หลังควันสงคราม - ญี่ปุ่นกับการชดเชย

[han_bing]

หลังจากที่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ญี่ปุ่นซึ่งพ่ายแพ้ได้ถอนกำลังออกไปจากจีน ทิ้งไว้ซึ่งความเจ็บปวดและทรมานของผู้ที่เหลือรอด หลังจากที่ญี่ปุ่นได้เริ่มเข้ามารุกรานประเทศจีนอย่างหนักนับแต่กลางทศวรรษที่ ๓๐

จากวันที่สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ประเทศจีนที่ถูกทารุณ และเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายหลายคนได้ออกมาเรียกขอความยุติธรรมต่อสิ่งที่ตนเองสูญเสียไป
ไม่ใช่ใช่เวลาแค่ ๑ หรือ ๒ ปีความยุติธรรมจึงจะมาถึง หากกินเวลามากกว่า ๕๐ ปี สายฝนแห่งความยุติธรรมจึงได้โปรยปรายลงมา
แต่ฝนจะตกทั่วฟ้าหรือไม่นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง

จีนได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นยอมรับผิดต่อสิ่งที่ญี่ปุ่นได้ทำกับจีน ดังกรณีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นานกิง นับแต่ปี ๑๙๓๗ เสียงเรียกร้องดังเป็นระยะๆ แม้จะขาดห้วงไปบ้างแต่ก็ไม่เคยหยุด จนกระทั่งในปี ๒๐๐๖ เสียงร้องจากจีนเริ่มดังมากขึ้น  ให้ญี่ปุ่นยอมรับถึงการกระทำของตน  หลังจากที่ญี่ปุ่นปฏิเสธตลอดระยะเวลาเกือบ ๗๐ ปี

สุดท้าย รัฐบาลญี่ปุ่นในเวลาดังกล่าวได้ประชุมเป็นเวลา ๒๒ วันเพื่อถกเถียงถึงเรื่องราวดังกล่าว หลังจากทางจีนได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นยอมรับความผิดในอดีต สุดท้ายหลังจากผ่านไป รัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกประกาศสู่สาธารณชนว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในนานกิงนี้ “เป็นเรื่องยากที่เราจะปฏิเสธ”
หลังจากผ่านมาเกือบ ๖๙ ปี ในที่สุดญี่ปุ่นได้ยอมรับถึงการกระทำของตน

[han_bing]

อย่างไรก็ตาม แม้ญี่ปุ่นจะยอมรับการกระทำ แต่ว่า นักวิชาการญี่ปุ่นได้ออกมากล่าวถึงจำนวนเหยื่อที่เสียชีวิตในครั้งนั้น แม้จีนจะมีตัวเลของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยืนยันแน่ชัด

หากในปี ๒๐๐๗ ซึ่งเป็นวันครบรอบ ๗๐ ปีการสังหารหมู่ชาวนานกิง  รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำวิจัยเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิต ญี่ปุ่นได้กล่าวว่า ประชากรในเมืองนานกิงยุคนั้นมีเพียงสองแสนคนเท่านั้น และจากบันทึกของญี่ปุ่น เมื่อญี่ปุ่นได้บุกเข้ามาในเมือง ผู้คนได้อพยพหนีไปหมดแล้ว และบางส่วนก็เข้าไปอยู่ในเขตปลอดภัย ดังนั้นจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ควรเกิน ๒ แสนคน หรืออย่างต่ำที่สุดน่าจะมีประมาณ ๔ หมื่นคน

กระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมาจนถึงปี ๒๐๑๐ ญี่ปุ่นก็ยังคงถกเถียงอยู่ว่าคนตายเป็นจำนวนเท่าใดแน่ ไม่น่าจะเกิน ๒ แสนคน หรืออาจจะต่ำกว่านั้นอีกมาก

สิ่งนี้กลายเป็นประเด็นที่ทำให้เกิดการวิภาควิจารณ์ จนกระทั่งออกข่าวในโทรทัศน์ของจีน

สามารถดูข่าวได้จากเว็ปไซด์ข้างล่าง

http://www.tudou.com/programs/view/kfffsltFGsw/

นอกจากนี้ กลุ่มหัวรุนแรงบางกลุ่มในญี่ปุ่น ยังได้ออกมากล่าวอ้างถึงความกรุณาของทหารญี่ปุ่นซึ่งรุกรานนานกิงอีกว่า เขตปลอดภัยที่ชาวตะวันตกบางกลุ่มได้สร้างไว้เพื่อช่วยเหลือคนจีน จริงๆแล้วทหารญี่ปุ่นต่างหากที่ทำ และทหารญี่ปุ่นได้ปฏิบัติต่อคนจีนอย่างเมตตาตลอดสงคราม แม้จะมีหลักฐานความโหดร้ายของญี่ปุ่นก็ตาม

