แล้วผม "เจนภพ จบกระบวนวรรณ" ก็เป็น...คนอพยพ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยไม่เต็มใจผมนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่ากรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรจะกลายเป็นเมืองบาดาลไปได้ จะให้ผมโทษใครล่ะ?
โทษรัฐบาลหรือโทษผู้บริหารกรุงเทพมหานคร
สงสัยว่าอาจจะต้องโทษทั้งคู่ที่ปล่อยให้ประเทศชาติและเมืองหลวงของเรากลายสภาพเป็นเมืองร้าง เมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูล เมืองที่หมดสง่าราศีไปในชั่วพริบตาเพราะใครก็ไม่รู้ ขี้เกียจพูดถึง
ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับชิ้นนี้ ผมอยู่ในห้องเช่าขนาดที่พอให้คน ๔ คน หมาอีก ๑ ตัวอยู่ร่วมกันได้ที่ในตัวเมือง จังหวัดเพชรบุรี
กินข้าวพร้อมหมา กินน้ำขวดเดียวกับหมา ไปไหนมาไหนกับหมา นอนให้หมาหนุนแขน หายใจเอาอากาศเข้าปอดซึ่งเป็นลมหายใจเดียวกันกับหมา ครอบครัวเรากับหมาเสมอภาคกันครับ ไม่มีอะไรสองมาตรฐาน
เวลาเหงา ๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็ได้แต่นั่งจ้องตากับหมา แล้วน้ำตาคนกับน้ำตาหมาก็ไหลออกมาพร้อม ๆ กันได้
ผมอพยพตัวเองกับครอบครัวออกพ้นจากพื้นที่เสี่ยงภัยมาได้ ๗-๘ วันแล้ว
ช่วง ๒-๓ วันแรก ผมนอนผวาทุกคืน พลิกตัวกระส่ายกระสับ นอนหลับได้ไม่เกิน ๑๐ นาที ก็สะดุ้งเฮือก ๆ ทุกครั้ง เป็นห่วงลูกคนโตที่ยังไม่ยอมอพยพตามพวกเราออกมา
ในยามที่ท้อแท้ให้นึกถึงหน้าพ่อ-แม่
ผมนึกถึงหน้าพ่อตัวเองแทบไม่ออกเพราะท่านตายจากไปนานมากแล้ว
แต่พอนึกถึงหน้าแม่ ผมก็ได้แต่สะอื้นในอก แม่ผมอยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรี แม่น้ำเล็ก ๆ ที่ต้องรองรับมวลน้ำมหาศาลที่เขาพยายามผันเอาน้ำมาลงโดยไม่เคยถามสักคำว่าคนนครชัยศรีเขาเต็มใจหรือไม่?
บ้านที่นครชัยศรีทั้งของแม่และของแม่ยายผม จมน้ำมิดไปนานแล้ว แม่ยายผมต้องอพยพหนีตายเข้าไปอยู่ที่เมืองนนท์ ส่วนแม่ของผมเอง ตอนแรกผมชวนท่านเข้าไปอยู่ใน ''พิพิธภัณฑ์เพลงลูกทุ่ง'' แต่ชวนได้ไม่ถึง ๒ วัน พิพิธภัณฑ์จมน้ำจนไม่เหลือที่ให้ซุกหัวนอน แม่ผมต้องตะเกียกตะกายไปอาศัยบ้านข้าง ๆ อยู่ โดยที่ผมช่วยเหลืออะไรแม่ยังไม่ได้เลย
ผมอพยพครอบครัวมาพึ่งชายคาเมืองเพชรบุรีหลายวันแล้ว
ไม่มีอะไรทำก็เข้าไปที่หมวดดุริยางค์ทหารบก มณฑลทหารบกที่ ๑๕ จังหวัดเพชรบุรี ติดสอยห้อยตามทหารนักดนตรีไปแสดงปลอบใจพี่น้องคนอพยพเหมือนกัน หัวอกเดียวกันตามศูนย์อพยพผู้พักพิงต่าง ๆ
ไปร้องเพลงลูกทุ่งเก่า ๆ ให้เพื่อนพี่-น้องคนไทยได้ฟัง ร้องไปร้องไห้ไปหัวเราะไปเหมือนคนบ้า!
๕ โมงเย็นถ้าไม่ได้ไปไหนก็ไปเตะฟุตซอลบ้าง เตะตะกร้อบ้าง ตีปิงปองบ้างกับทหาร
ทำอย่างนี้มา ๗-๘ วันแล้วครับโดยไม่รู้อนาคตว่าจะต้องทำอย่างนี้ไปอีกกี่วัน?
ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อ เมื่อวันก่อนนี้ผมไปปลอบขวัญพี่-น้องผู้อพยพที่แก่งกระจาน เมืองเพชรบุรี ที่อุทยานแห่งชาติซึ่งเราเพิ่งสูญเสียเฮลิคอปเตอร์ไป ๓ ลำ ที่นั่นมีผู้อพยพไปกางเต็นท์นอนอยู่มากกว่า ๔-๕๐๐ คน
แต่ไม่มีอาหารให้ผู้อพยพกินเลยแม้แต่มื้อเดียว!
นี่มันอพยพไปให้เขาอดตาย หรืออพยพไปเพื่อให้เขาเข้าป่าล่าสัตว์ตกปลากินกันเองหรืออย่างไร
จะหาคำตอบจากใครดีล่ะครับ ก็ผมก็เป็นคนอพยพเหมือนกัน!
