เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 16
  พิมพ์  
อ่าน: 93308 วีรเวร-วีรกรรมของร.ล.ธนบุรีในยุทธนาวีที่เกาะช้าง
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 09:45

๑๓.๕๐ ของวันเดียวกัน เมื่อได้รับรายงานจากนักบินว่าเห็นเรือตอร์ปิโดอิตาเลี่ยนของไทย๓ลำ และเรือลาดตระเวนชายฝั่ง๒ลำ น.อ.เรจีส์ เบรังเยร์ ผู้บังคับการเรือลามอตต์-ปิเกต์ ในฐานะผู้บัญชาการกองเรือเฉพาะกิจก็ออกคำสั่งไปยังเรือทั้ง๕ลำ นัดหมายให้ไปรวมตัวกันที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะกูดก่อนรุ่งเช้า เพื่อแยกย้ายกันเข้าโจมตีเรือรบไทยโดยเรือลามอตต์-ปิเกต์จะใช้ช่องทางระหว่างเกาะหวายและกลุ่มเกาะจาน เรือแอดมิรัล ชาร์แนร์ และเรือดูมองต์ ดูวิลล์ให้ใช้ช่องทางระหว่างเกาะหวายและเกาะคลุ้ม เรือตาอูร์ และเรือมาร์นให้ใช้ช่องทางระหว่างเกาะคลุ้มและเกาะช้าง
ตอนนั้นเบรังเยร์ตีความว่า เรือลาดตระเวนชายฝั่ง๒ลำตามรายงานของนักบิน คือ ร.ล.ธนบุรี และ ร.ล. ศรีอยุธยา จึงตื่นเต้นเหลือขนาด

๑๗ มกราคม กองเรือฝรั่งเศสมาถึงเกาะกูดในขณะที่ท้องฟ้ายังมืดมิด ร.ล.ระยองซึ่งได้รับคำสั่งให้เป็นเรือลาดตระเวนหน้าที่ ทอดสมอดักศัตรูอยู่ที่อ่าวคลองโปรมบริเวณใต้เกาะกูด ใกล้จุดที่เรือรบฝรั่งเศสมารวมตัวกันที่สุดแล้ว แต่สังเกตุการณ์ไม่เห็นด้วยกันทั้งสองฝ่ายเพราะขณะนั้นมีหมอกหนาด้วย กองเรือฝรั่งเศสจึงเล็ดลอดเข้าไปได้ตามแผน

โชคเป็นของฝรั่งเศส ซวยเป็นของไทย ครั้งที่๑


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 12:38

๐๖.๐๕ เครื่องบิน Loire 130 ซึ่งบินมาจากฐานทัพที่เรียม (Riam อยู่ในเขมร จังหวัดกำปงโสม) ปรากฎเสียงเหนือเกาะช้างบริเวณเกาะง่ามที่นักบินเห็นหมู่เรือรบไทยจอดอยู่เมื่อวันวาน แต่เนื่องจากหมอกที่กระจายอยู่ยังไม่สามารถสังเกตุการณ์ได้ นักบินจึงบินเลยขึ้นเหนือไป สักครู่เห็นเรือใหญ่จอดอยู่สองลำจึงวนเข้าไปดู

๐๖.๑๐ ร.ล.ธนบุรี ซึ่งได้ม้วนเก็บหลังคาผ้าใบพร้อมรบไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืน  เพิ่งเลิกตรวจแถวเช้าและกระทำกายบริหารเพื่อเตรียมฝึกซ้อมการปืนตามกิจวัตร เห็นเครื่องบินผลุบๆโผล่ๆเหนือเมฆ ผู้บังคับการส่องกล้องพอเห็นเครื่องหมายของฝรั่งเศสก็สั่งเป่าแตรสัญญาณให้ทหารเข้าประจำสถานีต่อสู้อากาศยานทันที แต่เครื่องบินดังกล่าวบินเลยกลับขึ้นไปทางเกาะง่ามอีก

