เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
  พิมพ์  
อ่าน: 38006 ภูตผีปีศาจ
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 90  เมื่อ 19 ส.ค. 23, 09:35



กายแก้ว กับ เปรตเพชรบูรณ์ เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือมี "ตาสีแดงก่ำ"


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 91  เมื่อ 02 ก.ย. 23, 09:45

กรณีมีการตั้งรูปปั้น "ครูกายแก้ว" บริเวณหน้าโรงแรมเดอะ บาซาร์ รัชดาภิเษก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่าย ตามมาด้วยข้อถกเถียงในสังคมว่าสมควรย้ายรูปปั้นครูกายแก้วหรือไม่

วันที่ 28 ส.ค.2566 นายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยนายสิทธิชัย หอมศิริวรรณ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย แถลงข่าวเกี่ยวกับการตั้งรูปปั้น "ครูกายแก้ว" ในพื้นที่ของโรงแรม ยืนยันว่าจะไม่ย้ายรูปปั้น "ครูกายแก้ว" โดยชี้แจงเหตุผลหลักๆ ที่สังคมตั้งคำถาม ทั้งในทางบริหารธุรกิจและความเชื่อ โดยยืนยันว่าการตั้งวางครูกายแก้วไม่ผิดหลักกฏหมายใดและไม่ผิดหลักศาสนา แต่ด้วยหลักการประนีประนอม จะมีการจัดสร้างโดมครอบ เพื่อสร้างความสบายใจของทุกฝ่าย

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 92  เมื่อ 18 ต.ค. 23, 19:26

จากรายการ โหนกระแส

เจ้าหน้าที่จัดเวรยามออกตรวจ หลังชาวบ้านผวาหนัก กระสืออาละวาดในหลายตำบล
.
เมื่อคืนนี้ (17 ตุลาคม 2566) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดลพบุรีและหลายหน่วยงาน แบ่งกันออกตรวจพื้นที่ และพบปะกับชาวบ้านใน 4 ตำบล ของอำเภอเมืองและอำเภอท่าวุ้ง หลังมีชาวบ้านพบเจอกระสือแบบตัวเป็นๆ จนขวัญผวากันไปทั้งหมู่บ้าน และไม้กล้าที่จะออกจากบ้านยามค่ำคืน ซึ่งชาวบ้านที่พบเจอต่างก็บอกเป็นเสียเดียวกันว่า กระสือที่เจอเป็นกระสือแก่ มีผมสีขาว แต่ไม่มีใครทราบว่ากระสือตัวนี้มาจากไหน เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนในพื้นที่
.
จากการออกตรวจ และพูดคุยกับชาวบ้าน เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และสร้างความอุ่นใจให้กับชาวบ้านว่าเจ้าหน้าที่จะให้การช่วยเหลือและช่วยดูแลความปลอดภัย แต่สิ่งที่ทางส่วนราชการเป็นห่วงและต้องรีบออกมาในครั้งนี้ ไม่ได้ห่วงเรื่องกระสือ แต่ห่วงว่าหากชาวบ้านไม่ออกจากบ้านยามค่ำคืน อาจเป็นช่องว่างของกลุ่มมิจฉาชีพ จะใช้โอกาสนี้ออกมาซ้ำเติม ขโมยทรัพย์สิน ทั้งสัตว์เลี้ยง และทรัพย์สินอื่นๆ จึงต้องจัดเจ้าหน้าที่ตรวจตรากันอย่างเข้มงวด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 93  เมื่อ 18 ต.ค. 23, 19:29

โหนกระแส
 
นายอำเภอแจงแล้ว กระสืออาละวาดที่ลพบุรี ที่แท้คนใส่หน้ากากมาขโมยไก่ชน ลุงเจ้าของบ้านยัน ไม่ใช่คนแน่นอน

