เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 13862 "คุณพี่บุญรับ" ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 22 ส.ค. 11, 14:58



ประวัติ หม่อมราชวงศ์บุญรับ  พินิจชนคดี


       เป็นบุตรสาวคนใหญ่ของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าคำรบ และ หม่อมแดง ปราโมช

เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม  พ.ศ. ๒๔๓๘     ที่แพท่าราชวรดิษฐ์

ขณะนั้นท่านพ่อยังรับราชการตำแหน่งเจ้ากรมทหารฝีพาย


       เมื่อเติบโตพอดูแลตัวเองได้  หม่อมแม่ได้นำเข้าถวายตัวต่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้ากรมขุนสวรรคโลกลักษณวดี (สมเด็จหญิงเล็ก)

พระธิดาพระอรรคชายาเธอองค์ใหญ่     และได้พำนักอยู่ในพระบรมมหาราชวังและพระราชวังมาจนสมเด็จเจ้าฟ้ามาลินีนพดาราสิ้นพระชนม์

จึงได้ทูลลาออกจากวังมาอยู่บ้าน


(คัดลอกมาจากหนังสืออนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมราชวงศ์บุญรับ  พินิจชนคดี ท.จ.  ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส
วันที่  ๓๐ มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๒๕
หนังสือเป็นเรื่อง  ราชสกุลวงศ์ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม หลังจากการพิมพ์ครั้งที่ ๘)

กลุ่มนักอ่านหนังสือเก่าไปล่าหนังสือกันมาเมื่อวานนี้     

ประวัติของ ม.ร.ว. บุญรับ  ที่ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์  ปราโมช น้องชาย เรียบเรียงนั้น    ดิฉันเคยอ่าน เข้าใจว่าในหนังสือพิมพ์ สยามรัฐ
ต่อมาก็เคยได้อ่านอีกครั้งหนึ่ง   นำมาฝากสหายทั้งปวงด้วยความเอื้ออารีของเผด็จการในการอ่านหนังสือ)

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 22 ส.ค. 11, 15:07




       กรุณาอย่าเพิ่งปาดหรือเสนอความคิดอื่นใด  เพื่อรักษา บทความ ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์  ปราโมชที่น่าอ่านเป็นที่สุด



ในหนังสือหายากอีกเล่มหนึ่งที่ดิฉันจะเสนอต่อไป คือ  "ต้นตระกูล  อเนกบุณย์ แห่งเมืองปราจีณบุรี"   ขอเรียนเชิญสหายและ

นักอ่านทั้งปวง  แวะสนทนาและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ตามอัธยาศัย  เพราะคนเราย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้

ยินดีรับฟังจากทุกท่าน   


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 22 ส.ค. 11, 15:22



        "เมื่อแรกเกิดนั้นท่านพ่อตั้งนามให้ว่า "รับขวัญ"    แต่เมื่อเข้าไปอยู่ในพระบรมมหาราชวังในวัยเด็ก

ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าว่า  "บุญรับ"

และได้รับพระมหากรุณาโกนจุกพระราชทาน  พร้อมด้วยหม่อมเจ้าและหม่อมราชวงศ์อื่นๆในวัยเดียวกันอีกหลายท่าน


       ม.ร.ว. บุญรับ  ได้อยู่กับบิดามารดาตลอดมาจนอายุ ๑๖ ปี   ได้ติดตามท่านพ่อไปอยู่ตามหน่วยทหาร  ซึ่งท่านพ่อไปรับราชการ

หลายจังหวัด  เช่น  ที่จังหวัดนครสวรรค์  จังหวัดฉะเชิงเทรา  และ จังหวัดพิษณุโลก


ในฐานะเป็นลูกคนใหญ่ก็ได้รับความไว้วางใจจากหม่อมแม่  ทั้งในด้านการดูแลบ้านและในด้านสังคม   และได้แบ่งเบาภาระของ

หม่อมแม่ในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ได้มาก   เช่นการดูแลการครัวและการบ้าน     ตลอดจนปกครองดูแลบริวารของท่านพ่อซึ่งมีจำนวนมาก   

