เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 24 ต.ค. 11, 21:17
|
|
ลืมบอกไปว่า ชีวิตสมรสแสนสุขของเฮเลนอสั้นมากค่ะ อยู่กันได้ 7 ปี พระสวามีก็สิ้นพระชนม์ด้วยโรคไต
เทพนิยายมักลงเอยว่า แล้วเจ้าชายกับเจ้าหญิงก็อยู่กันเป็นสุขตลอดไป แต่ในประวัติศาสตร์ ยากที่จะเป็นเช่นนั้น
เทพนิยายทั้งหลายไม่เคยบอกว่าซินเดอเรลลา สโนไวท์และเจ้าหญิงนิทราต้องปรับตัวเมื่อแต่งงานเข้าวังไปกับเจ้าชายแล้ว แต่ในชีวิตจริงของซิสซี่ เมื่อกลับมาถึงปราสาท ภาระหน้าที่ขนาดมหึมาของจักรพรรดินีก็ถูกทับถมลงมาบนบ่า เธอต้องเรียนรู้ราชประเพณีอันเข้มงวดของราชสำนัก เรียนรู้การแต่งกายให้ถูกต้องเหมาะสมกับตำแหน่งในโอกาสและพิธีต่างๆ เรียนรู้บทบาทหน้าที่ของบรรดาข้าราชสำนักสำคัญๆที่จะต้องมารายล้อมอยู่รอบตัวเธอ เรียนภาษาและประวัติศาสตร์ของออสเตรีย เพื่อจะได้รู้เรื่องราชบัลลังก์และการปกครองที่เธอจะต้องใช้ ในอนาคตอันใกล้
จากเด็กสาวอายุ 15 ที่มีชีวิตสงบและสนุกสนานไปวันๆกับขี่ม้า เลี้ยงหมา เลี้ยงนกไปตามเรื่อง เธอกลายเป็นคนสำคัญขึ้นมาทันทีทันควัน มีบุคคลแปลกๆมาขอเข้าพบเธอไม่เว้นแต่ละวัน จิตรกรแห่งราชสำนักเข้ามาวาดรูปเธอ ดีไซเนอร์มาวัดตัวและให้ลองเสื้อผ้าหรูหราเหมาะสมกับตำแหน่งจักรพรรดินี ช่างทองต่างก็มาเสนอเครื่องเพชรนิลจินดาให้ลองไม่เว้นแต่ละวัน ซิสซี่ถึงกับบ่นว่าเธอรู้สึกตัวเหมือนรังผึ้ง ที่มีแต่ผึ้งนานาชนิดบินว่อนเข้าๆออกๆเต็มไปหมด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 24 ต.ค. 11, 21:24
|
|
ซิสซี่มีโอกาสพบคู่หมั้นเพียง 3 วันเท่านั้นเมื่อจักรพรรดิเสด็จมาเยี่ยมเธอช่วงวันคริสต์มาส แต่แล้วก็ต้องรีบกลับไปเวียนนา เพราะพระภารกิจในฐานะกษัตริย์รออยู่เต็มมือ สิ่งที่ซิสซี่ไม่รู้ก็คือ ราชอาณาจักรออสเตรียกำลังเสื่อม เริ่มมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าลุงของจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟแล้ว พระอนามัยที่อ่อนแอเพราะโรคลมชัก บวกกับพระปรีชาที่ไม่ค่อยจะสามารถนักทำให้อำนาจตกไปอยู่ในมือเสนาบดีมากเกินเหตุ จนเกิดกบฏขึ้น เมื่อสละราชบัลลังก์ หลานชายขึ้นครองแทน อำนาจของออสเตรียก็ยังไม่แข็งแกร่งอย่างในอดีตอยู่ดี
6 เดือนหลังจากหมั้น ซิสซี่ก็เดินทางจากปราสาทของเธอมาเวียนนา เข้าสู่พิธีอภิเษกสมรส กลายเป็นจักรพรรดินีเมื่ออายุได้ 16 ปี
รูปแรกคือซิสซี่ในชุดเจ้าสาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 24 ต.ค. 11, 21:26
|
|
จักรพรรดิและจักรพรรดินี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 25 ต.ค. 11, 09:12
|
|