[han_bing]

นอกจากการออกมายอมรับการกระทำของตนต่อจีน ยังมีการเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เคราะห์ร้าย ดังกรณีกลุ่มชาวจีนที่ถูกญี่ปุ่นจับไปเป็นแรงงานทาส

ในปี ๑๙๔๔ ขณะที่ญี่ปุ่นได้เข้ามารุกรานบริเวณซานตง (山东) ทหารญี่ปุ่นได้จับวัยรุ่นชาวจีนไปใช้แรงงานเป็นจำนวน ๓๖๐ คน ๒๙ คนได้จบชีวิตในการทำงานให้ญี่ปุ่นอย่างโหดเหี้ยม หลังสิ้นสุดสงคราม แรงงานได้กลับมายังบ้าน และเมื่อเวลาผ่านไป ๕๐ กว่าปี อดีตแรงงานทาส ๕ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เรียกร้องต่อศาลญี่ปุ่นให้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ตนเป็นจำนวนเงิน ๕ ล้าน ๕ แสนเยน

ในชั้นแรก เมื่อปี ๒๐๐๒  ศาลของญี่ปุ่นได้ปฏิเสธเนื่องจากว่าคดีเกินอายุความแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ไป ในปี ๒๐๐๔ ศาลญี่ปุ่นได้ตัดสินให้ชดใช้ให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายเป็นจำนวนตามที่ขอ และในปี ๒๐๐๙ ศาลสูงได้ตัดสินให้เงินเพิ่มเป็นเงิน ๖ ล้านเยน

อย่างไรก็ตามใช่ว่าผู้เคราะห์ร้ายทุกคนจะได้รับความยุติธรรมโดยไว บางคนได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว

ภาพแรงงานทาสในอดีตที่ได้รับเงินชดใช้จากรัฐบาลญี่ปุ่น

[han_bing]

น่าเสียดายที่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับการชดใช้ถึงเพียงนั้น ในเกาหลีกลุ่มหญิงชราที่เคยถูกบังคับให้เป็น “หญิงปลอบขวัญทหาร” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือ “โสเภณีทหาร” ได้ออกมาเรียกร้องสิทธิของเธอเช่นกัน

ในปี ๑๙๔๔ คุณยายหยางชาวเกาหลีเมื่อครั้งยังเป็นเด็กหญิงอายุเพียง ๑๕ ปี ถูกจับทหารญี่ปุ่นจับและบังคับให้เป็น “ผู้หญิงปลอบขวัญ”

ชีวิตของคุณยายตกนรกทั้งๆที่มีลมหายใจนับแต่วันนั้น

ไม่ใช่แค่ผู้ชายเป็นสิบ หรือเป็นร้อยๆที่เข้ามาล่วงเกินเธอ หากเป็นจำนวนนับพันนับหมื่นคน

คุณยายรอคอยความยุติธรรมที่ทางญี่ปุ่นจะมอบให้สำหรับความทารุณที่เธอได้รับมา จนในที่ สุดในปี ๑๙๙๘ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากการทารุณในส่งครามมาลงชื่อเพื่อที่จะมอบค่าเสียหายให้ คุณยายและเพื่อนผู้ร่วมชะตาอีก ๗ คนได้เดินทางไปยื่นเรื่อง

ทางรัฐบาลญี่ปุ่นใช้เวลาสอบสวนว่าคุณยายเป็นผู้เสียหายจริงเป็นเวลา ๑๑ ปี ก่อนจะตัดสิน ใจชดใช้เป็นเงินจำนวนน่าตกใจให้แกเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายแต่ละคน

ทุกๆคนได้รับเงินชดใช้คนละ ๙๙ เยน

ในวันที่คุณยายและเพื่อนๆได้ไปรับเงินจำนวนดังกล่าว คุณยายได้กล่าวต่อการชดใช้ของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ให้ต่อเธอและเพื่อนๆว่า “ฉันรอคอยมาถึง ๖๕ ปี สุดได้สิ่งที่ได้รับคือเงิน ๙๙ เยนนี้ ฉันไม่รู้จริงๆจะพูดอะไรออกมา แต่ฉันอยากจะบอกรัฐบาลญี่ปุ่นจริงๆว่าฉันพร้อมจะมอบเงินให้ท่านมากกว่าที่ท่านมอบให้ท่านอีกสองเท่า ให้พวกท่านเอาไปกินเอาไปใช้อย่างสบายเถิด”


