เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
อ่าน: 41037 ขอความรู้เกี่ยวกับนวนิยาย "ขุนศึก" ของ ท่านไม้ เมืองเดิม ครับ
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 15 พ.ค. 11, 12:40

          ได้เคยฟังเพลงนี้บันทึกเสียงในเวลาต่อมาโดยคุณกำธร และคุณอารีย์
แต่ในยูทูบ เป็นเสียงของ คุณชายถนัดศรี และคุณนํ้าผึ้ง

          นึกอยู่ว่า น้ำผึ้งไหน เมื่อได้ฟังเสียงแล้วจึงจำได้ว่า น้ำผึ้งคือชื่อเดิมของคุณนงลักษณ์ โรจนพรรณ
นักแสดงชื่อดังอีกคนหนึ่งของช่องสี่ บางขุนพรหม ครับ

เชิญรับฟังเพลงไพเราะ เพลงเอกประกอบละครขุนศึก ครับ

                http://www.youtube.com/watch?v=1MOo_FYucvY
บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 15 พ.ค. 11, 14:15

เรียนคุณศิลาครับ ผมได้ข่าวมาว่า บริษัททีวีซีนเตรียมจะสร้างละคร “ขุนศึก” ถ้าสำเร็จ ผมคนหนึ่งหละครับจะคอยดูตั้งแต่ตอนแรก เพราะนวนิยายเรื่องนี้ เปิดฉากอย่างเกริกไกร ณ เมืองแครง เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพ ครั้นตกพระโอษฐ์สิ้นพระราชดำรัส สำเนียงทวยทแกล้วทหารนับแสนก็โหมโห่กาหล ปืนไฟใหญ่น้อยคำรณนฤนาท ถ้าฉากเปิดเรื่องเขาสร้างดีก็จะดูต่อ แต่ถ้าไม่เหมือนในจินตนาการของผมซึ่งเกิดขึ้นจากภาพพจน์ที่ท่านไม้ เมืองเดิม นฤมิตอักษรไว้ ก็คงจะปิดทีวีแล้วเลิกกันครับ

   สารภาพกับคุณศิลาครับ คนรุ่นหลังอย่างผม เคยคุ้นกับเพลง “ขุนศึกกำสรวล” มากกว่า “ฟ้าโลมดิน” อยากทราบว่า เพลงนี้ ประพันธ์โดยครูเพลงท่านใดขอรับ

 
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 6362


ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 16 พ.ค. 11, 09:53

             ชื่อเพลง ฟ้า"รัก"ดิน ครับ  ตามข้อมูลของทายาทผู้ประพันธ์ทำนองที่ระบุไว้ในความเห็นก่อน
                   คำร้องโดย ครูชาลี อินทรวิจิตร ทำนองโดย ครูแจ๋ว - สง่า อารัมภีร

             อายุของเพลงประมาณ 50 ปีแล้ว แต่ยังเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นเก่าเพราะความไพเราะของเนื้อและทำนอง
             ละครขุนศึกเมื่อประมาณกึ่งศตวรรษนั้นจัดเป็นตำนานของช่องสี บางขุนพรหมที่ปัจจุบันคือ ช่องเก้า อสมท. ครับ

              
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 02 พ.ค. 12, 10:47

เรียนคุณศิลาครับ ผมได้ข่าวมาว่า บริษัททีวีซีนเตรียมจะสร้างละคร “ขุนศึก” ถ้าสำเร็จ ผมคนหนึ่งหละครับจะคอยดูตั้งแต่ตอนแรก เพราะนวนิยายเรื่องนี้ เปิดฉากอย่างเกริกไกร ณ เมืองแครง เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพ ครั้นตกพระโอษฐ์สิ้นพระราชดำรัส สำเนียงทวยทแกล้วทหารนับแสนก็โหมโห่กาหล ปืนไฟใหญ่น้อยคำรณนฤนาท ถ้าฉากเปิดเรื่องเขาสร้างดีก็จะดูต่อ แต่ถ้าไม่เหมือนในจินตนาการของผมซึ่งเกิดขึ้นจากภาพพจน์ที่ท่านไม้ เมืองเดิม นฤมิตอักษรไว้ ก็คงจะปิดทีวีแล้วเลิกกันครับ

