jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 30 เมื่อ 12 ก.ย. 11, 20:52
|
|
หมายถึงภาพพระเนมีราชตอนเยี่ยมชมขุมนรกรึเปล่าครับ ไอ้สองตัวนั่นมิใช่ลิงครับ ผีครับ ส่วนสตรีในภาพก็คงปีนต้นงิ้วเพราะมักมากในกามนะครับ ดูรามสูรกับเมขลามุมบนขวาซ้ายซิครับ เมขลาไปเขียนทับเสียหมดงามส่วนรามสูรยังพอหลงเหลือความงามอยู่บ้าง การจัดองค์ประกอบของภาพตอนเนมีราชนี้ เห็นว่าแบบครูที่ช่างในสมัยรัชกาลที่๓นิยมเขียนเอาแบบอย่างน่าจะเอาเยี่ยงจากฝีมือของหลวงวิจิตรเจษฎาที่วัดสุวรรณารามเป็นแน่
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อ 12 ก.ย. 11, 21:03
|
|
อ๋อ .. เป็นภาพในนรกนี่เอง  ภาพรามสูร งามมากครับ แล้วคุณยีนส์จะไปถ่ายภาพเพิ่มเติม ในส่วนบริเวณใดหรือครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อ 12 ก.ย. 11, 21:07
|
|
จิตรกรรมฝาผนังวัดนึงนี่ถ้าเรามีเวลาและรู้เรื่องราวเหมือนคนในอดีต การไปชมก็คงมีความสุขหมือนชมภาพยนต์ดีๆสักเรื่องนึง น่าเสียดายว่าปัจจุบันตัวผมเองมีปัญหาชีวิตค่อนข้างมากโดยเฉพาะปัจจัยในการดำรงชีพ เลยทำให้ความฝันของผมในเรื่องจิตรกรรมฝาผนังไม่บรรลุผลเสียที ดูแค่การเป็นหัวหน้าชมรมฯก็ยังหาตัวสมาชิกมาร่วมเสวนาไม่ได้เลยไม่รู้ไปไหนหมด คงเพราะทิ้งช่วงไปกว่าปี ก็ไม่เป็นไร จิตรกรรมฝาผนังที่วัดดิสานุการรามบริเวณที่เหลือฝีมือเดิมอยู่มากที่สุดคือบริเวณผนังด้านหลังพระประธาน ซึ่งถ่ายมาเพียงเล็กน้อย เพราะถ่ายยากลำบากเพราะผนังอยู่แทบติดกับฐานพระประธานซึ่งบังภาพเขียนเกือบหมด ผนังตอนนี้เขียนเรื่อง เตมีย์ใบ้ ที่นี่วางตำแหน่งภาพประหลาดนักเอาตอนแรกเริ่มที่ผนังด้านหลังยังนึกไม่ออกว่ามีที่ไหนเริ่มภาพแบบนี้บ้าง ไว้เข้าไปวันหลังต้องเอากล้องเล็กเข้าไปแทรกตัวถ่ายถึงจะได้มา แต่การถ่ายภาพทั้งผนังหมดสิทธิ์ครับ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 33 เมื่อ 12 ก.ย. 11, 21:13
|
|
เข้าใจครับว่าคนเราย่อมมีปัญหาชีวิตด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะมองอย่างไร และการที่เราบางครั้งอยู่กับสิ่งที่เราชอบนั้น ไม่เดือดร้อนใครและยังนำมาเผยแพร่ความรู้เป็นวิทยาทาน ทำให้ก่อความสุขทีละน้อย ๆ นะครับ รบกวนถามครับว่า เมื่อเราถ่ายภาพที่มีขนาดใหญ่ และระยะถ่ายสั้นแบบนี้ จะจัดโฟกัสได้อย่างไร และเราสามารถใช้เลนส์กว้างได้ไหมครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อ 12 ก.ย. 11, 21:18
