เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 17230 พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 21 ก.ค. 11, 23:46


ตำแหน่งหน้าที่ราชการของพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร


เมื่อเริ่มรับราชการใน  ๕/๙/๒๔๕๖          ตำแหน่งหน้าที่  มหาดเล็กสำรองกองตั้งเครื่อง  กรมมหาดเล็กหลวง

ยศเป็น  มหาดเล็กสำรอง

เงินเดือนรับจริง   ๒๐ บาท


๑/๑๐/๕๗         มหาดเล็กวิเศษ          เงินเดือน  ๔๐ บาท

๑๐/๘/๒๔๕๘      รองหุ้มแพร              เงินเดือน ๔๐ บาท           บรรดาศักดิ์  นายรองบำเรอบรมบาท

๑/๑/๒๔๖๑        หุ้มแพร                 เงินเดือน ๑๑๐ บาท          บรรดาศักดิ์   นายเสนองานประภาศ


บรรดาศักดิ์ที่ได้รับ คือ

นายจ่าเรศ

หลวงสิทธินายเวร

เจ้าหมื่นสรร-เพชรภักดี

พระยาประชุมมงคลการ

พระยาอนุรักษ์ราชมณเพียร

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 26 ก.ค. 11, 10:04



     ท่านเจ้าคุณ(ในเวลานั้นมีบรรดาศักดิ์เป็น พระยาประชุมมงคลการ)  และคุณพัวได้รับพระราชทานน้ำสังข์ 

เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีสมรสพระราชทานเมื่อ วันที่ ๑๘  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๔๗๐
   

ได้ให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝดเมื่อเดือนกันยายน ๒๔๗๑  และเลี้ยงดูอย่างมีระเบียบคือให้นมเป็นเวลา   ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็ปล่อยให้ร้องไห้แข่งกัน

ชื่อที่ท่านเรียกบุตรทั้งสองก่อนได้รับพระราชทานชื่อคือ  "ตุ่ยหลุ่ย"  และ  ต้อยล่อย"   

       

       พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ พระราชทานชื่อว่า  แก้วขวัญ  ขวัญแก้ว

       ต่อมาได้มีบุตรีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๗๕    สมเด็จพระพันวสาอัยยิกาเจ้าพระราชทานชื่อว่า  เฉลิมพร

ได้ส่งไปเรียนที่สวิสเซอร์แลนด์และอังกฤษด้วยทุนส่วนตัว


       ท่านผู้หญิงเล่าถึงท่านเจ้าคุณว่า  ได้ทนุถนอมน้ำใจ  และเมตตาปราณีต่อท่านตลอดมาเป็นเวลา ๔๘ ปีที่ใช้ชีวิตร่วมกัน

       ท่านทั้งสองได้ซื้อบ้านที่ถนนเพชรบุรีด้วยทรัพย์สินที่ออมไว้   ได้ดำเนินชีวิตอย่างประหยัดมัสยัสถ์  จนสามารถซื้อที่ดินเพิ่มเติม

บุตรชายทั้งสอง  ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระพันวสาอัยยิกาเจ้า  ทรงชุบเลี้ยง พระราชทานค่าเล่าเรียน  เสื้อผ้าและอุปกรณ์การศึกษา

มาตั้งแต่อายุสองขวบครึ่ง   เมื่ออายุ ๑๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตามเสด็จ ฯ

 ไปศึกษาต่อที่สวิสเซอร์แลนด์

 
       ท่านผู้หญิงเล่าให้บุตรของท่านฟังว่า   ไม่มีใครจะรู้ใจท่านดีเท่าท่านเจ้าคุณ   จะไปไหนมาซื้อของฝากล้วนถูกใจ    วานให้ซื้ออะไรให้

ก็ไม่ผิดหวัง          เวลาท่านผู้หญิงตามเสด็จ  ท่านไม่ได้ไปด้วยก็อุตส่าห์เขียนจดหมายไปคุยด้วยทุกวัน  นับว่าท่านเป็นผู้มีบุญที่สุดที่ท่านเจ้าคุณ