ขุนศึกของทีวีซีนตอนแรก เริ่มแล้วเมื่อวาน (๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕)

เอาตอนแรกมาให้คุณชูพงศ์ตัดสินใจว่าจะเปิดทีวีดูต่อหรือไม่



 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 02 พ.ค. 12, 15:20

คำบอกเล่าจากคุณชุ่ม ณ บางช้างกล่าวเรื่องบุคลิกของ ก้าน พึ่งบุญ ณ อยุธยา (ไม้ เมืองเดิม) ว่า

"ก้านมีรูปร่างสันทัดคน ผมสั้นเกรียน ตาเสียไปข้างหนึ่ง ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา ผิวค่อนข้างขาว แต่กร้าน

หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนวัดราชบพิตร อายุ ๑๒ ปี บิดาท่านนำไปฝากเข้ารับราชการอยู่ในสังกัดกรมมหาดเล็กในรัชกาลที่ ๖ ราวพ.ศ. ๒๔๖๕ และท่านได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณมาเป็นระยะเวลา ๕ ปี จึงได้ลาออกจากราชการเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗ ซึ่งท่านอายุได้ ๑๗ ปีเพื่อประกอบทำงานส่วนตัว

แต่เมื่อลาออกแล้วก็มิได้เป็นไปตามที่คาดหวัง จึงกลายเป็นคนว่างงาน ในช่วงนี้เองจึงได้เที่ยวเตร่ไปตามหัวเมืองต่าง ๆ คบเพื่อนฝูงมาก และ "เริ่มติดสุราจนเป็นนิสัย" ซึ่งตรงนี้เองทำให้ท่านเข้ากับชาวชนบทได้เป็นอย่างดี อีกทั้งชนบทนั้นสมบูรณ์ด้วยสุราเถื่อนมากมาย

และในห้วงเวลาเดียวกันนี้เคยขึ้นไปสมัครงานสังกัดกองทาง จังหวัดเชียงใหม่ ในความควบคุมของหลวงยันตรกิจ ซึ่งเป็นช่วงก้านไม่สมหวังในความรัก และในระหว่างที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ได้เริ่มเขียนนวนิยายเรื่องยาว "ขุนศึก" และส่งลงมาตีพิมพ์ยังกรุงเทพฯ"

ข้อมูลจากวิเคราะห์เรื่องขุนศึก โดยสุวรรณ เชื้อนิล พ.ศ. 2520
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 02 พ.ค. 12, 15:37

การวิเคราะห์เรื่องขุนศึก ของไม้เมืองเดิมนั้นท่านวิเคราะห์ไว้ว่า เรื่องขุนศึกนี้ท่านได้อิทธิพลจากเรื่องขุนช้างขุนแผน

ขุนแผนและเสมา มีชีวิตในวัยเยาว์ในเส้นทางเดียวกันคือ ร่ำเรียนวิทยาคมจากพระสงฆ์ โดยขุนแผนเรียนจากสำนักวัดป่าเลไลย์ ส่วนเสมาร่ำเรียนจากสำนักดาบวัดพุทไธสวรรค์ ต่างมีอาวุธคู่กายคือ ดาบฟ้าฟื้นในขุนแผน และดาบสองมือในเสมา
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 02 พ.ค. 12, 16:51

สำนวนของไม้ เมืองเดิมสิ้นสุดตรงที่ หมื่นสินและสมบุญศิษย์รักของเสมา ได้ลอบทำร้ายหลวงณรงค์วิชิตและวิเศษไกรสรสองสหายจนสลบ หลวงณรงค์ได้รับบาดเจ็บ และงานมงคลการแต่งงานของหลวงณรงค์วิชิตและเรไรจึงเลื่อนกำหนดออกไป

สำนวนของสุมทุม บุญเกื้อ เริ่มที่ หลวงณรงค์วิชิต ได้รับคำสั่งให้เดินทางไปทัพเพื่อช่วยเมืองเมาะลำเลิงรบกับพม่า
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 02 พ.ค. 12, 18:00

       ขอคุยจากความทรงจำ

ขุนแผนประกอบคาถาอาคมแล้วจ้างครูดาบตีดาบด้วยเงิน ๑๕ ชั่ง  เป็นเงินจำนวนสูงประมาณค่าตัวธิดาเจ้าเมืองสุโขทัย
พ่อของขุนแผนมีตำราเก็บไว้ในตู้   แม่ยังอ่านออกเขียนได้สอนหลานต่อมา  แสดงว่ามีภูมิหลังทางทหารและมีตำราไสยศาสตร์
ตามความคิดของนักขับเสภาหลายคน