ในฐานะเจ้าสาวคนสำคัญที่สุดในราชอาณาจักรออสเตรีย บิดามารดาของซิสซี่เตรียม "ทรูโซ" ไว้ให้ลูกสาวอย่างโอ่อ่าสมเกียรติ ประกอบด้วยเสื้อผ้าถึง 358 ชุด รองเท้า และเครื่องประกอบเสื้อผ้า เมื่อมาถึงพระราชวัง เข้าเฝ้าสมเด็จป้าโซฟี เธอก็ได้พบบรรดานางพระกำนัลใหญ่น้อย มหาดเล็ก และข้าราชบริพารรออยู่เป็นกองทัพ
ขออธิบายเพิ่มเติมว่า ทรูโซ หรือ trousseau หมายถึงเสื้อผ้าที่เจ้าสาวเตรียมไว้ล่วงหน้าก่อนแต่งงาน เพื่อจะนำไปใช้ในชีวิตใหม่ของเธอ กินความรวมทั้งชุดชั้นนอก ชุดชั้นใน ตลอดจนชุดเครื่องนอนเช่นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้านวม ด้วย สมัยก่อนการแต่งงานเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตของหญิงสาวอีกขั้นตอนใหญ่ในชีวิต เสื้อผ้าทรูโซมีทั้งชุดวิวาห์ ชุดที่จะแต่งช่วงไปฮันนีมูน และใช้ในชีวิตประจำวันหลังจากนั้น เพราะไม่มีเสื้อผ้าสำเร็จรูปให้ซื้อได้ปีละ 365 + ชุดเหมือนสมัยนี้ ถ้าเป็นเจ้าสาวชาวบ้านธรรมดา ก็จะเย็บทรูโซด้วยตัวเอง ถ้าเป็นเจ้าสาวฐานะดี ก็จะสั่งช่างเย็บผ้ามาวัดตัว ตัดเสื้อผ้าใหม่ๆให้ ยิ่งฐานะในสังคมสูงเท่าไร ทรูโซของเธอก็จะอลังการมากเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 25 ต.ค. 11, 10:08
|
|
ซิสซี่ไม่อาจมองเห็นล่วงหน้าได้ว่า ชีวิตใหม่ที่ยิ่งใหญ่ มีความทุกข์โศกแสนสาหัสเข้าคิวรอกันอยู่เป็นขบวนยาวเหยียด ซึ่งหางขบวนยาวไปจนนาทีสุดท้ายในชีวิตของเธอ ส่วนหัวขบวน รอเธออยู่แล้วในพระราชวัง ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากสมเด็จป้าโซฟี แม่ผัวผู้ทรงอำนาจของเธอนั่นเอง
ทั้งๆซิสซี่เป็นหลานแท้ๆ เช่นเดียวกับเฮเลนอ แต่อาชดัชเชสโซฟีก็ไม่ชอบหน้าซิสซี่ตั้งแต่แรก เธอเห็นว่าเด็กสาวเป็นผู้หญิงกระโดกกระเดก ชอบขี่ม้าออกไปกลางแจ้ง มากกว่าจะสงบเสงี่ยมอยู่ในกรอบประเพณี เป็นเด็กหัวแข็งไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ยากแก่การปกครอง ด้วยเหตุนี้ อาชดัชเชสจึงค้านเสียงแข็งไม่อยากได้ซิสซี่มาเป็นสะใภ้ แต่ในเมื่อขัดใจลูกชายไม่ได้ ความผิดทั้งหมดก็เลยเทไปลงที่ซิสซี่แทนที่จะโกรธจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ ที่ไม่เชื่อฟังแม่ เมื่อซิสซี่ได้ตำแหน่งจักรพรรดินี เธอจึงได้แม่สามีแบบคุณนายน้อมแห่ง"วนิดา" มาด้วยเป็นของแถมชิ้นใหญ่
ภาพของอาชดัชเชส
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 25 ต.ค. 11, 10:35
|
|
ทรงพระศิริโฉมงดงามยิ่งนัก แต่ (แม่สามี) ท่าทางร้ายน่าดู 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 25 ต.ค. 11, 10:38
|
|
เรื่อง แม่ผัวกับลูกสะใภ้ นี้เป็นเรื่องสากล 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 25 ต.ค. 11, 13:07
|
|
