siamese
|
ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 13:02
|
|
เป็นการเข้าใจผิดอย่างมหันต์ครับท่านหนุ่มสยาม ด้านที่เห็นพญามารพนมมือถือดอกไม้บูชาเนื่อ่งด้วยเมื่อแม่พระธรณีปล่อยน้ำให้ท่วมเหล่าพลพรรคพญามารแล้ว พญามารจึงเล็งเห็นพุทธานุภาพของพระพุทธองค์ ต้องดูอีกด้านนึงครับ ตอนกำลังบุกอันนั้นจัดเต็มอัตตราศึก(ดูรูปประกอบ) สำหรับคุณเพ็ญชมพู มุมขำขันของช่างไทย นี่มีเยอะ วันหลังจะนำเสนอเป็นกระทู้ครับ วัดนี้ก็มีไม่น้อยด้วยครับ
อ่อ เป็นอย่างนี้นี่เอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 76 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 13:10
|
|
ต้องเรียนคุณsiames ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่เขียนช่วงบนเหนือสายตาขึ้นไปนั้น ช่างมักจะไม่เขียนปราณีตเท่ากับระดับสายตา มีเพียงบางวัดเท่านั้นนะครับที่ช่างต้องการสำแดงฝีมือ เรื่องรถพระอาทิตย์และพระจันทร์ ผมก็ชอบครับ แต่ที่วัดนี้อยู่ซะสูงสุด การถ่ายภาพบนที่สูงของผม ก็ใช้ขาตั้งกล้องเอานะครับ ไม่สามารถปีนไปถ่ายในระนาบเดียวกับผนังได้ แล้วก็ใช้เลนส์ซูมเอา ภาพก็เลยกลายเป็นมุมเงย ก็สุดความสามารถตามกำลังที่พึงมีครับ ส่วนเทพชุมนุมที่นี้ส่วนใหญ่จะซ่อมเสียสิ้น เห็นพูดถึงว่าไม่แข็งเหมือนอย่างพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ที่นั่นนะชั้นครูเชียวนะครับ สำหรับลายเกลียวเหมือนโบว์ที่กล่าวถึง(ขั้นระหว่างเทพชุมนุมกับวิทยาธร)นั้นภาษาช่างเรียกว่า"เส้นฮ่อ"ครับ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 77 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 13:23
|
|
มาดูรายละเอียดของผนังแต่ละตอนเริ่มจากเตมีย์ใบ้ ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญเนกขัมมบารมี คือการออกบวชหรือออกจากกาม เล่าเรื่องเตมียราชกุมาร เกรงการที่จะได้ครองราชสมบัติ เพราะทรงสลด พระหฤทัยที่เห็นราชบุรษลงโทษโจรตามพระราชดำรัสของพระราชา เช่น เฆี่ยนพันครั้งบ้าง เอาหอกแทงบ้าง เอาหลาวเสียบบ้าง จึงใช้วิธีแสร้งทำเป็นง่อยเปลี้ย หูหนวก เป็นใบ้ไม่พูดจากับใคร แม้จะถูกทดลองต่าง ๆ ก็อดกลั้นไว้ ไม่ยอมแสดงอาการพิรุธให้ปรากฏ ทั้งนี้เพื่อจะเลี่ยงการครองราชสมบัติ พระราชาปรึกษาพวกพรากมณ์ ก็ได้รับคำแนะนำใหนำราชกุมารไปฝังเสีย. พระราชมารดาทรงคัดค้านไม่สำเร็จ ก็ทูลขอให้พระราชกุมารครองราชสัก ๗ วัน แต่พระราชกุมารก็ไม่ยอมพูด ต่อเมื่อ ๗ วันแล้ว สารถีนำราชกุมารขึ้นสู่รถ เพื่อจะฝังตามรับสั่งพระราชา ขณะที่ขุดหลุ่มอยู่พระราชกุมารก็เสด็จลงจากรถ ตรัสปราศัยกับนายสารถี แจ้งความจริงให้ทราบว่า มีพระประสงค์จะออกบวช สารถีเลื่อมใสในคำสอนขอออกบวชด้วย จึงตรัสให้นำรถกลับไปคืนก่อน สารถีนำความไปเล่าถวายพระราชมารดา พระราชบิดาให้ทรงทราบ.ทั้งสองพระองค์พร้อมด้วยอำมาตย์ราชบริพารจึงได้เสด็จออกไปหา เชิญให้พระราชกุมารเสด็จกลับไปครองราชสมบัติ แต่พระราชกุมารกลับถวายหลักธรรมให้ยินดี ในเนกขัมมะ คือการออกจากกาม. พระชนกชนนีพร้อมด้วยบริวารทรงเลื่อมใสในคำสอน ก็เสด็จออกผนวชและบวชตาม. และได้มีพระราชาอื่นอีกเป็นอันมาก สดับพระราชโอวาทขอออกผนวชตาม.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 78 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 13:31
|
|
น่าเสียดายอย่างทีบอกว่าภาพผนังตอนนี้ไปอยู่หลังพระประธาน ทำให้ถ่านภาพลำบากมาก มุมกล้องไม่เอื้ออำนวยเลย แต่รายละเอียดในภาพกลับสวยงาม ก็ดูเอาเถิดครับว่าสวยยังไงสุดจะบรรยาย
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 79 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 13:44
|
|
ละเอียดอ่อนมากครับ รายละเอียดสถาปัตยกรรมจีน ที่เป็นเสาแดงกดทับลงมายังฐานหินรูปดอกบัว ช่างได้รู้หลักการมาก และภาพพืชพรรณไม้นั้น เห็นลีลาการลงฝีแปรงแจะ ๆ ลงไป สีเขียวปนเหลือง ต้องจิ้มสีซ้อนกันแน่เลยนะครับ พู่กันคงมีการใช้ผสมแบบไทยและจีนหรือเปล่าครับ