|
|
ยังเหลืออีกหลายผนังเลยยังไม่ครบสิบชาติครับ อีกทั้งผนังตอนบนที่เขียนมารผจญ ตวงพระธาตุ เทพชุมนุม ก็ยังไม่ได้ถ่ายครับ เอาแต่ว่าวันนี้คงพอแค่นี้ก่อนครับ ฝากถึงเหล่าสมาชิกชมรมฯช่วยเข้ามคุยกันบ้าง ทั้งคุณฉันรักบางกอก คุณvirain คุณเอเซีย คุณทอมมี่และอีกๆหลายๆท่านไม่คิดถึงกันบ้างหรือ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 35 เมื่อ 12 ก.ย. 11, 21:31
|
|
ไปถ่ายภาพกับผมมั๊ยครับ คุณsiamese คืออย่างนี้นะครับ ส่วนใหญ่การเข้าไปถ่ายรูปจิตรกรมฝาผนัง ผมจะใช้เลนส์ซูมซึ่งมีช่วงกว้างของเลนส์ตั้งแต่28ม.ม.ถึง300-400ม.ม.ที่เรียกว่าเลนส์ครอบจักรวาลนะครับ ส่วนที่ผมถ่ายภาพได้เร็วก็เพราะผมมองภาพออกเมือมองเห็นเพราะทราบเรื่องทันที จึงสามารถวางองค์ประกอบในการถ่ายได้ทันที ใน2ช.ม.ผมเคยถ่ายภาพได้ไม่ต่ำกว่า500ภาพ ช่วงโฟกัสของภาพน่าจะเป็นช่วงเทเลมากกว่ามุมกว้างนะครับแม้ภาพจะมีขนาดใหญ่ก็ใช้วิธีวางระยะห่างเอาเพราะถ้าใช้เลนส์มุมกว้างถ่ายภาพออกมามันจะบิดเบี้ยวผิดไปจากความเป็นจริงครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อ 12 ก.ย. 11, 21:36
|
|
ขอบคุณครับผม ผมใช้กล้องแบบธรรมดา ไม่ได้มีแบบมือโปรเลยครับ  แต่ก็ชอบดูภาพจิตรกรรมไทยสวย ๆ นี่แหละครับผม คุณเรน อยู่กรุงเก่า ไม่รู้ว่าโดนน้ำท่วมหรือเปล่าหนอ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อ 12 ก.ย. 11, 22:09
|
|
คุณvirainหรือน้องเนเป็นคนบ้าศิลปะอยุธยา คงไปหาดูของดีของงามที่อยุธยาซึ่งดูได้ท้งปีไม่มีหมด แต่แปลกใจว่าไม่เห็นเข้ามาโพสต์แบบเมื่อก่อน ส่วนกล้องคอมแพคแบบที่คุณsiameseใช้คงซูมได้ใช่มั๊ยรับ เพราะเดี๋ยวนี้ก็ซูมได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้ามีช่วงซูมมากๆแล้วพิกเซลสูงๆหน่อยตั้งแต่7-10ล้านพิกเซลขึ้นไป ก็ถ่ายได้ไม่แพ้กล้องโปรเชียวนะครับ ดูอย่างสมเด็จพระเทพฯซิครับ พระองค์ท่านทรงพระปรีชามากในด้านถ่ายภาพกล้องที่ท่านใช้ก็กล้องคอมแพคนี่แหละครับ
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อ 13 ก.ย. 11, 10:50
|
|
เรียนถามคุณยีนส์ครับว่า เมื่อถ่ายภาพมาแล้ว จิตรกรรมฝาผนังเกิดภาวะสะท้อนแสงออกมา (ตามลูกศรีชี้) นั่นหมายถึง สีแห่งการบูรณะใหม่หรือเปล่าครับ ทำไมเกิดความเงาขึ้น เป็นน้ำยาหรือ ?
