NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 135 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 19:52
|
|
เดี๋ยวมื้อหลังอาหาร ผมจะกล่าวถึงพวกโครงการก่อสร้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 136 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 21:21
|
|
ความจริง ถ้าเมืองไทยเราสามารถให้เกษตรกรทำคันดิน(คล้ายคันนา) ผันน้ำ(ไม่ใช่กั้นน้ำไว้เช่นการทำนา) เพื่อไม่ให้ตะกอนดินที่เกิดจาก Sheet Erosion ใหลออกมาข้างนอกไร่ได้น้อยลง ก็ดีถมไปแล้ว รั้วกันตะกอน เอาไว้ทีหลังยังได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 137 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 21:28
|
|
รั้วกันตะกอน น่าจะนำมาใช้กับการก่อสร้างก่อน เช่นงานสร้างสะพานเพื่อกันไม่ให้ดิน โคลนลงไปสู่คลอง ทำให้เกิดการตื้นเขินดังที่ผมกล่าวไว้ตอนต้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 138 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 21:34
|
|
อีกสิ่งหนึ่งที่เขายอมไม่ได้คือ การที่โคลนจะติดล้อรถบรรทุก(หรือรถอื่นใด)ออกมาจากสถานที่ก่อสร้าง แล้วนำไปตกหล่นบนถนน และในที่สุดจะลงไปสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ
กฏหมายของเขาจะบังคับให้มีการล้างล้อรถให้สะอาดก่อนทุกครั้ง ก่อนจะผ่านออกไปข้างนอก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 139 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 21:36
|
|
บ่อน้ำล้างล้อแบบนี้เป็นแบบสำเร้จรูป เสร็จงานที่นี่แล้ว รื้อไปใช้งานอื่นได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 140 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 21:44
|
|
ขอแนะนำให้รู้จัก หมอนกันดิน (Coir Log) ที่ทำจากใยมะพร้าวอัดแน่นเข้าไปในปลอกตาข่ายใยสังเคราะห์์ที่เหนียวเป็นพิเศษ
หมอนที่ยาวเหมือนหมอนข้างยักษ์นี้มีประโยชน์หลายอย่าง เพราะสามารถกรองน้ำกักเก็บตะกอนไว้ เหมือนรั้วกันตะกอน แต่ใช้งานได้หลากหลายกว่า
ดังเช่น
นำมาเป็นตัวกรองป้องกันตะกอนลงไปสู่ท่อระบายน้ำในสถานที่ก่อสร้าง ตามข้อบังคับของกฏหมาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 141 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 21:46
|
|
นำมาล้อมกองดินกองทรายในสถานที่ก่อสร้างไว้ ไม่ให้ไหลนองไปเมื่อฝนตก
พวกนี้ กฏหมายบังคับให้ทำทั้งนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 142 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 21:59
|
|
หมอนกันดิน และรั้วกันดิน เป็นทางเลือกในงานลักษณะเดียวกัน คือกันตะกอนดินจากสถานที่ก่อสร้างลาดชัน(ไม่มาก)ด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 143 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 22:03
|
|
เมืองไทยเคยมีการใช้แนวคิดลักษณะเดียวกันนี้มาก่อน โดยใช้ไม้ไผ่ แต่ไม่ได้ผลเพราะมีช่องว่างระดับผิวดินแยะ
ไม่เหมือนหมอนกันดิน ที่อ่อน โค้งแนบกับดินได้สนืท และกักเก็บตะกอนได้จริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 144 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 22:06
|
|
บทบาทของหมอนกันดินในงานก่อสร้าง
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 145 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 22:09
|
|
และแม้ในไร่เกษตรกรรม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 146 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 22:14
|
|
การใช้งานหลังเกิดไฟป่า ผิวดินเปลือยไร้พืชคลุมดินพร้อมที่จะถูกน้ำฝนกันเซาะ หมอนกันดินจะกักเก็บตะกอนไว้ไม่ให้ไหลลงไปกับน้ำ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 147 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 22:25
|
|
ผ้าห่มดิน (Erosion Control Blanket)
จะใช้เมื่อต้องการปลูกหญ่้าลงบนพื้นที่ลาดชันให้ได้ผลดี และสม่ำเสมอ เพื่อที่จะเร่งให้พืชสามารถปกป้องหน้าดินไว้จากฝนได้เองโดยธรรมชาติ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 148 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 22:34
|
|
ปกติ จะใช้วิธีการหว่านเมล็ดหญ้าลงไป (หญ้ารูซี่ Ruzi เป็นหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ รากยาวยึดดินดี มีแหล่งเพาะเมล็ดขายที่ขอนแก่น) ติดตั้งผ้าห่มดินทับลงไป ตรึงด้วยหมุดไม้ให้ติดแน่นกับดิน แล้วรอฟ้ารอฝน ถ้าไม่แล้งจัด หญ้าจะงอกและจะรักษาหน้าดินได้ตามธรรมชาติภายในฤดูกาลเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 149 เมื่อ 19 ต.ค. 11, 22:37
|
|
หญ้าแฝกจะงอกงามและมีอัตราการอยู่รอดดีขึ้น หากชำลงบนผ้าห่มดิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|