Wandee
|
นิทานบุญของอินเดีย เขียนโดย พรรนะแพทย์
อ่านแล้วนำมาเล่าเพราะเห็นว่าน่าสนใจ
พระราชาองค์หนึ่งมีมเหสี ๓ องค์ แต่ไร้ซึ่งโอรสธิดา ประชาชนไม่พอใจมาก แม้แต่คนเข็ญใจที่กวาดถนนก็
หลีกเลี่ยงไม่อยากเห็นพระพักตร์ในเวลาเช้าเพราะเกรงว่าจะโชคร้ายไม่มีความสุขไปด้วย
วันหนึ่งชายเข็ญใจปลุกภริยาขึ้นหุงหาอาหาร เพราะกินแล้วจะรีบไปทำงาน จะได้ไม่ต้องเห็นพระพักตร์อันบูดบึ้งพระราชา
กินอาหารแล้วเขาก็ไปทำงานตามหน้าที่ ชาววังผู้หนึ่งเห็นคนเข็ญใจเคี้ยวหมาก เป็นประเพณีีที่เคี้ยวหมากหลังจากกินอาหาร
จึงทักว่า กินอาหารแต่เช้าเชียวนะ
(นิทานเรื่องนี้ อ่านไป เล่าไปตามสำนวนคนอ่าน มิได้คัดลอกมาเต็มที่)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อ 22 ก.ย. 11, 12:15
|
|
คนเข็ญใจตอบ เสร็จแล้ว ขืนเห็นหน้าพระราชาผู้ไร้บุตรก็จะกินไม่ลงเท่านั้น
พระราชาได้ยินการสนทนา เสด็จเข้าห้องปิดทวาร ไม่ให้ใครเข้าเฝ้าเลย
โยคีตนหนึ่งผ่านมา แจ้งกับนายประตูว่าอยากเข้าเฝ้าพระราชาให้ได้ เพราะทราบว่าพระราชาทรงเศร้าเพราะไร้พระโอรส
ในที่สุดพระราชาก็ยอมให้โยคีเข้าเฝ้า
โยคียืนยันว่าพระราชาไม่ต้องร้อนพระทัยเลย แล้วถวายยาวิเศษให้ราชินีเสวย โดยมีข้อแม้ว่าพระโอรสองค์หนึ่งต้องเป็น
ของโยคี
ต้นฉบับบอกว่าโยคีพเนจรมา แต่คนอ่านหนังสือเก่าไม่ไว้ใจใครก็ตามที่มาแจกแถมถึงบ้านอยู่แล้ว ขนาดขนหนังสือมาให้ดูสิบกว่าลัง
ยังไม่ไว้ใจ
พระราชาดีพระทัย มอบยาให้มเหสีสามองค์ ตรัสว่าให้แบ่งกัน มเหสีองค์ที่หนึ่งและที่สองไม่ได้คิดจะแย่งให้มเหสีที่สามเลย
เพราะท่านก็ดูหนังไทยและเกาหลีเป็นประจำ แบ่งโอสถเสวยคนละครึ่ง มเหสีที่สามเมื่อทรงทราบเรื่องก็เสียพระทัยมาก วิ่งวุ่น
ไปทั่ววัง สงสัยว่าคงทรงร้องหวีดไปด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อ 22 ก.ย. 11, 12:30
|
|
เผอิญสะดุดถ้วยยาที่มเหสีอีกสององค์โยนทิ้ง ก็รีบกวาดยาที่เหลือติดถ้วยเสวย
ต้นฉบับบอกว่าเลียถ้วยทั้งนอกและในจนสอาดสุกใสดุจล้างเช็ดไว้เรียบร้อย
มเหสีทั้งสามก็ทรงครรภ์กัลยา เกิดพระโอรสสององค์ องค์ที่ได้รับยาน้อยนั้น
คลอดหอยสังข์ออกมา
พระโอรสสององค์นั้นก็ทรงเจริญเติบโตเล่าเรียนวิชาอันควรกับราชตระกูลตามธรรมเนียม
ประเพณีในเวลานั้น
พระบิดามารดาก็ทรงแก่เฒ่าไปตามกาล ลืมเรื่องข้อแม้ของโยคีไปแล้ว
นึกถึงนิทานของฝรั่งซึ่งก็คงจำ ๆ มาจากกลาสีท่องสมุทรเรื่องคล้าย ๆ กัน ฝรั่งนี่ไม่ใช่ว่าจะเจริญนัก
พอได้ออกมาหายใจนอกประเทศ เจอสยามเข้าก็ร้องว่า ไม่เจริญ ๆ ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อ 22 ก.ย. 11, 13:00