ในเวลาเดียวกัน ร.ล.ชลบุรีและ ร.ล. สงขลาสั่งให้ทหารเลิกกระทำกายบริหารและเข้าประจำสถานีรบพร้อมอยู่แล้วตั้งแต่ได้ยินเสียงเครื่องบิน พอลัวร์๑๓๐โผล่ให้เห็นก็ระดมยิงด้วยปืนใหญ่เรือและป.ต.อ.อย่างหูดับตับไหม้ ความจริงนักบินกะจะไปทิ้งระเบิดใส่อาคารบนเกาะง่าม เมื่อถูกเรือรบไทยที่ตอนแรกมองไม่เห็นยิงเอา ก็ตกใจรีบปลดระเบิดแล้วเผ่นหนี ทหารบนร.ล.ธนบุรีสามารถเห็นกลุ่มกระสุนวิ่งเป็นทางขึ้นไประเบิดเป็นกลุ่มควันสีใกล้ๆเครื่องบินได้ชัดเจนก็โห่ร้องไชโยกันยกใหญ่ จนกระทั่งเครื่องบินลับตาไป
ฝ่ายไทยรายงานว่าเครื่องบินดังกล่าวถูกกระสุน ไฟลุกควันดำเป็นทางก่อนจะตกที่ใต้เกาะง่าม


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 12:46

ทหารบนกองเรือฝรั่งเศสก็เห็นภาพเดียวกันแต่พากษ์คนละอย่าง น.อ.เรจีส์ เบรังเยร์ออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อเห็นลัวร์130บินกลับมาวนเหนือเรือลามอตต์-ปิเกต์ก่อนมุ่งหน้าไปทางฐานทัพเรียม ก็เพื่อนเล่นไปทำให้ทหารเรือไทยรู้ตัวซะแล้ว

๐๖.๑๕ กองเรือฝรั่งเศสโผล่พ้นเกาะต่างๆที่กำบังอยู่แต่ยังเห็นเรือตอร์ปิโดใหญ่ทั้ง๒ลำของไทยไม่ชัดเพราะหมอกและสีเรือที่กลมกลืนไปกับฉาก  ร.ล.สงขลาเห็นเรือลามอตต์-ปิเกต์ก่อนก็ลั่นปืนใหญ่ประจำเรือขนาด๗๕ม.ม.ที่กระสุนพร้อมยิงอยู่แล้วทันที ร.ล.ชลบุรีที่อยู่ห่างออกไป๓๐๐เมตร เห็นเข้าก็ยิงตาม
จังหวะแทบจะพร้อมๆกันนี่เอง กองเรือฝรั่งเศสทั้ง๕ลำ ก็อาศัยแสงระเบิดที่ปากกระบอกปืนใหญ่ของเรือรบไทย เล็งยิงกลับมาบ้าง เสียงดังสนั่นหว่นไหว

ทหารบนร.ล.ธนบุรี ได้ยินเสียงปืนคำรามติดต่อกันก็เข้าใจสถานการณ์ทันที ผู้บังคับการได้สั่งเป่าแตรรบ ถอนสมอเรือเตรียมประจันบาน ขณะนั้นได้เห็นเรือลามอตต์-ปิเกต์ไกลๆกำลังระดมยิงเรือรบไทยทั้งสอง จึงได้สั่งการให้ต้นหน (ร.ท.เฉลิม สถิรถาวร)วิทยุรายงานไปบ.ก.ทัพเรือโดยด่วน
บ.ก.ทัพเรือที่สัตหีบได้รับสัญญาณนี้ และสั่งการให้ร.ล.ศรีอยุธยารีบเดินทางมาสนับสนุน พร้อมกับได้ส่งข่าวไปยังกองบินที่จันทบุรีด้วยแต่สัญญาณนี้ทหารอากาศไม่ได้รับจึงไม่รู้เรื่องว่าข้าศึกบุกเข้ามาแล้ว ครั้นได้ยินเสียงกระสุนปืนใหญ่เรือดังพรึมๆ จึงส่งเครื่องบินเครื่องหนึ่งขึ้นไปดูแก้สงสัย แทนที่จะไปกันทั้งฝูง ถล่มให้ยับ

