เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 13
  พิมพ์  
อ่าน: 120999 เมนูไข่ หลายเมนู
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


 เมื่อ 06 ก.ค. 11, 14:50

ไก่เกิดก่อนไข่ หรือว่า ไข่เกิดก่อนไก่ ยังเป็นคำถามที่น่าฉงน

เอาง่าย ๆ ไว้ก่อนเลย "ไข่ต้มลายหินอ่อน"

ไข่ต้มที่จะแนะนำนี้ ไม่ใช่ไข่ต้มธรรมดานะครับ เป็นไข่ต้มหรูหราระดับฮ่องเต้ ยังต้องมาชิมเลยครับ  ขั้นตอนง่าย ๆ

1. ไข่ไก่ 10 - 12 ฟอง
2. ใบชาดำ 2 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือ 1 ช้อนชา
4. น้ำเปล่า เทท่วมไข่

ถึงเวลาสนุกได้แล้ว
1. นำไข่ต้มให้สุก 10-12 นาที แล้วยกขึ้นทิ้งให้เย็น
2. นำไข่มาบุบเปลือกเล็กน้อย ถึงมาก อยากให้ไข่มีลายมาก ๆ ก็บุบเปลือกให้เยอะ ๆ
3. นำกะทะมา ใส่ไข่ที่บุบแล้วลงกะทะ ใส่เกลือ ใส่ใบชา
4. ใช้ไปกลางต้มให้น้ำเดือด แล้วหรี่ไฟให้อ่อนลง ต้มไปเรื่อย ๆ จนสีใบชาซึมเข้าเนื้อ
5. อยากให้สี สวยมาก ๆ ต้องแช่ไข่ไว้ในน้ำต้มอย่างน้อย 1 คืน
6. นำไข่ปอกเปลือก แช่เย็น จัดจานทำสลัดได้เลยครับ

หมายเหตุ

เราสามารถทำสีได้เอง โดยเพิ่มสิ่งนี้
เติมซอสถั่วเหลือเพิ่ม 1 ช้อนโต๊ะ ได้สีน้ำตาลเพิ่มขึ้น
เติมหัวบีทรูท 4 ช้อนโต๊ะ ได้สีชมพู แดง
เติมน้ำส้มคั้น 3 ช้อนโต๊ะ น่าจะได้สีน้ำตาลอ่อน คงไม่ส้มมาก


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 06 ก.ค. 11, 19:54

เพลงพระราชนิพนธ์ เมนูไข่



 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
ลุงไก่
สุครีพ
******
ตอบ: 1281



ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 06 ก.ค. 11, 21:09

นึกถึง "เกสรดอกทุเรียนเจียวไข่" ที่เคยทานแต่ครั้งยังเด็ก แลได้เคยกล่าวถึงแล้วในกระทู้ "ดอกไม้กินได้"

ลองค้นดูในกูเกิ้ล ก็ได้พบอาหารจานเด็ดจากดอกทุเรียนอีกอย่างหนึ่ง คือ "ขนมจีบดอกทุเรียน" ก็เลยขอนำมาฝากด้วยครับ

http://www.en.mahidol.ac.th/thai/special_scoop/index.html


"ถ้าไม่มีไก่ เราก็ไม่ได้ทานไข่"


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 06 ก.ค. 11, 21:22

นึกถึง "เกสรดอกทุเรียนเจียวไข่" ที่เคยทานแต่ครั้งยังเด็ก แลได้เคยกล่าวถึงแล้วในกระทู้ "ดอกไม้กินได้"

ได้อ่านเรื่อง"ดอกไม้กินได้" ของ เทาชมพู แล้วก็ให้นึกชมในการค้นหาของกินแปลกๆ
มาเล่าสู่กันฟัง เอ้า...ลุงแก่จะเล่ามั่ง เป็นประสบการณ์จริงที่รสชาติความอร่อยไม่รู้ลืม
จนทุกวันนี้ คือเมื่อตอนเป็นวัยสะรุ่นก็ไปเที่ยวบ้านคุณป้าที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่นั่น
เป็นสวนทุเรียน เขาก็ทำกับข้าวให้ทาน อย่างหนึ่งคือไข่เจียวใส่เกสรดอกทุเรียน
หลายท่านคงเคยทานกันแล้ว วิธีการก็ไม่มีอะไรมาก เก็บเกสรดอกทุเรียนจากดอก
ในช่วงที่ผสมเกสรแล้วหรือที่เพิ่งร่วงจากดอกก็ได้ ผสมลงในไข่ที่ตีแล้วก็นำไปทอด
เป็นไข่เจียว รสชาติจะออกหวานเล็กน้อยและหอมอันเนื่องมาจากความหอมของ
เกสรของดอกทุเรียน อยู่ กทม. ไม่มีสวนทุเรียน เลยไม่มีโอกาสได้ทานอีก
คุณเทาชมพูลองไปชิมบ้างนะครับ อร่อยจริงอย่างที่ลุงแก่เล่าหรือเปล่า.