ซิสซี่กลายเป็นนกน้อยในกรงทอง มีแม่ผัวเป็นคนถือกุญแจกรง อาชดัชเชสโซฟีเป็นคนเข้มงวดเรื่องพิธีการและขนบธรรมเนียมประเพณี เธอขีดกรอบให้ลูกสะใภ้อย่างเคร่งครัด ส่วนซิสซี่ตรงกันข้าม ความรักอิสระตั้งแต่เด็กทำให้เธอรังเกียจพิธีการทั้งหลายแหล่ที่ผูกมัดตัวเธออยู่ แม่ผัวลูกสะใภ้จึงปะทะกันไปเกือบทุกเรื่องก็ว่าได้
อาชดัชเชสออกคำสั่งห้าม ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนเรื่องใหญ่ เช่นมิให้จักรพรรดินีเสด็จไปช็อปปิ้งด้วยองค์เอง ห้ามไปพำนักหรือท่องเที่ยวในชนบท ถ้าจะไปก็ต้องแปรพระราชฐานอย่างเป็นทางการ ห้ามแม้กระทั่งดื่มเบียร์ ซิสซี่จะต้องทำตัวอยู่ในกรอบของพระราชินีแห่งราชสำนัก ดำรงตนเหมือนพระราชินีก่อนหน้านี้หลายร้อยปี ไม่กระดิกกระเดี้ยไปจากนั้น อำนาจของแม่ผัวก้าวก่ายเข้ามาทุกตารางนิ้วในราชสำนัก โดยที่จักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ แม้ว่ารักซิสซี่สักเท่าใดก็ตาม ก็ไม่ได้ห้ามพระมารดา
ความทุกข์อีกประการหนึ่งของซิสซี่ คือ แม้ว่าเธอเป็นที่รักของพระสวามีมากเท่าใดก็ตาม เธอก็ไม่มีความสุขที่อยู่กับจักรพรรดิ เพราะชีวิตที่ล้อมรอบเธออยู่ ขัดกับธรรมชาติของเธอโดยสิ้นเชิง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 25 ต.ค. 11, 21:43
|
|
รูปโฉมงดงาม และบุคลิกปราดเปรียวมีชีวิตชีวา ทำให้จักรพรรดินีซิสซี่เป็นที่ชื่นชมของประชาชนมาก ตรงข้ามกับชาวราชสำนักหัวเก่าที่จับผิดเธอไปเสียทุกย่างก้าว ทำให้ซิสซี่ไม่มีความสุข สามีของเธอก็เป็นชายที่ถือตัว แสดงความรักไม่เป็น และมีภารกิจเต็มมืออยู่ตลอดเวลา อำนาจในราชสำนักอยู่ในมือของสมเด็จป้าโซฟี ผู้จ้องตีกรอบลูกสะใภ้อยู่ทุกทิศทุกทาง
หน้าที่สำคัญของจักรพรรดินี คือสร้างรัชทายาทให้ราชบัลลังก์ ซิสซี่ตั้งครรภ์และคลอด 2 ครั้ง แต่ก็ผิดหวังเมื่อเป็นธิดาทั้ง 2 ครั้ง ทรงพระนามว่าเจ้าหญิงโซฟีและเจ้าหญิงจิเซล่า ความเศร้าโศกของเธอคือหนึ่งในจำนวนนี้ก็สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่เป็นทารก ต่อเมื่อตั้งครรภ์ครั้งที่ 3 จึงได้รัชทายาทที่ทุกคนรอคอยมานาน คือเจ้าชายรูดอล์ฟ
ซิสซี่ไม่มีโอกาสจะเลี้ยงดูโอรสธิดาทุกองค์เอง เจ้าหญิงเจ้าชายน้อยๆถูกพรากจากแม่ไปอยู่ในมือสมเด็จย่า ซึ่งเอาตัวไปเลี้ยงเสียเอง ด้วยเหตุผลว่าจะได้เลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาอย่างถูกต้องสมเป็นเจ้าเป็นนาย ทั้งๆซิสซี่เศร้าโศก เธอก็ไม่อาจขัดขืนแม่ผัวผู้ทรงอำนาจได้อยู่ดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 26 ต.ค. 11, 12:19
|
|