วันหนึ่งขุนแผนก็คบคิดกับมอญ(ลูกชายคนเล็ก)ยกทัพเข้ามาในพระราชอาณาจักรเพื่อล้างแค้นลูกชายคนโตที่ทวงบุญคุณพ่อ   จะเป็นอุบายประการใดก็โทษประหารทั้งสิ้น
เสียดายที่ได้เขียนเรื่องดำน้ำไว้เลอเลิศน่านับถือยิ่ง   เรื่องลุยไฟยังหาหลักฐานไม่ได้  นอกจากตอนนางสีดาลุยไฟ          
  

เวลาของเสมาเป็นระยะเวลากอบกู้เอกราช   บ้านเมืองยังไม่สงบ  ญาติพี่น้องแตกแยกไปตามหัวเมืองต่าง ๆ  ใช้ชีวิตยากเข็ญ    ไม่รู้จักกัน
เสมาเรียนพิชัยสงคราม  ท่องตำราการวางค่าย  การยกทัพข้ามภูมิประเทศต่าง ๆ เรียนการต่อสู้ป้องกันตัวจากสำนักดาบมาตรฐาน
เสมาเป็นผู้ใช้แรงงาน  ตีเหล็ก  อยู่หน้ากองไฟ   ไม่เข้าใจระเบียบราชการ  จึงโดนกลั่นแกล้งเมื่อแรกเข้ารับราชการ   เสมาอาศัยพระพุทธคุณเป็นที่พึ่ง
เมื่อเอ่ยถึงสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว   เสมาก็พนมมือเหนือเกล้า   พร้อมจะใช้ชีวิตเป็นราชพลี




คุณสมบัติของพระเอกเสภากับนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องขุนศึกที่เหมือนกัน คือ ความรักชาติ  พลีชีวิตเพื่อบ้านเมือง  ยอมรับโทษทัณฑ์
โดยสงบ


บุคคลิกของพระเอกแทบทุกคนของคุณชุ่ม ณ บางช้าง  เป็นผู้มีบุญมากำเนิด    มีของวิเศษที่อาจารย์เลี้ยงไว้ให้(ตำราเลี้ยงม้าหิน คือวางหญ้าไว้หน้าม้าเป็นเดือน เป็นปี
จนวิญญาณม้ามากำเนิด  คือกินหญ้า)
มีอมุษย์(ไม่ใช่คน)มาเห็นเมีย  
มีนางงามที่ชำนาญเพลงอาวุธมาช่วยรบ  และสร้างบ้านสร้างเมืองได้เมื่ออายุยังน้อยเกือบทั้งสิ้น   อ่านสนุก  


ผู้ชาย  สามแบบ      ฉากหลังคนละเวลา     อาวุธเกือบเหมือนกัน

บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 03 พ.ค. 12, 04:50



        ความรักและความผิดหวังในเรื่องขุนช้างขุนแผน  เป็นเรื่องดูดดื่มจับใจคนอ่านคนฟัง
คนท่องจำไว้ได้มาก  ไม่ว่าจะเป็นตอนอาบน้ำไขบัวตะกั่วทำ(บ่าวที่มีหน้าที่ตักน้ำในเรือนคงบ่นอุบในตอนเช้าว่าเล่นอาบน้ำเปลืองจัง) 
หรือสร้อยฟ้าเรียนรู้เรื่องการปรนนิบัติได้รวดเร็ว

เมื่อพระไวยนอนนึกว่าตอนแต่งงานจะเข้าห้องผู้หญิงคนไหนก่อน    คนอ่านคนฟังก็ถอนหายใจอิจฉาพระไวยตาม ๆ กัน
ทั้งเมื่อเรือเล็กแล่นเข้าอ่าวตื้น  หรือเรือสำเภากินใบออกทะเลไป     เป็นธรรมชาติอันงดงามที่ท่านผู้เขียนจินตนาการไว้