ขนาดกองบินที่จันทบุรีซึ่งตั้งอยู่ที่เนินพลอยแหวนไกลกันตั้ง ๙๓ ก.ม.ยังได้ยินเสียงเขายิงกัน แต่ร.ล.ระยองที่ทอดสมออยู่ที่เกาะกูดห่างกันไม่เกิน ๓๐ก.ม.กลับไม่ได้ยิน ผมล่ะไม่อยากจะเชื่อ

โชคเป็นของฝรั่งเศส ซวยเป็นของไทย ครั้งที่๒


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 13:19

๐๖.๒๐ น.อ.เรจีส์ เบรังเยร์ส่องกล้องไปเห็นแต่แสงวาบๆของปากกระบอกปืนเรือรบไทย และเงารางๆที่อยู่ข้างหน้า เข้าใจเอาเองว่านั่นคือเรือใหญ่อีกลำหนึ่ง เดาเสร็จว่าชื่อร.ล.ศรีอยุธยา จึงจัดแจงบรรจงสั่งการให้เรือลามอตต์-ปิเกต์ยิงตอร์ปิโดไปเป็นตับ ๓ ลูก ตั้งลึกที่ ๒.๕๐ เมตร ประมาณสัก๑๐นาที ก็เห็นแสงไฟ๓สายพุ่งขึ้นสูงมาก ๒สายออกสีเหลืองอีกสายหนึ่งออกสีขาว น.อ.เบรังเยร์กลับไปเขียนรายงานโม้ว่า “…ข้าพเจ้ามองด้วยกล้องส่องทางไกลเห็นลูกตอร์ปิโดระเบิดขึ้นเมื่อตอนที่โดนเข้ากับกราบเรือ…”

เกาะที่กำบังสายตาระหว่างร.ล.ชลบุรีและ ร.ล. สงขลากับเรือลามอตต์-ปิเกต์อยู่นั้น เป็นเกาะที่มีหาดทรายเป็นสันดอนเชื่อมระหว่างภูเขาเล็กๆ๒ลูก มีลักษณะเป็นง่ามสมชื่อเกาะ น.อ.เบรังเยร์แกคงตาถั่วหรือไม่ก็ตื่นเต้นจัด เห็นสันดอนทรายที่ว่านี้เป็นเรือรบที่จอดอยู่ระหว่างเกาะสองเกาะ ตอร์ปิโดที่ยิงไปกระทบหาดระเบิดทั้งตับ แต่แกดีใจยกใหญ่นึกว่าร.ล.ศรีอยุธยาเรียบร้อยโรงเรียนฝรั่งเศสไปแล้ว


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 15:01

ระหว่างนั้น ร.ล.ชลบุรีและ ร.ล. สงขลาเป็นเป้านิ่ง จอดทอดสมออยู่ให้เรือรบฝรั่งเศสทั้ง๕ลำแปรขบวนเข้ามากินโต๊ะ  ทำไมหรือครับ….?

อย่างที่ผมเกริ่นไว้ก่อนหน้า เรือตอร์ปิโดอิตาเลี่ยนป้ายแดงที่เราถอยออกมาจากอู่เมื่อไม่กี่ปีนี้เอง กลายเป็นเรือตกรุ่นไปแล้วเพราะพัฒนาการเรื่องอาวุธที่แข่งขันกันอย่างรวดเร็ว เรือที่ออกมารุ่นหลังอย่างเช่นร.ล.ธนบุรี ขึ้นระวางล่ากว่ากันไม่ถึง๓ปี ใช้เครื่องยนต์ดีเซลสามารถออกเรือได้ทันทีในขณะที่เรือรบเช่นร.ล.ชลบุรีและ ร.ล. สงขลาต้องเสียเวลาต้มน้ำ รอให้น้ำเดือดถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง กว่าจะได้ไอน้ำไปขับเคลื่อนเครื่องยนต์ได้ การจะต้มน้ำไว้ตลอดเวลาในขณะที่ไม่ใช้งานใช้การเป็นเรื่องสื้นเปลืองที่ไม่มีกองทัพเรือชาติไหนเขาจะทำเหมือนกัน คือจะยอมให้มีเฉพาะ“เรือลาดตระเวนหน้าที่”เท่านั้น ที่วื่งปฏิบัติการตลอด๒๔ชั่งโมงได้ เมื่อพบเหตุร้ายก็รายงานมาให้เรือรบลำอื่นรับทราบและเตรียมตัวรับมือ

