เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
อ่าน: 75525 ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด
boonrod
อสุรผัด
*
ตอบ: 6


 เมื่อ 11 พ.ค. 11, 16:18

ต้นสาละ ที่คนไทยสับสนและเข้าใจผิด  –  11 พ.ค.54
   
   วันอังคารที่ ๑๗ พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ตรงกับวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เป็น ‘วันวิสาขบูชา’  นอกจากจะเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนแล้ว องค์การสหประชาชาติได้ยกย่องเป็นวันสำคัญของโลก/International Recognition of The Day of Vesak  ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  มีสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติตอนประสูติและปรินิพพาน คือ ต้นสาละ 
พุทธศาสนิกชาวไทยสับสนและเข้าใจผิดเกี่ยวกับต้นสาละ และโบราณาจารย์สำคัญผิดว่าเป็นต้นรัง เพราะมีลักษณะทั่วไปคล้ายกัน  โดยเฉพาะคนในปัจจุบันก็ไม่ศึกษาให้ถ่องแท้จึงเชื่อและเรียกต้นลูกปืนใหญ่ว่าต้นสาละตามๆ กัน  เพื่อให้เข้าใจถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ขอเสนอรายละเอียดให้เห็นความเหมือนและต่างของต้นสาละ ต้นรังและต้นลูกปืนใหญ่
   ขณะค้นคว้าก็ได้พบว่า นักวิชาการไทยส่วนใหญ่และราชบัณฑิตยสถานให้ชื่อพฤกษศาสตร์ต้นสาละผิดว่า Shorea robusta Roxb. (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2524 หน้า 1184)  ความจริงต้องชื่อ Shorea robusta C.F. Gaertn. จึงได้ทักท้วงและนำหลักฐานอนุกรมวิธานพืช/Plant taxonomy ไปชี้แจงราชบัณฑิตยสถาน และก็ยอมรับตามที่ได้เสนอไป - ดูจม.ท้ายบทความ
   นอกจากนี้ พุทธศาสนาเริ่มสูญไปจากอินเดียตั้งแต่มุสลิมครอบครองอินเดีย และบุกนาลันทาได้เผาและฆ่าพระเณรนับหมื่นรูป ที่หลบหลีกได้ก็หนีไปยังที่ต่างๆ พุทธศาสนสถานถูกทิ้งร้างมานาน  ต่อมา พ.ศ.๒๑๓๓ นักบวชมหันต์ (Saivite Mahant นิกายหนึ่งในศาสนาฮินดู นับถือพระศิวะเป็นใหญ่) มาครอบครองพุทธคยาและสร้างอาศรม/วัดอยู่ข้างๆ และเก็บผลประโยชน์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลกที่ไปสักการบูชา แต่ไม่ดูแล-บำรุงรักษาจึงชำรุดทรุดโทรม  จน ‘อนาคาริกธรรมปาละ’ ชาวศรีลังกาได้ใช้ความเป็นชาวพุทธ ในนาม ‘มหาโพธิสมาคม’ เรียกร้องสิทธิการดูแล และผลประโยชน์ของเจดีย์มหาโพธิ์พุทธคยาจากผู้ครอบครองตามกฎหมายมานานกว่า ๔๐๐ ปี  โดยได้เขียน จม.ถึงผู้นำประเทศที่นับถือพุทธศาสนา ขณะเดียวกันก็เขียนบทความและส่ง จม.ถึงนักคิด นักเขียนและนักการเมืองอินเดีย  แม้จะโดนกลั่นแกล้งและถูกทำร้ายก็ยังเรียกร้องด้วยอหิงสาไม่ย่อท้อ จนชาวอินเดียก็เริ่มเข้าใจและให้ความเห็นใจชาวพุทธ แต่รัฐบาลอินเดียก็ลำบากใจที่จะยกเลิกกรรมสิทธิ์การครอบครองพุทธคยา  เวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี จน ‘อนาคาริกธรรมปาละ’ ได้บวชเป็นพระภิกษุและผลงานเกิดหลังมรณะภาพแล้ว - รัฐบาลอินเดียได้แก้ปัญหา โดยตั้งคณะกรรมการฯ และให้ชาวพุทธร่วมเป็นกรรมการดูแลพุทธคยามาจนปัจจุบันนี้
   จากการค้นคว้า ได้เก็บข้อมูลต้นสาละและเรื่องที่เกี่ยวข้องมาตลอดหลายปี ดู ‘ต้นสาล: ไม้สำคัญในพระพุทธศาสนา’ ในนิตยสาร ’ศิลปวัฒนธรรม’ ปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๗/พฤษภาคม ๒๕๕๔

   พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีเมตตาต่อมนุษยชาติไม่มีประมาณ ควรที่พวกเราจะน้อมรำลึกถึงพระพุทธองค์ ใน ‘วันวิสาขบูชา’ ด้วยการไปทำบุญ-เวียนเทียนตามพุทธศาสนสถาน  แต่อย่าไปสักการบูชา หรือเวียนเทียนรอบต้นลูกปืนใหญ่นะ! ! !

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 11 พ.ค. 11, 16:33

มีต้นไม้ดอกสีชมพูอยู่พันธุ์หนึ่ง มักปลูกอยู่ตามวัด ด้วยเข้าใจผิดว่าเป็นต้นไม้ในพุทธประวัติ

คุณเทาชมพูคงเคยเห็นต้นไม้นี้

สาละลังกา




คุณวิกกี้ภาคภาษาไทยยังเข้าใจผิด http://th.wikipedia.org/wiki/สาละลังกา
 
สาละลังกา หรือ ลูกปืนใหญ่(Cannonball Tree) เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรงทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน

เรื่องนี้คุณวิกกี้ภาคภาษาอังกฤษ http://en.wikipedia.org/wiki/Couroupita_guianensis อธิบายไว้ว่า


In Sri Lanka, Thailand and other Buddhist countries the tree is often planted at Buddhist temples. It is here mistaken as the Sala tree, Shorea robusta, the tree under which the Buddha passed away and under which the previous Buddha Vessabhu attained enlightement.

Sala tree, Shorea robusta ที่คุณวิกกี้ภาคภาษาอังกฤษพูดถึงก็คือ ต้นสาละอินเดีย ต้นไม้ในพุทธประวัติตัวจริงเสียงจริงนั่นเอง  ยิ้มเท่ห์ http://en.wikipedia.org/wiki/Shorea_robusta




เรื่องความสับสนของต้นไม้ ๒ ชนิดนี้ รศ.ดร. นริศ ภูมิภาคพันธ์ ได้ให้ข้อมูลไว้ในเว็บของวัดไทร http://www.watsai.net/sal_tree.php


เรื่องนี้ชาวพุทธไทยเข้าใจผิดอยู่มาก

ทราบแล้วกรุณาบอกต่อถือว่าทำบุญ


 ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
siamese
หนุมาน
********
ตอบ: 7165


หนุ่มรัตนะกับภูเขาทอง


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 11 พ.ค. 11, 16:44

คงจะแก้ไขได้ยากสักหน่อยนะครับ ขนาดไปเที่ยวเขมร ยังมีต้นสาละลังกา กราบไหว้แทนองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ครับ  เมืองไทยก็ลบล้างความเชื่อเดิมได้ยาก
บันทึกการเข้า
LOFT
อสุรผัด
*
ตอบ: 11


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 13 พ.ค. 11, 21:44

เห็นด้วยครับ ว่าแก้ไขยาก  อีกต้นที่เข้าใจกันผิดก็คือ ต้นอโศก
บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 13 พ.ค. 11, 22:29

ในประเทศไทย มีสาละอินเดีย ของแท้ ๆ นี้ให้ดูไหมคะ มีที่ไหนบ้าง จะไปกราบไหว้ให้หายหลงผิดค่ะ
บันทึกการเข้า
bangplama
ชมพูพาน
***
ตอบ: 168



ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 13 พ.ค. 11, 22:48

"ในประเทศไทย หลวงบุเรศรบำรุงการ ได้นำเอาต้นสาละใหญ่หรือต้นซาลมาถวายสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยปลูกไว้ที่หน้าพระอุโบสถ 2 ต้น กับได้น้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2510 อีก 2 ต้น ในจำนวนนี้ได้ทรงปลูกไว้ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 1 ต้น กับทรงมอบให้วิทยาลัยเผยแพร่พระพุทธศาสนา ต.กระทิงลาย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีก 1 ต้น