ลุงแก่คือลุงไก่  ฤๅไฉน

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
:D :D
นิลพัท
*******
ตอบ: 2333


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 07 ก.ค. 11, 08:58

...เมนูไข่... ยิงฟันยิ้ม



บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 07 ก.ค. 11, 09:01

เกสรดอกไม้น่าทานมากครับ

เมนูไข่ต้ม อันแสนง่าย ใช่ว่าจะเพียงหย่อนไข่ทั้งใบ ต้องมีการประดิษฐ์พลิกแพลงบ้าง เพิ่มเพิ่มเสน่ห์ให้กับอาหาร

มีการพลิกแพลงโดยใช้ต้องมีเครื่องมือประกอบกัน คือ แม่พิมพ์สองชิ้น ชิ้นแรกเป็นทรงกระบอก อีกชิ้นเป็นแกนกลาง ทำเป็นรูปร่างต่างๆ

วิธีทำ

1. นำไข่ไก่มา 2 -3 ฟอง แยกไข่แดงออกจากไข่ขาว
2. หยอดไข่ขาวลงในแม่พิมพ์ สองชั้นให้เรียบร้อย แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด
3. เมื่อแม่พิมพ์ไข่ขาวสุก ก็นำไข่แดงที่แยกไว้ มาคนให้แตก อย่าให้เกิดฟอง
4. นำแม่พิมพ์ชั้นใน ดึงออกและหยอดไข่แดงเข้าแทนที่ว่างดังกล่าว
5. นำไปนึ่งในลังถึงให้ไข่แดงสุก
6. จะได้ไข่ทรงกระบอก นำมาหั่นฝาน ก็จะได้ไข่ต้มลายน่ารัก ๆ แล้วครับ


บันทึกการเข้า
ลุงไก่
สุครีพ
******
ตอบ: 1281



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 07 ก.ค. 11, 13:12

นึกถึง "เกสรดอกทุเรียนเจียวไข่" ที่เคยทานแต่ครั้งยังเด็ก แลได้เคยกล่าวถึงแล้วในกระทู้ "ดอกไม้กินได้"

ได้อ่านเรื่อง"ดอกไม้กินได้" ของ เทาชมพู แล้วก็ให้นึกชมในการค้นหาของกินแปลกๆ
มาเล่าสู่กันฟัง เอ้า...ลุงแก่จะเล่ามั่ง เป็นประสบการณ์จริงที่รสชาติความอร่อยไม่รู้ลืม
จนทุกวันนี้ คือเมื่อตอนเป็นวัยสะรุ่นก็ไปเที่ยวบ้านคุณป้าที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่นั่น
เป็นสวนทุเรียน เขาก็ทำกับข้าวให้ทาน อย่างหนึ่งคือไข่เจียวใส่เกสรดอกทุเรียน
หลายท่านคงเคยทานกันแล้ว วิธีการก็ไม่มีอะไรมาก เก็บเกสรดอกทุเรียนจากดอก
ในช่วงที่ผสมเกสรแล้วหรือที่เพิ่งร่วงจากดอกก็ได้ ผสมลงในไข่ที่ตีแล้วก็นำไปทอด
เป็นไข่เจียว รสชาติจะออกหวานเล็กน้อยและหอมอันเนื่องมาจากความหอมของ
เกสรของดอกทุเรียน อยู่ กทม. ไม่มีสวนทุเรียน เลยไม่มีโอกาสได้ทานอีก
คุณเทาชมพูลองไปชิมบ้างนะครับ อร่อยจริงอย่างที่ลุงแก่เล่าหรือเปล่า.

ลุงแก่คือลุงไก่  ฤๅไฉน

 ยิงฟันยิ้ม


คนเดียวกันหละครับ ลืมไปว่าเคยสมัครแล้วเมื่อนานมาแล้ว และผมก็ลืม password ไปแล้วด้วย เลยสมัครใหม่ในชื่อใหม่ ส่วนชื่อเก่า ผมใช้ในพันทิปอยู่ครับ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 07 ก.ค. 11, 16:55

จากกระทู้โน้น

พิมกระซิบ ผ่านสีหมอก บอกกับพี่            ว่าพิมนี้ เกลียดไข่ ใช่เรื่องขำ
จะไข่ดาว เจียวต้ม ผสมยำ                    หรือว่าทำ ตุ๋นแกง แหยงเกินพอ
อยู่กับพี่ มีแต่ไข่ ให้กินบ่อย                   จนหน้าม่อย อย่าเพิ่งยิ้ม พิมอยากขอ
นั่นหมูป่า วิ่งไป อย่าได้รอ                    พี่แผนก็ จับมาหัน เสียทันที