|
|
พระมเหสีที่ ๓ ก็รักษา พระโอรสหอยสังข์อยู่ในห้องของพระนาง ไม่ยอมพรากไปทั้งๆที่เห็นว่าเป็นหอย
นิทานอินเดียเรื่องนี้ นักอ่านหนังสือเก่าติดใจมาก เพราะไปอ่านคำถามในเว็บใหญ่แห่งหนึ่ง
ถามเรื่องสังข์ทองว่า ทำไมพระสังข์ไม่ถอดรูปเสียที ทำให้พระมารดาต้องลำบากกรากกรำจำระทม
เลยไปถามสหายนักอ่านคนหนึ่ง สหายหัวเราะ เหอ เหอ เหอ ตอบว่าเพราะพระสังข์นั้นเป็นผู้มีบุญมาเกิด
ทราบว่าต้องเผชิญผลกรรมอีกมาก จึงซ่อนตัวอยู่เพื่อปกป้องผ่อนกรรมไปบ้าง เป็นการช่วยเหลือพระมารดาต่างหาก
(จนบัดนี้นักอ่านหนังสือเก่าก็ยังไม่ได้แจ้งไปว่าเจอพระสังข์อินตระเดียเข้าแล้ว เพราะพวกเขานั่งอยู่คนเดียวก็แทบจะเป็น
วิทยาลัยในตนเองไปแล้ว เมื่ออยู่สองคนก็รู้ทั่งพิภพจบสากล ไม่ทราบอยู่อย่างสองอย่างเท่านั้นคือหนังสือสามเกลอเล่มแรกชื่ออะไร
และ ก.ศ.ร. กุหลาบพิมพ์หนังสือไว้กี่ร้อยเล่ม)
คืนหนึ่งในเวลาดึกสงัด พระมเหสีเหลือบไปเห็นหอยสังข์แตกเป็นสองเสี่ยง มีบุรุษรูปงามครบถ้วนคุณลักษณะในสมัยนั้นปรากฏขึ้น
นางนิ่งดูไม่กะโตกกะตาก เช้าขึ้นหอยสังข์ก็เป็นหอยสังข์ตามเดิม นางเฝ้าดูอยู่สามคืน และในที่สุดก็ฉวยเปลือกหอยสังข์
โยนเข้ากองไฟ เพราะอยากได้พระโอรสไว้ในก้อมกอด พระสังข์กลับมาก็ไม่มีหอยสังข์ไว้ซ่อนตัวอีกแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 4 เมื่อ 22 ก.ย. 11, 13:22
|
|
ฤาษีกลับมาทวงคำมั่นสัญญา
ไม่มีพระมเหสีองค์ไหนยอม ก็เลยส่งลูกชายของโขลนไปแทน
ฤาษีพาไปและทดสอบว่าเป็นเจ้าชายจริงไหม ไม่ผ่านค่ะ เลยมามาส่งคืน
ฤาษีโกรธมาก ขู่ว่าจะสาปพระราชาไปทั้งโคตรชาติ พระราชาก็เลยมอบเจ้าชายหองสังข์ให้ไป
พระมเหสีไม่กล้าขัดพระสวามี จึงไปบูชาพระสังกฏะนารายณ์ ทรงพิลาปอ้อนวอนขอให้ช่วยให้
พ้นทุกข์ พระผู้เป็นเจ้าโปรดปราน ปรากฏกายในสุบิน ว่าพระองค์รับรู้ในความระทมของพระนางและฟัง
คำอ้อนวอนแล้ว ในไม่ช้าเจ้าชายจะกลับมา ขอให้หยุดร้องไห้ และบูชาพระองค์ต่อไป
นี่แสดงว่าพระมเหสีทรงกรรแสงทั้งหลับและตื่น น่าสงสารจัง ท่านคงหลับไม่สนิทเท่าไร
(รีบอธิบายไว้ล่วงหน้าเพราะสหายเก่ง ๆ แถวนี้เรียนหนังสือแบบกวดวิชามา พอใจที่จะปาดกระทู้ที่สนุก ๆเสมอ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อ 22 ก.ย. 11, 13:30
|
|
เล่านิทานแล้ว ก็จะคัดลอกแบบเปิดเครื่องหมายคำพูดที่ต้นประโยค และปิดที่ท้ายความ
เรื่อง พิธีบูชาสังกฏะ ปฎิบัติทุกวันอังคาร
และคงเล่าเรื่องประวัติการพิมพ์ของ ไทยเขษม ไว้ให้สำนักพิมพ์ที่ลอกต่อๆกันมา ไม่เคยอ่าน ลอกต่อไป