ไม่เคยขัดใจเลย     ท่านอยากอยู่ตึก  ท่านเจ้าคุณชอบบ้านไม้หลังเก่าเพราะเป็นที่ระลึกในการสร้างตนเองมาด้วยกัน   

ในที่สุดท่านผู้หญิงก็ได้อยู่ตึกสมปรารถนาเมื่ออายุ ๖๙ ปีแล้ว

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 26 ก.ค. 11, 10:09

"ตุ่ยหลุ่ย"  และ  ต้อยล่อย"   

 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 26 ก.ค. 11, 14:38

       ชีวิตราชการของเจ้าคุณอนุรักษ์ยาวนานถึง  ๖๒ ปี   เริ่มตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๖

จนวันที่ ๔ พฤศจิกายน  ๒๕๑๘


       ท่านตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกรณีสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล  ตั้งแต่

วันที่ ๑๕ ​พฤศจิกายน ๒๔๙๐ -  วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๑ เป็นเวลา ๗ เดือนกับสองวัน     ท่านได้เขียนบันทึกส่วนตัวไว้  

โดยมิได้เปิดเผยให้ภริยาและบุตรทราบตลอดอายุไข  ด้วยเกรงว่าสมาชิกในครอบครัวจะไม่มีความเข้มแข็งอดทน

เมื่อพ้นทุกข์แล้ว  ท่านมีมานะรับราชการสนองพระเดชพระคุณต่อมาอีกเป็นเวลานาน

       ข้อความที่หนังสืออนุสรณ์ลงไว้  เป็นเรื่องที่ตัดทอนแล้ว   แสดงความยึดมั่นในสัจจธรรมและพระบารมีของ

พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์      

      
      
ข้อความต่อไปนี้  เป็นการเลือกคัดความจาก  บันทึกส่วนตัวของพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร


๑๕​​ พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๔๗๐  (หน้า ๔๕  ในหนังสืออนุสรณ์)

บ่าย ๑๗.๐๐  น.
    ผู้บังคับการตำรวจสันติบาลและนายทหารหลายคนเข้ามาในบ้าน
แจ้งว่า  หัวหน้าคณะรัฐประหารให้มาเชิญไปพบ

ข้าพเจ้าได้ยอมตัวให้อยู่ในความอารักขา  ได้ชี้แจงให้เขาฟังว่า  น่าจะมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น เพราะข้าพเจ้าได้รับราชการมา ๓๔ ปีแล้ว
บรรพชนได้เป็นข้าผู้จงรักภักดี  สืบเนื่องไม่ขาดสายมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๑


คืนนั้นข้าพเจ้าครุ่นคิดว่าเขาจับมาเพื่ออะไรกัน
ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ในเวลาเกิดเหตุสวรรคต
ข้าพเจ้าไม่ได้ติดต่อกับนักการเมืองคนใดเลย

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 26 ก.ค. 11, 14:54



วันอังคารที่ ๑๘ พฤศจิกายน (หน้า ๔๖ ในหนังสืออนุสรณ์)

ถูกนำตัวไปที่พระที่นั่งอภิเสกดุสิต
พบกรรมการหลายคน     กรรมการเปิดประมวลกฎหมายอาญาให้ดู  ซึ่งแสดงว่า  การปิดบังอำพรางก็มีโทษเช่นกัน

ท่านผุ้ใหญ่คนหนึ่งพูดกับข้าพเจ้าว่า  ข้าพเจ้าก็ย่อมจะรู้ความตื้นลึกหนาบางเพียงไร   เราไม่ต้องการจะจับไว้ให้นาน
เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว
จงเลือกเอาว่าจะเป็นพยานหรือจำเลย