จากกรณีกระแสข่าว ผีกระสือ ออกอาละวาดหากินกลางดึก ที่ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี จนสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในตำบลเป็นอย่างมาก ล่าสุด นายยศวิน บำรุงเวช ป้องกันจังหวัดลพบุรี ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลพบุรี นำกำลัง ออกตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับชาวบ้าน
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Sathaporn Auyha” แจ้งในกลุ่ม “แจ้งเหตุลพบุรี” โดยเป็นเอกสารที่นายพิษณุ ประภาธานานันท์ นายอำเภอเมืองลพบุรี แจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี โดยมีข้อความว่า
“ด้วยวันที่ 17 ต.ค.2566 ปรากฎภาพข่าวจากสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการพบเจอกระสือในพื้นที่ ต.โพธิ์ตรุ อ.เมือง ลพบุรี จ.ลพบุรี สร้างความหวาดกลัวและตื่นตะหนก ให้กับประชาชนในพื้นที่หลายตำบลของ อ.เมือง ลพบุรี และ ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏข่าวดังกล่าวสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
ผู้ให้ข่าวชื่อนายวิเชียร แจ้งว่าพบกระสือที่บ้าน ช่วงกลางดึกประมาณ กลางเดือน ก.ย.2566 ตนกับกระสือระยะห่างประมาณ 5 เมตรเห็นเฉพาะใบหน้า อ้างว่าเป็นหญิงแก่ผมขาสลับดำ จ้องหน้าแยกเขี้ยวใส่นายวิเชียร และนายวิเชียร ใช้จอบไล่ตีกระสือ จนออกไปทางถนน นายวิเชียรนำเรื่องที่ประสบเหตุดังกล่าวไปเล่าให้กับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบและได้มีการพูดคุยต่อๆ กันไป
แต่จากการสืบข้อเท็จจริง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ที่อยู่ติดกับบ้านนายวิเชียร แจ้งว่าช่วงเช้าหลังเกิดเหตุวันที่นายวิเชียรพบกระสือ ตนได้วิ่งออกกำลังกาย ได้พบหน้ากากบริเวณหน้าบ้านของนายวิเชียร มีลักษณะตรงตามที่นายวิเชียรให้ข่าว จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นคนสวมหน้ากาก เพื่อมาขโมยไก่ชนของนายวิเชียร หรือทรัพย์สินมีค่าอื่น
นายอำเภอ เมือง ลพบุรี ขอความร่วมมือ อบต.โพธิ์ตรุ กำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลโพธิ์ตรุ ช่วยประชาสัมพันธ์เสียงตามสายและขับรถ แจ้งเตือนประชาชนอย่าตื่นตะหนกกับข่าวที่ปรากฏ พร้อมทั้งฝ้าระวังทรัพย์สินของมีค่า เครื่องมือการเกษตรหากมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้จังหวัดทราบในโอกาสต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายวิเชียรได้บอกในรายการโหนกระแส หลังทราบข่าว ขณะออกอากาศสด ยืนยันว่าไม่ใช่คนใส่หน้ากาก ในหมู่บ้านไม่มีขโมยแน่นอน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 94  เมื่อ 19 ต.ค. 23, 08:59

จาก FB โหนกระแส

กระสือลพบุรี’ ค่าตัวพุ่ง 1 ล้านบาท เจ้าของรีสอร์ตพร้อมจ่าย ถ้าจับตัวเป็น ๆ ไม่ได้ ก็ขอให้ถ่ายรูปมา

เป็นข่าวฮือฮาหลังมีคนแจ้งว่าพบกระสือตัวเป็น ๆ ที่บริเวณ ต.โพธิ์ตรุ-ต.ท้ายตลาด อ.เมือง จ.ลพบุรี ระบุลักษณะว่าเป็นคนแก่ ผมหงอก ทำให้ชาวบ้านต่างออกไปพิสูจน์ว่ามีจริงหรือไม่
ด้านคนที่พบก็ยืนยันว่า เจอตัวเป็น ๆ มองหน้า แถมถูกแยกเขี้ยวใส่ แต่ต่อมา นายอำเภอเมืองลพบุรี ออกมายืนยันว่า ไม่ใช่กระสือ แต่เป็นโจรใส่หน้ากาก ทั้งยังพบหน้ากากตกอยู่ใกล้บ้านของคนที่เจอคนแรกด้วย แต่หลายคนก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นแค่ขโมย พากันออกไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา

ล่าสุด สมาชิกติ๊กต็อกรายหนึ่งได้โพสต์คลิปออกตามล่ากระสือที่ จ.ลพบุรี พร้อมกับทีมงาน โดยก่อนหน้าเคยไปมาแล้ว แต่ไม่เจอ และยังบอกว่า ตอนนี้ค่าตัวกระสือตัวนี้พุ่งขึ้นถึง 1 ล้านบาทแล้ว

“ถามกันจังว่ากลัวกระสือมั้ย ไม่กลัวนะฮะ เดี๋ยววันนี้ 5 ทุ่มจะไปล่ามันใหม่ วัยรุ่น อ.เมืองลพบุรี เตรียมตัว เอาให้เห็นแสงไฟแว๊บ ๆ ก็ยังดี เอาให้คุ้มค่ากับการที่ต้องขี่รถไป วันนี้จะไปแบบเต็มระบบ เอากล้องไปเยอะมาก”
จากนั้นได้บอกอีกว่า จะมาอัปเดตค่าตัวกระสือ พร้อมกับลงรูปเจ้าของรีสอร์ตที่ จ.สระบุรี ที่พร้อมจะจ่ายเงิน 1 ล้านบาท ถ้าจับกระสือมาได้
“วันนี้จะพาทุกคนไปจับ เพื่อเงิน 1 ล้านบาท เขาจ่ายจริง เจ้าของรีสอร์ตที่ จ.สระบุรี หรือถ้าจับไม่ได้ แต่ถ่ายรูปมาได้ เขาให้ค่าน้ำมัน 1 หมื่นบาท”


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 95  เมื่อ 19 ต.ค. 23, 15:18

วันนี้ (19 ต.ค.66) เฟซบุ๊ก “อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์” ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

“กระสือ” ไม่น่ามีชีวิตอยู่จริง ตามหลัก กายวิภาคศาสตร์ anatomy

ไหนๆ ช่วงนี้เค้ากลับมาฮิตคุยเรื่องผีกระสือกันอีกแล้ว ขนาดถกเถียงกันทางฟิสิกส์ ว่ากระสือใช้พลังงานแบบไหนถึงสามารถลอยตัว บินได้ พร้อมไฟแว้บๆ ด้วย ก็ขอแจมด้วยมุมมองทาง “ชีววิทยา” บ้างละกันครับ

คือถ้าไม่ได้มองว่ากระสือเป็น “ผี” เป็น “ปีศาจ” ที่ทุกอย่างอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ แล้วพิจารณาว่ากระสือเป็น “สิ่งมีชีวิต” ชนิดหนึ่งที่เทียบเคียงเป็นญาติใกล้ชิดกับมนุษยชาติ ก็จะมีคำถามตามมาทางชีววิทยาอีกมากมายเลย โดยเฉพาะในเชิงการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายของกระสือ
อ่านต่อที่
https://www.naewna.com/likesara/763854
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 96  เมื่อ 29 พ.ย. 23, 13:19

คงเดือดร้อนถึงอาจารย์เจษฎ์อีกแล้ว  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม

หนุ่มชัยภูมินั่งเล่นหน้าบ้านคืนวันพระ ขนหัวลุก! เห็นแสงประหลาดลอยอยู่เหนือยอดไม้ ถ่ายรูปแชร์ให้ชาวบ้านดู เชื่อเป็น "ผีกระสือ" ทำหวาดผวาทั้งตำบล ตกค่ำคนไม่กล้านอนเฝ้านา รีบเข้าบ้านนอน.

