เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
อ่าน: 5586 อ่านราชกิจจานุเบกษา แบบอ่านเอาเรื่อง
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 19 ส.ค. 11, 15:56

      
       เชิญอ่านหาความสำราญเชิงประวัติศาสตร์ปนกฎหมายและความรู้รอบตัว

จาก ราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๔/๑๒๓๙


เริ่ม หน้า ๘๓       เรื่องประหารชีวิต



       หลวง ศ.ส.ส.ว. (เล็ก)  บุตรพระยา  ว.ษ.ภ.ส.    เดิมเป็นมหาดเล็กในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดปีละ ๗ ตำลึง  สมปักราชนิกูลพกหนึ่ง


       ครั้นมาถึงแผ่นดินปัตยุบันนี้   ทรงพระกรุณาโปรด  ให้เป็นซายันในทหารมหาดเล็ก   ได้รับพระราชทานเงินเดือน ๆ ละ ๓ ตำลึง

แล้วเลื่อนขึ้นเป็นเกาวริงซายัน  เพิ่มเงินเดือนขึ้นอีก ๒ ตำลึง  รวมเป็นเดือนละ ๕ ตำลึง


แล้วพระราชทานสัญญาบัตรให้เป็นแอลแซล  คือที่หลวง ศ.ส.ส.ว.  นายทหารมหาดเล็กแล้วเพิ่มเงินเดือนขึ้นอีกห้าตำลึง

รวมเป็นเดือนละ ๑๐ ตำลึง  แล้วเลื่อนเป็น  แกบตัน

คุณหลวงเล็ก  ได้เพิ่มเงินเดือนอีก ๕ ตำลึง  รวมเป็น  ๑๕ ตำลึง



ศัพท์ที่ไม่ทราบแน่   เกาวริง  ซายัน   และ  แอลแซว
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 16:10

Sergeant - ซายัน  หมายถึง ตำแหน่งสิบเอก ขอรับ


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 16:11

โปรดสังเกต  สมปัก  นับเป็น  พก



       เมื่อวันอาทิตย์ เดือนสี่  ขึ้นหกค่ำปีชวด  อัฐศก(ตรวจคู่มือที่สหายทำมาให้เป็นปี พ.ศ. ๒๔๑๙)  หรือจะนับเป็นปี ๒๔๑๘ อยู่อาจเป็นได้

ในเวลาเช้า ๕​ โมงเศษ     คุณหลวงเล็กนั่งเรือพายม้า  อ้ายเป๋อแจวท้าย  อ้านเก๋แจวหัวเรือ   ไปยืมเงินหม่อมเจ้าต่อม  ได้เงินตรามาสามชั่ง

ครั้นได้เงินแล้ว  เวลาบ่ายสี่โมงเศษ  แจงเรือกลับล่องลงมา

จอดที่แพกงสีปากคลองนครบาล  ห่างจากบ้านพระสาครสมบัติ  นอกราชการในพระราชวังบวรสฐานมงคล ประมาณ ๒ เส้น


       ในเวลานั้น  อำแดงพยอมนั่งอยู่ในเรือนแพ  หน้าบ้านพระสาครสมบัติ   เห็นคุณหลวงเล็ก  ขึ้นไปบนวัดอรุณราชวราราม


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 16:15



ขอบคุณนายวงเจ้าค่ะ

สงสัยเกาวริ่ง  ซายัน

ซายันไม่สงสัย   รับประทานอุทานเบา ๆ ว่า  "อยากทุบคุณหนุ่มเบาๆหนึ่งทีจัง"
บันทึกการเข้า
luanglek
นิลพัท
*******
ตอบ: 2894


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 16:16

แหม  อ่านเอาเรื่อง  นี่ออกแนวอ่านหาเรื่องนะเนี่ย
เอาเถอะ  เล่าต่อไป  สนุกดี  ใครว่างมาช่วยเดากันหน่อยว่า
หลวง ศ.ส.ส.ว. (เล็ก)  บุตรพระยา  ว.ษ.ภ.ส.  คือใคร
มีบรรดาศักดิ์เต็มว่าอะไร