พยานหรือจำเลย      คำนี้ก้องอยู่ในหูข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ที่จะตกอยู่ในฐานะเป็นพยานได้

ข้าพเจ้าไม่ได้ปิดบังอำพรางหรือกระทำการทุจริตอันใดที่จะตกเป็นจำเลยได้เช่นกัน

ข้าพเจ้าเพิ่งเข้ามารับราชการเป็นหัวหน้ากองมหาดเล็ก  เมื่อวันที่ ๑๕​ เมษายน ๒๔๘๙   
เป็นเวลาเพียงเดือนเศษเท่านั้น   ยังไม่ทันจะคุ้นเคยกับพระราชอัธยาศัยของพระองค์พอเพียง  ที่จะทรงเล่าความในพระราชหฤทัยให้ฟังได้

ข้าพเจ้าไม่มีความรู้พอที่จะสนองจุดประสงค์ของกรรมการได้

ข้าพเจ้าพูดได้แต่ความจริงเท่าที่รู้เท่าที่เห็น
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 26 ก.ค. 11, 15:09



(หน้า ๔๗)


ข้าพเจ้าเริ่มให้การตั้งแต่วันอังคารที่ ๑๘ พฤศจิกายน  เสร็จสิ้นในในวันเสาร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน

ข้าพเจ้าได้สั่งไว้ว่า  เรื่องอาหารการกินต่อไปขออย่าให้ทางบ้านต้องส่งเสียเป็นการลำบาก

อีกข้อหนึ่งขออย่าวิตกกังวลในเรื่องที่ข้าพเจ้าจะฆ่าตัวตาย  เพราะข้าพเจ้าเชื่อในความซื่อสัตย์สุจริต  และความเป็นผู้มีธรรมของ
ข้าพเจ้าอีกด้วย

ข้าพเจ้าเคยได้บวชเรียนแล้ว



ชีวิตที่กลาโหมได้รับความเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ เป็นอย่างดี  อาหารมีให้ ๓ เวลา
บางคราวก็มีบะหมี่  ก๋วยเตี๋ยวและ ดำเย็น


การเหยียดหยามจากเจ้าหน้าที่ผู้น้อยก็ไม่มี  เพราะโดยมากนายทหารผู้เป็นผู้บังคับบัญชาก็แสดงอัธยาศัยละมุนละม่อม
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 27 ก.ค. 11, 10:15


หน้า ๔๘

       ผ่านประตูลหุโทษ เมื่อ ๑๓.๐๐ น.       


เวลา ๑๖.๐๐ น   ถูกย้ายไปคุมขัง ๗   เขาจัดให้อยู่เว้นสองห้องต่อหนึ่งคน


ข้าพเจ้าอยู่ห้อง ๕๙     ซึ่งมีขนาดความยาวประมาณ ๓ ๓/๔ เมตร   กว้าง ๒ เมตร  สูง ๖ เมตรเศษ
มีช่องเล็กหนึ่งตอนบนพอให้อากาศหายใจ  ไม่ใช่ให้อากาศผ่าน   ผนังด้านขวาของทางเข้ามีกรอบเตียง
ปูไม้ทับบน  กว้างประมาณ ๘๐ เซนติเมตร   ยาวพอเหยียดเท้าได้ถนัด


ด้านหัวนอนมีหิ้งไม้อยู่หิ้งหนึ่ง   มีรูปพระพุทธเจ้าปางเสวยอาหารบิณฑบาต  พระหัตถ์ขวาอยู่ในบาตร
พระหัตถ์ซ้ายห้อยลงเหนือพระเพลา  ภายใต้หิ้งมีอักษรเขียนว่า  "พรสวรรค์ย่อมเป็นบำเหน็จของผู้ต่อสู้"
ข้าพเจ้ากระพุ่มมือขึ้นกระทำสักการะ