รับผิดชอบในการรับแขกและในงานเลี้ยงดูที่บ้านและออกงานสังคมต่าง ๆ กับท่านพ่อ   เพราะหม่อมแม่ไม่สมัครใจจะออกงานต่าง ๆ

นอกจากที่จำเป็นจริง ๆ เช่น เข้าไปถือน้ำพระพิพัฒนสัตยาเป็นต้น

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 22 ส.ค. 11, 21:40



       ม.ร.ว. บุญรับ  ได้แต่งงานกับ พลตำรวจเอกพระพินิจชนคดี  ใน วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙

มีบุตรหญิงด้วยกันคนหนึ่งเสียชีวิตตั้งแต่แรกเกิด           แต่คุณพระพินิจชนคดีมีบุตรกับภรรยาเดิมที่ถึงแก่กรรมคือ

ม.ล. อรุณ พินิจชนคดี อยู่แล้วหลายคน   ม.ร.ว. บุญรับก็เข้ารับหน้าที่เลี้ยงดูปกครองบุตรของคุณพระพินิจชนคดีที่ยังเยาว์   

และให้ความรักเหมือนกับบุตรตนเอง         ชีวิตในครอบครัวจึงได้เป็นสุขราบรื่นและมีความเจริญตลอดมา


       คุณพระพินิจชนคดี และ ม.ร.ว. บุญรับ  ได้บำเพ็ญการกุศลสาธารณะไว้มากมายหลายอย่าง   และได้บำเพ็ญการกุศลในพระศาสนาไว้มากเช่นเดียวกัน

ม.ร.ว. บุญรับ  ถึงแก่กรรม เมื่อวะนที่ ๒๑ ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๒๔  อายุ ๘๖ ปี

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 22 ส.ค. 11, 22:04



       ในฐานะที่ผมเป็นน้องของท่านคนหนึ่งที่ท่านได้เลี้ยงมาตั้งแต่จำความได้   ผมก็ใคร่ขอบันทึกคุณของคุณพี่บุญรับ

ไว้บ้างตามสมควร   และคุณความดีตลอดจนนิสัยใจคอของคุณพี่บุญรับที่ผมได้จดจำมาบันทึกไว้นั้น   ญาติมิตรและ

ลูกหลานของท่านก็คงจะได้ประจักษ์มาแล้วทุกคน




       คุณพี่บุญรับเป็นคนเก่ง   ที่ว่าเก่งนั้นหมายความว่าท่านเป็นคนมีฝีมือ    จะทำสิ่งใดต้องทำให้สำเร็จ

และเป็นผลดีอย่างยอดเยี่ยมเสมอไป         ไม่ว่าจะเป็นในทางการค้าหรือในทางการบ้านการเรือน


       คุณพี่บุญรับเป็นชาววังที่แท้จริง   และได้รับการฝึกฝรอบรมอย่างชาววังมาตั้งแต่แรก   ท่านจึงเป็นคนมีฝีมือ

ในกิจกรรมของแม่บ้านทุกชนิด     ท่านเป็นคนทำกับข้าวอร่อยหาตัวจับยาก   และกับข้าวของกินทั้งคาวหวานที่ท่านปรุงนั้น   

มีความประณีตละเอียดถึ่ถ้วน        ได้มาตราฐานห้องเครื่องต้นสมัยรัชกาลที่ ๕  อย่างหาที่อื่นได้ยาก 

การทำกับข้าวแบบนี้จำเป็นต้องใช้เวลามาก   มีเครื่องปรุงต่าง ๆให้ครบถ้วยมิได้มีสิ่งใดขาด    ต้องรู้วิธีที่จะจัดการอย่างไร

กับเครื่องปรุงแต่ละอย่างอย่างถูกต้อง          และต้องมีลูกมือเอาไว้ช่วยออกแรงอีกหลายคน         แต่คุณพี่บุญรับท่านเจียดเวลา

เอาไว้ทำกิจการเหล่านี้ได้เสมอ           ท่านมีความรู้ที่ละเอียดพิสดารเกี่ยวกับเครื่องปรุงและการปรุงอาหาร      และท่านสามารถ