ภาพคุณยายหยาง ชาวเกาหลี อดีตหญิงปลอบขวัญ

[han_bing]

จากวันที่ทหารญี่ปุ่นได้บุกรุนรานดินแดนต่างๆในเอเชียจนถึงวันนี้ ดินแดนที่ถูกรุกรานยังคงจดจำความข่มขื่นครั้งนั้นได้ ในเมืองนานกิงประเทศจีน ทุกๆวันที่ ๑๓ เดือนธันคม ในเวลา ๑๐ โมงเช้า จะมีการเปิดเสียงสัญญาณเตือนภัยติดต่อกันเป็นเวลา ๓๐ นาทีเพื่อรำลึกถึงการรุกราน ตลอดจนมีพิธีรำลึก ณ พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แห่งนานกิง (南京大屠杀博物馆)

ภาพพิพิธภัณฑ์

[han_bing]

ในเวลาที่อีกส่วนหนึ่งของโลกรำลึกถึงความเจ็บช้ำ ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นยังคงตั้งตระหง่านอย่างสง่างามเช่นที่เคยเป็นมานับแต่สงครามโลกจบสิ้นไป

ภาพศาลเจ้ายาคุสุนิ

และการเดินทางไปสักการะของผู้นำญี่ปุ่น

[han_bing]

ข้าพเจ้าคนคว้าข้อมูลจากเว็ปไซด์ต่อไปนี้

http://news.qq.com/a/20091225/000241.htm

http://news.sohu.com/20091225/n269196114.shtml

http://bbs.tiexue.net/post_3502766_1.html

http://www.tudou.com/programs/view/kfffsltFGsw/

http://plyzdzh.blog.163.com/blog/static/77402422007111491530670/

http://bbs.tiexue.net/post_3502766_1.html

http://raiwan.com/2006/08/15/39/

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000045061&Keyword=%
AD%D5%E8%BB%D8%E8%B9

สนใจชมภาพการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนานกิงสามารถดูได้จากเว็ปไซด์นี้

http://cul.shangdu.com/grand-sight/2010/20101101/306_94914.shtml

ทั้งหมดที่ข้าพเจ้าเขียนมามิใช่เพื่อปลุกปั่น แต่ขอให้นึกถึงสิ่งที่ผ่านมาและเตือนตนไว้ถึงการกระทำในปัจจุบันเท่านั้นเอง

[เพ็ญชมพู]

ในเวลาที่อีกส่วนหนึ่งของโลกรำลึกถึงความเจ็บช้ำ ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นยังคงตั้งตระหง่านอย่างสง่างามเช่นที่เคยเป็นมานับแต่สงครามโลกจบสิ้นไป

ภาพศาลเจ้ายาคุสุนิ

และการเดินทางไปสักการะของผู้นำญี่ปุ่น

ยาสุคุนิ  靖国  แปลว่าชาติที่มีความสงบสุขสันติ เป็นชื่อของศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างในสมัยจักรพรรดิเมจิเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหยื่อสงครามกลางเมืองระว่างฝ่ายโชกุนและฝ่ายจักรพรรดิ และยังเป็นที่สักการะดวงวิญญาณของทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองรวมทั้งดวงวิญญาณของนายพลโตโจ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้นด้วย

ศาลเจ้ายาสุคุนิทำความโกรธแค้นในกับเหยื่อสงครามในครั้งนั้นโดยเฉพาะชาวจีนและเกาหลีเป็นอย่างมาก เมื่อนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นทุกสมัยเดินทางไปสักการะดวงวิญญาณของทหารญี่ปุ่นซึ่งมาย่ำยีประเทศของตนที่ศาลเจ้านี้เป็นประจำทุกปี

ปีที่แล้วและปีนี้ ญี่ปุ่นเพิ่งตระหนักถึงความไม่พอใจดังกล่าว ภารกิจการไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนิจึงได้ระงับไป

 

[han_bing]

อันนี้เป็นเว็ปไซด์ของพิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แห่งนานกิง

ท่านใดสนใจสามารถเข้าไปชมได้ มีเป็นภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และแน่นอน...มีภาษาญี่ปุ่น

www.nj1937.org/english/default.asp