ในเมื่ออยู่ในตำแหน่ง แต่ไม่มีอำนาจในราชสำนัก ซิสซี่ก็หันเข้าหาสิ่งเดียวที่เธอควบคุมได้ คือตัวเธอเอง เธอกลายเป็นผู้หญิงที่เข้มงวดกับรูปร่างและความสวยงามจนเกินเหตุ เป็นการชดเชยกับสิ่งที่เธอขาด สมัยนั้นผู้หญิงมีลูกแล้วมักจะปล่อยตัวให้อ้วนขึ้นตามธรรมชาติ แต่ซิสซี่ควบคุมไม่ให้น้ำหนักเกิน 105 ปอนด์ สำหรับความสูง 5 ฟุต 6 นิ้ว ด้วยการจำกัดอาหารอย่างเคร่งครัด กินแต่น้ำผลไม้ และอาหารปรุงพิเศษ ไม่กินของหวาน ไม่กินเนื้อ ไม่กินแป้ง อย่างคนอื่นๆ เพื่อเอวเธอจะได้เล็กอยู่เพียง 20 นิ้ว เท่านั้น เธอสร้างห้องมีเครื่องมือออกกำลังกายไว้ เพื่อจะได้ออกกำลังทุกวัน ออกไปขี่ม้าวันละ 8 ชั่วโมงเป็นการออกกำลังกลางแจ้ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 26 ต.ค. 11, 12:29
|
|
เรื่องจู้จี้พิถีพิถันในความงาม เป็นที่เลื่องลือ อย่างแรกคือซิสซี่มีผมสวยมาก ผมของเธอหนา สีทองแดงเป็นมันเลื่อม ยาวสลวยจรดข้อเท้า เมื่อตื่นนอน นางกำนัลจะต้องนำผ้าไหมสีขาวบริสุทธิ์มาคลุมไหล่ไว้ใต้ผม ก่อนแปรงผมอย่างระมัดระวัง ถ้ามีผมขาดร่วงลงไปแม้แต่เส้นเดียว หล่อนจะต้องเก็บเส้นผมใส่ถาดเงินมาให้เจ้านายดู ครบทุกเส้นที่ร่วมไป ถ้าวันไหนผมร่วงหลายเส้นมากกว่าวันอื่น ซิสซี่จะกริ้วโกรธมาก จากนั้นช่างทำผมจะเข้ามาทำผมให้เธอ ถักเปียและเกล้าให้เรียบร้อย กินเวลาประมาณสองถึงสามชั่วโมงในแต่ละวัน ช่างทุกคนจะต้องสวมถุงมือขาว และห้ามสวมแหวน เพราะอาจไปเกี่ยวเข้ากับผมของซิสซี่ให้ขาดให้
ซิสซี่อาบน้ำทุกวัน แช่ตัวสลับกันระหว่างน้ำอุ่นผสมน้ำมันและน้ำเย็นให้ผิวชุ่มชื้น สระผมด้วยแชมพูทำจากไข่ขาวผสมเหล้าคอนยัค วันไหนสระผม กว่าจะแห้ง กว่าจะแปรงเสร็จก็กินเวลาตั้งแต่เช้าจนค่ำ เมื่อเข้านอน เธอใช้แถบผ้าชุบน้ำส้มสายชูกลั่นจากดอกไวโอเล็ต ให้เปียก รัดเอวไว้ให้แน่นตลอดคืน เพื่อรักษาเอวไว้ไม่ให้ขยายเกิน 20 นิ้ว เธอไม่หนุนหมอน แต่นอนราบ เพื่อจะรักษารูปร่างให้ตรงไว้ตลอดเวลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 27 ต.ค. 11, 12:22
|
|
แต่ความสวยงามไม่อาจช่วยซิสซี่ให้เป็นสุขขึ้นมาได้กี่มากน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจักรพรรดิมาถึงจุดแตกหัก หลังจากซิสซี่เริ่มป่วยด้วยโรคประหลาด แพทย์หลวงวินิจฉัยว่าเธอเป็นวัณโรค แต่อาการก็กลับไปเหมือนโรคติดต่อทางเพศหรือกามโรคเสียมากกว่า คนเดียวที่จะแพร่เชื้อให้เธอได้ก็คือสามีผู้สูงศักดิ์นั่นเอง
เรื่องโรคของซิสซี่ นักประวัติศาสตร์ยังอุบๆอิบๆ อยู่ บางคนท่าทางจะเกรงใจก็บอกว่าอาจเป็นผลจากความเครียดก็ได้ ทำให้เกิดอาการทางกายได้สารพัดแบบ เรื่องโยนความผิดให้ความเครียดรับไปเต็มๆนี่เป็นวิธีที่นิยมใช้กันในปลายศตวรรษที่ 20 เวลาหาโรคไม่เจอ หรือเจอแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ แต่นักประวัติศาสตร์บางคนก็ฟันธงลงไปว่าเธอติดโรคมาจากจักรพรรดิ ผู้ติดเชื้อมาจากผู้หญิงอื่นที่ทรงมีความสัมพันธ์ลับๆด้วย อาจจะเป็นนางละครที่ทรงคบมาระยะหนึ่งก่อนอภิเษกสมรส