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่บ้านกุดละลม ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ปรากฏว่าชาวบ้านต่างหวาดผวา “ผีกระสือ” หลังพบแสงไฟประหลาดลอยขึ้นเหนือยอดไม้กลางทุ่ง ซึ่งชาวบ้านเชื่อเป็นกระสือออกหากินกบเขียด คราวนี้พบหลังวันพระ หลังจากวันลอยกระทง มีคนถ่ายภาพมาได้ เมื่อขยายภาพซูมดูเห็นจะจะ ทั้งหัวทั้งไส้ จากนั้นก็ได้นำภาพถ่ายมาให้เพื่อนบ้านดู ทำให้ชาวบ้านต่างจับกลุ่มพูดกันไปต่างๆ นานา พร้อมนำภาพที่ถ่ายไว้ได้นำมาแชร์ลงโซเชียล

นายจิรัตน์ ตั้งพงศ์ อายุ 32 ปี ชาวบ้านกุดละลมซึ่งเป็นคนถ่ายภาพเอาไว้ได้ เปิดเผยว่า ช่วงประมาณ 2 ทุ่ม วานนี้ซึ่งเป็นคืนวันพระ ขณะที่ตนนั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้านและมองเล่นไปที่ทุ่งนา ได้เห็นแสงไฟลอยขึ้นเหนือยอดไม้กลางทุ่งนาทิศตะวันตกของหมู่บ้าน โดยเห็นแสงไฟประหลาดค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้นดินและลอยสวนทางย้อนกลับแรงลม มุ่งหน้ามาในชุมชน ตนจึงถ่ายภาพเอาไว้ ถ่ายด้วยกัน 5 ครั้ง ติดเพียงเดียว พอจะถ่ายคลิปวิดีโอแต่ก็ถ่ายไม่ติด แสงนั้นจึงค่อยๆ จางหายไป จากนั้นก็ได้เอาภาพถ่ายแชร์ให้เพื่อนบ้านดู และชวนเพื่อนบ้านออกไปดูตรงจุดดังกล่าว แต่ก็ไม่พบ

อ่านต่อได้ที่
 https://www.dailynews.co.th/news/2945932/?fbclid=IwAR2JcWeqFsS4JlhuYgL2he-ECt627rWoTcP9wBKd2i6j2VD314qu9fTCthQ



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 97  เมื่อ 31 ม.ค. 24, 18:40

