อันนี้ขอเรียนถามหน่อยนะครับ
เคยทราบว่าตระกูลโปษยานนท์มีผัดหมี่ที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ทำได้เป็นที่เลื่องลือ
แต่ไม่เคยได้พบสูตรเสียที ไม่ทราบว่าคุณเทาชมพูพอจะทราบสูตรไหมครับ
ขออนุญาตให้ข้อมูลครับ
ณ ตอนนี้ถ้าจะถามผู้ที่ใกล้ชิดที่สุด น่าจะเป็น คุณมาลี ครับ เพราะท่านเป็นบุตรที่มีอายุมากที่สุดของเจ้าคุณพิพัฒนฯ ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ (เป็นบุตรคนที่ ๔ และเป็นบุตรสาวคนที่ ๒ ครับ ปัจจุบันอายุ ๙๐ กว่าแล้ว แต่ยังความทรงจำเป็นเยี่ยม และขับรถเอง) ท่านน่าจะทราบถึงรายละเอียดของเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี (วันที่ ๒๒ ธันวาคม นี้ผมอาจมีโอกาสได้พบกับท่าน จะลองถามมาให้ครับ) แต่จริงๆ แล้วนอกจากผัดหมี่ ของกินที่ถือว่าขึ้นชื่ออีกอย่างของตระกูลโปษยานนท์ น่าจะเป็น "ข้าวตังไก่ทิพย์" กับ "ข้าวตังทรงเครื่อง" ครับ เป็นสูตรของบุตรสาวของท่านเจ้าคุณอีกท่านหนึ่ง (คุณสมสมร) ลองไปหาทานได้จากร้าน ๙๐๔ ครับ
และเมื่อประมาณ 20กว่าปีที่แล้วเคยใช้น้ำมันสีเหลืองจากบ้านโปษ์กี่ใส่แผลสด จำชื่อน้ำมันไม่ได้ จะถามจากคุณแม่ท่านก็ไม่อยู่ให้ถามแล้วค่ะ
ยาเทพนิมิตร ใช้ในตระกูลโปษยานนท์ ตั้งแต่สมัยพระยาพิพัฒนธนากร ภรรยาของท่านเป็นผู้เริ่มทำใช้ในครอบครัว เนื่องจากสมุนไพรไทยหาได้ง่ายในทุกภาคของประเทศไทย เริ่มผลิตใช้ในบ้านก่อน ต่อมาเริ่มแจกจ่ายให้กับญาติ เพื่อน เจ้านายฯลฯ ยาเริ่มรู้จักเฉพาะกลุ่ม เริ่มแพร่หลายโดยปริยาย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เป็นการนำเอาสมุนไพรของไทย มาทำยารักษาโรคผิวหนัง และใช้ทาแผลสด
เรื่องของขี้ผึ้งห้างเทพนิมิตร มีเรื่องเล่าเช่นกันครับ สมัยก่อนคนในตระกูลโปษยานนท์มักเรียกว่า "น้ำมันขโมย" โดย ศ.ดร. โกวิทย์ โปษยานนท์ (บุตรของหลวงจำรูญเนติศาสตร์ โดยหลวงจำรูญฯ เป็นหลานอาของท่านเจ้าคุณพิพัฒนฯ) เล่าให้ผมฟังว่าสมัยของท่านเจ้าคุณพิพัฒนฯ เคยมีขโมยโดนฟันบาดเจ็บมา หลงเข้ามาที่บ้านโปษ์กี่ ขอเข้ามาพักอาศัย คนในบ้าน (ผมจำไม่ได้ว่าใคร) ก็ใจดีให้อาศัย ขโมยคนดังกล่าวก็เคี่ยวยารักษาแผลตัวเองจนหาย ก่อนจากไปก็เลยมอบสูตรยานี้ไว้ให้คนในบ้านโปษ์กี่ใช้ แล้วก็ใช้กันมา และพัฒนามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันครับ
