เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 28
  พิมพ์  
อ่าน: 81399 น้ำท่วม ๒๕๕๔
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 135  เมื่อ 25 ต.ค. 11, 15:47

^^^^^^^^
^^^^^^^^

ตามนั้นครับ

ขอให้ทุกท่านทำใจได้  ว่าอะไรผ่านมา เดี่ยวมันก็ผ่านไป
อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 136  เมื่อ 25 ต.ค. 11, 15:49

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tvonline&month=25-10-2011&group=11&gblog=10

ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต เตือนเลวร้ายสุดกทม.ท่วมถึงเอวนาน 1เดือน

นายเสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวทางไทยพีบีเอสว่า น้ำที่ล้นมาจากปัญหาที่ประตูคลองหนึ่งไม่สามารถปิดได้ จนทำให้น้ำจากคลองระพีพัฒน์ไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนพหลโยธินนั้น มีแนวโน้มว่า ภายใน 2-3 วันนี้จะไหลเข้าไปถึงเขตจตุจักร และเขตดินแดง คาดว่าน้ำจะสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร ประชาชนยังไม่ต้องถึงขั้นอพยพออก จากนั้นคาดว่าน้ำจะไหลเข้าสู่ระบบอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 เพื่อลงสู่ทะเลต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งแก้ไขปัญหาบริเวณช่องระบายน้ำประตูดำ เขตดอนเมือง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดรังสิต ที่ชำรุดเสียหายและมีน้ำทะลักผ่านอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่ายังไม่มีการแก้ไขในจุดนี้ น้ำยังคงไหลแรงและเร็วมาก หากปล่อยไว้จะทำให้น้ำจากจุดนี้ไหลเข้าสู่แขวงสีกัน เขตดอนเมือง และไหลเข้าสู่คลองประปาได้

นอกจากนี้ ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ น้ำที่ไหลมาจาก จ.ปทุมธานี และอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จะไหลเข้าสู่พื้นที่คลองมหาสวัสดิ์ และคลองทวีวัฒนา คาดว่าน้ำจะล้นคันกั้นเข้าท่วมพื้นที่ภายใน 7-8 วันนี้ และคาดว่าระดับน้ำจะสูงประมาณ 1 เมตร ซึ่งจะเป็นในลักษณะน้ำเอ่อล้นคลองเข้าท่วม ไม่ใช่การไหลบ่าเข้าท่วมรุนแรง

นายเสรีกล่าวอีกว่า จุดที่น่าเป็นห่วงคือพนังกั้นกระสอบทรายริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ของกรุงเทพฯ ซึ่งต้องดูแลให้แข็งแรง เพราะหากเกิดพังเสียหายจะทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทันที และระดับน้ำจะเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากระดับน้ำเจ้าพระยาสูงมาก

ขณะที่ฝั่งตะวันออกคาดว่าน้ำจะเอ่อล้นคันกั้นของคลองหกวาสายล่าง เข้าท่วมพื้นที่ย่านเขตสายไหมภายใน 4-5 วันนี้ โดยระดับน้ำสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร จากนั้นน้ำจะไหลไปคลองแสนแสบ คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง ประเวศ ออกไปทางสำโรงภายใน 10 วัน

นายเสรียังกล่าวว่า ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ปทุมวัน สีลม บางรัก สาทร ราชเทวี ห้วยขวาง วัฒนา น้ำจะท่วมระดับเอว และท่วมนาน 1 เดือน ในส่วนข้อแนะนำรัฐบาลอาจต้องประกาศเขตห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ มิฉะนั้นอาจเกิดภัยจากความโกลาหล
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 137  เมื่อ 25 ต.ค. 11, 16:06

ระดับเอว ๑ เดือน  ขยิบตา ขยิบตา ขยิบตา


++++++

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงศาลาท่าน้ำ รพ.ศิริราช วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๔


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 138  เมื่อ 25 ต.ค. 11, 16:13

อ.เสรี วิเคราะห์ออกมาอีกแผนภูมิหนึ่ง



คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
POJA
พาลี
****
ตอบ: 298


ความคิดเห็นที่ 139  เมื่อ 25 ต.ค. 11, 22:11

สงสัยจังค่ะ น้ำท่วมใหญ่หลายครั้งที่ผ่านมา เราเคยอพยพกันหรือเปล่าคะ

 ฮืม  ฮืม  ฮืม

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 140  เมื่อ 25 ต.ค. 11, 22:28

สงสัยจังค่ะ น้ำท่วมใหญ่หลายครั้งที่ผ่านมา เราเคยอพยพกันหรือเปล่าคะ
 ฮืม  ฮืม  ฮืม
ไม่ค่ะ  อาจมีบางคนย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว ถ้าแถวบ้านน้ำท่วมมาก   แต่ก็เป็นเฉพาะราย ที่สมัครใจย้าย 
ไม่เรียกว่าอพยพ
ชาวกรุงเทพอพยพกันครั้งสุดท้ายเมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ  70 ปีมาแล้ว
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12599



ความคิดเห็นที่ 141  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 08:18

คลิปประวัติศาสตร์อีกคลิปหนึ่ง



ใครเข้าใจภาษาญี่ปุ่น กรุณาช่วยแปลด้วย

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 142  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 09:06

คลิปอธิบายเรื่องน้ำท่วมน่ารัก ๆ เขาให้น้ำท่วมเปรียบเสมือนเป็นปลาวาฬ

บันทึกการเข้า
POJA
พาลี
****
ตอบ: 298


ความคิดเห็นที่ 143  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 09:13

สงสัยจังค่ะ น้ำท่วมใหญ่หลายครั้งที่ผ่านมา เราเคยอพยพกันหรือเปล่าคะ
 ฮืม  ฮืม  ฮืม
ไม่ค่ะ  อาจมีบางคนย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว ถ้าแถวบ้านน้ำท่วมมาก   แต่ก็เป็นเฉพาะราย ที่สมัครใจย้าย 
ไม่เรียกว่าอพยพ
ชาวกรุงเทพอพยพกันครั้งสุดท้ายเมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ  70 ปีมาแล้ว

นั่นสิคะ สงสัยคนรุ่นใหม่จะลำบากไม่เป็น กลัวไม่มีน้ำ กลัวไม่มีไฟ กลัวไม่มีอาหาร กลัวไม่มีส้วม
ปี 2526 , 2538 จำได้ว่าบางที่ก็แช่น้ำ ต่อสะพานอยู่กัน ลำบากกันหลายเดือน แถวเจ้าพระยาก็ตามน้ำขึ้น-น้ำลง
บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 144  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 13:53

เรียนท่านอาจารย์เทาชมพู และท่านสมาชิกเรือนไทยทุกๆท่านครับ

   ผมเข้ามาร่วมในกระทู้นี้ เพื่อขอความเห็นจากทุกๆท่านเพิ่มเติมครับ ว่า ชาวกรุงเทพฯ จะต้องผจญกับอุทกภัยมากน้อยเพียงไร นานสักเพียงไหน สิ่งที่ผมประเมิน อาจเข้าข่ายกระต่ายตื่นตูมในความคิดของบางท่าน แต่ที่ผมคาดคะเนไว้ร้ายแรงสักหน่อย  ก็เพื่อการเตรียมรับมือแบบเข้มข้น เผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาดครับ

   น้ำที่ล้อมรอบ แหละไหลทยอยเข้าท่วมกรุงเทพมหานครอันเป็นปัญหาเผชิญหน้าเราอยู่เป็นเพียงปลายแถว ผมฟังจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้เมื่อเช้าที่ผ่านมา พิธีกรท่านระบุว่าปริมาณราวๆหนึ่งพันล้านกว่าลูกบาศก์เมตร ยังมีตามมาอีกทัพใหญ่ หนักหน่วง มากมายกว่านี่สามเท่า คือราวๆสี่พันล้านกว่าลูกบาศก์เมตร ปัญหาคือกรุงเทพฯ จะสามารถเลี้ยงไข้ได้นานแค่ไหน ผมอนุมานเอาอย่างต่ำๆนะครับ กทม. คงจะเจิ่งน้ำรอบทิศ ระดับเอวน่ะสำหรับที่ดอน ที่ลุ่มเห็นจะสองเมตรขึ้นไป (เป็นอย่างน้อย) เจ่าจ่อมอยู่ ๔ เดือน คือตั้งแต่พฤศจิกายน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เรื่อยไปถึง มกราคม กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕ ระหว่างฤดูหนาวที่น้ำยังนอง โรคระบาดจะแพร่กระจายลุกลาม ครั้นน้ำเริ่มลดก็จะบรรจบกับฤดูร้อนพอดี ทีนี้ ทั้งฉาตกภัย ผนวกกับทุพภิกขภัยก็จะโถมเข้าใส่ ผมอาจคาดเดาเกินจริงไปมาก ทว่าดังได้เรียนแล้วแต่ต้น เพื่อความไม่ประมาทครับ หากมีสิ่งใดในคำสันนิษฐานกระทำให้ท่านผู้อ่านขุ่นข้องเคืองขัด กระผมขอน้อมรับความผิดนั้นๆ ไม่ว่าครุโทษ หรือลหุโทษ ไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ
     