ทำตัวให้คนรักสมัครมาเป็นลูกมือของท่านด้วยความเต็มใจไม่หลีกเลี่ยง


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 23 ส.ค. 11, 10:04



       นอกจากการทำอาหารแล้ว   คุณพี่บุญรับยังมีฝีมือในการเย็บปักถักร้อยทุกชนิด   เมื่อยังสาว ๆ 

ท่านเย็บตัดเสื้อใส่เองโดยไม่ต้องจ้างวานใคร         และมีชื่อว่าเป็นผู้นำสมัยคนหนึ่งเมื่อ ๖๐ ปีมาแล้ว     เสื้อผ้าที่ท่านแต่งตัว

เข้าราชสำนักหรือออกงานสังคมหรูหราในสมัยนั้นก็เป็นฝีมือของท่านเองทั้งสิ้น


     นอกจากที่กล่าวมาแล้ว   คุณพี่บุญรับยังเป็นผู้ที่อนุรักษ์ชีวิตความเป็นอยู่แบบไทยในสมัยก่อน   ซึ่งเป็นวัฒนธรรม

ที่ออกมาจากวังหลวง     ท่านถือว่าความสะอาดเป็นของสำคัญที่สุดในความเป็นอยู่   เพราะฉะนั้นทุกแห่งที่ท่านรับผิดชอบ

ดูแลจะต้องสะอาดอย่างหาที่ติไม่ได้   ตั้งแต่ครัว  หม้อไหถ้วยชามทุกชนิดขึ้นไปจนถึงห้องนั่งห้องนอนจะต้องสะอาดหมดจดไปทุกแห่ง   

ตัวผมเองที่เป็นน้องที่ท่านเลี้ยงมาก็จะต้องถูกจับอาบน้ำล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าวันละหลายครั้ง   ไม่เคยมีสิทธิที่จะสกปรกได้

ทั้งๆที่อยากจะสกปรก       ห้องนั่งห้องนอนเครื่องนอนทุกอย่างไปจนถึงสวนและสนามในบ้าน         ท่านเป็นผู้คอยดูแลให้สะอาดสวยงาม

ส่วนมากมักลงมือเองเพื่อสร้างความสวยงามขึ้น  เช่น  ปลูกต้นไม้  ดอกไม้  เลี้ยงต้นไม้  ตัดสนาม  ถอนหญ้าแห้วหมู ฯลฯ

บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 23 ส.ค. 11, 10:25

พระองค์เจ้าคำรบกับหม่อมแดงถ่ายภาพร่วมกับบุตรธิดา และ ม.ร.ว. บุญรับแถวยืนคนที่สองขวามือเรา และ ม.ร.ว. คึกฤทธ์ นั่งกลาง


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 23 ส.ค. 11, 11:30




       เมื่อคุณพี่บุญรับเป็นชาววัง   ท่านก็มีฝีมือในสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นของชาววัง   การจัดดอกไม้และร้อยดอกไม้ทุกชนิด

ท่านทำได้สวยงามมาก   จนกระทั่งท่านอายุร่วม ๘๐ ปี  ท่านก็ยังร้อยมาลัยได้สวยและเย็บดอกไม้ได้งดงาม


       เมื่อ ๕๐ - ๖๐ ปีที่แล้ว  ร้านทำดอกไม้หรือจัดดอกไม้ไม่มีอย่างทุกวันนี้   เรื่องดอกไม้เป็นเรื่องที่ต้องทำกันเองในบ้าน   

คุณพี่บุญรับมัดพวงหรีดเองให้ท่านพ่อไปวางงานพระศพหรือศพของท่านที่รู้จักเคารพนับถือ      ถึงเทศกาลกฐินหรือ

มีงานบวชนาคซึ่งท่านพ่อรับเป็นเจ้าภาพ   คุณพี่บุญรับก็ร้อยตาข่ายดอกไม้สดคลุมผ้าไตรที่ต้องใช้   รวมทั้งเย็บดอกไม้ประดับ

และร้อยอุบะห้อยคราวละหลาย ๆ ไตร   ถึงจะอดหลับอดนอนก็ไม่เคยได้ยินท่านบ่น           


       สมัยยังนุ่งผ้าลายขัดคุณพี่บุญรับก็คอยดูให้คนขัดผ้าลายให้แม่และตัวท่านเอง  แล้วเอาเข้าใส่หีบอบร่ำ   ผ้าห่มก็เลือก

