เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 3560 สักรวาจ้ำจี้มะเขือเปราะ มากะเทาะหน้าแว่นน่าแค้นจิตต์
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


 เมื่อ 21 ก.ค. 11, 23:17




       สักรวาจ้ำจี้มะเขือเปราะ    มากะเทาะหน้าแว่นน่าแค้นจิตต์     ว่าน้ำมาก

อยากจะเที่ยวไม่สมคิด       ต้องตำราสุภาษิตไม่ผิดเลย        ว่าเรือใครไปกระทั่งซึ่งต้นกุ่ม

จะได้ผัวหนุ่มหนุ่มนะพี่เอ๋ย       เขาฤาแน่แซ่เสียงอย่าเถียงเลย       

ว่าเรือพี่นี้แหละเกยต้นกุ่มเอย   ฯ         
 


อ่านมาจากประชุมพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

ราชบัณฑิตยสภารวบรวม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้พิมพ์พระราชทานในงานพระศพ

พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฎ  ปิยมหาราชปดิวรัดา

ครบปัญญาสมวาร

ณวันที่ ๑๑  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๔๗๒

พิมพ์ที่โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒนากร


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 21 ก.ค. 11, 23:21


เรียนขอความคิดเห็นของท่านทั้งปวง


       สักรวาบทนี้กล่าวกันว่า  ทรงพระราชนิพนธ์พระราชทานให้พระเจ้่าหลานเธอ  

พระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี  ทรงท่องเล่นเมื่อยังทรงพระเยาว์


       แต่จะทรงแต่งว่าใครหาทราบไม่
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 22 ก.ค. 11, 10:53

จุลลดา  ภักดีภูมินทร์  เล่าไว้ใน "เลาะวัง" เรื่อง "พระราชอารมณ์ขัน ในพระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ ๓"

สักรวาจ้ำจี้มะเขือเปราะ                      มากะเทาะน่าแว่นน่าแค้นจิต
ว่าน้ำมากอยากจะเที่ยวไม่สมคิด             ต้องตำราสุภาษิตไม่ผิดเลย
ว่าเรือใครไปกระทั่งซึ่งต้นกุ่ม                 จะได้ผัวหนุ่มหนุ่มนะพี่เอ๋ย
เขาฦๅแน่แซ่เสียงอย่าเถียงเลย              ว่าเรือพี่นี้แหละเกยต้นกุ่มเอย ฯ

สักวาบทนี้ถ้าคนไม่เคยทราบ  จะเดาไม่ออกเลยว่าเป็นพระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  ซึ่งเล่ากันมาว่าทรงพระราชนิพนธ์พระราชทาน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี  ให้ทรงท่องเล่นเมื่อยังทรงพระเยาว์  แสดงว่าองค์พระเจ้าหลานเธอนั้น  ก็คงจะทรงเฉลียวฉลาดและแม่นยำ  จึงท่องคำกลอนยาว ๆ ซึ่งเนื้อความไม่สนุกเลยสำหรับเด็กอายุไม่ถึงสิบขวบได้

จ้ำจี้มะเขือเปราะ กะเทาะหน้าแว่น พายเรืออกแอ่น มาถึงต้นกุ่ม สาว ๆ หนุ่ม ๆ อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหนผัด เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยม ๆ มอง ๆ นกขุนทองร้องวู้

ไม่ทราบว่าเด็กรุ่นเดียวกันกับผู้เล่าบ้านอื่น ๆ จะร้องอย่างเดียวกันหรือเปล่า

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี  เป็นพระราชนัดดาในแผ่นดินที่สาม  แผ่นดินที่สามไม่มีพระราชโอรสทรงศักดิ์ชั้นเจ้าฟ้า  เนื่องจากไม่ทรงรับท่านพระองค์ใดเป็นภรรยาเจ้า  จึงทรงมีแต่พระสนม

พระบิดาของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดีเป็นพระเจ้าลูกยาเธอชั้นพระองค์เจ้า คือ พระองค์เจ้าลักขณานุคุณ  ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาบาง  พระองค์เจ้าลักขณานุคุณนั้นเป็นพระเจ้าลูกยาเธอองค์ที่ ๓  ที่โปรดปรานมาก  สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษาเพียง ๒๔   จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสฯ แต่ครั้งยังทรงดำรงพระยศหม่อมเจ้า  เข้ามาอยู่ในพระราชอุปการะ

ด้วยมีพระเมตตาว่าทรงกำพร้าทั้งพระบิดาและพระมารดา  จึงโปรดเกล้าฯ สถาปนาหม่อมเจ้าโสมนัส  ขึ้นเป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี  และเมื่อโสกันต์ก็โปรดฯ ให้มีพระราชพิธีโสกันต์และฉลองเป็นการใหญ่

ต่อมาในแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  แผ่นดินที่ ๔  พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดีทรงมีบุญ  ได้ทรงดำรงตำแหน่ง สมเด็จพระนางนาฏราชเทวี  ตามที่ปรากฏในพระบรมราชโองการ  ก็คือเป็นสมเด็จพระราชินีในแผ่นดินนั้นอย่างเต็มที่นั่นเอง