ซายันไม่สงสัย   รับประทานอุทานเบา ๆ ว่า  "อยากทุบคุณหนุ่มเบาๆหนึ่งทีจัง"

รีบหาน้ำใบบัวบกมารับประทานแก้ช้ำใน ด่วนเลย
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 16:23

แหม  อ่านเอาเรื่อง  นี่ออกแนวอ่านหาเรื่องนะเนี่ย
เอาเถอะ  เล่าต่อไป  สนุกดี  ใครว่างมาช่วยเดากันหน่อยว่า
หลวง ศ.ส.ส.ว. (เล็ก)  บุตรพระยา  ว.ษ.ภ.ส.  คือใคร
มีบรรดาศักดิ์เต็มว่าอะไร


ซายันไม่สงสัย   รับประทานอุทานเบา ๆ ว่า  "อยากทุบคุณหนุ่มเบาๆหนึ่งทีจัง"

รีบหาน้ำใบบัวบกมารับประทานแก้ช้ำใน ด่วนเลย

ต้องคั้นน้ำกินหรือสด ก็ได้ .. ทราบว่าผลการวิจัยใหม่ล่าสุดพบว่า สารในบัวบก ลดการช้ำในได้แล้ว ยังช่วยชะลอความจำเสื่อมได้อีกด้วย  ขยิบตา
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 16:39

       อำแดงพยอม  ใช้อีเทียน  ทาสของพระสาครสมบัติ  ไปหาคุณหลวงเล็ก

อีเทียนกลับมาบอกอำแดงพยอมว่า

       เวลาค่ำวันนี้  คุณหลวงเล็ก  จะเอาเงิน ๓ ชั่งมาให้อำแดงพยอม   ให้อำแดงพยอมคอยอยู่ที่แพหน้าบ้านพระสาครสมบัติ

อำแดงพยอมรู้ความแล้วนิ่งอยู่


       ในเวลานั้น  นายกลิ่น  หลานพระสาครสมบัติ   ได้ยินอีพึ่งอีเทียนพูดกับอำแดงพยอมว่าต่ำวันนี้เขาจะมารับ

นายกลิ่นรู้ความว่าอำแดงพยอมจะหนีไปกับชู้   จึ่งถามอีพึ่งว่าใครจะมารับอำแดงพยอม           อีพึ่งบอกว่าคุณหลวงเล็กไง

ค่ำวันนี้จะมารับเอาอำแดงพยอม


       คุณหลวงเล็กให้ไอ้เป๋ออยู่เฝ้าเรือ   แล้วมอบเงินสามชั่งให้ไอ้เป๋อรักษาไว้       แล้วคุณหลวงเล็กกับไอ้เก๋ก็ไปบ้านนายเอมกอเปอราลริมวัดอรุณราชวราราม

แล้วพบกับนายสมบุญก็บอกว่าจะเอาเงินมาวางค่าตัวอำแดงพยอม


       ครั้นเวลาพลบค่ำ   คุณหลวงเล็กกับนายสมบุญก็มาที่เรือ       พบว่าอ้ายเป๋อเมาสุราเสียแล้ว   ให้อ้ายเป๋อขึ้นพักอยู่ที่แพกงสี

มอบเงินสามชั่งให้นายสมบุญ  ใส่ลงในกะโหลกปลาเข็ม         นายสมบุญก็แจวท้าย   อ้ายเก๋ก็แจวหัว  คุณหลวงก็นั่งกลางเรือถือกะโหลกปลาเข็มที่มีเงินนั้น