ย้อมสีให้ถูกต้องแล้วจีบมัดเข้าไว้และเข้าหีบอบร่ำเช่นเดียวกัน         เครื่องหอมเช่นน้ำอบไทย  น้ำปรุง  แป้งร่ำ   ท่านเป็นคนทำเองทั้งสิ้น 

และทำติดต่อกันมาจนท่านชรามากแล้วจึงเลิก 


       ลูกหลานที่อยู่ใกล้ชิดท่านจะได้ความรู้เช่นนี้จากท่านทุกคน        และในตอนท้ายแม้แต่พยาบาลซึ่งมาอยู่ประจำตัวท่านในยามชรา

ก็ได้วิชาชาววังไปจากท่านคนละไม่มากก็น้อย   

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 23 ส.ค. 11, 16:42




     สำหรับตัวผมคุณพี่บุญรับเป็นแม่  เป็นครูและเป็นที่พึ่งอุปการะผมมาตลอดชีวิตท่าน

พระคุณของท่านนั้นจะพรรณาอย่างไรก็คงจะไม่ถ้วนทั่ว



       ตั้งแต่ผมจำความได้   คุณพี่บุญรับเป็นผู้เลี้ยงดูผมในทุกทาง   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินอยู่หลับนอนไปจนถึงความประพฤติ

ท่านเป็นผู้สอนให้ผมกินเป็น   รู้จักรสและคุณค่าของอาหาร   ท่านเป็นผู้สอนมารยาททั่วไปให้เข้ากับคนได้ทุกชั้น   

ท่านคอยดูแลให้รู้จักรักษาความสะอาด   ให้รู้จักความสวยงามและความเป็นเวลา   ความรู้ในการปฎิบัติตนให้ถูกต้องกับกาละเทศะ

นั้นได้มาจากท่านตั้งแต่อ้อนแต่ออก          แต่ทั้งที่ท่านเลี้ยงดูผมมาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เล็ก   ท่านก็ไม่เคยเอาตัวผมออกไปห่างแม่

ความนักแม่   ความใกล้ชิดและความอบอุ่นของเด็กที่ได้จากมารดาผู้บังเกิดเกล้านั้น   ผมมีอยู่บริบูรณ์ไม่บกพร่อง

มาคิดดูเดี๋ยวนี้ว่าคุณพี่บุญรับทำอย่างไรผมก็นึกไม่ออก    คิดได้แต่ว่าท่านจะต้องมีวิธีการที่แนบเนียนมาก

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 24 ส.ค. 11, 10:01



       ทางด้านความเป็นครู    คุณพี่บุญรับสอนหนังสือไทยให้กับผมตั้งแต่ผมยังเป็นเด็กเล็กมาก

จนผมจำไม่ได้ว่าเรียนกันเมื่อไรและอย่างไร           รู้แต่ว่าเมือจำความได้นั้นอ่านหนังสือไทยออกเสียแล้ว

แต่มีหลักฐานพยานอยู่ที่หนังสือเรียนชื่อมูลบทบรรพกิจ   ซึ่งคุณพี่บุญรับเก็บไว้         หน้าหนังสือนั้นทุกหน้า

มีรอยด่างเป็นดวงสีชมพูเต็มไปหมด    คุณพี่บุญรับบอกว่าท่านให้ผมใช้ก้านธูปชี้ตัวหนังสือที่อ่าน    เวลาที่อ่านผิด

หรือเกเรอย่างไรท่านก็ตี   ผมก็ร้องไห้น้ำตาหยดถูกก้านธูปเป็นสีชมพู   แล้วก็ตกไปที่หน้าหนังสือจนด่างเป็นสีชมพูทั้งเล่ม

ผมจึงอ่านหนังสือออก

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 24 ส.ค. 11, 10:10



       พอเรียนภาษาไทยอ่านออกและอ่านหนังสือสามก๊กได้ดัง ๆ โดยผันชื่อจีนได้ไม่ผิด       คุณพี่บุญรับ