อาจารย์เคี้ยน เอียดแก้ว และอาจารย์เฉลิม มหิทธิกุล ก็ได้นำต้นสาละใหญ่มาปลูกไว้ในบริเวณคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และที่ค่ายพักนิสิตวนศาสตร์ สวนสักแม่หวด อ.งาว จ.ลำปาง

พระพุทธทาสภิกขุ ก็ได้นำมาปลูกไว้ที่สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และนายสวัสดิ์ นิชรัตน์ ผู้อำนวยการกองบำรุง ก็ได้นำมาปลูกไว้ในสวนพฤกษศาตร์พุแค จ.สระบุรี ซึ่งต่างก็มีความเจริญงอกงามดี และคาดว่าคงจะให้ผลเพื่อขยายพันธุ์ไปตามสถานที่ต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นในเวลาอันควร"
 ที่มา dhammajak.net
บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 14 พ.ค. 11, 16:38

อ้างถึง
ทรงมอบให้วิทยาลัยเผยแพร่พระพุทธศาสนา ต.กระทิงลาย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อีก 1 ต้น
หมายถึง จิตตภาวันใช่หรือไม่ค่ะ

เพิ่งจะทราบว่า คณะวนศาสตร์ ก็มีต้นสาละด้วย ศิษย์เก่า มก.แท้ ๆ ยังไม่รู้จักและไม่เคยเห็น

มีโอกาสจะไปดูที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ที่ทำให้ตาสว่างค่ะ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 14 พ.ค. 11, 18:59

ต้นสาละที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน







 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 14 พ.ค. 11, 19:02

หรือคุณร่วมฤดีจะไปดูที่วัดเบญจมบพิตรก็ได้






 ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 12601



ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 14 พ.ค. 11, 19:47

แต่ไม่ใช่ที่วัดสระเกศ

  ยิ้มเท่ห์


บันทึกการเข้า
Ruamrudee
องคต
*****
ตอบ: 627



ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 15 พ.ค. 11, 01:23

ขอบพระคุณค่ะ คุณเพ็ญชมพูคะ วัดเบญจะใกล้ดี แต่ต้นที่เห็นยังเล็กนัก
ไม่ทราบออกดอกเดือนไหนกันบ้าง อย่างเห็นดอกสะพรั่งเต็มต้น อยากรู้ว่าหอมหรือไม่
ดูจากภาพ ใบของสาละใหญ่โตไม่ใช่น้อยนะคะ
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 17 พ.ค. 11, 09:03

ป่าสาละที่อยู่ในชนบทของเมืองกุสินารา ซึ่งพระพุทธองค์เสด็จมาถึงยังร่มเงาของใต้ต้นสาละใหญ่คู่หนึ่ง จึงทรงโปรดให้พระอานนท์ปูลาดอาสนะลงและประทับสีหไสยาสน์ เพื่อจะเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น ปัจจุบันความเป็นป่าได้สูญไปหมดแล้ว ทางการของอินเดียได้สร้างอาคารขึ้นยังสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน และปลูกต้นสาละขึ้นใหม่ในอุทยานแห่งนี้


บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 17 พ.ค. 11, 09:05

ปัจจุบันแต่ละต้นมีขนาดเท่าที่เห็น



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 17 พ.ค. 11, 09:10

ผมไปในฤดูแล้ง ต้นสาละที่กล่าวว่าเหมือนต้นรังของเรากำลังผลัดใบ ถ้าเข้าฤดูฝนในหน้าวิสาขะกาลใบจะหนาทึบให้ร่มเงาเป็นอย่างดี พระพุทธองค์จึงทรงกำหนดให้เป็นสถานที่อันควรแก่การพักผ่อนในวาระสุดท้ายรอการดับซึ่งขันธ์ทั้งปวง



บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 17 พ.ค. 11, 09:14

ใครหนอที่เริ่มต้นความคิดว่าพระพุทธองค์จะทรงทอดพระวรกายภายใต้ต้นสาละที่มีผลไม้ใหญ่เปลือกแข็ง ขนาดเท่าๆกับลูกปืนใหญ่ห้อยอยู่เต็มต้น

คงจะไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้



บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.038 วินาที กับ 19 คำสั่ง