ข้างประตูมีหิ้งกระจกมีรูปถ่ายขนาด ๘ นิ้วติดอยู่   เป็นพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
กำลังเสด็จผ่านทางปราสาทพระเทพบิดรด้านวัดพระศรี ฯ  ทรงฉลองพระองค์เต็มยศ  มีมหาดเล็กเชิญพระแสง
และรูปข้าพเจ้ามัว ๆ อยู่กับสมุหราชองค์รักษ์ตามเสด็จอยู่เบื้องหลัง  ภายใต้พระบรมรูปมีอักษรเขียนไว้ว่า   
"โชคย่อมอำนวยแก่คนกล้า"          ข้าพเจ้าได้ยกมือขึ้นถวายบังคมด้วยความปิติยินดี
แม้ในยามตกทุกข์ได้ยากเช่นนี้   ก็ยังได้เห็นพระโฉมของพระองค์ประดิษฐานอยู่เฉพาะหน้า  เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ของผู้ที่มาอยู่ก่อนและตัวข้าพเจ้าในบัดนี้
 
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 27 ก.ค. 11, 10:47

หน้า ๔๙


       "ในตอนเย็นวันนั้น  อาหารตามแบบมีข้าวแดง  ฟักต้ม  และน้ำพริก
ข้าพเจ้าไม่ปริปากอย่างใด  ประกอบกับความหิวโหยที่ตอนกลางวันไม้ได้รับประทานอะไรเลย
ข้าพเจ้าก็ก้มหน้ารับประทานโดยรำลึกถึงคติธรรม  ยาว ชีวิตํ  นั้นไว้


ในตอนค่ำ  ข้าพเจ้าได้รับแจกเสื่อผืนหนึ่ง  มุ้งเตี้ย ๆ หลังหนึ่ง  ผ้าห่มเล็ก ๆ สองผืน
ข้าพเจ้าบอกกับผู้มีใจกรุณานำของที่จำเป็นนี้มาให้ว่าข้าพเจ้าขอสายมุ้งด้วย      เขาหายไปครู่หนึ่ง
แล้วกลับมาพร้อมด้วยเชือกกาบกล้วยที่ไปดึงมาใหม่ ๆ จากต้นกล้วยในบริเวณ   พลางกล่าวว่า
เขาไม่ให้เชือกกลัวจะผูกคอตาย


ข้าพเจ้าขอบคุณในความเมตตาอารีของเขาเป็นอย่างยิ่ง   จะเป็นเชือกอะไรก็ได้   ขอแต่ให้สำเร็จประโยชน์ได้  
พอที่เลือดเนื้อของข้าพเจ้าจะไม่ต้องตกเป็นภักษาหารแก่กลุ่มยุงซึ่งกำลังหึ่งร้องอยู่รอบด้าน


ขณะนี้เป็นเดือนพฤศจิกายน   ลมพัดจากเหนือ  อากาศค่อนข้างหนาว


เมื่อได้สวดมนต์กราบไหว้พระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  กับขอพระบารมีพระมหากษัตราธิราชเจ้าทุก ๆ รัชกาลให้คุ้มครอง
ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า  แล้วก็เข้านอนเพื่อชดใช้ความเหน็ดเหนื่อยอลเวงของวันที่ผ่านมา


ข้าพเจ้านึกถึงคติสองข้อใต้หิ้งพระและหิ้งพระบรมรูป

"พรสวรรค์ย่อมเป็นบำเหน็จของผู้ต่อสู้"

"โชคย่อมอำนวยแก่คนกล้า"

ข้าพเจ้าได้ต่อสู้แล้ว  ต่อสู้ด้วยความจริง  กล้าพูดด้วยความจริง  เป็นสัจจวาจา   และธรรมจะช่วยคุ้มครองข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะต้องได้รับความอิสรภาพเป็นบำเหน็จ
ข้าพเจ้าจะต้องมีโชคเป็นบุคคลที่มั่นคงทั้งถ้อยคำและน้ำใจ"