ก็สอนภาษาอังกฤษให้        ท่านสอนให้รู้ภาษาอังกฤษได้ถึงขนาดที่ผมไปเรียนอนุบาลที่โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง 

แหม่มโคลต้องตกใจที่เห็นเด็กโตแค่นั้นรู้หนังสืออังกฤษถึงเพียงนั้น    นอกจากหนังสืออังกฤษหนังสือไทยแล้ว   

คุณพี่บุญรับยังสอนคณิตศาสตร์บวกลบคูณหารได้พอสมควร   ก่อนที่ผมจะไปเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียน   การที่

ผมอ่านหนังสือได้สองภาษาไม่ติดขัดและพอคิดเลขในใจได้โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องคิดเลขไฟฟ้านั้น  นับว่าเป็นบุญคุณของคุณพี่บุญรับมาจนบัดนี้
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 24 ส.ค. 11, 10:28



       คุณพี่บุญรับเป็นชาววังทั้งตัว   เพราะฉะนั้นจึงมีอารมณ์ขันและปฎิภาณว่องไวในการพูดจา

ทำให้คนครึกครื้นได้มาก   วิชานี้ผมก็ได้เรียนเอาไว้มากจากคุณพี่บุญรับ    และได้ใช้ในการพูดและการเขียนมาตลอดชีวิต

ในทางกวีนิพนธ์คุณพี่บุญรับก็มีความรู้มาก  เพราะท่านแต่งโคลง  ฉันท์ กาพย์ กลอน ได้ทุกอย่าง    ยิ่งกว่านั้นจำวรรณคดี

ได้มากเรื่องและอย่างยืดยาว   ซึ่งท่านนำมาใช้ในหลายโอกาสเพื่อให้เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบัน    ความจริงลักษณะ

เช่นนี้เป็นลักษณะของผู้มีการศึกษาในเมืองไทยในสมัยหนึ่ง    อันเป็นลักษณะที่ลึกซึ้งมาก     เพราะเท่ากับว่าท่านเหล่านั้น

มีวัฒนธรรมไทยอยู่ในสายเลือด   และแสดงออกอยู่ทุกขณะในชีวิตประจำวันของท่าน     กาพย์กลอนโคลงฉันท์ที่ผมแต่งได้

และได้เคยแต่งมาแล้ว   เป็นสิ่งที่ผมได้เล่าเรียนมาจาดคุณพี่บุญรับทั้งหมด    ผลงานจะดีเลวแค่ไหนนั้นเป็นเรื่องของผม

แต่คุณพี่บุญรับเป็นแหล่งความรู้เบื้องต้นของผมในทางนี้             ความจริงคุณพี่บุญรับเคยแปลนวนิยายภาษาอังกฤษ

ไว้หลายเรื่อง           ได้มีนิตยสารสมัยนั้นนำเอาไปตีพิมพ์โดยใช้นามปากกา          และท่านได้แต่งฉันท์สี่สุภาพ

และกลอนเอาไว้มาก            น่าเสียดายที่ปัจจุบันนี้สูญหายไปหมดแล้ว 

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 24 ส.ค. 11, 15:58





       คุณพี่บุญรับเป็นคนดุสำหรับเด็ก   นอกจากผมแล้วน้องของท่านคนอื่นๆก็เกรงท่านอยู่ทั่วกัน

แต่สำหรับผมเมื่อทำผิดหรือซุกชนเกินการท่านก็ตีเอาเจ็บ ๆ   ผมคงจะเป็นเด็กที่ซนร้ายกาจมาก

เพราะคุณพี่บุญรับท่านต้องตีกินเปล่าไว้วันละ ๕ ที  ไม่ว่าจะทำผิดหรือไม่ทำ   แต่คุณพี่บุญรับท่านตีชนิดเรา

พูดไม่ออกเพราะท่านเลี้ยงดูให้ปันอยู่ตลอดเวลา   บุณคุณของท่านมากเกินไปที่จะนึกถึงความเจ็บตัวมากบ้าง

น้อยบ้างที่มีอยู่เป็นระยะ ๆ           วันไหนท่านไม่ว่าหรือตีเสียอีกผมกลับไม่สบายใจนึกว่าท่านเบื่อตัวผม