    28 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า หลังมีภาพข่าวสนั่นในสื่อโซเซียลว่าถ่ายภาพกระสือได้ ขณะลอยผ่านพื้นที่หน่วยกู้ชีพ อบต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ทำให้มีผู้สนใจและแชร์ภาพกระสือกันสนั่น
     จากเรื่องดังกล่าวผู้สื่อได้ลงพื้นที่ไปยัง หน่วยกู้ชีพ อบต.น้ำเขียว และได้พบกับนายสมพร สะหอม อายุ 52 ปี หัวหน้าหน่วยกู้ชีพ อบต.น้ำเขียว ได้เล่าว่าภาพที่มองเห็นรูปร่างคล้ายกระสือ ที่แพร่ในสื่อโซเชียลเป็นภาพถ่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในบริเวณด้านทิศตะวันตกหน่วยกู้ชีพ อบต.น้ำเขียว
    โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านแล้ว โดยคนที่ถ่ายภาพได้คือ น.ส.ปนัดดา ศรีมารักษ์ อายุ 16 ปี บ้านเลขที่  22 /2 ม.6 ต.แก อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เป็นผู้ถ่ายภาพดวงไฟคล้ายกระสือนี้ได้
     จากนั้นผู้สื่อได้ติดต่อสอบถาม น.ส.ปนัดดา ศรีมารักษ์ อายุ 16 ปี ผู้ถ่ายภาพเล่าว่า เมื่อเวลา 19.45 น. ของวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ตนเองกับแฟนได้ขับรถมาแวะเล่นที่หน่วยกู้ชีพและขณะนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ ตนสังเกตเห็นบรรยากาศท้องฟ้ามีแสงของดวงดาวสวยงาม ตนจึงนำมือถือถ่ายภาพดวงดาวไว้ดู
    จังหวะนั้นตนเห็นดวงไฟดวงใหญ่ลอยมาจึงได้ถ่ายไว้ ที่แรกนึกว่าเป็นโคมไฟ หลังจากนั้นได้นำภาพมาเปิดดูก็พบดวงไฟขนาดใหญ่ แต่เมื่อนำภาพให้แฟนดูและซูมดู ถึงต้องผงะเพราะภาพที่เห็นแฟนบอกว่าเป็นกระสือ ตนถึงกับตกใจ ร้องเสียงหลง ทำให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้วยกันถึงกับแตกตื่นออกมา หลังดูรูปภาพแล้วถึงกับตะลึงกันตามตามกัน
      ด้านนายนิธิกันต์ จำปาจีน อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.น้ำเขียว เล่าว่า ตนเป็นคนโพสต์และเผยแพร่ภาพเหล่านี้ออกไปเอง ซึ่งทำให้เป็นที่สนใจของผู้พบเห็นมาก อย่างไรก็ตามในวันดังกล่าวผู้สื่อข่าวยังได้พบว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำธูปเทียนจุดบอกกล่าวแม่ขาวอันมุณี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตภายในต้นประดู่ใหญ่ ในจุดบริเวณที่เกิดเหตุพบภาพกระสือดังกล่าว
       ซึ่งในเวลาเดียวกันหลังมีภาพรูปร่างคล้ายกระสือแพร่ออกไป ทำให้ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนบุรี ได้ออกตรวจพื้นที่ ต่างก็ยังไม่มั่นใจว่าภาพดังกล่าวจะเป็นภาพผีกระสือจริงหรือไม่  ขณะที่นายเฉลิม ไกรทอง อายุ 77 ปี บ้านเลขที่ 170 ม.13 ชาวบ้านน้ำเขียว ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบผีกระสือ แต่อาจจะมาจากพวกผีเร่รอนที่มาจากเจ้าของเลี้ยงดูไม่ดี รักษาไม่ค่อยได้ดูแลไม่ค่อยได้ อาจจะมาจากรักษาของไม่ได้ทำให้สิ่งเหล่านี้ออกหากินก็เป็นไปได้ แต่สำหรับตนเคยเห็นแต่อยู่ตามท้องนาแต่ในหมู่บ้านไม่เคยเห็น
        ขณะที่ชาวบ้านน้ำเขียว หลังจากทราบข่าวเรื่องนี้ต่างได้มีการวิพากวิจารณ์กันสนั่นเช่นกัน ว่าสิ่งเหล่านี้อาจมีอยู่จริงในหมู่บ้าน.012

https://www.naewna.com/channel/783526



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 98  เมื่อ 04 ก.พ. 24, 12:51

เรื่องแปลกๆ จากคดีหนุ่มโรงงานถูกฆาตกรรม มัดมือมัดเท้าทิ้งข้างทาง เลียบมอเตอร์เวย์ จ.ฉะเชิงเทรา คนที่บังเอิญไปพบศพบอกเห็นร่างคนนั่งจ้อง ย้อนมาดูถึงรู้ว่าเป็นศพ สุดท้ายคุยไปคุยมา เป็นคนที่รู้จักกันหมด ท่านเรวัชบอก เรื่องนี้มีประสบการณ์ เขาอาจจะตั้งใจให้มาเจอ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 99  เมื่อ 12 ก.พ. 24, 07:58

พบหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งกฎเหล็กปกครองหมู่บ้าน 9 ประการ หลังเกิดเหตุการณ์คนในหมู่บ้านเสียชีวิตปริศนาติดต่อกันหลายศพเดือนแล้ว 15 ศพ  ชาวบ้านเผยสาเหตุจากการละเมิดกฎข้อห้ามที่บรรพบุรุษตั้งไว้ พอถึงยุคสมัยใหม่อาจจะมีบางคนฝ่าฝืน เหมือนเป็นการ “ผิดผี” พอประกอบพิธีล้างอาถรรพ์ สถานการณ์จึงกลับมาเป็นปกติ ยืนยันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง พบหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากถนนหลวงกว่า 30 กิโลเมตร และอยู่ท้ายเขื่อนลำปาว ขึ้นป้ายข้อความกฎระเบียบหมู่บ้าน บนแผ่นป้ายเหล็กสีน้ำเงิน ตัวอักษรสีขาวขนาดใหญ่ ปักไว้ข้างปากทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อให้คนที่จะเดินทางเข้าหมู่บ้านสังเกตได้ชัดเจน ด้วยข้อความว่า “หยุดอ่านกฎระเบียบหมู่บ้าน 1.ห้ามไม่ให้เอาศพคนตายจากที่อื่นเข้าบ้าน, 2.ห้ามฆ่าสัตว์สี่เท้าในเขตแดนของหมู่บ้าน, 3. ห้ามสีข้าวหรือขนข้าวขึ้นยุ้งฉางในวันศีล 8-14-15, 4. ห้ามนำหญ้าคาเข้ามาภายในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15, 5. ห้ามขนฟืนเข้ามาในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15, 6. ห้ามรถขนดิน หิน เข้ามาในหมู่บ้านในวันศีล 8-14-15, 7. ห้ามขนถ่านเข้าบ้านในวันศีล 8-14-15, 8. ห้ามแขวนขาวัวเข้ามาในหมู่บ้าน, 9. ห้ามไม่ให้เผาถ่านในเขตหมู่บ้าน”

ข้อความที่ปรากฏบนแผ่นป้ายดังกล่าว เป็นเหตุให้บุคลภายนอกที่เดินทางมาพบและได้อ่าน เกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นเรื่องที่แปลก โดยทั่วไปไม่มี นอกจากจะเป็นป้ายบอกชื่อหมู่บ้าน หรือป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์เท่านั้น แต่พอมาพบเจอป้ายนี้ จึงชวนค้นหาคำตอบ

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และที่มาที่ไปของป้ายข้อความนั้น โดยไปพบป้ายดังกล่าวที่ปากทางเข้าบ้านโคกกลางเหนือ หมู่ 5 ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ ได้สอบถามนางคำอุ กองแสน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 5 บ้านโคกกลางเหนือ ทราบว่ากฎระเบียบหมู่บ้าน ตั้งมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ เริ่มแรกคือมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายราย จนคิดว่าเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ เจ้าอาวาสวัด ผู้นำชุมชนและชาวบ้านจึงได้หารือกัน ไปเสาะหาพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคม มาทำพิธี “สูตรถอด” หรือทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อล้างอาถรรพ์ให้กับหมู่บ้าน เป็นการปัดเป่าเสนียดจัญไร จากนั้นร่วมกันตั้งกฎระเบียบหมู่บ้าน 9 ประการ เพื่อให้ “คะลำ” (ภาษาอีสาน) หรือให้งด ให้ละเว้นการกระทำนั้นๆ ตามที่ปรากฏในแผ่นป้าย เหตุการณ์เสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติจึงคลี่คลายไป ชาวบ้านก็ทำมาหากินตามปกติเรื่อยมาหลายสิบปี

