เนื่องจากคลิป "เจ้าบ่าววิ่งตามคู่ขากลางงานแต่ง" - กะเทยไทยในสายคนจีน

[han_bing]

ื่ทางเมืองไทยส่งข่าวว่าขณะีนี้เมืองจีนมีคลิปคู่ขาหนุ่มบุกงานแต่งงาน เสร็จแล้วก็ืทะเลาะกับเจ้าสาวก่อนจะจูงมือเจ้าบ่าวหนีไป

อุแม่เจ้า...

ดูได้จากเว็ปไซด์นี้



และเว็ปต่อไปนี้ นักแสดงออกมาพูดเองเลย



ข้่าพเจ้าดูคลิปดังกล่าวแล้วจริงๆเป็นคลิปตัวอย่างโฆษณาซึ่งคิดไปก็สร้างสรรค์มาก ไม่คิดเลยว่าจะมีการกล้าเล่นประเด็นเกย์ในเมืองจีน

แว่วๆทางรัฐบาลฮ่องกงพึ่งสร้างคลีนิกรักษาเกย์ขึ้นมา ผลคือได้รับการประท้วงยกใหญ่ แพทย์หลายท่านก็ให้ความเห็นว่าไม่ดี รักษาไม่ได้หรอก แถมรักษาเสร็จจะสร้่างอันตรายให้กับคนที่ไปรักษาด้วย

เมืองจีนกับเพศที่สามยังไม่ค่อยถูกกันเท่าไร ทอมพอรับได้แต่เกย์นี้ยากที่จะรับ แล้วไปๆมาๆเลยพาดพิงถึงกะเืทยไทยว่าต้นสายปลายเหตุมาจากอะไร

คนจีนนั้นเจอหน้าคนไทย อย่างแรกที่ถามคือขี่ช้างไปทำงานหรือเปล่า และเคยเห็นกะเทยหรือเปล่า เหมืิอนคนทั่วไปไหม ถามได้ถามดี ถามจนข้าพเจ้าเบื่อที่จะตอบ

คำถามที่ออกจะร้ายแรงและเข้าใจผิดมากที่สุดในสองคำถามคือคำถามเกี่ยวกับกะเทยไทย คนจีนเชื่อกันจริงๆจังๆว่ากะเทยไทยเป็นชายไทยยากจน ถูกพ่อแม่ขายไปตั้งแต่วัยเยาว์ แล้วถูกส่งเข้าโรงเรียนกระเทย (ซึ่งคือทิฟฟานี อากาซ่า ที่เป็นสถานที่แสดงโชว์) พอโตขึ้นมาก็ถูกบังคับผ่าตัดแปลงเพศ อายุสามสิบสี่สิบก็ตายไป

ถือเป็นการทารุณกรรมอย่างโหดร้าย

ข้าพเจ้าฟังแล้วก็รู้สึกแปลกๆแต่คนชอบถามเยอะมาก ภายหล้ังเลยเข้าไปเว็ปไซด์ Baidu.com ค้นเรื่องกะเทยไทย เว็ปดังกล่าวคล้ายกับกูเกิลกึ่งๆกับวิกิพีเดียของจีน ข้อมูลละเอียดมากถึงมาที่สุด ค้นเรื่องจีนเข้าเว็ปนี้ไม่ผิดหวัง

ข้าพเจ้าใช้คำค้นว่า "ไท่กั๋วเหริ่นเยา" (泰国人妖： Tai guo ren yao) แปลเป็นไทยว่า "กะเทยไทย" นั้นเอง

เว็ปดังกล่าวบอกเลยว่ากะเทยไทยรับอิทธิพลจากกะเทยอินเดียที่จะไปแสดงตัวตามงานต่างๆ  วัฒนธรรมดังกล่าวค่อยๆเผยแพร่มายังไทย ผู้ชายไทยจนๆหางานไม่ได้ เห็นว่าอย่างนี้รายได้ดีเลยยอมแปลงเพศ...ไม่เชื่อดูได้จากเว็ปไซด์นี้ http://baike.baidu.com/view/65053.htm

อุแม่เจ้า อันนี้ทึ่งจริงๆ

[nakor]

เคยตามไกด์ไทยที่ครึ่งไทยครึ่งจีนคนหนึ่งพาทัวร์เที่ยวเมืองไทยและพัทยา เมื่อถึงพัทยาแล้วจะเริ่มขายบัตรคาบาเรต์ ไกด์คนนั้นจะพูดอธิบายให้ลูกทัวร์ฟังแบบที่คุณว่าครับ

เขาจะอธิบายให้แปลกประหลาดเข้าไว้เพื่อให้ชาวต่างประเทศอยากดู 

นอกจากนี้ พบว่าไกด์คนนั้นให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยที่ผิดพลาดหลายเรื่อง บางเรื่องเขียนลงในที่สาธารณะไม่ได้เลยครับ