เพิ่งทราบว่านางพิมไม่ชอบเมนูไข่

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 08 ก.ค. 11, 04:12

ใครทราบวิธีทำไข่เยี่ยวม้าบ้างคะ ทำเองได้ไหม และยุ่งยากเพียงไร

ซื้อกินทุกวันนี้ ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยค่ะ
บันทึกการเข้า
ลุงไก่
สุครีพ
******
ตอบ: 1281



ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 08 ก.ค. 11, 08:15

ใครทราบวิธีทำไข่เยี่ยวม้าบ้างคะ ทำเองได้ไหม และยุ่งยากเพียงไร

ซื้อกินทุกวันนี้ ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยค่ะ

ซื้อทานเถอะครับ ไม่ต้องยุ่งยาก ความเชื่อเรื่องสารตะกั่วในสีที่ทาที่ผิวเปลือกไข่จะซึมผ่านเข้าไปข้างในอย่างสมัยก่อนน่ะ ลืมไปได้แล้วครับ ไม่มีแล้ว

ทุกวันนี้ไข่เยี่ยวม้าจากไทย 'go Inter' แล้วครับ






บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 08 ก.ค. 11, 08:41

^
^





 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 08 ก.ค. 11, 10:48

ใครทราบวิธีทำไข่เยี่ยวม้าบ้างคะ ทำเองได้ไหม และยุ่งยากเพียงไร

ซื้อกินทุกวันนี้ ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยค่ะ

วิธีทำไข่เยี่ยวม้า ให้เอาไข่สดแช่ในน้ำที่ต้มกับปูนขาว เกลือ ขี้เถ้า และใบชา หมักไว้ในไห ปิดให้มิดชิด ประมาณ 40 วันก็ให้เอาไข่ขึ้นล้าง แล้วพอกเปลือกไข่ด้วยดินขาวผสมแกลบอีกราว 10 วัน หรือจะให้ง่ายขึ้น เอาปูนขาว เกลือ ขี้เถ้า ใบชาผสมกันแล้ว พอกไข่ทีละฟองก็ได้ คลุกด้วยแกลบหรือดินอีกชั้นนึง แล้วนำไปบรรจุไห ปิดให้สนิท เก็บไว้ราว 3-4 สัปดาห์

หัวใจสำคัญของการทำไข่เยี่ยวม้า อยู่ที่การควบคุมค่า pH หรือความเป็นกรดด่างให้สมดุล ปฏิกิริยาทางเคมีที่สมดุล จะทำให้ไข่แดงกับไข่ขาวซึมเข้าหากัน ไข่ขาวจะแข็งตัวเป็นวุ้นหยุ่นใส สีน้ำตาล มีลายดอกสนซึ่งเกิดจากผลึกเกลือที่ละลายไม่หมด ส่วนไข่แดงจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ ซึ่งถ้าหากค่า pH ไม่เหมาะสม สีของไข่จะไม่เข้ม ไข่ขาวเหลวเละ ไม่น่ารับประทาน

การควบคุมค่า pH ให้คงที่เป็นเรื่องยาก คนจีนโบราณพบวิธีแก้ง่ายๆ โดยผสมผงตะกั่วสีเหลืองที่เรียกว่า " หวางตันเฝิ่น " ลงไป เพื่อช่วยให้ไข่ขาวแข็งตัว ด้วยเหตุนี้เอง ไข่เยี่ยวม้าแม้จะอร่อย แต่หากบริโภคมากเกินไป ก็จะได้รับพิษจากสารตะกั่วออกไซด์โดยไม่รู้ตัว เด็กๆจึงควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรบริโภคไข่เยี่ยวม้า


ปัจจุบัน การวิจัยทางโภชนาการได้ค้นพบสาร EDTA ซึ่งออกฤทธิ์เป็นกรด และ FWD ซึ่งเป็นสารผสมระหว่างแมกนีเซียมกับแมงกานีส สามารถใช้แทนตะกั่วออกไซด์ได้ รัฐบาลจีนได้กำหนดมาตรฐานว่า ไข่เยี่ยวม้า 1,000 กรัม ไม่ควรมีสารตะกั่วผสมเกิน 3 มิลลิกรัม หรือ 0.3ppm หากอยู่ในมาตรฐานนี้ ถือว่าเป็นไข่เยี่ยวม้าที่ไม่มีสารตะกั่ว

ในการเลือกซื้อไข่เยี่ยวม้า นอกจากถือมาตรฐาน 0.3 ppm เป็นเกณฑ์แล้ว ยังต้องรู้หลักการเลือกที่จะทำให้ได้ไข่เยี่ยวม้าที่ดี คือ