เห็นว่าเป็นเด็กที่เลี้ยงไม่ขึ้นเอาดีไม่ได้



       คุณพี่บุญรับท่านรู้จักคนกว้างขวางมาก   ตั้งแต่พระเจ้าอยู่หัวและพระมเหสีหลายรัชกาล   ท่านก็ได้เฝ้าแหนเพ็ดทูลได้อย่างใกล้ชิด

ทรงโปรดปานคุ้นเคยแทบทุกพระองค์    เจ้านายพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน    ตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และ

คนรุ่นราวคราวเดียวกันกับท่านนั้น   ท่านรู้จักคุ้นเคยมาก    และท่านก็เป็นที่รักชอบของผู้คนทั่วไป    คุณพี่บุญรับเป็นคนตรง

นินทาคนไม่เป็น    มีอะไรไม่ถูกใจก็พูดกันต่อหน้า   โดยไม่กลัวว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะโกรธ    แต่ส่วนตัวท่านเองนั้นไม่มีความ

อิจฉาพยาบาทใครทั้งสิ้น   จะโกรธใครก็โกรธเพียงชั่วแล่น   เห็นใครได้ดีก็ดีใจกับเขาด้วยทุกครั้งไป












ุ่
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 24 ส.ค. 11, 16:22



       ความซื่อสัตย์สุจริตนั้น    คุณพี่บุญรับถือว่าเป็นของจำเป็นในชีวิต   จะขาดไม่ได้หรือจะบกพร่องไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ท่านจึงสั่งสอนอบรมผมในความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอดชีวิต    แม้ผมจะเป็นผู้ใหญ่มีอายุมากแล้วท่านก็ยังไม่ละวาง   

และยังเป็นห่วงคอยดูผมอยู่ตลอดเวลา   ไม่ให้ทำอะไรไปในทางไม่ชอบไม่ควรได้



       เมื่อคุณพี่บุญรับทราบว่าผมได้เป็นนายกรัฐมนตรี    ท่านอุตส่าห์เดินมาถึงบ้านผม

ถือห่อกระดาษห่อใหญ่เอาการมาด้วย       ท่านเอาห่อกระดาษนั้นยื่นให้ผมแล้วบอกว่า

       "พี่เอาเงินมาให้ใช้   เอ็งจะได้ไม่ต้องไปโกงเขาให้เสียชื่อพี่ที่เลี้ยงเอ็งมา"


แล้วท่านก็ไม่ได้ให้หนเดียว   ท่านเจือจานตลอดมาด้วยเงินทีละมาก ๆ   ที่ผมไม่รู้จะกราบขอบคุณท่านอย่างไร

จึงจะสมเพราะท่านไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมเลยในชีวิตนี้    และผมก็ไม่เคยให้อะไรท่านนอกจากความรักและ

ความกตัญญูของน้องคนหนึ่งเท่านั้น


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 24 ส.ค. 11, 16:31



       ครั้งหนึ่งมีคนไปพูดกับคุณพี่บุญรับถึงเรื่องการแจกซองขาวหรือรับซองขาวในวงการเมืองของไทย

และเรื่องเปิดประตูหลังบ้านรับคน          คุณพี่บุญรับท่านตอบว่า

"เรื่องคนอื่นเขาจะแจกซองขาวหรือรับซองขาวกันฉันพูดด้วยไม่ได้   เพราะฉันไม่ได้เห็นด้วยกับตา   แต่ฉันรู้ว่า

นายก ฯ น้องชายของฉันคนนี้มันรับซองขาว  เพราะฉันเป็นคนให้มันเอง   ถ้ามันขืนไม่รับ  ฉันคงตีมันทั้งเป็นนายก ฯ ให้มันรู้กันไป

น้องฉันคนนี้มันไม่มีทั้งประตูหน้าบ้านและหลังบ้าน   แต่มันมีประตูข้างบ้านที่เปิดเข้าบ้านฉัน   ฉันไปยื่นซองขาวให้มัน

ทางประตูข้างบ้านนั่นแหละ"


                                    ม.ร.ว. คึกฤทธิ  ปราโมช
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 19 คำสั่ง