ศัพท์ที่น่าสนใจ  คือ  กะโหลกปลาเข็ม             คงเป็นภาชนะทำจากกะลาใบย่อม  ใส่สตางค์ที่เป็นเหรียญพอได้     นักช้อนปลาเข็มตามคูจะสังเกตได้ว่าปลาเข็มบางชนิดมีหัวเงิน

แย่งกันตักก็มีวิวาทกันบ้างตามประสาเด็ก

ท่านผู้ใดสามารถตีความได้ดูมีเหตุผล  ขอเชิญอภิปรายได้ตามสมควร   จขกทไม่ขัดข้องจนนิดหนึ่ง โปรดทราบ
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 16:49

ก่อนจะไปกะโหลกปลาเข็ม ที่เก็บเงิน ต้องคิดก่อนว่า เงินจำนวน ๓ ชั่งที่กล่าวมานั้น มาในรูปแบบใด

เงิน ๓ ชั่ง ตีตามครุตีนกา ออกมาได้ ๒๔๐ บาท

สมัยต้นรัชกาลที่ ๕ เงิน ๒๔๐ บาทมีค่ามากมาย ... พดด้วงราคา ๑ บาท จำนวน ๖๐ ลูกนั้นหนักเอาการ , เหรียญแบน กระนั้นหรือ ก็มากพอที่ใส่ทะนานได้ ไม่ใช่ในกระโหลกปลาเข็ม, หมายกระดาษ หรือ เบาทีเดียว พับได้ แต่ต้องไปขึ้นเงินที่พระคลังมหาสมบัติ แต่การนี้ลักชู้หนี วิธีนี้คงตัดทิ้งไป
บันทึกการเข้า
art47
องคต
*****
ตอบ: 739


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 18:53

แหม  อ่านเอาเรื่อง  นี่ออกแนวอ่านหาเรื่องนะเนี่ย
เอาเถอะ  เล่าต่อไป  สนุกดี  ใครว่างมาช่วยเดากันหน่อยว่า
หลวง ศ.ส.ส.ว. (เล็ก)  บุตรพระยา  ว.ษ.ภ.ส.  คือใคร
มีบรรดาศักดิ์เต็มว่าอะไร


ไม่อยากเดาอย่างคำใต้เท้าว่า
แต่อยากจะตอบเสียดีกว่ากระมั้ง

ความรู้มันแน่นสมองออกมาลับกับหินอ่างศิลาเสียบ้าง ยิงฟันยิ้ม
กลัวจะแปรสภาพเป็นขี้เลื่อยไปเสียหมด ตกใจ

พระยา ว.ษ.ภ.ศ. คือ พระยาวงศาภรณ์ภูษิต (เมฆ บุนนาค) กรมภูษามาลา
หลวง ศ.ส.ส.ว.   คือ หลวงศิลปสารสราวุธ (เล็ก บุนนาค) กรมทหารมหาดเล็ก
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 20:24

เงินจำนวน ๓ ชั่ง จะมาในรูปแบบใดก็ตาม หากแต่น้ำหนักและมาตราเงินพ้องกัน คือ เงินหนัก ๑ บาท ต่อค่าโลหะหนัก ๑ บาทเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะพดด้วงหรือเงินแบน (เหรียญกษาปณ์ สมัย ร ๕ ก็ตาม)

จากเงิน ๓ ชั่ง = ๒๔๐ บาท

เงิน ๑ บาท หนัก   ๑๕.๖ กรัม
เงิน ๒๔๐ บาทจะหนัก   ๑๕.๖ x ๒๔๐ = ๓,๗๔๔ กรัม  คิดได้ ๓.๗ กิโลกรัม  ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 23:06



กระโหลกปลาเข็ม   พรายกระซิบแจ้งมาว่าคือ กะลามะพร้าวที่แบ่งมากกว่าครึ่ง  ใส่น้ำและพืชไม้น้ำบางชนิด