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น พิจารณาตามที่เล่ากันมา  และตามที่ทรงพระราชนิพนธ์สักวาบ้าง โคลง กลอน เล็ก ๆ อย ๆ บ้าง  ดูจะทรงมีพระอารมณ์ขันลึกๆ อยู่มากทีเดียว  จะทรงว่ากล่าวหรือประชดประชันผู้ใด  ก็ทรงเหน็บแนมแกมประชดอย่างที่เรียกกันว่า แสบ ๆ คัน ๆ

ดังเช่นสักวาจำจี้มะเขือเปราะนี้  ว่ากันว่าทรงพระราชนิพนธ์ว่ากระทบคุณพุ่ม  บุตรี พระยาราชมนตรี (ภู่) ข้าหลวงเดิมในพระองค์  ซึ่งเป็นกวีหญิงที่มีสมญานามว่า “บุษบาท่าเรือจ้าง”  เพราะนิวาสสถานของพระยาราชมนตรีอยู่แถว ๆ ท่าเรือ (จ้าง)  

เช่นเดียวกับสร้อยเพลงบทหนึ่ง  ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์กระทบกระเทียบคุณพุ่มว่า

เจ้าช่อมะกอก  เจ้าดอกมะไฟ  เจ้าเห็นเขางาม  เจ้าตามเขาไป  เขาทำเจ้ายับ  เจ้ากลับมาไย  เขาสิ้นอาลัย เจ้าแล้วหรือเอย ฯ

ก็เห็นจะต้องเล่าซ้ำหน่อยว่า  คุณพุ่มนั้นเคยถวายตัวทำราชการเป็นนางพนักงาน  ซึ่งคุณพุ่มไม่สู้พอใจนัก  ต่อมาไม่นานจึงกราบถวายบังคมทูลลาออกไปอยู่บ้าน  ถ้าพูดกันตามสำนวนสมัยใหม่  คุณพุ่มก็คงเป็นผู้หญิง “เปรี้ยว” น่าดูทีเดียว  เพราะบิดาก็เป็นคนโปรด  ฐานะสูงส่ง  สติปัญญาคุณพุ่มก็เฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง  ฝีปากกล้า  รูปก็คงจะงามพอตัว  เมื่อกลับไปอยู่บ้านซึ่งมีแพอยู่ริมแม่น้ำ  จึงมีชายหนุ่มสูงศักดิ์มาติดพัน  เล่นสักวาที่แพจนเป็นที่เลื่องลือโด่งดังอยู่ในสมัยนั้น  และคงจะเลื่องลือเข้าพระกรรณพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ  จึงได้ทรงพระราชนิพนธ์สักวาจ้ำจี้มะเขือเปราะกระทบกระเทียบ

คุณพุ่มเฟื่องอยู่พักใหญ่  เป็นสาวเปรี้ยวที่ไม่ยอมตกล่องปล่องชิ้นกับใครง่าย ๆ  หนุ่มสูงศักดิ์ในสมัยนั้นที่ว่ากันว่าแข่งขันเข้าชิงรักคุณพุ่ม  หลายคนเป็นหนุ่มเปรี้ยวของยุคเช่นกัน  เช่น กรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์ (พระองค์เจ้าทินกร)  พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๒  สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์  แต่ครั้งยังเป็นพระนายไวย  และคนสำคัญคือ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว  แต่ครั้งยังเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑามณี เป็นต้น

ในที่สุด  พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ก็ทรงชนะใจคุณพุ่ม  ถึงกับคุณพุ่มตามเสด็จเข้าไปเป็นบาทบริจาอยู่ในวังของพระองค์ท่าน  ซึ่งเวลานั้นประทับอยู่พระราชวังเดิม ธนบุรี

แต่คุณพุ่มก็คือคุณพุ่ม  ผู้ซึ่งไม่ยอมลงให้ใครง่าย ๆ  เล่ากันว่าคุณพุ่มทนเป็นหม่อมร่วมกับหม่อมอื่น ๆ ไม่ได้  ทั้งนิสัยคุณพุ่มก็ชอบอิสระ  ไม่นานนักคุณพุ่มจึงออกจากวังสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี  กลับมาอยู่บ้านบิดาตามเดิม  แล้วก็กลับเข้าถวายตัวทำราชการเป็นนางพนักงานอีก  เล่ากันมาว่าเมื่อท้าวนางกราบทูลนำถวายตัวตามราชประเพณี  พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ไม่มีพระราชดำรัสประการใด  เป็นแต่ทรงพระราชนิพนธ์สร้อยเพลงบทนี้บริภาษแทน  แล้วก็เสด็จขึ้น  แต่ก็โปรดเกล้าฯ ให้คุณพุ่มเป็นพนักงานเชิญพระแสงตามเดิม

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/08/K5757203/K5757203.html#26
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.056 วินาที กับ 19 คำสั่ง