
นายคร้ามคงเคยมายืนดูวัดในยุคที่เป็นอย่างในรูปนี้ จึงบรรยายไว้ว่าเป็นที่วิเวกสงัดเยือกเย็น มีอุโบสถ กุฏิและศาลาสองสามหลัง มีพระอยู่สิบกว่ารูป
มีพระพุทธรูปศิลาขาวอยู่ 2 องค์ หน้าตักสองศอกองค์หนึ่ง ศอกคืบองค์หนึ่ง และพระสำริดหน้าตัก
กำมาหนึ่งคำว่า "กำมาหนึ่ง" ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร แต่ไม่ได้ค้นกูเกิ้ล ทิ้งการบ้านไว้ให้สมาชิกกระทู้นี้ทำ เพราะรู้ว่าตอบได้
ท่านผู้เรียบเรียงบอกไว้ในวงเล็บว่า ศอกตูม คือศอกที่กำนิ้วมือ แต่ในหนังสือไม่ยักมีคำว่าศอกตูม เลยต้องถูตะเกียงอีกทีว่ามันคืออะไรกันแน่
ในวัดนี้ นายคร้ามบอกว่า
"พระธาตุมีบ้าง พระธรรมมีเล็กน้อย พระเจดีย์แก้วองค์หนึ่ง โตสามกำเศษ สูงศอกเศษ"พระสงฆ์เป็นชาวลังกา ครองผ้าอย่างพระธรรมยุตติ์ ท่านออกมาต้อนรับพาชมวัด และให้ลูกศิษย์ไปปีนเก็บมะพร้าวมาเลี้ยง การเจรจากันนั้นพูดกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง
จางวางทองดีอาราธนาศีล ท่านก็สวดมนตร์ให้ศีล 5 พรมน้ำมนต์
ชื่อวัดที่นายคร้ามจดลงไว้คือ วัดอาบินนะวา ส่วนชื่อหมู่บ้านชื่อบ้านคาเม
นายคร้ามไม่เห็นพูดถึงพระเขี้ยวแก้ว ว่าอยู่ที่ไหนในวัด