        ชาวบ้านชาวสวนที่กรำงานหนักมาทั้งวัน  แล้วมาฟังการขับเสภาก็เข้าใจได้ถึงความไพเราะของถ้อยคำและสำนวนของผู้ขับบางรายที่ "อร่อย" ถึงลือ
เมื่อมีการพิมพ์หนังสือ ขุนช้างขุนแผน ออกมา      ชาวบ้านร้านถิ่นก็ยินดีออกเงินอันหาได้ยาก  แลกซื้อไว้ให้ลูกอ่านให้ฟังที่บ้าน
หนังสือที่เริ่มพิมพ์ออกมาเป็นความรู้ และเรื่องแปล  จำนวนพิมพ์น้อยมาก  และรายได้จากสมาชิกไม่พอค่าพิมพ์ด้วยซ้ำไป


        ความรักของเสมาเป็นความภักดีของผู้ชายที่มองผู้หญิงที่สูงกว่า  ผู้ชายที่มีฝีมือในการรบที่ต้องฟันฝ่ากว่าจะได้แต่งงานออกเรือนกับนางข้าหลวงคนงาม
เหนื่อยยากสาหัสนัก


        จำได้ว่าเมื่อหนังสือออกมาไม่นานนัก  มีผู้วิจารณ์ว่า  ไม่สมจริงเพราะต้นจำปีที่ไหนจะโตขนาดนั้น        ข้าพเจ้าก็งงไปนานเพราะโตมาในบ้านที่มี
ต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่นทั้งบริเวณ   เมื่อวันก่อนก็ทอนจำปีและจำปาเสียสองต้นเพราะสูงใหญ่เกินเก็บ        ว่าจะเขย่าต้นพิกุลหน้าบ้านเก็บดอกมาฝากคุณหนุ่มสยาม
ก็ไม่มีแรงพอเพราะตื่นมาอ่านหนังสือแต่เช้าตรู่
บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 03 พ.ค. 12, 08:19

ขอบคุณคุณวันดีที่ตื่นเช้ามาอธิบายอีกครั้ง อันว่าจำปีและพิกุลนั้น กลิ่นหอมนั้นต้องทวนลมได้ฉันใด ความรักของเสมากับเรไรกลับทวนกระแสความรักง้องอนกันระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาวได้อย่างมิรู้ลืม

แม้ว่าแหวนปากโมกน้อยจะเป็นวัตถุพยานแห่งรักทำให้มีอิทธิพลด้านกำลังใจให้ขุนศึกไชยชาญขุนพลออกรบโดยมิหวั่นเกรงอันตรายใด ๆ เพื่อที่จะกลับมาคืนแหวนให้กับคนรักได้ แต่อีกใจหนึ่งก็ถวายมอบให้แก่องค์พระมหากษัตริย์ผู้เป็นเจ้าชีวิตได้ในเพลาเดียวกัน

ต้นจำปีนั้นเป็นไม้ใหญ่ ลำต้นสูงแข็งแรง ไม้นำมาทำเครื่องเรือนได้ดีไม่แพ้ไม้สัก แต่คนถือคติทำนองไม้จำปี จำปานำมาใช้ทำมาใช้ทำของประเภทหนึ่ง เลยติไม่ยอมใช้ไม้จำปี ดั่งเครื่องดนตรีทางมอญใช้ในงานศพจนติว่าเครื่องมอญใช้กับงานอวมงคลเท่านั้น ต้นจำปีสูงใหญ่เกินกว่าตึก 5 ชั้น สูงเท่าตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอสก็เคยเห็นมาแล้ว

อยากได้กลิ่นดอกพิกุลพร้อมลูกพิกุลสีแดง ๆ นำมาขยี้เล่นเสียให้มันส์มือ

"ชมดอกไม้เบ่งบานสลอน, ฝูงภมรวะว่อนใฝ่หา.
ดอกพิกุลยี่สุ่นจำปา, ลมพัดพารำเพยขจร.
เกดกระถินส่งกลิ่นหอมฟุ้ง, กำจายจรุงระรื่นเกสร.
จันทน์กะพ้อช่างล่อภมร, ให้หลงเริงร่อนบินว่อนตอม"
บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 10 พ.ค. 12, 18:42

