เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 13
  พิมพ์  
อ่าน: 177198 รักเร้นของวังบัคกิ้งแฮม
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 02 ธ.ค. 11, 12:33

พระราชวงศ์และญาติที่มาร่วมงานพระศพ  จากซ้ายเจ้าชายฟิลิป  พระสวามีสมเด็จพระราชินีฯ   เจ้าชายวิลเลียม  เอิร์ลแห่งสเปนเซอร์น้องชายของเจ้าหญิง เจ้าชายแฮร์รี่พระโอรสองค์เล็ก และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 02 ธ.ค. 11, 12:54

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในงานพระศพ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 02 ธ.ค. 11, 12:55

จากวันนั้น ถึงวันนี้


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 02 ธ.ค. 11, 16:06

คนที่ทำใจไม่ได้มากที่สุดคือนายโมฮัมเหม็ด อัล-ฟาเยด มหาเศรษฐีพ่อของโดดี้ผู้สูญเสียลูกชายคนเดียว   
เขาปักใจเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นแผนลอบสังหารเจ้าหญิงและลูกชายของเขา  คนบงการที่นายโมฮัมเหม็ดระบุในศาล ในเวลาต่อมาเมื่อมีการพิจารณาคดีสิ้นพระชนม์  คือ เจ้าชายฟิลิป พระบิดา  และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ 


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 02 ธ.ค. 11, 16:13

     อุบัติเหตุมีบางอย่างเป็นเงื่อนงำให้คนเคลือบแคลงจริงๆเสียด้วย  ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สืบสวนของฝรั่งเศสพบเศษกระจกไฟท้ายหล่นกระจายอยู่    ไม่ยักใช่รถเมอเซเดส-เบนซ์ 280S ที่เจ้าหญิงกับโดดี้นั่งมา   แต่เป็นรถเฟียต อูโน ผลิตระหว่างปี 1983-1989 พร้อมกับรอยขูดสีขาวที่ติดอยู่ด้านข้างของรถเบนซ์  ซึ่งสีขาวนี้ตรงกับสีที่ใช้พ่นรถเฟียต อูโนโดยทั่วไป
    ทางการฝรั่งเศสสรุปสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ว่า การที่รถเมอร์เซเดสชนกับรถเฟียต อูโน ทำให้รถของเจ้าหญิงไดอาน่าควบคุมไม่ได้จนแฉลบออกนอกทาง ไปกระแทกกำแพงด้านข้างของอุโมงค์ แล้วเสียหลักหมุนไปฟาดเข้ากับอีกข้างจนรถพังยับทั้งคัน
    ส่วนรถเฟียตอูโนไม่ยักสะท้านสะเทือน  แค่กระจกท้ายแตก   คนขับก็ยังขับต่อไปได้ด้วยเครื่องยนต์ที่เป็นปกติ   เห็นได้จากเขาพารถอันตรธานหายแว้บไปทางไหนก็ไม่มีใครเห็น    ภายในไม่กี่วินาที เมื่อปาปารัสชี่ห้อรถมาถึง และเข้ามุงอยู่รอบรถของโดดี้   ตำรวจฝรั่งเศสก็ยังหาเจ้าของรถเฟียตไม่พบจนบัดนี้
    เอารูปรถเบนซ์ 280s กับรถเฟียตอูโนมาให้ดูค่ะ    จะเห็นว่าเบนซ์เป็นรถใหญ่แข็งแรงมาก  ส่วนเฟียตอูโนคันเล็กนิดเดียว  ลองชนกับเบนซ์แรงจนเบนซ์เสียหลัก  ชนกำแพงพังพินาศทั้งคันแบบนี้   แต่เฟียตกลับไม่ระคายผิว  ตัวถังและเครื่องยนต์ของเฟียตต้องแข็งแรงเหมือนหุ้มเกราะทีเดียว


