ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ตอบคำถามเรื่องเรือนิดนึงนะครับ
เรือที่พระใช้บิณฑบาต มีสองขนาดครับ ขนาดเล็กพายได้คนเดียว คุณช่วย พูลเพิ่ม แกบอกว่าไม่ใช่
เรือบดแต่เป็นเรือโอ่ (ที่เรียกว่าเรือโอ่เพราะว่า คนนั่งต้องทำท่าให้สมาร์ท โอ่ก็คืออวด อวดว่าเป็นคนเก่ง
พายเรืออย่างนี้ได้) เรือโอ่เรือพายขนาดเล็กรูปร่างเพรียว ขนาดที่ว่าเวลานั่งขัดสะหมาดหัวเข่าทั้งสอง
เลยกราบเรือไปตั้งเยอะ เรือชนิดนี้ต้องใช้ความชำนาญมาก เพราะลำเล็ก ล่มง่าย คนที่พายเรือไม่เก่ง
แค่ก้าวลงเรือก็ล่มแล้ว เวลาพายเรือบิณฑบาต พระจะนั่งอยู่กลางลำ ข้างหน้าพระจะเจาะกระดานเรือให้
เป็นหลุมพอตั้งบาตรได้ เคยมีเหมือนกันที่พระใหม่ๆ ออกบินฑบาตแล้วเรือล่มถ้วยชามจมน้ำหายหมด
เนื่องจากไม่ชำนาญ (ผมเองก็เป็นนักพายเรือ แต่ยังไม่เคยพายเรืออย่างว่านี่เลย)
เรืออีกชนิดหนึ่ง ที่ผมพายกับหลวงตา เรียกว่าเรืออีแปะ มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย อย่างนี้ต้องพายหัวพายท้าย
พระนั่งหน้า ลูกศิษย์นั่งหลัง เวลาพายจะไม่พายข้างเดียวกันเพราะไม้พายจะไปชนกันเข้า ไม้พายนี่ต้องรักษาดีดี
เนื่องจากเวลาพาย ลำไม้พายจะสีกับกราบเรือ ก็จะคอดลงเรื่อยๆ เวลาจ้ำแรงๆ จะหักได้ ต้องหาสายยางมาสวม
ตรงตำแหน่งที่สีบ่อยๆ แล้วตอกตะปูยึดไว้
ส่วนเรือบดเป็นเรือสัญชาติไทยครับ ความหมายของเรือบดในพจนานุกรมคือ เรือต่อชนิดหนึ่งรูปเพรียว
หัวท้ายเรียว ถ้าใช้กรรเชียง มักท้ายตัดอย่างเรือบดทหารเรือ ผมเข้าใจว่าเรือบด คงพ้องเสียงกับ
คำว่า Boat ในภาษาอังกฤษน่ะครับ เหมือนกับคำว่าไฟ
ชีวิตผมเกี่ยวข้องกับเรือมากพอสมควร แต่ก็เป็นเรือบางชนิดเท่านั้น ตอนนี้กำลังนึกๆ อยู่ครับว่าจะไปตั้ง
เป็นกระทู้ใหม่ดีหรือเปล่า ยังไงขอไปรวบรวมข้อมูลก่อนครับ
เอารูปเรืออีแปะมาให้ดูกัน เรืออีแปะคือเรือลำซ้ายมือ จะสังเกตเห็นว่า ตรงกราบซ้ายเค้าเอาสายยางผ่าตามยาวมาหุ้มกราบเรือเพื่อกันไม้พายไปสี ส่วนเรือของป้าที่ใส่งอบเรียกว่าเรือสำปั้นครับ

http://vcharkarn.com/reurnthai/uploaded_pics/RW444x006.jpg'>