๒. นางเต็มศิริ บุณยสิงห์ สมรสกับ นาย ครุย บุณยสิงห์
ประวัติคุณหญิงเต็มสิริ บุณยสิงห์ คุณหญิงเต็มสิริ บุณยสิงห์ เกิดในตระะกูลศิลปี เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๓๔๖๔ ที่บ้านซอยต้นสน ถนนเพลินจิต ซึ่งเป็นบ้านของคุณปู่ พระยาวิศุกรรมศิลป์ประสิทธิ์ อดีตองคมนตรีและเจ้ากรมมหรสพ ซึ่งต่อมาเป็นกรมโขน และกรมศิลปากรในปัจจุบัน ท่านเป็นธิดาของ พล.ต.ต.หลวงศิลป์ประสิทธิ์ (ตาบ ศิลปี) และนางตาบทิพย์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาจำนวน ๖ คน ด้านครอบครัว ได้สมรสกับ ดร.ครุย บุณยสิงห์ ใน พ.ศ. ๒๔๙๐ และมีบุตรชาย ๒ คน คุณหญิงเต็มสิริ เดิมชื่อ “สมถวิล” ใช้มาจนถึงมัธยม ๘ เกิดเจ็บป่วย จึงต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์และเปลี่ยนชื่อเป็น “เต็มสิริ” เปลี่ยนให้โดยพระยาสุขุมนัยพินิต
ท่านได้เริ่มการศึกษาระดับประถมศึกษาในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ ที่โรงเรียนอนุศึกษา มัธยมต้นที่โรงเรียนมหาพฤฒาราม ต่อมาบิดาได้ย้ายไปปฏิบัติราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ท่านได้ติดตามบิดาไป และศึกษาต่อจนจบมัธยม ๘ ที่โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ และความภาคภูมิใจของท่านคือ
“ในปีการศึกษาสุดท้ายของมัธยม ๘ ท่านสอบได้เป็นลำดับที่ ๑ ของมณฑลพายัพ ซึ่งเป็นอันดับที่ ๗ ของประเทศไทย” พ.ศ. ๒๔๘๔ ท่านได้จบการศึกษาระดับอุดมศึกษา จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้ศึกษาปริญญาครุศาสตรบัณฑิต อีก ๑ ปีจนจบสำเร็จการศึกษา ในขณะที่ศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น ท่านได้รับความกรุณาจาก หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ซึ่งเป็นนักการศึกษาที่สำคัญมากของประเทศไทย เป็นผู้ปกครอง และหลังจากนั้นท่านยังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารการศึกษาและแนะแนวจาก Western Washington Collage of Education
ท่านเริ่มรับราชการใน พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นเวลา ๑๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ได้มารับตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ซึ่งเป็นโรงเรียนสาธิตแผนกฝึกหัดครูแห่งแรกของประเทศ และต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๐ ท่านได้ย้ายไปเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนมัธยมสาธิตประสานมิตร ด้วยมีความประสงค์ที่จะปรับปรุงโรงเรียนกลางทุ่งนาของกรมสามัญศึกษา ให้เป็นโรงเรียนสาธิตของวิทยาลัยการศึกษาประสานมิตร ซึ่งในขณะนั้นจะเป็นโรงเรียนสาธิตที่มีลักษณะเฉพาะคือ เป็นโรงเรียนกลางทุ่งนา หลังคาจาก และมีไม้แฝกเป็นฝาห้อง
พ.ศ. ๒๕๑๑ ท่านเป็นผู้ริเริ่มทดลองทำโรงเรียนมัธยมแบบผสมแห่งแรกของเขตกรุงเทพฯ คือมีการเรียนสายสามัญและสายอาชีพในโรงเรียน ต่อจากนั้นท่านไปตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาสาธิตและทดลอง คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒประสานมิตร จนเกษียณราชการในปี พ.ศ. ๒๕๒๕
นอกเหนือจากบทบาทของการเป็นครู เป็นนักการศึกษา ท่านยังเป็นนักพูดชั้นนำของประเทศ งานด้านการพูดในอดีตที่สำคัญ เช่น “โต๊ะกลมการเมือง” ของรายการโทรทัศน์ช่อง ๔ บางขุนพรหม ในขณะนั้น ท่านเป็นผู้ควบคุมและดำเนินรายการ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เยาวชนของชาติในบทบาทของนักพูด สมาชิกวุฒิสภา คณะกรรมาธิการด้านสตรีและเยาวชน และมีภารกิจมากมายในด้านวัฒนธรรม ประเพณี จริยธรรม ศิลปวัฒนธรรม การส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติ และยังเป็นนักเขียนหนังสือ ท่านได้เขียนตำรา บทความ ต่าง ๆ ตลอดมา