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 02 ธ.ค. 11, 16:55

ในตอนแรก ตำรวจฝรั่งเศสหาตัวรถเฟียตและคนขับไม่เจอ  แต่ 3 ปีต่อมา  ก็เกิดคดีขึ้นมาอีกคดีหนึ่งที่นายโมฮัมเหม็ดเชื่อว่าพัวพันกับอุบัติเหตุในคืนนั้น
นั่นก็คือมีช่างภาพฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อนายเจมส์ Andanson (ไม่แน่ใจว่านามสกุลแกออกเสียงฝรั่งเศสว่าอะไร  เพราะดูแล้วเหมือนอังกฤษ)  เป็นหนึ่งในปาปารัสชี่ที่ติดตามทำข่าวเจ้าหญิงกับโดดี้มาหลายวันแล้ว    คืนเกิดเหตุเขาก็อยู่ในฝรั่งเศส  ทีสำคัญเขาเป็นเจ้าของรถเฟียตอูโนสีขาว
เดือนพฤษภาคม ปี 2000 มีผู้พบศพช่างภาพคนนี้ถูกไฟคลอกอยู่ในรถบีเอ็มดับบลิว  ในป่าละเมาะแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของฝรั่งเศส   ทำให้เกิดข่าวลือว่า  เขาทำงานให้กรมสืบราชการลับของอังกฤษ   แล้วถูกฆ่าตัดตอน
แต่เมื่อมีการสอบสวนคดี   ภรรยาเขาให้การว่าคืนนั้นสามีไม่ได้ไปปารีส แต่อยู่บ้านในเมืองลินนิแยร์  ซึ่งห่างปารีสไป 170 ไมล์  เขาเพิ่งกลับมาจากทำข่าวไดอาน่าในประเทศซาดิเนีย  เหนื่อยมากก็เลยพักผ่อนอยู่บ้านทั้งวันไปจนกลางคืน ก่อนจะออกเดินทางจากบ้านตอนตีสี่เพื่อบินไปทำงานที่เกาะคอร์ซิกา
ส่วนการตายของสามี  ภรรยาให้การว่าเธอเชื่อว่าเขาฆ่าตัวตาย   ส่วนรถเฟียตอูโน  มีอยู่คันหนึ่งจริง แต่แทบจะไม่ได้ขับออกถนนเลย

ในเมื่อพยานให้การแข็งขันอย่างนี้  นายโมฮัมเหม็ดก็หมดหลักฐานไปอีก 1 เรื่อง


บันทึกการเข้า
werachaisubhong
องคต
*****
ตอบ: 449



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 03 ธ.ค. 11, 16:28

นั่งหลังห้องมาหลายวันแล้วครับวันนี้ขออยู่หน้าห้อง ครับ
บันทึกการเข้า

ฅนเมียงแป้ มาอยู่ เจียงฮาย
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 03 ธ.ค. 11, 19:04

     หนังสือพิมพ์อังกฤษหลายฉบับเริ่มขุดคุ้ยสาเหตุของโศกนาฏกรรมในคืนนั้น  แล้วรายงานเหตุผิดปกติหลายจุดเช่น
-    จู่ๆรถยนต์ก็เปลี่ยนเส้นทางไปยังอุโมงค์ Pont de L’Alma ทั้งๆจุดหมายเดิมของเจ้าหญิงกับโดดี้คือไปโรมแรมริทซ์ที่ฝ่ายชายเป็นเจ้าของ
-     วิทยุสื่อสารของตำรวจในกรุงปารีสเกิดใช้การไม่ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่รถยนต์แล่นเข้าอุโมงค์  ทำให้ตอนเกิดเหตุร้าย  ไม่สามารถติดต่อสื่อสารเพื่อขอรับการช่วยเหลือได้ทันท่วงที
-    อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย กล้องวิดีโอวงจรปิดภายในอุโมงค์ใช้การไม่ได้  ทำให้ไม่มีภาพบันทึกอุบัติเหตุขณะเกิดขึ้น
-   พยานผู้ร่วมเหตุการณ์คือปาปารัสชี่ที่ห้อรถตามมา  เอ่ยว่าได้ยินเสียงดังสนั่นคล้ายระเบิดในขณะเกิดเหตุ
-   รถพยาบาลใช้เวลาถึง 1 ชม.กับ 10 นาที ในการเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่ห่างจากโรงพยาบาลเพียง 3 ไมล์เท่านั้น   ทำให้ไม่สามารถจะพาเจ้าหญิงไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา

ภาพที่ถ่ายในรถก่อนเกิดอุบัติเหตุ  จะเห็นคนขับและบอดี้การ์ดถูกแสงไฟจากแฟลชปาปารัสชี่ ส่องจ้าเข้าตา   ส่วนเจ้าหญิงทรงเหลียวไปทางด้านหลังรถ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 03 ธ.ค. 11, 19:08