มีเรื่องสำคัญ ๆ และตำรากับข้าวของกุ๊กจีนที่ทำอาหารฝรั่งอย่างหรู และตำราทำกับข้าวของหลานแม่ครัวหัวป่าก์อีกด้วย
ฉบับหลังนี้ เคยนำมาเล่าแล้ว จึงจะขอข้ามไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อ 22 ก.ย. 11, 13:59
|
|
สนุกมากครับ พระสังข์อินเดีย ไม่มีแกงจืดสลักให้รับประทานหรือ.....อยากทราบว่าคลอดเป็นหอยสังข์เอาด้านไหนออกมาก่อน 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
luanglek
|
ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อ 22 ก.ย. 11, 17:01
|
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อ 22 ก.ย. 11, 17:37
|
|
เด็กโดยทั่วไปก็เอาหัวออกก่อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อ 23 ก.ย. 11, 08:29
|
|
โยคีพาพระสังข์มายังอาศรมในป่าใหญ่ สั่งเจ้าชายว่าให้เสวยอาหารในอาศรมได้ตามพระทัย
ไปเที่ยวในป่าก็ได้ แต่อย่าไปทางทิศใต้ขณะที่โยคีไม่อยู่
โยคีปลีกตัวไปที่สถานที่ภาวนาณสุสานบนเขาห่างออกไป อาหารในอาศรมก็มีผลไม้ รากไม้
เจ้าชายอยากไปทางทิศใต้ที่โยคีห้ามไว้ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เจ้าชายก็ออกเดินทางไป
ไม่นานนักก็เห็นอาคารอันสวยงามล้อมรอบด้วยสวนดอกไม้อันส่งกลิ่นหอม
เจ้าชายไปเคาะประตู คนที่มาเปิดก็คือหญิงสาวที่สวยน่าพิศวง สาวน้อยเอียงอาย
เจ้าชายก็ประหม่า เจ้าชายก็เล่าชีวิตของพระองค์ให้หญิงสาวฟัง หญิงสาวใส่ใจฟัง
พอเธอเล่าเรื่องบ้าง ก็เป็นเรื่องที่สยดสยอง
โยคีนั้นเป็นตันตริก บูชาเจ้าแม่กาลีด้วยการมนุษย์บูชายัญ และผู้ที่จะโดนฆ่าต่อไปก็คือหญิงสาวกับเจ้าชายนั่นเอง
ทิ้งศพไว้ในสระใกล้ๆนั้น
เจ้าชายไปดูที่สระ ประหลาดพระทัยมากที่เห็นหัวมนุษย์ที่ตายแล้วหัวเราะได้ดังและนาน ตัวที่ไร้หัวก็ลุกมาเต้น
ระบำ(แน่นอนต้องเป็นระบำแขกที่วิ่งไปทางโน้น แล้วถลากลับมาทางนี้)
พระสังข์ปรึกษากับสาวน้อยอยู่หลายวันถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น
วันคืนล่วงไปตามลำดับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ 23 ก.ย. 11, 08:45
|
|
วันที่เจ้าชายจะต้องถูกบูชายัญก็มาถึง
โยคีสั่งให้เจ้าชายสรงน้ำให้สะอาดและเว้นอาหาร และสั่งไม่ให้ไปไหน
โยคีก็ไปที่สุสาน ก่อไฟเตรียมพืธีบูชายัญ เจ้าชายรอคอยเวลาอยู่
มิได้พรั่นพรึงเลยเพราะได้ปรึกษากับสาวน้อยไว้แล้ว
ถึงเวลาเย็น โยคีก็มารับเจ้าชายไปที่สุสาน เจ้าชายได้ยินพวกโครงกระดูกก็ส่งเสียงกันรื่นเริง
แบบรับน้องใหม่ ในสุสานมีเทวรูปเจ้าแม่กาลี มีดอกไม้หมากพลู ตะเกียง ธูป และเครื่องบูชาอื่น ๆ
เตรียมไว้ครบ
เจ้าชายน้อมนอบต่อเจ้าแม่ ภาวนาขอกำลัง โยคีบอกให้เจ้าชายหมอบกราบลงกับพื้น