ใช้เลี้ยงปลาเข็มเพราะเก็บน้ำได้มาก  น้ำจะเย็น  ปลาชอบ

สมัยตักปลาเข็ม  ใส่ปลาลงในขวดบริลล์ครีมที่หมดแล้ว  เพราะขวดป่องสวยดีคล้ายอ่างปลาจิ๋ว ๆ



นายสะอาดเก่งมาก  ถ้าซื้อสาแหรกบุนนาคมาเปิดบ่อยๆ  ก็จะจำบรรดาศักดิ์แปลกๆได้






บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 19 ส.ค. 11, 23:49


       
       เรือมาจอดที่แพหน้าบ้านพระสาครสมบัติอยู่ประมาณครู่หนึ่ง       อำแดงพยอมก็ลงมาที่แพลอย

คุณหลวงเล็กบอกอำแดงพยอมว่าเอาเงินสามชั่งมาให้

       นายกลิ่นกับอ้ายจัน  อ้ายหริ่ง  อ้ายอยู่  อ้ายแช่มทาส   เห็นเรือจอดอยู่ที่ตะพานลอย

นายกลิ่นลงไปปะเตะ(คือเตะนั่นเอง  ฟาดด้วยหลังเท้า/พจนานุกรมมติชน)  อำแดงพยอมตกน้ำไป       


       นายกลิ่นก็เอาไม้ตีศรีษะคุณหลวงเล็ก  หมวกหลุด        คุณหลวงตกน้ำไป         

นายกลิ่นโดดลงเรือ  เรือก็ล่ม    พอคุณหลวงโผล่ขึ้นมา  นายกลิ่นก็ตีซ้ำอีกทีสองที  คุณหลวงก็จมน้ำหายไป


       อ้ายจันถือไม้รวก   อ้ายหริ่งถือไม้รวกยาวสามศอกเศษ  อ้ายอยู่ถือพลอง   อ้ายแช่มถือไม้กระดานเรือ   พากันลงมาช่วยนายกลิ่น


       ฝ่ายนายสมบุญที่แจวท้ายนั้น  ถูกตีที่แขนขวามีแผลถลอก  โลหิตซับๆแผลหนึ่ง    นายสมบุญก็ว่ายน้ำหนีขึ้นบกไป

   

       อำแดงพยอมกับอ้ายเก๋  ก็พากันว่ายน้ำข้ามฟากมาขึ้นที่ท่าราชวรดิฐ  พากันไปอยู่ที่ตึกนายเคล้าถนนเจริญกรุง



       ครั้นวันพุธเดือนสี่ขึ้นเก้าค่ำเวลาเช้า   ศพคุณหลวงลอยขึ้นมาที่หน้าตึกแดง         

พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมืองและพระเทพผลูพากันไปพลิกศพชัณสูตรบาดแผล         เห็นที่ท้ายผมตกช้ำโตกลมกว้างนิ้วหนึ่งยาวนิ้วหนึ่งแห่งหนึ่ง   

ที่เกลียวคอข้างขวายาวสองนิ้วกึ่งข้างหนึ่ง         ที่ขาตะไกรใกล้หูขวาช้ำยาวสองนิ้วกึ่งแห่งหนึ่ง    ชายหูข้างขวาช้ำยาวประมาณนิ้วกึ่งแห่งหนึ่ง

ที่แก้มข้างซ้ายรอยช้ำทั้งแก้ม   ที่ชายโครงข้างขวาช้ำแห่งหนึ่ง   ที่ตาทั้งซ้ายขวาช้ำทั้งสองข้าง

ที่ริมฝีปากทั้งข้างบนและข้างล่าง  แหว่งขาดทั้งสองแห่ง

เห็นว่าเป็นแผลไม้ทั้งแปดแผล


จะเห็นได้ว่าการชัณสูตรบาดแผลละเอียดรอบคอบ


ที่คัดลอกมาลงนี้เป็นการแนะนำให้ผู้ที่ศึกษาสนใจประวัติศาสตร์ของไทย  เห็นคุณค่าของหนังสือของทางราชการ  ว่าเป็นหลักฐานได้ดี