กราบขอบพระคุณคุณศิลา คุณหนุ่มสยาม และคุณวันดีเป็นพหุคูณครับที่เมตตานำข้อมูลมาเพิ่มเติม กระผมเห็นจะปล่อยให้ท่านผู้อื่นชม “ขุนศึก” ฉบับช่องสามยุค ๒๕๕๕ แทนแล้วหละครับ คุณน้าท่านเห็นเสมาสมัยโลกาภิวัตน์ ถึงกับออกปาก “ทำไมยังขาวอยู่เลย ขนาดไปย้อมมาแล้วนะเนี่ย” สิ่งที่ผมกำลังคอยดูต่อไป คือจะมีสำนักพิมพ์ไหนนำ “ขุนศึก” มาตีพิมพ์ใหม่หรือเปล่า พิมพ์ โดยไม่สนใจว่ากระแสละครจะดังหรือไม่ดัง พิมพ์ เพราะอยากให้คนรุ่นใหม่ซึ่งยังไม่เคยอ่านได้เสพอรรถรส ผมทราบว่า มีสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง เคยตีพิมพ์งานของท่านไม้ เมืองเดิม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่ผ่านมานี่เอง เขาพิมพ์ “นางถ้ำ” “บางระจัน” “สินในน้ำ” แหละ “ชายสามโบสถ์” ครับ ผมก็เลยซื้อนางถ้ำ กับชายสามโบสถ์ ให้ห้องสมุดสมาคมคนตาบอดแห่งชาติไปเรียบร้อย หวังว่า อีกไม่นาน จะเห็น “ขุนศึก” สิบเล่มจบ ใส่กล่องใหม่เอี่ยม รูปเล่มน่าพิศ น่าสะสมวางบนแผงหนังสือบ้าง จำได้ว่า สมัยช่องเก้าสร้างขุนศึก (พ.ศ. อะไรก็เลือนเสียแล้วครับ) ก็มีหนังสือตีพิมพ์ใหม่มาให้อ่านกัน ขายดีเสียด้วย ผมรำๆจะซื้อแล้วในตอนนั้น แต่ยังฟังผู้ชนะสิบทิศของท่านยาขอบไม่จบครับ จึงประวิงไว้ ซื้อ “บางระจัน” “สำเภาล่ม” “รอยไถ” “แผลเก่า” ของท่านไม้ เมืองเดิม มาเก็บแทน โชคดี แม่พระคงคาท่านเอื้ออนุกูล หนังสือชุดนั้นรอดจากมหาอุทกภัยปีกลายไปอย่างหวุดหวิดจวนเจียนเต็มที เพี่ยง... ถ้าขุนศึกพิมพ์ใหม่ ผมจะยุหนุนให้ห้องสมุดสมาคมคนตาบอดซื้อ ส่วนตัวเอง รอฟังเมื่อผลิตเป็นซีดีแล้ว คิดว่าสิบเล่ม คงบรรจุลงซีดีสักสองสามแผ่นกระมังครับ (มิใช่ขี้เหนียวไม่อยากซื้อเก็บไว้นะครับ แต่ น้ำท่วมปีก่อนสอนให้รู้ว่า ยิ่งหนังสือเยอะ ภาระขนย้ายยิ่งแยะ ครั้นน้ำลด กว่าจะจัดเข้าตู้หมด แทบกระอักครับผม)
บันทึกการเข้า
ลุงไก่
สุครีพ
******
ตอบ: 1281



ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 15 พ.ค. 12, 22:16

ผมขออนุญาตใช้กระทู้นี้ประกาศหาหนังสือเล่มหนึ่งของท่านไม้ เมืองเดิม เลยนะครับ

   ขณะนี้ ผมกำลังตามหานวนิยายเรื่อง “ทหารเอกพระบัณฑูร” ครับ ตั้งใจไว้ว่า จะซื้อเก็บเป็นสมบัติส่วนตัวเล่มหนึ่ง กับบริจาคให้ห้องสมุดคนตาบอดและผู้พิการทางสื่อสิ่งพิมพ์แห่งชาติอีกเล่มหนึ่ง จึงอยากทราบว่า พอจะหาซื้อได้จากที่ไหนครับ
 