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อ 13 ก.ย. 11, 15:20
|
|
ส่วนใหญ่เกิดจากบริเวณดังกล่าวได้รับการอนุรักษ์ด้วยการฉาบน้ำยาที่เรียกว่าพาราลอยส์B72(เหมือนแลคเกอร์)เลยทำให้เกิดเป็นเงาสะท้อน โดยเพาะเวลาใช้แฟลชครับ ที่วัดสุวรรณารามนะทุกผนังเลย ถ้าเป็นฝุ่นคราบเกาะผนังเวลาถ่ายออกมาจะเหมือนมีฝ้าบางๆคลุมอยู่ เจอเยอะเลย เบื่อมาก เป็นกรรมของจิตกรรมฝาผนังไทย อาจารย์ น ณ.ปากน้ำ ท่านด่าพวกอนุรักษ์แบบไม่เห็นคุณค่าในงานแทนที่จะอนุรักษ์กลับมาทำลายเสียมานานแล้ว แต่แทนทีจะมีผู้สำเนียกที่คิดว่าจะดีขึ้นกลับเลวลงกว่าเดิม มาดูภาพประกอบตอนนี้ดีกว่าเป็นชาดกตอนภูริทัต การเขียนภาพบ้านเรือนทั้งแบบจีนและแบบไทยคล้ายที่วัดสุทัศน์มากที่มุมภาพด้านล่างซ้ายมือมีเรือพายเจ๊กไม่รู้ขายอะไรไหเบ้อเร้อน่าจะมาขายเหล้าหรือจะน้ำปลาหว่า เสียดายส่วนนี้ชำรุดไปเยอะเลยไม่เห็นหน้าเจ๊กผู้นี้เลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อ 13 ก.ย. 11, 15:28
|
|
บ้านสไตล์จีน งดงามมาก ชอบฝาบานเพี้ยมเสียจริง ๆ เห็นแล้วอิ่มเอมครับ ส่วนเรื่องอาแปะขายของ ผมเสนอว่า ควรจะเป็นไหน้ำปลาหรือเปล่า  มีกระบวยตักด้วยนะเนี่ย สำหรับน้ำยารักษาผนังและภาพ หากเป็นนักเลงภาพคงไม่ชอบใจไม่น้อย เมื่อถ่ายภาพออกมาแล้วเจอปัญหาความมันที่สะท้อนออกมา มันไม่ได้อารมณ์เสียจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 41 เมื่อ 13 ก.ย. 11, 15:55
|
|
ภาพนี้อยากให้ดูความมักง่ายของ(ไม่อยากเรียกว่าช่าง)ผู้ที่เข้าไปทำการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังตอนนี้ตัวภาพถูกเขียนทับจนเละเหลือของเดิมอยู่หน้าดียวให้เปรียบเทียบความสวยงามกับความอุบาทว์ชาติชั่ว(ขออภัยที่หยาบ) แม้กระทั่งลับแลมันยังลบลวดลายที่ควรมีไปเขียนตัวหนังสือว่าลับแลให้ผู้ดู(ที่มาพบภายหลัง)ให้รู้วานี่แหละคือลับแลไม่รู้มันเอาอะไรคิด ให้ไปดูจิตรกรรมฝาผนังที่มีฉากลับแลในสมัยรัชกาลที่3-4เถอะเขียนเป็นเรื่องราวตัวเล็กๆอย่างเรื่องสามก๊ก(ดูได้ที่วัดสุทัศน์)และรามเกียรติ์(ดูได้ที่วัดกันมาตุยาราม)งดงามมาก
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อ 13 ก.ย. 11, 16:06
|
|
วงหน้าสาวรัชกาลที่ ๓ งามนักแลครับ แต่ก็อย่างที่เราเห็นกันอยู่ ความต่างระหว่างการอนุรักษ์และการทำลายโดความไม่รู้ เห็นแล้วก็คอตกไม่น้อย
ฝากภาพลับแลงาม ๆ ให้คุณยีนส์ไว้ล้างตาครับผม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
siamese
|
ความคิดเห็นที่ 43 เมื่อ 13 ก.ย. 11, 16:15
|
|
ผมสงสัยเรื่องการแต่งกายของสตรีไทยบางภาพ บางภาพก็นุ่งสไบเฉียงไหล่ข้างเดียว บางภาพก็ทำคล้ายมีผ้ามาคลุมแค่ไหล่อีกด้าน (วงกลม) ยิ่งจิตรกรรมฝาผนังที่วัดคงคาราม ยิ่งเห็นชัด จึงอยากรู้ว่าเขานุ่งกันอย่างไรนี่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 44 เมื่อ 13 ก.ย. 11, 16:52
|
|
ผมว่าการเขียนภาพแบบนี้คงเป็นอารมณ์ของศิลปินที่บางทีก็แต่งเติมเสริมแต่งตัวภาพให้เกิดความงามโดยมิได้คำนึงถึงความเป็นจริงนัก เพราะการห่มสไบก็คงจะห่มพาดเพียงทางเดียว แต่ในความคิดผมการเขียนให้ดูว่ามีผ้าคลุมไหล่อีกด้านก็อาจจะเป็นการแสดงให้เกิดความต่างทางชนชั้นของสตรีในภาพก็เป็นได้(น่าจะเป็นเยี่ยงนี้นะครับ)แต่ถ้าดูรูปประกอบรูปนี้(จากวัดสุวรรณาราม)เป็นไปได้ว่านอกจากสไบแล้วอาจจะมีผ้าคลุมไหล่อีกผืนก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|