ข่าวเรื่องนี้ลงเกือบสามหน้าเต็ม   

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 20 ส.ค. 11, 00:18



อำแดงพยอมให้การว่า     คุณหลวงมาทางเรือ  เห็นเธอนั่งอยู่บนแพครั้งหนึ่ง

เห็นตอนไปดูเจ้าเซ็น(แห่เจ้าเซ็น)อีกครั้งหนึ่ง      ให้อรพึ่งทาสพระสาครสมบัตินำจดหมายมาให้   

แล้วข้าพเจ้าได้ไปพูดจากับคุณหลวงที่ตึกถนนเจริญกรุงหลายครั้ง



นายกลิ่นให้การว่าเป็นหลานพระสาครสมบัติ  ขณะนั้นไม่อยู่ที่บ้าน  ไปได้ภรรยาอยู่ที่ริมวัดชนะสงคราม

เมื่อตีคุณหลวงตกน้ำไป  ได้เรือพายม้าไว้
 
อ้ายจันอ้ายหริ่งอ้ายอยู่อ้ายแช่ม  ให้การรับสารภาพว่าได้ไปช่วยนายกลิ่นตีคนหัวเรือท้ายเรือ   แต่จะถูกผิดอย่างไรหาทราบไม่
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 20 ส.ค. 11, 00:30



ลูกขุน ณ ศาลหลวงขุนหลวงพระยาไกรศรีเห็นพร้อมกันว่า

       นายกลิ่นกระทำบังอาจ     รู้ว่าจะเอาเงินสามชั่งมาไถ่ตัว   มิได้ฉุดลากอำแดงพยอม

เป็นแต่คนดูแลบ้านเรือน   ชอบแต่จะบอกให้อำเภอมาจับตัวไว้    แต่กลับไปคบคิดกับอ้ายจัน อ้ายหริ่ง อ้ายอยู่  อ้ายแช่ม

พากันถือไม้พลองตะบองสั้นคอยทำร้าย


       คุณหลวงอายุได้ ๒๕ ปี  ศักดินา ๑๐๐๐   เงิน ๓ ชั่งก็หายไปในที่วิวาท

นายกลิ่นล่วงพระราชอาญา   มีความผิดเป็นมหันตโทษ        ต้องบทพระไอยการให้ริบราชบาทว์  ข้าทาสชายหญิงเป็นของแผ่นดิน   

ลงพระราชอาญาสามยก ๙๐ ที  เอาตัวไปประหารชีวิตให้มันตกไปตามกัน
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 20 ส.ค. 11, 00:43


     

ลูกขุนศาลหลวงลงความเห็นว่า  ให้ปรับอ้ายสี่คนเป็นเงินตราคนละหกชั่งหกตำลึง  เป็นสินไหมพินัยกึ่ง  ให้แก่บุตรภรรยาของคุณหลวง

ปรับอ้ายสี่คนเป็นเงินสิบแปดตำลึงสามบาทให้กับนายสมบุญ ทหารมหาดเล็ก ศักดินา ๒๐๐ เป็นสินไหมพินัยกึ่ง

เฆี่ยนอ้ายสี่คน คนละสองยก  เอาตัวไปจำไว้ในคุก


เฆี่ยนพยอม สามสิบที  อย่าให้ใครเอาเยี่ยงอย่าง  คืนตัวให้เจ้าประเวณีไป

เฆี่ยนอีพึ่ง ๒๕ ทีฐานเป็นผู้ขักสื่อ

อีเทียนนั้นมิได้ชักสื่อ  ทำตามที่พยอมใช้  ปล่อยตัวไป


กรมพระนครบาลนำนายกลิ่นไปประหารชีวิตที่วัดพลับพลาไชย

อีพยอมอีพึ่งมอบให้นายเงินไป


บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.063 วินาที กับ 19 คำสั่ง