายทหารคนนี้ผ่านนี่แหละ คือหุบเหวกว้างใหญ่ไพศาลซึ่งแกไม่เหลียวแลเลย   ไม่รู้ด้วยว่าชื่อแกจะได้รับการจารึกในประวัติ

ถึงไม่เจอทองลิเจีย    แกก็เป็นคนผิวขาวพวกแรกที่ได้มาเห็นแกรนด์ แคนยอนค่ะ



ส่วนกำเนิดของแกรนด์ แคนยอนในตำนาน  บอกว่าเกิดจากฝีมือของพอล บันยัน  พระเอกในนิทานชาวบ้านทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ    ใครแวะไปเที่ยวออเรกอนจะเห็นหุ่นของพอล บันยัน สร้างเอาไว้เป็นจุดท่องเที่ยว

พอล บันยัน เป็นมนุษย์จอมพลังเหมือนเฮอร์คิวลิสของกรีกและซิยิ่นกุ้ยของจีน  

เขาเป็นคนตัดไม้  มีกำลังมหาศาลขนาดยืนเหวี่ยงขวานรอบตัว ต้นไม้ทั้งป่าก็ล้มระเนระนาดไปตั้งหลายร้อยไมล์

กล่าวกันว่าแกรนด์ แคนยอนเกิดจากฝีมือนายคนนี้ เป็นงานหนักชิ้นสำคัญ  คือขุดหินลงไปด้วยมือเปล่าๆ  จนกลายเป็นหุบเหวลึก  ขุดไปเรื่อยๆเขาก็กอบหินที่ขุดขึ้นมาได้เอาตั้งเรียงให้สูงเหมือนเด็กเล่นต่อแท่งไม้   กลายเป็นเขาหินรูปแปลกๆ คอด กิ่วๆ เรียงรายอยู่ในแกรนด์แคนยอนจนทุกวันนี้

เรื่องของพอล บันยันมีอีกมาก   ทำอะไรเวอร์ๆ แบบเรื่องผจญภัยของบารอนมึนเคาเสน ของเยอรมัน  ใครอ่านนิทานเยอรมันคงรู้จักท่านบารอนจอมโม้คนนี้ดี

ชักจะออกนอกเรื่องแกรนด์ แคนยอน   จบแค่นี้ค่ะ



เรื่องสมบัติมองเตซูม่า  เคยเอาไปทำเป็นนิยาย ชื่อ Montezuma's Daughter  

โดยฝีมือนักเขียนขายดียุควิกตอเรียน ชื่อ Sir H. Rider Haggard เจ้าของเรื่อง She(สาวสองพันปี) The Mummy (ทำหนังมาหลายหนแล้ว จนหนล่าสุดกลายเป็นหนังตลก) และ King Solomon's Mines (สมบัติพระศุลี- นิยายที่มาของนิยายโด่งดัง เพชรพระอุมา)
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 20 เม.ย. 01, 01:17

ขอบคุณคุณเทาชมพูเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ  นั่นแหละค่ะ เรื่องของ โคโรนาโด (ไม่ทราบเป็นทหารรึไงเนี่ยะค่ะ)  ดิฉันเลยสบายไป  พักนี้มีหลายเรื่องให้ทำอยู่  เลยไม่ค่อยว่างไปค้นให้น่ะค่ะ
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 21 เม.ย. 01, 05:33

เอารูป Grand Canyon ที่ถ่ายมาให้ดูค่ะ  ขออภัยมันออกมาไม่ค่อยดี  เพราะตั้งเครื่องสแกนไม่ถูก  ยังเห็นหิมะปกคลุมหน้าผาบางส่วนอยู่
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW514x010.jpg'>
บันทึกการเข้า
เรไร
บุคคลทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 21 เม.ย. 01, 10:50

เคยไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่แกรนขย้อน เอ๊ย แกรนแคนยอน ตอนตีห้า
อากาศหนาวชนิดติดลบ ลมแรง ชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปกดไม่ได้ เพราะความเย็นจัด ต้องเอากล้องซุกไว้ในเสื้อหนาวตลอดเวลา
วิวสวยหรือเปล่า ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่า จำที่นี่จนตายนะคะ

เห็นเครื่องบินเล็กที่พี่พวงร้อยบอกเหมือนกันค่ะ
แต่ตอนนั้นเพิ่งมีข่าวใหญ่ คือ เครื่องบินเล็กชมวิวแบบนี้ตกที่นิวซีแลนด์ และมีกลุ่มคนไทยตายด้วย ก็เลยไม่มีใครยอมขึ้นไปเป็นเพื่อน ทั้งที่แม่หญิงอยากขึ้นไปดูแทบตาย  ได้ดูแค่หนังสามมิติจากโรงภาพยนต์บนนั้นมันไม่ได้บรรยากาศเอาซะเลย
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 24 เม.ย. 01, 06:19

ไปสแกนรูปมาใหม่ค่ะ  เครื่องสแกนมันอายุมากแล้ว  ออกมาดีที่สุดเท่านี้แล้วค่ะ  รูปนี้มองเห็นปีกเครื่องบินเซสน่าอยู่  มันหลบยากค่ะ  ยอมรับว่าเป็นการถ่ายรูปด้วยความยากลำบากที่สุดในชีวิตเลย  ย่ืนตัวไปข้างหน้าก็ไม่ได้  รู้สึกจะเป็นลมหายใจไม่ออก  เล็งๆได้แล้วก็ต้องรีบๆกดไปเลย  วันที่ไปนั้นก็มีไอนำ้ในอากาศมากทำให้เห็นไม่ชัด  แถมยังต้องถ่ายผ่าานกระจก(มัวๆ)ของเครื่องบินอีก  รูปออกมาไม่คมเท่าที่ไปยืนถ่ายขอบเขาเลยค่ะ  แต่มุมมันดีมาก  อยากเห็นแม่น้าโคโงราโดถนัดๆมานานแล้วค่ะ  เที่ยวหน้าคงต้องไต่ลงไปที่ก้นหุบแล้วค่ะ
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW514x012.jpg'>
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 24 เม.ย. 01, 06:21

ส่วนล่างสุดของแกรนด์แคนย่อน
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW514x013.jpg'>
บันทึกการเข้า
พวงร้อย
สุครีพ
******
ตอบ: 904


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 24 เม.ย. 01, 06:24

ทำให้เห็นพลังการกัดเซาะของแม่นำ้ได้เป็นอย่างดี  เนื่องจากที่ราบสูงเหล่านี้ ถูกยกตัวขึ้นจาก Plate Tectonics พื้นที่เคยเป็นใต้ทะเล  ถูกดันหนุนให้สูงขึ้น 7000-800 ฟิต  หุบเขาที่ถูกกัดเซาะด้วยแม่นำ้  จะเป็นรูปตัววีเห็นถนัด  ที่ต้นแม่นำ้โขง  ทางตอนเหนือๆของลาวก็มีหุบเขารูปตัววีแบบนี้
http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW514x014.jpg'>
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 19 คำสั่ง