[เทาชมพู]

คำถามที่ออกจะร้ายแรงและเข้าใจผิดมากที่สุดในสองคำถามคือคำถามเกี่ยวกับกะเทยไทย คนจีนเชื่อกันจริงๆจังๆว่ากะเทยไทยเป็นชายไทยยากจน ถูกพ่อแม่ขายไปตั้งแต่วัยเยาว์ แล้วถูกส่งเข้าโรงเรียนกระเทย (ซึ่งคือทิฟฟานี อากาซ่า ที่เป็นสถานที่แสดงโชว์) พอโตขึ้นมาก็ถูกบังคับผ่าตัดแปลงเพศ ฮืม อายุสามสิบสี่สิบก็ตายไป

ฟังคล้ายๆความเป็นมาของขันทีจีน  แต่เปลี่ยนจากในวังเป็นโรงเรียนกะเทย 

[siamese]

คำถามที่ออกจะร้ายแรงและเข้าใจผิดมากที่สุดในสองคำถามคือคำถามเกี่ยวกับกะเทยไทย คนจีนเชื่อกันจริงๆจังๆว่ากะเทยไทยเป็นชายไทยยากจน ถูกพ่อแม่ขายไปตั้งแต่วัยเยาว์ แล้วถูกส่งเข้าโรงเรียนกระเทย (ซึ่งคือทิฟฟานี อากาซ่า ที่เป็นสถานที่แสดงโชว์) พอโตขึ้นมาก็ถูกบังคับผ่าตัดแปลงเพศ ฮืม อายุสามสิบสี่สิบก็ตายไป

ฟังคล้ายๆความเป็นมาของขันทีจีน  แต่เปลี่ยนจากในวังเป็นโรงเรียนกะเทย 

จากบันทึกขันทีคนสุดท้าย

ด้วยความยากจนจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อที่จะหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ตนเองถูกหลอกให้กลายเป็นขันทีโดยความไม่ตั้งใจ ที่กรุงปักกิ่งนั้นจะมีขบวนการตอนอย่างเป็นระบบ และเป็นขบวนการ

เด็กยากจนที่เข้ามาหางานทำจะถูกหลอกโดยการหว่านล้อมโดยจะให้เงินทองจำนวนหนึ่ง บางส่วนถูกส่งให้กับทางบ้าน บางส่วนเป็นค่ามีดหมอ ซึ่งในที่สุดแล้วเมื่อถูกตัดอวัยวะสำคัญไปแล้ว กลับไม่ได้รับเงินทองอย่างที่เคยเจรจากัน ของสำคัญก็ถูกตัดไปแล้ว จึงต้องเลือกที่จะเดินเข้าสู่การเป็นขันทีในที่สุด

ที่ปักกิ่งมีร้านรับตอนกันอยู่มากมาย โดยแต่ร้านจะมีความสัมพันธ์ระหว่างขันทีผู้ใหญ่ในราชสำนัก และฝึกเด็กถึงการเดิน การทำตัว การเคารพอย่างเป็นระเบียบ จนเมื่อขันทีรุ่นเด็กเหล่านี้เข้าเป็นน้องใหม่ในวัง ก็ต้องดูหน่วยก้านว่าแต่ละคนจะทำหน้าที่อะไร ดีแค่ไหน ซึ่งหมายถึง เงินทองที่จะได้รับและการถูกขู่รีดไถเงินจากหัวหน้าขันทีอีกทอดหนึ่ง

การคัดเลือกเข้าเป็นขันทีจะทำโดยขันทีระดับสูงสุด จะทำการตรวจว่า "สะอาด" มากน้อยเพียงไร ถ้า "ไม่สะอาด" คือ ตัดบางส่วนทิ้งไปก็จะไปทำหน้าที่แบกหามงานหนักๆ ต่อไป ส่วนคนที่ "สะอาด" ก็จะถูกส่งเข้าไปยังฝ่ายในต่อไป ทั้งนี้งานของขันที ก็คือ เด็กรับใช้ภายในวังทุกอย่าง บางคนโดนทำโทษจนตาย

ขันทีมีทั้งหมด 9 ขั้นแต่ละขั้นขึ้นกับวาสนาและการปฏิบัติตัว ใช่ว่าอยู่ในวังจะมีความสุขแต่มีความทุกข์ และถูกรังเกียจดูแคลนต่ำยิ่งกว่าสุนัขเสียด้วยซ้ำ

[han_bing]

คิดว่าคนจีนเอาความคิดดังกล่าวจากเรื่องราวขันทีในประเทศของตน

และผสมผสานอะไรต่ออะไรลงไปอีก

เพื่อนของข้าพเจ้าที่เป็นกะเทยฟังแล้วสะอึกไปสองรอบ