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 145  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 14:22

ขอแสดงความเห็นใจคุณชูพงศ์อย่างยิ่ง   ความวิตกกังวลของคุณ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจนคนอื่นๆในกรุงเทพและจังหวัดอื่นที่ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน
น้ำจะท่วมนานเท่าใดนั้น จนบัดนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาประกาศกันชัดๆ ว่ากินเวลากี่เดือนกี่วัน  อาจจะไม่ทราบเหมือนกัน หรือทราบแต่กลัวว่าประกาศออกมาแล้วประชาชนจะยิ่งเสียขวัญ ก็เป็นได้

ไปอ่านข้อคิดของท่านว.วชิรเมธี เรื่องน้ำท่วม    น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคนที่กังวลเรื่องนี้อยู่ค่ะ
เครดิต ไทยรัฐออนไลน์  www.thairath.co.th
วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2554

ในช่วงเวลาที่คนไทยจิตตก ตระหนกไปกับทุกกระแสข่าว ตกใจไปกับข่าวสารทุกๆช่องทางที่เผยแพร่ออกมา ไทยรัฐออนไลน์มีโอกาสพูดคุยกับ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ผู้ก่อตั้งสถาบันวิมุตตยาลัย สถาบันที่ศึกษา วิจัย ภาวนา และเผยแพร่ภูมิปัญญาทางพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก เพื่อมาให้ไขรหัสเอาชนะความทุกข์จากน้ำท่วม โดยใช้ "ธรรมะ" เข้าใจ "ธรรมชาติ"!!

Q : ตามคำภีร์ไบเบิ้ลมีกล่าวถึงวันสิ้นโลก นอสตราดามุส ชนเผ่ามายัน ต่างก็กล่าวถึงวันสิ้นโลกเช่นกัน ในพระไตรปิฎกหรือพุทธทำนายของศาสนาพุทธ มีกล่าวถึงเรื่องวันสิ้นโลกหรือเปล่า...?

A : มี แต่ไม่ได้บอกเวลา บอกแต่ว่า “ในอนาคตกาลนานไกลโพ้น โลกจะวิบัติเพราะน้ำ เพราะลม เพราะไฟ” ฉะนั้นถือว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาโลก สิ่งไหนก็ตามที่มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น ก็จะมีการแตกดับไปในที่สุด อย่าตื่นตกใจกับธรรมดาของโลก เราต้องพร้อมที่จะอยู่ในโลกอย่างคนที่เป็นนักเรียน พร้อมที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนเราเป็นนักกีฬาที่วิ่งลงไปในสนามแล้ว เราก็ต้องยอมรับกฎกติกาของสนามนั้น เราถึงจะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ
เช่น เดียวกัน เราเกิดมาในโลก เราก็เป็นนักกีฬาของโลก เราก็ต้องพร้อมที่โลกจะมอบบทเรียนต่างๆให้กับเรา มองทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นบทเรียน แล้วเราก็จะเข้มแข็ง ยิ่งโจทย์ยากๆ ถ้าหากเราแก้โจทย์ได้ เราก็จะกลายเป็นคนที่เก่งมากขึ้นๆ ยิ่งขึ้นไป ดังนั้นมองอีกนัยหนึ่งก็คือความทุกข์มากปลุกให้เราตื่น เมื่อเราตื่นแล้วปีต่อๆไป เมื่อน้ำไหลมา เราก็จะกลายเป็นผู้ที่รับมือกับน้ำได้อย่างเชี่ยวชาญ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 146  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 14:23

Q : ควรจะใช้ชุดความคิดแบบไหนดีที่จะจัดการความทุกข์ เพราะไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหนก็มีแต่ข่าว มีแต่คนเครียดๆ เพราะน้ำท่วมบ้าน คนที่ยังไม่โดนน้ำท่วมก็กลัว กลัวจนนอนไม่หลับ ไม่เป็นอันทำอะไร?