จุดอ่อนเรื่องนี้จึงเป็นจุดอ่อนทั่วๆไปที่อดีตมหาอำนาจทางเรืออย่างฝรั่งเศสย่อมรู้ดี จึงวางแผนชิงปฏิบัติการอย่างรวดเร็วก่อนที่ฝ่ายไทยจะรู้ กว่าจะต้มน้ำให้เดือดก็สายไปเสียแล้ว

การปิดจุดอ่อนอยู่ที่ความสามารถในการการลาดตระเวนหาข่าว รู้เขารู้เรา รบสิบครั้งชนะสิบครั้ง เครื่องบินของเขาบินเข้ามาเจอฝ่ายเราทุกครั้ง ในขณะที่เครื่องบินฝ่ายเราไม่เคยเจอเขา เพราะเขาไม่ออกมาให้เจอ เขารู้ว่าการลาดตระเวนทำได้เฉพาะตอนกลางวัน เขาก็เดินทางตอนกลางคืน เอาความมืดกำบังพอเช้าก็ถึงเป้าหมาย


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 19:33

เทียบกำลังรบของทั้งสองฝ่ายโดยใช้มาตราส่วนเดียวกัน
จะเห็นว่าขนาดต่อขนาด น้ำหนักต่อน้ำหนัก ฝ่ายไทยไม่มีอะไรเทียบได้เลย นอกจากน้ำใจในการสู้รบของทหาร


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 20:30

เข้ามาสังเกตุการณ์ด้วยใจจดใจจ่อ แต่รบกวนช่วยบอก T,M D,A  และ L ให้ด้วยครับ เข้าใจว่าเป็นชื่อเรือของฝรั่งเศส
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 20:53

ขอบคุณคุณหนุ่มสยามที่เตือนครับ

อักษรย่อที่ผมใส่ไว้ในแผนที่เป็นเครื่องหมายแสดงตำแหน่งของเรือรบฝรั่งเศสดังนี้

Lamotte-Picquet    เรือลามอตต์-ปิเกต์    ใช้อักษรย่อว่า L
Amiral-Charner     เรือแอดมิรัล ชาร์แนร์  ใช้อักษรย่อว่า A
Dumont D’Urville   เรือดูมองต์ ดูวิลล์     ใช้อักษรย่อว่า  D
Tahure                  เรือตาอู                ใช้อักษรย่อว่า T
Marne                   เรือมาร์น               ใช้อักษรย่อว่า  M

รายละเอียดของเรืออยู่ในกระทู้ที่ 49 ถึง 53 ครับ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 30 ก.ย. 11, 20:56

โห เข้ามาตั้งหลายลำ เข้ามารุกล้ำอธิปไตยเลยนะครันนี่  ฮืม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 01 ต.ค. 11, 08:01