    กรมตำรวจปารีสสอบสวนคดีโดยไม่ได้ติดใจประเด็นข้างบน  แต่มุ่งไปที่สาเหตุของรถชน    ใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า 2 ปีก็สรุปออกมาว่า เป็นอุบัติเหตุ  
     สาเหตุที่คร่าชีวิตเจ้าหญิงไดอาน่า และ โดดี้ อัล ฟาเยด มาจากความประมาทของ นายอองรี ปอล คนขับรถ เนื่องจากอยู่ในสภาพเมาสุรา   ตรวจศพพบมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่าที่กฎหมายของฝรั่งเศสกำหนดถึง 2 เท่า  เขาขับรถด้วยความเร็วสูงเกินกำหนด   คือ 126 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   เหตุผลอีกอย่างคือคนสามคนในรถไม่มีใครรัดเข็มขัดนิรภัยเลยสักคน  เมื่อรถชนเสาอุโมงค์โดยแรงจึงเป็นอันตรายถึงชีวิต
     ที่แย้งกันคือคนรอดชีวิตในรถมีคนเดียวเป็นบอดี้การ์ดชื่อเทรเวอร์ รีส โจนส์ เพราะรัดเข็มขัดนิรภัย   หลายปีต่อมา เมื่ออังกฤษพิจารณาคดีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง  เขาก็มาให้การว่าเขาไม่เห็นนายอองรี  ปอลดื่มเหล้าในค่ำนั้น
       รีส โจนส์บอกว่า“ผมไม่ได้สนใจว่าเขาดื่มอะไร ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นแอลกอฮอล์ เพราะเขาดูปกติดี ผมไม่เห็นว่าเขาจะมีอาการเมาแต่อย่างใด เขาก็เป็นเหมือนที่ผมรู้จักก่อนหน้านี้”
       รีสบาดเจ็บสาหัส แต่รอดตายมาได้  สูญเสียความจำไปพักใหญ่หลังประสบอุบัติเหตุ  เขาให้การว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับแผนลอบปลงพระชนม์เจ้าหญิงตามที่นายโมฮัมเหม็ด  พ่อของโดดี้อ้างถึงแต่อย่างใด  เขายืนยันว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนดังกล่าว
      
    รูปนายอองรี พอล คนขับของโดดี้ซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 05 ธ.ค. 11, 15:46

     เมื่อไปอ่านประวัติของนายอองรี ปอล  พบว่าเขาทำงานกับโดดี้มา 11 ปีแล้ว   ไม่ใช่คนขับรถธรรมดาๆ แต่มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงแรมริทซ์ที่นายโมฮัมเหม็ดเป็นเจ้าของ  ได้ใบอนุญาตขับเครื่องบินมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 1974  กล่าวกันว่าปอลชอบเช่าเครื่องบินไว้ขับเที่ยวจากปารีสไปลอเรียง
     เมื่อวันที่ 28 เดือนสิงหาคมปี 1997 สามวันก่อนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์  นายปอลเพิ่งผ่านการตรวจร่างกายประจำปีสำหรับนักบิน เพื่อดูความพร้อมทางกายภาพ     เขาผ่านการตรวจ ได้คำรับรองว่าไม่มีปัญหาด้านแอลกอฮอล์ทั้งในเลือดและในตับ   พ่อแม่ของปอลบอกว่าถ้าพอลติดสุราละก็  คงปรากฏผลอยู่ในการตรวจนี้แน่ แต่ก็ไม่มีอะไรชี้ให้เห็นว่านายพอลเป็นคนชอบกินเหล้าจนมีผลเสียกับร่างกาย
     อาชีพคนขับรถของมหาเศรษฐี ซึ่งกุมชีวิตนายเอาไว้ในมือ พอๆกับกุมพวงมาลัย ไม่ใช่ว่าแค่ขับรถได้นิ่ม หรือรู้ถนนหนทางดีเท่านั้น    แต่ต้องเป็นบอดี้การ์ดสำคัญอีกคนหนึ่ง  รู้จักรักษาชีวิตให้บุคคลสำคัญอย่างนายด้วย    ปอลเคยถูกส่งไปฝึกด้านรักษาความปลอดภัยที่เมืองสตุตการ์ท  ประเทศเยอรมนี  ถึงสองครั้งในการฝึกอบรมพิเศษจัดโดยบริษัทรถเบนซ์   เพื่อฝึกเทคนิคการพานายและรถให้รอดปลอดภัย ในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นถูกจี้โดยผู้ก่อการร้าย หรือถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่   เพราะเรื่องพรรค์นี้อาจเกิดกับบุคคลสำคัญอย่างนายเขาเมื่อวันไหนเวลาไหนก็ได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 05 ธ.ค. 11, 15:49