A : อาตมา อยากจะให้ทุกคนคิดว่า อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน ณ เวลานี้ เรามาอยู่ตรงนี้แล้ว เราก็คงต้องยอมรับว่า สิ่งเหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะเกิด เพราะว่านี่คือธรรมชาติ เรามาอยู่ในโลก เราต้องพร้อมจะรับมือกับทุกวิกฤติ เพราะว่าโลกมาอยู่ก่อนเรา แล้วเรามาทีหลัง ฉะนั้นก็ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งเกิดขึ้นในโลกนี้ วิธีที่ดีที่สุด “ให้มองปรากฏการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ว่าเป็นครูที่มาเตือนเราให้เราตื่น” เราอาจจะพากันหลับใหลอยู่ในความประมาท พอน้ำไหลบ่ามาปลุกให้เราให้ตื่น มองวิกฤติเป็นครูแล้วอยู่ด้วยกันแบบไม่ประมาท เพราะว่าน้ำมาแต่ละปี ก็จะทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในการรับมือมากยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่า ในอนาคตเมื่อเราเรียนรู้วิธีที่จะรับน้ำในแต่ละปี แต่ละปี ในอนาคตประเทศเราอาจจะเป็นประเทศที่บริหารจัดการน้ำที่ดีที่สุดในโลกเลยก็ ว่าได้
นี่คือมองให้บวก มองวิกฤติเป็นครู อยู่ด้วยความไม่ประมาท เติบโตจากความผิดพลาดเฉลียวฉลาดขึ้นมาจากความทุกข์ ในอนาคตเมื่อเราเรียนรู้จากการรับมือน้ำอย่างดีที่สุดและอย่างต่อเนื่อง ชนไทยอาจจะเป็นชนชาติที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการจัดการน้ำมากเป็นอันดับ หนึ่งก็เป็นได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 147  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 14:26

Q : คนที่สูญเสียบ้านและทรัพย์สินจากน้ำท่วม?

A : ตอน ที่เราเกิดมา เราทุกคนนั้นเปล่าเปลือยมาทั้งหมดเลย คุณมีแต่ตัวล้วนๆ คุณยังหาบ้านหารถหาเรือกสวนไร่นาได้อย่างมากมาย วัตถุเงินทองเสียไปแล้ว ถ้าหากวันหนึ่งคุณยังมีชีวิต ก็สร้างขึ้นมาใหม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นเสียวัตถุเสียไป แต่จงรักษากำลังใจและชีวิตเอาไว้ ให้กำลังใจให้ชีวิตนี้เป็นสมบัติติดตัวเราไปตลอด ถ้าชีวิตนี้ยังมีชีวิตอยู่กำลังใจก็ยังมีอยู่ คุณสามารถสร้างวัตถุขึ้นมาใหม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่ควรเสียใจ เมื่อถึงเวลาพลัดที่นา คาที่อยู่

ที่สำคัญให้รู้จักเสียสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ เสียสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต เพราะชีวิตสำคัญมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าคุณไม่มีทรัพย์คุณสามารถหาใหม่ได้ แต่ถ้าคุณไม่มีชีวิตทุกอย่างทุกสิ่งก็จบตรงนั้นแล้ว   ให้ยอมเสียสละส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่ ให้ยอมสละทรัพย์ เช่น บ้าน รถ วัตถุข้าวของทั้งหลายอย่าไปยึดติดถือมั่น มาเวลานี้ต้องเอาชีวิตให้รอดเสียก่อน ถ้าคุณยังมีชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสูญเสียไป หามาได้ใหม่ทั้งหมดไม่ต้องกังวล

Q : คนที่เพิ่งสูญเสียคนรักจากน้ำท่วม?

A : ก็ให้ทำใจยอมรับ อย่าโกหกตัวเอง เพราะว่ามันเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคน พอเราเกิดมาแล้วก็ต้องมีอันต้องพลัดพรากจากบุคคลและสิ่งของอันเป็นที่รัก เป็นเรื่องธรรมดา “พระพุทธเจ้าใช้คำว่าเป็นธรรมดา ท่านไม่ได้มองว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เมื่อเราเกิดมาแล้ว  เราก็ต้องจากพลัดพรากจากสิ่งที่เรารักเป็นของธรรมดา เพียงแต่ว่ามันจะเกิดช้าเกิดเร็วเท่านั้น” เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วเราก็ต้องยอมรับเพราะว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 148  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 14:27

“เมื่อ สุดมือสอยก็ต้องปล่อยมันไป” คนที่เหลือก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาใช้ชีวิตกันไปโดยไม่ประมาท เติบโตจากความผิดพลาด เฉลียวฉลาดขึ้นมาจากความทุกข์ สูญเสียอะไรก็สูญเสียไป แต่ต้องรักษากำลังใจเอาไว้ให้ดีที่สุด เพราะถ้าคุณสูญกำลังใจคุณสูญทุกอย่าง แต่หากคุณยังมีกำลังใจ คุณยังสามารถหาทุกสิ่งทุกอย่างได้ใหม่อย่างแน่นอน

Q : น้ำท่วมจนธุรกิจล้มละลาย?