๐๖.๒๕ กลุ่มเรือเรือแอดมิรัล ชาร์แนร์กับเรือดูมองต์ ดูวิลล์ซึ่งโผล่มาทางช่องทะเลระหว่างเกาะหวายและเกาะคลุ้ม และกลุ่มเรือตาอูร์กับเรือมาร์นซึ่งโผล่มาทางแหลมบางเบ้า อยู่คนละทิศ ทำให้พลยิงของเรือรบไทยพะว้าพะวัง ปืนใหญ่เรือขนาดเล็กแค่๗๕มม.ก็มีเพียงลำละ๓กระบอก จึงตัดสินใจเลือกเฉพาะเป้าใหญ่ ไม่สนใจเรือที่เล็กกว่า ดังเช่นร.ล. สงขลาที่เลือกยิงเรือดูมองต์ ดูวิลล์ลำเดียว ทำให้เรือรบลำอื่นของฝรั่งเศสยิงเราได้สบายใจ และเริ่มเข้าเป้าถูกเรือตอร์ปิโดของไทยหลังจากการยิงตับที่๓

นัดแรกที่โดนนั้น ร.ล.ชลบุรีเสากระโดงหักสะบั้นยามยอดเสาตกลงมาขาขาดทั้งสองข้าง แต่ก่อนจะสิ้นใจ ทหารเรือใจเพชรผู้นั้นก็พยายามร้องตะโกนให้เพื่อนสู้ต่อไปไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น แต่แล้วกระสุนอีกนัดหนึ่งก็โดนท้ายเรือร.ล.ชลบุรีเข้าอีกจนถังน้ำมันเตารั่วไฟลุกพรึ่บขึ้น แสงสีแดงฉานสว่างโพลงทำเรือรบฝรั่งเศสเห็นเรือรบไทยชัดทั้งสองลำ สามารถเล็งยิงกันได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน

ภาพนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่ถ่ายจากเรือตาอูร์ เห็นควันไฟที่พวยพลุ่งขึ้นจากร.ล.ชลบุรี สีดำทมิฬตัดกับท้องฟ้า


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 01 ต.ค. 11, 08:05

๐๖.๓๐ ขณะที่กลุ่มเรือเรือแอดมิรัล ชาร์แนร์กับเรือดูมองต์ ดูวิลล์วิ่งเข้ามาห่างจากเรือตอร์ปิโดทั้งสองเพียง๕๐๐๐เมตร กลุ่มเรือตาอูร์ และเรือมาร์น จะพยายามวิ่งเข้าไปให้ใกล้ร.ล.ชลบุรีและ ร.ล. สงขลาที่สุด จนอยู่ในระยะต่ำกว่า๒๖๐๐เมตรเกือบถูกลูกหลงจากเรือลามอตต์-ปิเกต์

ถ้าเรือรบไทยสามารถยิงตอร์ปิโดได้ เรือฝรั่งเศสคงต้องโดนดีเข้าบ้าง แต่กระแสน้ำทะเลไม่เป็นใจให้ เรือทั้งสองลำที่ทอดสมออยู่ถูกน้ำปัดหัวเรือให้หันเข้าหาฝั่งหันท้ายเรือออกทะเลตลอด ทำให้ไม่มีมุมยิงทั้งๆที่ร.ล. สงขลาอัดลมบรรลุตอร์ปิโดไว้เต็มอัตราศึกพร้อมทำการยิง ซ้ำร้ายเรือรบทั้งสองอยู่ในแนวขนานกัน ลูกปืนที่ฝรั่งเศสกะจะยิงร.ล.ชลบุรี หากพลาดเป้าก็ยังมีสิทธิ์ไปลุ้นรับโชคครั้งที่สองกับร.ล.สงขลา สรุปแล้วเรือรบไทยโดนกระสุนอ่วมไปทั้งคู่


โชคเป็นของฝรั่งเศส ซวยเป็นของไทย ครั้งที่๓


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 01 ต.ค. 11, 08:53

เรียนถาม อ.NAVARAT.C ครับ เมื่อได้อ่านเหตุการณ์ถึงตอนถล่มเรือของกองทัพเรือไทย (ยังไม่ถึงเรือหลวงธนบุรี) เกิดความซวยซ้อนหลาย ๆ ครั้งนี้ ผมก็สงสัยว่า ทำไมถึงได้เกิดเหตุเหล่านี้ได้เพราะอะไร