คิดถึงคุณชูพงค์
ก็ได้มาำพบคำรำพึงรำพันว่าอยากจะได้ "ทหารเอกพระบัณฑูร" ไว้ครอบครอง
ไม่รอช้าลุงไก่ได้บังเอิญผ่านสถานที่คาดว่าจะพบ "อ้ายเดือน ออกหลวงกลาโหม" ทหารคู่พระทัยพระบัณฑูร คิดว่าจะหามาฝากคุณชูพงค์ให้ได้สามเล่มสมความรำพัน
อนิจจาเอย ... ปรากฎว่าเหลือเป็นเล่มสุดท้ายในร้าน ถ่ามไถ่ดูแล้ว ทราบมาว่าจะไม่พิมพ์ใหม่อีกแล้ว
หากคุณชูพงค์ไม่รังเกียจ ลุงไก่ก็จะขออ่านให้จบสักสามรอบก่อนจึงจะส่งมอบให้คุณชูพงค์
ก็คงจะสมคะเนของอ้ายเสมาเป็นแม่นมั่น
สำนวนของ "ไม้เมืองเดิม" นี่อ่านยากชะมัด ผมก็เพิ่งได้เคยอ่านเป็นครั้งแรกเสียด้วย
อ่านสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลังยังง่ายกว่าตั้งแยะ

คิดว่าจะทำเป็นหนังสือเสียงให้คุณชูพงค์ได้ฟัง ก็เกรงไปว่าสำนวน ลีลาการอ่าน จะออกไปทางแนวของคุณวีระ ธีรภัทร ตอนจัดรายการวิทยุ แบบตามใจผู้จัด ขัดใจผู้ฟัง
คุณชูพงค์จะทนฟังได้หรือเปล่า?

สำหรับหนังสือชุดสิบเล่ม "ขุนศึก" นั้น ที่้ร้านยังมีเหลืออีกหลายชุด ผมกะ่ว่าต้นเดือนหน้าจะไปถอยออกมาหนุนหัวนอนแทนหมอนให้ได้เป็นแม่นมั่น

หลังไมค์มาหาผม คงจะสมดังจินตนา หรือจะให้ผมโทรไปหาที่ทำงานก็ได้ ไม่คิดค่าโทร

บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 17 พ.ค. 12, 15:06

กระผมกราบขอบพระคุณคุณลุงไก่เป็นอย่างสูงยิ่งครับที่เมตตา แต่คุณลุงมีอัญมณีไว้ประดับเรือนแล้ว ผมมิบังอาจแม้แต่ขอยืมบรรณทรัพย์ล้ำค่าจากคุณลุงหรอกครับ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ผมจะยึดสุภาษิตข้อนี้ ตามหา “ทหารเอกพระบัณฑูร” ของท่านไม้ เมืองเดิม ตามกำลังความสามารถของตนสืบไป เชื่อว่าสักวันคงได้มาครับผม

บันทึกการเข้า
ดีเจกบ
อสุรผัด
*
ตอบ: 10


ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 21 พ.ค. 12, 16:32

คุณชูพงศ์ค่ะ ยังคงอยากได้หนังสือ ทหารเอกพระบัณฑูรย์ อยู่หรือปล่าวคะ ดิฉันได้มาเพราะความบังเอิญ
จึงตั้งใจที่จะแบ่งปันให้คุณชูพงศ์ 1 เล่มค่ะ ยิ้มกว้างๆ
บันทึกการเข้า
chupong
พาลี
****
ตอบ: 319


ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 22 พ.ค. 12, 10:07

เรียนคุณดีเจกบครับ

   ผมขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับที่คุณเมตตา ความอยากได้หนังสือ “ทหารเอกพระบัณฑูร” บทประพันธ์ล้ำค่าของท่านไม้ เมืองเดิม สารภาพตามตรงว่ายังมีอยู่ครับ แต่ลดความปรารถนาเฉพาะตัวเองลงแล้ว ที่ยังเหลือคือ อยากเสาะแสวงนวนิยายเล่มนี้เข้าห้องสมุดหนังสือเสียงของสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทยเพื่อหาอาสาสมัครอ่านลงซีดีต่อไปครับ ตัวผมนั้น รอฟังเมื่อซีดีเสร็จเห็นจะเหมาะกว่า ไม่ต้องรบกวนญาติผู้ใหญ่ทางบ้านท่านด้วย เพื่อนๆคนตาบอดอีกมากมายก็จะพลอยได้ฟังเช่นกันครับ
 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.07 วินาที กับ 20 คำสั่ง