1. หีบห่อต้องสะอาด ไม่ขึ้นรา เปลือกไข่ไม่มีรอยบุบ

2. ไข่ที่ดีต้องมีน้ำหนัก เมื่อวางอยู่ในอุ้งมือแล้วโยนเบาๆสัก2-3ครั้ง อุ้งมือที่รับ จะต้องรู้สึกถึงแรงสั่นไหว คล้ายมีสปริงอยู่ในเปลือกไข่

3. ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งจับไข่ในแนวตั้ง เขย่าเบาๆที่ข้างหู ไข่ที่ดีจะต้องไม่มีเสียงน้ำหรือเสียงที่เกิดจากของเหลวกระทบกันภายในไข่

4. ยกไข่ขึ้นส่องกับแสงไฟ ไข่ที่ดีจะต้องมีสีดำหรือน้ำตาลเข้มเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยเท่านั้นที่มีสีอ่อน

ถ้ากลับกันแสดงว่า ไข่ยังผ่านกระบวนการหมักไม่เต็มที่ ยังไม่ถึงเวลารับประทาน



ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ประจำวันที่ 3-9 สิงหาคม 2550

หมายเหตุ การใช้ไข่เป็ดทำไข่เยี่ยวม้า จะอร่อยกว่าการใช้ไข่ไก่ทำครับ คุณร่วมฤดี


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 08 ก.ค. 11, 11:27

เอาละซี นางพิมอาละวาดมาถึงกระทู้นี้แล้ว

อย่าว่าขู่ รู้บ้างไหม พิมไม่ชอบ                     พี่แอบลอบ เปิดกระทู้ เมนูไข่
พิมเกลียดนัก ชักแค้น แสนเสียใจ                 เห็นแต่ไข่ ไข่ไข่ ไข่คนรวย
ยามเดินผ่าน บ้านนั้น มันกลุ้มจิต                   ช่างประดิษฐ์ ประดอย เลิศลอยสวย
ลายหินอ่อน รูปหัวใจ เหมือนใส่กรวย              พิมเห็นด้วย ดวงตา อย่าแก้ตัว
พิมได้กิน บ้างไหม ไข่อย่างนั้น                    ไข่สวรรค์ ไข่เทวา น่าเวียนหัว
ต้องหน้าดำ กรำกร้าน งานก้นครัว                  พี่ปลีกตัว ไปตีไข่ ใส่สีงาม

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 08 ก.ค. 11, 11:36

ขอบพระคุณ คุณเพ็ญชมพู และ คุณ Siamese เป็นอย่างสูงค่ะ

 ใน VDO ใส่ เกลือ +  ใบชาแห้ง + โซดา +  ปูนขาว ลงไปในน้ำ ทั้งหมดนี้ ไม่ได้บอกปริมาณมากน้อยไว้

สูตรที่คุณหนุ่มสยามบอกไว้ คือ เกลือ + ใบชา + ปูนขาว + ขี้เถ้า ลงไปละลายในน้ำ ไม่ได้บอกปริมาณไว้เช่นกัน
โดยคุมให้ค่า "PH เหมาะสม" แต่ไม่ได้บอกว่าเท่าไรอีกเช่นกัน หากทราบก็จะดีนะคะ ดูจะไม่ยากเท่าไร

ข้อแตกต่างระหว่าง 2 สูตรนี้ คือ คำว่า โซดา กับ ขี้เถ้า ทั้งคู่มีฤทธิ์เป็นด่างสูงมาก

ใน VDO ไม่ได้ใส่สารอันตรายอะไรเป็นพิเศษเลยค่ะ ดูท่าจะไม่มีอันตราย ผิดถูกประการใด ท้วงติงด้วยนะคะ

ดิฉันชอบโจ๊กแบบกวางตุ้งที่ใส่ไข่เยี่ยวม้าค่ะ และ ชอบทานไข่นี้กับขิงดอง


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12600



ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 08 ก.ค. 11, 11:52

การควบคุมค่า pH ให้คงที่เป็นเรื่องยาก คนจีนโบราณพบวิธีแก้ง่ายๆ โดยผสมผงตะกั่วสีเหลืองที่เรียกว่า " หวางตันเฝิ่น " ลงไป เพื่อช่วยให้ไข่ขาวแข็งตัว ด้วยเหตุนี้เอง ไข่เยี่ยวม้าแม้จะอร่อย แต่หากบริโภคมากเกินไป ก็จะได้รับพิษจากสารตะกั่วออกไซด์โดยไม่รู้ตัว เด็กๆจึงควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรบริโภคไข่เยี่ยวม้า

นี่แหละต้นเหตุอันตรายจากตะกั่วในไข่เยี่ยวม้า

คุณร่วมฤดีสามารถหารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในบทความวิชาการข้างล่าง

ตะกั่วในไข่เยี่ยวม้า
http://www.pharm.su.ac.th/cheminlife/cms/index.php/kitchen-room/preserved-egg.html

 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 13
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.088 วินาที กับ 20 คำสั่ง