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 28 ก.ค. 11, 15:49


หน้า  ๕๐


       "ข้าพเจ้าได้ย้ายไปอยุ่ห้อง ๔๖   ในลักษณะความกว้างยาว  และเตียงประจำห้องในลักษณะเดียว
กับห้อง ๕๙        ข้าพเจ้ามิได้เชิญพระพุทธรูปและพระบรมรูปไปด้วย  เพราะข้าพเจ้าไม่มีสิทธิทำเช่นนั้น
เพียงแต่อธิษฐานขอให้สถิตเสถียร อยู่ ณ ที่นั้น   เพื่อคุ้มครอง  และเตือนใจ  แก่ผู้อับโชคในภายหน้่า


       ข้าพเจ้ามีดวงไปรษณียากรฉบับหนึ่งซึ่งออกใช้ใหม่     ติดตัวมาตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน โดยไม่ได้ตั้งใจ
ในวันนั้นเป็นวันที่ข้าพเจ้าส่งจดหมายจากเมล์อากาศไปให้บุตรชายทั้งสอง       พนักงานไปรษณีย์ได้มอบดวงไปรษณียากรใให้แทน
เศษเงินทอน            ข้าพเจ้าตื่นเต้นที่ได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
บนดวงตราไปรษณียากรเป็นครั้งแรก       จึงได้สอดใส่ไว้ในซองหนัง      ก็พอดีพระบรมฉายาลักษณ์นั้นก็ได้เป็นเครื่องรางคุ้มกันข้าพเจ้าตลอดมา

ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา  และวันขึ้นปีใหม่   ข้าพเจ้าก็ได้เชิญออกจากซองหนังกราบถวายพระพรชัยในยามยากของข้าพเจ้า"

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 02 ส.ค. 11, 14:17


หน้า ๕๒

วันจันทร์ที่ ๒๕ ธันวาคม

       "ได้รับคำสั่งพิเศษ  พิเศษจริงๆ  เพราะทำให้สภาพให้ข้าพเจ้ากลายเป็นสัตว์ไป  ไม่ให้ใช้มุ้ง
เป็นคำสั่งที่ผู้ตวบคุมต้องปฎิบัต      มุ้งที่ทางการจ่ายให้ก็เป็นมุ้งผ้าดิบอย่างบางสูงสัก ๖๐ ซ.ม.
โดยรอบกว้างยาวพอครอบตัวไว้ได้เท่านั้น

กระดาษดินสอก็ริบไปหมดมีไม่ได้"




หน้า ๕๔
วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน  ๒๔๙๐

       "พัสดีมาตามให้ไปพันธนาการ

ตรวนแปดหุนสนิมเต็มถูกลากมาพันธนาการข้าพเจ้า

ตรวนทั้งสองข้างมีขนาดโตกว่าหัวแม่มือ  สายโซ่เล็กกว่าเล็กน้อย
น้ำหนักของโซ่ ๑๓ ข้อทำให้ขยับเขยื้อนตัวลำบากเป็นอย่างยิ่ง
ข้าพเจ้าได้เอาผ้าเช็ดตัวผูกไว้ที่ข้อที่เจ็ดสำหรับหิ้วพอคลายความถ่วงลงไปได้บ้าง

ข้าพเจ้าตั้งปณิธานไว้ด้วยว่า  จะไม่ยอมปลดเปลื้องกางเกงเวสปอยต์ตัวที่สวมอยู่จนกว่าตรวนคู่นี้จะถูกปลดออกจากตัวข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าต้องมาถูกจองจำครั้งนี้เพราะหน้าที่ราชการ   
ข้าพเจ้ายอมให้ใส่ตรวนกางเกงไปเถิด

ตัวข้าพเจ้าไม่มีความผิด
ข้าพเจ้าไม่ยอมให้เหล็กมาเสียดสีเนื้อของข้าพเจ้า"
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 02 ส.ค. 11, 14:30