๑. ธรรมชาติเช่นหมอก ทะเล เล่นตลกกับเราหรือ

๒. หรือจะว่าประสิทธิภาพอาวุธ ก็ไม่ถูกซะทีเดียว ไทยนั้นชอบพูดเรื่อง "เล็กพริกขี้หนู" ดูจ้อยแต่เผ็ดแรง ก็ไม่น่าใช่

๓. หรือว่าหย่อนใจเกินไป ไม่พร้อมตื่นตัวระวังในเหตุการณ์ จึงได้เสียท่าเขาแบบนี้
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 01 ต.ค. 11, 09:55

ซวยก็คือซวยครับ

มันไม่มีใครทราบหรอกว่ามันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ภาษาพระท่านใช้คำว่า "เวรกรรม" นำไป
สำนวนสามก๊ก (ในการรบครั้งสำคํญๆนั้น) "ฝีมือเป็นเรื่องของมนุษย์ ความสำเร็จเป็นเรื่องของเทวดา"

.
.
นี่ตอบคำถามของคุณหมดแล้วทุกข้อที่ถามนะครับ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 01 ต.ค. 11, 10:24

นึกถึงโฆษณาเรื่องนี้



ได้ยินแต่คำว่า "ซวย ซวย ซวย"

ต้นเหตุมันอยู่ที่.......

อย่าโทษ "ซวย" โทษตัวเอง

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 01 ต.ค. 11, 10:33

ระยะแรกของการดวลปืนใหญ่กันนั้น ร.ล.สงขลาเล็งไปที่เรือลามอตต์-ปิเกต์ ตับแรกกระสุนตกต่ำไป ต้นปืน(ร.อ. นัย นพคุณ)สั่งให้เพิ่มระยะยิงเป็น๑๔๐๐๐เมตร แต่ตับที่สองคล่อมนี้ไปอีก  สั่งใหม่ให้ตั่งที่๑๒๐๐๐เมตร ต้นปืนเห็นประกายระเบิดของกระสุนตับที่สามกระจายออกบริเวณท้ายเรือลามอตต์-ปิเกต์ กำลังเฮกันอยู่โดนยิงสวน เพราะเรือรบฝรั่งเศสทุกลำใช้แสงปลายปืนเป็นจุดเล็ง ทำให้พอโดนเข้าทีไร พลยิงก็จะตายหรือหมดสภาพไปด้วย แม้พลกระสุนหรือคนอื่นๆจะผลัดกันเข้ามาแทน ความไม่ชำนาญบวกกับปืนที่ความพิการไปแล้ว ทำให้การยิงหวังผลอะไรไม่ได้กระสุนตกสะเปะสะปะ นอกจากส่งสียงคำรามให้ดังๆไปเท่านั้น

สงสัยกระสุนตับนั้นเอง ที่ทำให้น.อ.เบรังเยร์ยอมรับในรายงานว่า มีสะเก็ดกระสุนตกอยู่เกลื่อนบริเวณท้ายเรือ แต่อ้างว่าเรือฝรั่งเศสไม่ได้โดนกระสุนแต่อย่างไร ทหารเรือไทยไม่เชื่อรายงานนี้ แต่ผมสงสัย กระสุนที่ยิงไปอาจเป็นกระสุนแตกอากาศ เหมือนกับที่ไประเบิดข้างๆเครื่องบินทั้งๆที่มิได้กระทบเป้าหรือเปล่า ผมก็ไม่ใช่ผู้ชำนาญซะด้วย

รูปข้างล่างนี้เป็นเรือตอร์ปิโดใหญ่ ร.ล.ชุมพรซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝดลำหนึ่งของร.ล.ชลบุรีและ ร.ล.สงขลา คุณkaifaเป็นผู้โพส์ตลงเวปไว้ ผมขออนุญาตเอาเฉพาะอาวุธมารวมไว้ เพื่อเปรียบเทียบกับฝ่ายฝรั่งเศส


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 16
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.048 วินาที กับ 19 คำสั่ง