ข้อเท็จจริงเรื่องโรคเป็นอย่างไหนก็ตาม แต่ผลคือซิสซี่ก็ขาดสะบั้นจากสามี เธอออกจากเวียนนาไปอยู่ที่อื่นทันที จากนั้น การเดินทางท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆในยุโรป ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดของจักรพรรดินี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
    
ตอบ: 33477
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 27 ต.ค. 11, 13:04
|
|
ผู้ที่ยื่นมือเข้ามาเยียวยาอาการเสียขวัญของซิสซี่คือพระราชวงศ์อังกฤษ ควีนวิคตอเรียทรงให้ยืมเรือยอทลำงาม ให้เธอเป็นพาหนะท่องเที่ยวไปตามประเทศต่างๆ เช่นเกาะคอร์ฟู และประเทศฮังการี ที่เธอโปรดปรานเป็นพิเศษ
รูปข้างล่างนี้คือเกาะคอร์ฟู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
mayom
อสุรผัด

ตอบ: 23
วิศวกรตกยาก
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 28 ต.ค. 11, 02:43
|
|
ขอเสริมข้อมูล ความเศร้าโศกของซิสซี่  รูปโฉมงดงาม และบุคลิกปราดเปรียวมีชีวิตชีวา ทำให้จักรพรรดินีซิสซี่เป็นที่ชื่นชมของประชาชนมาก ตรงข้ามกับชาวราชสำนักหัวเก่าที่จับผิดเธอไปเสียทุกย่างก้าว ทำให้ซิสซี่ไม่มีความสุข สามีของเธอก็เป็นชายที่ถือตัว แสดงความรักไม่เป็น และมีภารกิจเต็มมืออยู่ตลอดเวลา อำนาจในราชสำนักอยู่ในมือของสมเด็จป้าโซฟี ผู้จ้องตีกรอบลูกสะใภ้อยู่ทุกทิศทุกทาง
หน้าที่สำคัญของจักรพรรดินี คือสร้างรัชทายาทให้ราชบัลลังก์ ซิสซี่ตั้งครรภ์และคลอด 2 ครั้ง แต่ก็ผิดหวังเมื่อเป็นธิดาทั้ง 2 ครั้ง ทรงพระนามว่าเจ้าหญิงโซฟีและเจ้าหญิงจิเซล่า ความเศร้าโศกของเธอคือหนึ่งในจำนวนนี้ก็สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่เป็นทารก ต่อเมื่อตั้งครรภ์ครั้งที่ 3 จึงได้รัชทายาทที่ทุกคนรอคอยมานาน คือเจ้าชายรูดอล์ฟ
ซิสซี่ไม่มีโอกาสจะเลี้ยงดูโอรสธิดาทุกองค์เอง เจ้าหญิงเจ้าชายน้อยๆถูกพรากจากแม่ไปอยู่ในมือสมเด็จย่า ซึ่งเอาตัวไปเลี้ยงเสียเอง ด้วยเหตุผลว่าจะได้เลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาอย่างถูกต้องสมเป็นเจ้าเป็นนาย ทั้งๆซิสซี่เศร้าโศก เธอก็ไม่อาจขัดขืนแม่ผัวผู้ทรงอำนาจได้อยู่ดี
เรื่องคือเธอเคยขัดคำห้ามของแม่ผัว ด้วยการพาธิดาทั้ง2 ที่ยังเล็กติดตามไปเที่ยวที่ฮังการี เจ้าหญิงโซฟีที่อายุ 2 ขวบสิ้นพระชนม์ ขณะเดินทาง ทุกคนรอบข้างของแม่ผัวตอกยำ้ว่าเกิดจาก ความดื้อรั้นของเธอ (เธออายุ 20 ตอนที่เจ้าหญิงโซฟีสิ้นพระชนม์)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|