หน้า ๕๕


       "เขาบอกให้ข้าพเจ้าออกไปเดินเล่นออกกำลังตามเคย    ข้าพเจ้าบอกว่าไปไม่ไหวสุดที่จะหิ้วตรวนไปได้
มันหนักเหลือหนัก

คนที่ใจดีบอกให้ข้าพเจ้าไปอาบน้ำเช่นแต่ก่อน
ข้าพเจ้าตอบเขาว่าขอบใจละพ่อคุณ   แต่ไปไม่ไหวจริง ๆ 
คอนตรวนไปกว่าจะถึงที่อาบน้ำ   อาบแล้วคอนกลับมาอีก

ความชุ่มชื้นที่จะได้รับมันไม่คุ้มกับความต้องทรมาน

ดังนั้นในตอนบ่าย  ข้าพเจ้าก็ลูบเนื้อลูบตัวอยู่ในห้องแทนการอาบน้ำ  เพราะไม่ปรารถนาที่จะขยับเขยื้อนไปไหน
นอกจากเขาจะเบิกตัวข้าพเจ้าไปสอบสวน


ข้าพเจ้าต้องกัดฟันอย่างลูกผู้ชาย         ชีวิตคือการต่อสู้

ข้าพเจ้าจะต้องต่อสู้กับความยากลำบากทั้งนี้ไปจนกว่าจะสิ้นกรรม"

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 16:09

หน้า ๕๕

       "ข้าพเจ้าต้องนอนไม่มีทุ้งอยู่จนวันที่ ๒๔ ธันวาคม
เมื่ออดีตรัฐมนตรีผู้ต้องหาถูกนำมาขังไว้ที่ขัง ๗     จึงได้รับอนุญาตให้ทางบ้านส่งมุ้งมาให้ได้
สิ้นความลำบากไปได้เรื่องหนึ่ง"



หน้า ๕๖

        "วันที่ ๕ และวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๙๐   เขาเบิกตัวข้าพเจ้าไปยังกองสันติบาลเพื่อสอบสวน
ในการไปสอบสวนครั้งหลังนี้  ตรวนได้กัดขาขวาของข้าพเจ้าเป็นแผลลึก    ข้าพเจ้าจึงได้ขอร้องให้แพทย์กรุณาใส่ยาให้ข้าพเจ้า"


วันที่ ๒๘ มกราคม  ๒๔๙๐

       "จากพระยาช้างสารที่ตกปลอกมาถึง ๔๐ วัน   ฝนแห่งความเมตตาปรานี  ก็ได้หยากลงมาต้องข้าพเจ้า
อย่างไม่ได้ฝัน             เขาถอดตรวน ๘ หุนออก  เอาตรวนขนาดเล็กใส่ไว้แทนเฉพาะเท้าซ้ายที่ไม่ได้เป็นแผล"


บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 16:45


หน้า ๕๗


วันที่ ๒๗ เมษายน

       ตรวนข้างเดียวห็ถอดออกไป


วันที่ ๑๗ มิถุนายน

       ได้รับการปล่อยตัว

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 03 ส.ค. 11, 16:56


ท่านเจ้าคุณได้เข้ารับราชการดังเดิม เพราะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่  มีความภักดีซื่อสัตย์สุจริตมาเป็นเวลาช้านาน

ไม่ปรากฎข้อบกพร่องแต่ประการใด


ชีวิตท่านรุ่งเรืองสว่างเหมือนเดิม 

มีความก้าวหน้า  ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในโอกาสต่าง ๆ


ท่านถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน  ๒๕๑๘ ด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน


หนังสืออนุสรณ์เล่มนี้เป็นหนังสือที่น่าอ่านที่สุดเล่มหนึ่ง
บันทึกการเข้า
smallhands
อสุรผัด
*
ตอบ: 14


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 02 ต.ค. 11, 21:30

จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ อ่านแล้วน่าสนใจจริงๆค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.096 วินาที กับ 19 คำสั่ง