นางคำอุ กล่าวอีกว่า แต่เมื่อช่วงเดือน ม.ค.67 ที่ผ่านมา กลับมีเหตุการณ์คนในหมู่บ้านทยอยเสียชีวิตติดต่อกัน 15 ศพ ชาวบ้านก็ตื่นกลัวกัน เพราะบางคนเจ็บไข้ได้ป่วยไม่รุนแรง ไม่น่าจะเสียชีวิต ก็เสียชีวิตก่อนวัยอันควร และไม่ทราบสาเหตุ เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดก่อนตั้งกฎระเบียบหมู่บ้าน บางคนว่าน่าจะเกิดอาถรรพ์ หรือเกิดจากกระทำผิดต่อผีพระภูมิเจ้าที่ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไปตามยุคสมัย อาจะละเมิด ฝ่าฝืน กระทำผิด ทั้งที่เจตนา และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจ้าอาวาสวัด ผู้นำชุมชน และชาวบ้านก็ได้ร่วมกันปรึกษาหารือ เพื่อแก้ไขสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะมีมตินิมนต์ “หลวงพ่อ วัดหนองผักแว่น” มาประกอบพิธีกรรมล้างอาถรรพ์ จากนั้นขึ้นป้ายใหม่ เพื่อให้คนในหมู่บ้านหรือคนที่จะเข้ามาในหมู่บ้านได้อ่าน ได้จดจำและปฏิบัติตาม ทุกวันนี้เหตุการณ์ภายในหมู่บ้านจึงกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนางปัทมาภรณ์ ประทุมวัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโคกกลางเหนือ หมู่ 5 กล่าวว่า นอกจากจะตั้งกฎเหล็ก หรือกฎระเบียบหมู่บ้าน 9 ประการแล้ว ในทางปฏิบัติหากพบบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านหรือบุคคลภายนอกฝ่าฝืน เช่น ฆ่าสัตว์สี่เท้า สีข้าว ขนฟืน ขนหิน นำหญ้าคาเข้ามาในหมู่บ้าน ก็จะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 500 บาท เพื่อนำเงินพัฒนาวัด เป็นต้น ส่วนเหตุผลที่ออกกฎข้อห้ามเพื่อให้คะลำ หรือเป็นข้อห้าม ให้งดให้ละเว้น ก็เป็นไปตามคำแนะนำของหลวงพ่อวัดหนองผักแว่น ผู้นำประกอบพิธีล้างอาถรรพ์ให้กับหมู่บ้าน ซึ่งได้นิมนต์ท่านมาประกอบพิธีล้างอาถรรพ์เมื่อวันที่ 23-24 ม.ค.67 ที่ผ่านมา

นางปัทมาภรณ์กล่าวอีกว่า กฎระเบียบทั้ง 9 ประการ ต่างมีความหมายที่ดีและแอบแฝงด้วยคติธรรม ไม่ต่างกับเป็นกุศโลบายให้ถือศีลกินเจ ไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ไม่ทำลายธรรมชาติ ให้หาเวลาเข้าวัด ปฏิบัติธรรม ที่หากปฏิบัติตามก็จะเกิดผลดีต่อตนเองและชุมชน หากละเมิดก็ไม่ต่างกับการผิดผีบรรพบุรุษ ที่เคยพาประพฤติปฏิบัติมา จึงทำให้เกิดเหตุมีชาวบ้านเสียชีวิตติดต่อกันหลายศพ จนเกิดอาการหวาดผวา รีบนิมนต์หลวงพ่อวัดหนองผักแว่นทำพิธีล้างอาถรรพ์ดังกล่าว  อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าเป็นข้อห้ามที่ไม่งมงาย เป็นการออกกฎระเบียบที่สอดคล้องกับยุคสมัย เพราะสัมผัสได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ชาวบ้านโคกกลางเหนือทุกคนก็มีความเชื่อเช่นนี้ ทุกวันนี้จึงดำเนินชีวิตกันอย่างปกติสุข ดังนั้น ใครไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เพราะอาจจะมีอันเป็นไปถึงแก่ชีวิตก็อาจเป็นได้

https://www.naewna.com/index.php


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 100  เมื่อ 03 มี.ค. 24, 11:04