พระสังข์บอกว่าไม่เข้าใจ เป็นลูกกษัตริย์ทำไม่เป็น ทำให้ดูทีหรือ โยคีก็ทรุดตัวลงหมอบราบ
เจ้าชายคว้าดาบหน้าแท่นบูชาก็ฟันคอโยคีขาด โครงกระดูกทั้งหลายก็ส่งเสียงสาธุการดังยิ่งกว่าครั้งใด ๆ
ที่เจ้าชายได้ยินมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 11 เมื่อ 23 ก.ย. 11, 11:32
|
|
สาวน้อยก็มาปรากฎร่าง ทั้งสองช่วยกันฉวยเครื่องบูชาบรรดามีโปรยลงไปในสระ ในเวลาไม่ถึง
นาที ซากศพในสระก็กลับฟื้นขึ้นมาทั้งหมด ต่างให้พรกับคู่หนุ่มสาวระเบ็งเซ็งแซ่
เจ้าชายกับสาวน้อยก็ได้สมรสกัน กลับไปอยู่วัง พระบิดาและพระมารดาต้อนรับด้วยความปรีดาปราโมทย์
ท่านผู้ได้ฟังกถาบุญนี้แล้ว จงเปล่งเสียงถวายชัยให้แก่ สังกฏะนารายณ์เทอญ
อุลุ! ขโย! อุลุ! ขโย! อุลุ! ขโย!
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อ 23 ก.ย. 11, 11:43
|
|
ไม่ทราบว่าคุณหลวงเล็ก ตะลึงอะไร เรียนคุณวันดีที่นับถือ ลักษณะการบูชายันต์และจับชาย หญิง รอวันบูชายันต์และทำการฆ่าโยคี ..... คลับคล้ายกับ เฮนเซลกับเกรเทล เหมือนกันนะนี่ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อ 23 ก.ย. 11, 11:46
|
|
พิธีบูชา วิษณุผู้คุ้มครอง เรียกกันว่า สังกฏะนารายณ์
ปฎิบัติทุกวันอังคาร ข้างขึ้นเดือน ๕ ถึงเดือน ๑๒
ผลของการบูชาที่หวังคือเพื่อให้พ้นภัยทุกชนิด ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ หรือจะเกิดต่อไป
สตรีผู้ทำบูชาต้องลำบากอยู่มาก ต้องสอดแขนใต้เข่าแล้วชูมือประนมเสมอหน้า อาจจะเป็น
เครื่องหมายของความลำบากหรือภัย ในวันบูชานั้น สตรีผู้บูชาก็จำต้องทำภักตกฤตย์ด้วย
อาการสอดแขนใต้เข่าและประนมมือเสมอหน้า อาหารที่กินคือของเข้าพิธีแล้ว และผักหรือปลาอีก ๖ ชิ้น
ผักและปลา ๖ ชิ้นนี้ สตรีม่ายห้ามกิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อ 23 ก.ย. 11, 12:10
|
|
ก็คงขอยืมกันมาค่ะ
ไทยเขษมเป็นหนังสือที่พอจะหาได้ในวงการหนังสือเก่า ต้องขอดูก่อนนะคะ เพราะบางเล่มจะถูกแมลงกัด
เป็นวงเล็ก ๆ เต็มไปหมด อ่านไปวงเหล่านี้ก็ขยายตัวเข้าหากัน ร่วงกราว
ออกอยู่นานทีเดียวคือตั้งแต่ พฤษภาคม ๒๔๖๗ ถึงปี ๒๔๗๘
นักสะสมมีกันคนละสิบกว่าเล่ม ดิฉันตามอ่านอายัณโฆษ เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เนื้อเรื่องทันสมัยมากค่ะ
พระเอกปลอมเป็นชาวพื้นเมืองเข้าไปอยู่ในเมืองคัง ก่อนสมเด็จพระนเรศวรจะเข้าโจมตีเมืองคัง
มีบทความของท่านผู้มีชื่อเสียงมากทีเดียวค่ะ เป็นข้าราชสำนักเป็นส่วนใหญ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|