ลีลาทรงปืนก็งาม ผ้านุ่ง ผ้าสไบก็งามลงตัวมาก ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 80 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 14:26
|
|
ภู่กันคงเป็นภู่กันแบบโบราณของไทยนะครับม่ใช่ภู่กันจีน ส่วนทีเขียนต้นไม้ก็ใช้เปลือกต้นกระดังงามาทุบปลายให้แตกไว้เขียนแบบภาษาช่างเรียกว่า"ประกระทุ้ง" จิตกรรมฝาผนังสมัยรัชกาลที่๓มีอิทธพลจีนปนอยู่มากก็พบได้แทบทุกวัดอย่างที่คุณsiamsesพูดถึงก็เป็นส่วนหนึ่งครับ ไอ้ทีพระเตมีย์ถืออยู่นั้นมิใช่ปืนนะครับ แต่เป็นไม้กวาด คนซ่อมมันคงไปลบตรงตัวไม้กวาดทิ้งไปตอนซ่อมด้วยความไม่รู้ดูเปรียเทียบได้จากจิตรกรรมวัดบางยีขันที่แบบรูปประกอบมานี้
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 19:15
|
|
มาดูกันต่อในผนังพระเตมีย์ ตัวภาพของเดิมที่ไม่ผ่านการซ่อมช่างมีชีวิตชีวางดงามเหลือเกิน
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 82 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 22:05
|
|
นวลพักตร์เจ้างามจริง ดูเอิบอิ่มพริ้มงามตา ทั้งคิ้วโก่งวงหน้าแลเกศา ล้วนต้องตาน่าเชยอภิรมย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 22:17
|
|
ยังไม่นอนหรือครับคุณsiamese ผมก็เห็นไม่มีคนดูแล้วเลยเงียบไว้ก่อน มีคนเข้ามาทักก็ต่อสักหน่อย มาดูตอนมหาชนกต่อ ดูชาวบ้านริมท่าน้ำมาใช้ชีวิตประจำวัน น่าดูนัก
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 84 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 22:33
|
|
ดูหนุ่มสาวที่แอบซ่อนตัวอยู่ในเรือ แอบทำกุ๊กกิ๊กกัน เสียดายว่าช่างคงกลัวจะประเจิดประเจ้อเกินไปเลยเขียนเป็นมุ่งบังซะฉิบ เสียดาย น่าจะถูกใจคุณเพ็ญชมพูนะครับ อีกภาพเป็นมหาชนกว่ายน้ำกลางมหาสมุทรมากว่า๗วันจนนางมณีเมขลาเห็นในความเพียรเหาะมาช่วยไว้ เรือสำเภานั้นเขียนเป็นเรืออย่างฝรั่งดูงามตาไปอีกแบบ ผมแปลกใจตรงการแต่งกายของลูกเรือนี่แหละที่เป็นชุดขาวใส่หมวกคลุมหัวอย่างอิสลาม ทำไมเป็นอย่างนั้น หรือช่างจะเขียนตามการแต่งกายของลูกเรือฝรั่งสมัยนั้น
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 85 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 22:40
|
|
ยังไม่นอนครับผม ภาพบรรยากาศน่ารักมากครับ บรรยากาศริมน้ำเป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ภาพหนุ่มเกี้ยวพาราสีสาวเจ้าคงไม่เท่า "คู่รักที่อยู่ในเรือ" นะขอรับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 22:50
|
|
ชาวเรือสวมหมวกคล้ายแขก จากวัดคงคาราม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 87 เมื่อ 15 ก.ย. 11, 23:17
|
|
ผมถึงได้แปลกใจว่าแขกทำไมมาเป็นลูกเรือสำเภา หรือสมัยก่อนพวกนี้จะเป็นแขกมลายู เพราะสัยนั้นมีค้าขายกับมาลายูด้วย คงต้องสืบค้นต่อไปเพราะพบเห็นหลายที่แล้ว
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อ 16 ก.ย. 11, 07:26
|
|
ผมถึงได้แปลกใจว่าแขกทำไมมาเป็นลูกเรือสำเภา หรือสมัยก่อนพวกนี้จะเป็นแขกมลายู เพราะสัยนั้นมีค้าขายกับมาลายูด้วย คงต้องสืบค้นต่อไปเพราะพบเห็นหลายที่แล้ว
คงอาจจะเขียนให้พ้องกับพุทธประวัติด้วยกระมังครับ เพราะเรือของพระมหาชนกออกจากอินเดีย มุ่งหน้าสู่ดินแดนสุวรรณุมิ ทำให้ชาวเรือที่มาด้วยมีผิวคล้ำ ไม่ใช่ชาวยุโปรหรือจีนที่คุ้นตา แนบภาพชาวเรืออินเดีย แต่งกายคล้าย ๆ กันเลย
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Kurukula
|
ความคิดเห็นที่ 89 เมื่อ 16 ก.ย. 11, 09:47
|
|
สวัสดีครับพี่ยุทธ พี่ยีนส์ พี่หนุ่มสยาม และสมาชิกท่านอื่นๆ วัดจางวางดิศเคยแต่ผ่านไปผ่านมานานๆที ไม่เคยเข้าไปเลยครับ เพิ่งจะรู้ว่าีมีของดีของงามก็วันนี้ สงสัยว่างๆคงต้องเจียดเวลา (อันเหลืออยู่น้อยนิด) เข้าไปเที่ยวเล่นบ้างแล้ว ชอบเทพชุมนุมของที่นี่จังเลยครับ มีหันหน้ามาคุยกันด้วย น่ารักแปลกกว่าที่อื่นดี 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|