    ในเมื่อมีข้อมูลอย่างนี้  จึงทำให้เกิดกระแสคำถามว่า คนที่ทำงานกับนายมานานตั้ง 11 ปี  ไม่บกพร่องเรื่องหน้าที่มาโดยตลอด     เหตุไฉนจึงปล่อยตัวเองให้ดื่มเหล้าจนเกินขอบเขต ในคืนที่มีหน้าขับรถให้นายและเจ้าหญิงซึ่งเป็นคนสำคัญระดับโลก    นอกจากนี้  ขนาดเครื่องบินยังขับได้  เรื่องขับรถในปารีสก็เรื่องจิ๊บๆ     
     เมื่อเร่งรถหนีปาปารัสชี่กลุ่มเดียว   คนที่ผ่านงานมาตั้ง 11 ปีจะขับผลีผลามจนเฉี่ยวรถเฟียตเล็กๆคันหนึ่ง  แล้วเสียหลักพารถชนอุโมงค์พังยับทั้งคันได้ง่ายขนาดนั้นเทียวหรือ     ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับคนที่ถูกฝึกมาแล้วเรื่องขับรถรับมือกับผู้ก่อการร้ายและโจรเรียกค่าไถ่

     เงื่อนงำช็อคโลกอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมาเปิดเผยทีหลัง  เริ่มจากปี 1995  เมื่อเจ้าหญิงไดอาน่าทรงหย่ากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์  ทนายความฝ่ายเจ้าหญิงชื่อลอร์ดมิชคอน  ได้รับคำบอกเล่าจากไดอาน่าว่าเธอกำลังถูกหมายหัวสังหาร  โดยฝ่ายวางแผนทำให้ดูเป็นอุบัติเหตุ  ให้เธอตายหรือบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นผู้ไม่สมประกอบ    เพื่อเจ้าชายชาร์ลส์จะได้เสกสมรสใหม่ได้สะดวก ไม่มีข้อกีดขวาง
     เมื่อได้ฟังลอร์ดมิชคอนก็จดลงเป็นบันทึกทันที   สองปีต่อมาเมื่อเกิดอุบัติเหตุในปารีส    ไม่กี่วันหลังจากนั้นเขาก็ส่งบันทึกคำบอกเล่าของเจ้าหญิง  ซึ่งเรียกกันทีหลังว่า Mishcon note  ให้กับลอร์ดคอนดอน  ผู้บัญชาการตำรวจ

ภาพของลอร์ดมิชคอน ผู้ถึงแก่กรรมในปี 2006


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 05 ธ.ค. 11, 15:58

     ทั้งลอร์ดมิชคอนและลอร์ดคอนดอน เห็นพ้องต้องกันว่าจะปกปิดเรื่องมิชคอนโน้ตเป็นเอกสารลับ   ไม่กระโตกกระตากออกมาให้สื่อมวลชนรู้     เรื่องนี้ก็พอเข้าใจได้   เพราะยังไม่ได้พิสูจน์ว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่  เปิดเผยออกไปก็เกรงว่าประชาชนจะแตกตื่นกันเข้าไปใหญ่
   แต่เรื่องที่เข้าใจยากก็คือ  ผู้บัญชาการปิดเงียบสนิทเป็นความลับสุดยอดจริงๆ   แม้แต่กรมตำรวจปารีสซึ่งกำลังสอบสวนคดีอยู่ยังไม่รู้เรื่องมิชคอนโน้ต    ทั้งๆเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นหลักฐานข้อหนึ่งในแนวทางสืบสวน    ผู้บัญชาการตำรวจอังกฤษไม่ส่งเรื่องนี้ให้ทางฝรั่งเศสใช้เป็นเบาะแสในการสืบสวน ว่ามีอะไรในกอไผ่หรือไม่  นอกเหนือจากอุบัติเหตุธรรมดาๆ