A : อาตมา อยากให้เขาคิดเหมือน “สตีฟ จ็อบส์” เพราะจ็อบส์เคยถูกไล่ออกจากบริษัทที่ตัวเองก่อตั้ง แต่เขาบอกว่า “เขาแค่สูญเสียบริษัทไปเท่านั้น แต่ฉันไม่ได้สูญเสียความสามารถ ภูมิสติปัญญาที่อยู่ในหัวซะหน่อย” ดังนั้นเขาจึงก่อตั้งบริษัทใหม่แล้วกลายเป็นซีอีโอแห่งศตวรรษ คือในรอบ 100 ปีจะมีคนอย่างเขาคนหนึ่ง ฉะนั้นก็ขอให้นักธุรกิจทั้งหลายที่ประสบกับความล้มละลายในระหว่างนี้ ให้บอกตัวเองว่าเราแค่สูญเสียข้าวของเงินทองเท่านั้น แต่เราไม่ได้สูญเสียชีวิต แล้วเราก็ไม่ได้สูญเสียความสามารถของการก่อร่างสร้างตัวของเราแต่อย่างใด ฉะนั้นเราสามารถเริ่มต้นกันใหม่ได้ คิดแบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าเราจะไม่กลับมา “หลายคนเมื่อล้มเหลวแล้วกลับมาได้ดียิ่งกว่าเดิม เพราะว่าเขาได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญผ่านไปแล้ว”
ถ้ามองแบบนี้ความล้มเหลวไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว มันกลายเป็นว่ามันทำให้เราระมัดระวังในการใช้ชีวิต ระมัดระวังในการทำธุรกิจยิ่งขึ้น ความล้มเหลวมันจะทำให้เราได้รับบทเรียนที่ดี คุณอาจจะสูญเสียธุรกิจ เงินทุน แต่ตราบใดที่คุณยังมีความสามารถนั้นอยู่ในหัว คุณเริ่มต้นได้ใหม่ทั้งหมด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33584

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 149  เมื่อ 26 ต.ค. 11, 14:28

Q : กล่าวโทษหน่วยงาน รัฐบาล ข้าราชการ คนอื่นๆ เพราะไม่มีคนมาช่วยเหลือตนเองซะที

A : สิ่ง ที่เราต้องเข้าใจก็คือ เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้คราวนี้มันกินพื้นที่กว้างเหลือเกินกว่า 50 จังหวัด ไม่อยากให้กล่าวโทษใคร ในตอนนี้อยากจะให้เราช่วยซึ่งกันและกันไปก่อน รัฐบาลคือคนไทยเหมือนกับเรา มีความปรารถนาดีที่อยากจะช่วยเหลือเกื้อกูลเหมือนกัน แต่ต้องยอมรับว่าเราต่างเดือดร้อนด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จะให้ไปกระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นการยาก ให้มองด้วยความเข้าใจดีกว่าการกล่าวโทษ

ดังนั้นอาตมาอยากให้คิดว่า  จงพึ่งตัวเองก่อนที่จะพึ่งรัฐบาล เพราะว่าเวลาน้ำไหลมามันไม่รอรัฐบาลหรือรอใครทั้งสิ้น ธรรมชาติไม่มีการเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม สิ่งที่เราควรจะทำก็คือ “อัตาหิ อัตตาโน นาโถ พึ่งตนก่อนพึ่งคนอื่น ทำได้อย่างนี้แล้ว เราจะสามารถเอาตัวรอดได้ก่อนที่ความช่วยเหลือคนอื่นจะมาถึง ในส่วนของประชาชนคนไทยก็ขอโอกาสนี้เป็นการแสดงออกแห่งวัฒนธรรมแห่งน้ำใจ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทอดกฐินน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม

ท่ามกลางวิกฤติ เราก็จะเห็นได้ว่าความงดงามแฝงอยู่ เราจะเห็นได้ว่าเมืองไทยเป็นเมืองแห่งการให้ เราอยู่กันมาด้วยการให้ และนี่คือวันเวลาที่จะทำให้เราให้ซึ่งกันและกัน ท่ามกลางความทุกข์ก็ยังมีความงดงามแห่งการให้ เป็นดั่งดวงดอกไม้ที่โดดเด่นอยู่ เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาเสน่ห์น้ำใจของคนไทยตรงนี้เข้าไว้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 8 9 [10] 11 12 ... 28
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.056 วินาที กับ 19 คำสั่ง