ฝ่ายพวกกุลีมารายงาน ว่าหมวกทหารเจอหนึ่งใบ
แต่เจ้าของหมวกไม่รู้ไปไหน หรือดำดินไปใต้บาดาล
อย่าเพ่อดูหมิ่นดำดินทราย เขาก็เป็นชายชาติทหาร
ทิ้งหมวกไว้ให้เป็นพยาน แล้วหนีบันดาลดำดินไป
เหมือน "โทเฮงสูน" เรื่องห้องสิน เขายังดำดินไปได้
เรื่องหมวกไม่รู้ของผู้ใด ฉันสืบไม่ได้ต้องยอมจน
คนที่คอยดูอยู่จนรุ่ง สู้ทนให้ยุงมันกัดป่น
ไม่พบคนตายเลยสักคน จนแสงสุริยนส่องนภา
กุลีขนอิฐยังไม่หมด แต่ครบกำหนดตามสัญญา
ครั้นรุ่งสางสว่างจ้า กุลีถ้วนหน้าหยุดงานพลัน
เมื่อแรกรับจ้างต้องเซ็นชื่อ หรือลงลายมือเป็นสำคัญ
ครั้นถึงรุ่งเช้าเอารางวัล บาทหนึ่งเท่ากันทุกคนไป
โรงพักถนนพาหุรัด เป็นที่จ่ายจัดค่าจ้างให้
กรมกองตระเวนไม่เกณฑ์ใคร คิดค่าจ้างให้ทั่วทุกคน
กุลีพวกก่อนอดนอนเพลีย ต้องหยุดพักเสียไม่รื้อขน
จ้างกุลีใหม่อีกหลายคน ให้ขุดรื้อขนต่อไปนา
ขนอีกสองวันจึงสำเร็จ รวมกุลีเสร็จหกสิบห้า
จ้างคนละบาทไม่ขาดราคา ไม่หย่อนไม่กว่าร้อยสตางค์...
โทเฮงสูน ในเรื่องห้องสิน เป็นใคร มีบทบาทอย่างไร
ใครทราบโปรดอธิบายให้ฟังหน่อย จักเป็นพระคุณยิ่ง
โทเฮงสูน หรือ ถู่อิ๋วซุน เป็นศิษย์ของกีลิวสุน แห่งเทืองเขาเหลียงซาน มีภรรยาชื่อ นางเตงตันหยก
ลักษณะคือ รูปร่างเตี้ย สูงเพียงสองศอกคืบ ผิวดำ อาวุธที่ใช้คือง้าวกระบองเหล็ก มีพาหนะคือกิเลน
ความสามารถพิเศษ ดำดินได้ไกลวันละสองหมื่นห้าพันเศษตอนแรกรับราชการเป็นขุนพลนายทหารของพระเจ้าโจ้วหวาง แต่ภายหลังเข้าสวามิภักดิ์กับฝ่ายของพระเจ้าโจวอู่หยาง
ที่มีเจียงจื่อหยางเป็นแม่ทัพใหญ่
ต่อมาในการรบที่ด่านเสงตี้กวน ก็ถูกเตียวแก๋นายด่าน ผู้มีวิชาดำดินเช่นกัน ฆ่าแล้วตัดศีรษะเสียบประจานที่หน้าด่าน
พระเจ้าโจวอู่หยาง ทรงประกอบพำธีบวงสรวงปูนบำเหน็จหลังสงครามเสร็จสิ้น
โดยให้โทเฮงสูน เป็นดาวโทฮู้แช หรือดาววังดิน