v
ลอร์ดคอนดอน


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 05 ธ.ค. 11, 16:02

 คำกล่าวที่ว่าความลับไม่มีในโลก ใช้ได้ในเรื่องนี้จริงๆ

      ต่อมาในปี 2003   มีคดีเล็กๆคดีหนึ่ง ที่ตอนแรกประชาชนไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก   กล่าวคือนายพอล เบอร์เรลล์มหาดเล็กประจำพระองค์ของเจ้าหญิงถูกราชสำนักแจ้งความจับในข้อหาขโมยทรัพย์สินของเจ้าหญิงนายเก่า    แต่ข้อหานี้ถูกถอนกลางคัน  นายพอล เบอร์เนลล์ก็เเลยรอดตะรางไปได้  
     ราชสำนักถอนแจ้งความ  เนื่องจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธโปรดให้ระงับเรื่องนี้   เพราะทรงจำได้ว่านายเบอร์เรลล์เคยทูลไว้แล้วว่าเขาจะรักษาข้าวของส่วนพระองค์ดังกล่าวไว้เพื่อความปลอดภัย   ข้อหาก็เลยตกไป  
    ของพวกนี้ไม่ใช่เครื่องเพชรเครื่องทอง  แต่เป็นพวกกระเป๋า ถุงมือ  พระรูปเจ้าหญิงและพระโอรสพร้อมด้วยลายเซ็น กับจดหมายส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง

นายพอล เบอร์เรลล์
v


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 05 ธ.ค. 11, 16:05

    10 เดือนต่อมาหลังจากรอดจากแจ้งความ  นายเบอร์เรลล์ก็ช็อคคนทั่วโลกด้วยการเปิดเผยจดหมายส่วนพระองค์ของเจ้าหญิงที่ทรงเขียนถึงเขาด้วยลายพระหัตถ์
    ตอนหนึ่งบอกว่า
    "ฉันกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือในเดือนตุลาคม    อยากจะมีใครสักคนกอดฉันไว้แล้ว ให้กำลังใจฉัน ให้เข้มแข็งต่อไป
    ชีวิตฉันช่วงนี้กำลังตกอยู่ในอันตรายถึงที่สุด   สามีฉันกำลังวางแผนให้เกิด"อุบัติเหตุ" ในรถยนต์ ด้วยการทำให้เบรคเสีย  ส่วนฉันก็ได้รับบาดเจ็บที่สมองอย่างหนัก กลายเป็นคนไม่สมประกอบ   เพื่อเปิดทางสะดวกให้เขาจะแต่งงานกับทิกกี้ (หมายถึงเลจจี้-เบิร์ก  พี่เลี้ยงของพระโอรส)ส่วนคามิลลาก็แค่นางนกต่อ   เราทุกคนถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้ชายคนหนึ่ง  ตรงตามความหมาย"
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 06 ธ.ค. 11, 12:40

ผมได้แต่ติดตามอ่าน ความที่ไม่ได้สนใจเรื่องพรรค์นี้มาก่อน อ่านแล้วก็ได้แต่ปลงในพฤติกรรมมนุษย์ที่ไม่เข้าใครออกใคร ทุกชาติทุกภาษาทุกเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะมีฐานะสูงส่งเทียมฟ้าหรืออนาถาติดดินก็ล้วนแต่อยู่ภายใต้กฏแห่งกรรม กิเลศบางตัวเช่นราคะ คนหล่อ สวย รวย และมีเกียรติ มักกะมีโอกาสให้ถลำไปเสพย์ได้มากกว่าคนหาเช้ากินค่ำ ที่ไม่มีเวลาจะไปฟุ้งซ่านอย่างอื่นนอกจากจะนอนก่ายหน้าผากเรื่องปากเรื่องท้อง

เมื่อใครละเมิดศีลละเมิดธรรมไปแล้ว ก็ต้องรับผลของมันด้วย ไม่ช้าก็เร็ว

เจ้าหญิงไดอาน่าคงมีกรรมอย่างอื่นอีกด้วย พระองค์จึงต้องทรงประสพชะตากรรมที่น่าอเน็ดอนาจ รูปนี้เป็นรูปที่หลุดมาในเวป ขอโทษด้วยหากแรงไป ส่วนคนอื่นที่ตายคาที่นั้น สภาพศพใช้ปลงอศุภกรรมฐานได้เลย

ใครอยากดู ใช้ภาษาไทยค้นหานะครับ ถ้าใช้ภาษาอังกฤษจะไม่เจอ


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 13
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 20 คำสั่ง