     เมื่อไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อจะมาผสมโรงคุยในกระทู้ สงครามโลกครั้งที่สอง วันระเบิดลง  ของคุณ Superboy   ก็เลยไปเจอข้อเขียนของจอมพล ป. พิบูลสงคราม  ใช้นามปากกาว่า "สามัคีชััย "พูดถึงแม่นาคพระโขนง ไว้ว่า
   เขาว่านางนาคพระโขนงหยิงไทยคนหนึ่งผู้ลือนามได้ตายเพราะคลอดลูกตายแล้ว ยังมาแปลงตัวเปนผีหยู่กับผัวได้ เวลาทำกับข้าว ของตกไต้ถุน ผีนาคพระโขนงทำมือยาวลอดช่องลงไปหยิบขึ้นมาได้ ผีนาคที่เล่านี้จะมานอนด้วยกับคนพูดอกุสล ฉันพูดมาเพียงนี้เหงื่อแตกเพราะกลัวผีนาคคนสำคัน ที่ฉันพูดถึงผีนาคพระโขนงนี้ ตั้งไจจะหลอกผู้พูดอกุสล จะได้หยุดพูดกันเสียที เพราะจะเอาเหตุผลมาพูดก็คงไม่เชื่อ และบางทีไม่ซาบ ซ้ำไม่ฟังเสียด้วย จึงลองยาขนานผีนาคพระโขนง บางทีจะสักดิสิทธิบ้างก็ได้ คือไช้ยากลางบ้านนั่นเอง ไม่ไช้ยาเหตุผลตามหลักวิชา ฉันขอข้ามเรื่องสับเพเหระข่าวอกุสลนี้ รอไห้ผีนาคพระโขนงช่วยปัดเป่าต่อไป
   ย่อหน้าข้างบนนี้ไม่ได้พิมพ์ผิด  แต่สะกดตามตัวสะกดแบบใหม่ที่จอมพลป. กำหนดขึ้นในยุคนั้นค่ะ
   อ่านข้อความเต็มได้ที่นี่
   https://www.the101.world/plaek-pibulsongkram-mae-nak-phra-khanong/
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 101  เมื่อ 16 เม.ย. 24, 15:47

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 102  เมื่อ 18 เม.ย. 24, 10:39

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 103  เมื่อ 19 เม.ย. 24, 17:38

จากเพจ  อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์
 
เมื่อวาน ให้สัมภาษณ์นักข่าวช่องอมรินทร์ทีวี เกี่ยวกับข่าว "ผีฮ่องกง" ครับ เลยเอามาให้ดูกัน (ดูลิงค์ด้านล่าง)
.
. คือ ภาพถ่ายของจริงที่เป็นประเด็นเนี่ย จะพบว่า จริงๆ มันเป็นภาพกว้างมากเห็นเต็มถนน เต็มตัวตึกหน้าร้านนั้นเลย (รูปที่แชร์ๆ กัน คือ ซูมมาเฉพาะตัวคนถ่าย) ตัวคนในภาพค่อนข้างเล็ก สะท้อนกระจกมา และก็อยู่ในมุมมืดด้วย 
.
..  เวลาถ่ายภาพด้วยกล้องมือถือ ที่หน้าจอก็ไม่ค่อยสว่างมาก สายตาและความคิดก็น่าจะไปจดจ่ออยู่กับการจัดองค์ประกอบภาพ มองเล็งไปที่จุดที่เด่นชัต (เช่น ภาพกราฟิตี้แมว ที่หน้าร้าน) ... เลยเป็นไปได้ง่ายมากครับ ที่จะไม่สังเกตเห็น ถ้ามีใครมาแอบ "โฟโต้บอมพ์" แกล้งร่วมเฟรมอยู่ด้านหลังครับ
.
 ... ส่วนตัว คิดว่าไม่น่าจะเป็นการทำคอนเทนต์ หรือถูกตัดต่อภาพครับ (ซึ่งเช็คได้ไม่ยาก ถ้าเอาไฟล์ภาพของจริง มาเช็คได้) น่าจะแค่เข้าใจผิดนั่นแหละครับ
-----------------------------
จากข่าว "พิสูจน์ผีฮ่องกงสาวโต้จัดฉาก ทนายชี้ถ้าสร้างคอนเทนต์มีความผิด" | ทุบโต๊ะข่าว | 18/4/67
#ผีฮ่องกง #คอนเทนต์ #ทุบโต๊ะข่าว
พิสูจน์ผีฮ่องกงสาวโต้จัดฉาก ทนายชี้ถ้าสร้างคอนเทนต์มีความผิด
ไขปริศนา #ผีฮ่องกง ยูทูบเบอร์สาวยันไม่ได้สร้าง #คอนเทนต์ เรียกยอดไลก์ อ.เจษฏา ลั่นไม่ใช่ผี ทนายเตือนระวังโทษหนักถ้าไม่ใช่เรื่องจริง
จาก


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 [7]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.047 วินาที กับ 19 คำสั่ง